Ap Business Plan 65

เอพี ไทยแลนด์ เดินแผนธุรกิจปี 65 ที่สุดตลาด เปิดตัว 65 โครงการ มูลค่า 78,000 ล้าน

เอพี ไทยแลนด์ เดินหน้าแผนธุรกิจปี 65 มุ่งสู่ความเป็นที่สุดกับแผนเปิดตัวโครงการที่มากสุดถึง 65 โครงการ มูลค่า 78,000 ล้าน ตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ 47,000 ล้าน หลังปี 64 สามารถฝ่าวิกฤตโควิด-19  เตรียมกวาดรายได้ยอดโอน  40,000 ล้าน พร้อมขึ้นเบอร์ 1 ตลาดบ้านเดี่ยว

 

แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบ แต่ธุรกิจอสังหาฯ ยังถือเป็นหนึ่งคีย์สำคัญ ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ จากข้อมูลศูนย์วิจัยกรุงศรีฯ ระบุว่า ธุรกิจอสังหาฯ มีมูลค่าตลาดคิดเป็นสัดส่วน 8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมาก เกิดการจ้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมไปกับการสนับสนุนให้กับอุตสาหกรรมอื่น อาทิ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งได้เติบโตไปพร้อมกัน และหากย้อนกลับดูผลประกอบการของ 5 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาฯ ของไทย ยังพบการเติบโตของตัวเลขในอัตราที่เป็นบวก

 

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะซบเซา และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในหลาย ๆ เซกเตอร์อย่างเลี่ยงไม่ได้

 

สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเราพบว่าความต้องการซื้อและเช่าในตลาดอสังหาฯ ยังมีอยู่ เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์ หากเทียบกับสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ซึ่งในปีนั้นเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญภาวะตกต่ำ แต่อสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมกลับขายดีมาก ซึ่งวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ก็คล้ายเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในแง่ที่อสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ถูกทำลายลงไป เพียงแต่ทรานฟอร์มไปตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสภาวะเวลา

 

ในส่วนของเอพี ไทยแลนด์คาดว่าในปี 2564 จะมียอดโอนอสังหาฯ มากที่สุดในตลาดประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัย ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่นำพาให้อุตสาหกรรมนี้สามารถขับเคลื่อนผ่านวิกฤตในทุกยุคสมัยมาได้อย่างสวยงาม

 

6 Pleno Town

3 กลยุทธ์ยอดโอน 40,000 ล้านปี 64

สำหรับปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่เอพี ไทยแลนด์สามารถฝ่าฟันวิกฤตมาได้ ถือเป็นปีแห่งความแข็งแกร่ง และยังคงสามารถรักษาการเติบโตท่ามกลางการ Reset ครั้งใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ 3 กลยุทธ์สำคัญที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ได้แก่

1.การบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย

ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากกว่า โดยในปีที่ผ่านมาเอพีมีโครงการมากกว่า 117 โครงการ กระจายขายทั่วประเทศไทย และสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 35,050 ล้านบาท โดยสินค้าแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมยังคงเป็นแรงสำคัญในการสร้างการเติบโต นอกจากนั้น ยังสามารถปิดการขายโครงการแนวราบได้จำนวนมาก

2.Cash Flow Management

การบริหารจัดการกระแสเงินสด ตลอดระยะเวลาของการเผชิญวิกฤตการณ์โรคระบาด บริษัทฯ คงรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 64 บริษัทฯ มีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ต่ำเพียง 0.58 เท่า

3.Digital Competency

การสร้างความได้เปรียบด้วย Digital ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรดแมพสำคัญที่เอพีใช้เป็นคีย์ในการเคลื่อนธุรกิจท่ามกลาง   การเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ Touchpoint ของการดำเนินธุรกิจ ทั้งกับลูกค้า คู่ค้า พนักงาน

ปี 65 ที่สุดของเอพี ไทยเลนด์

Ap 65 1

 

สำหรับในปี 2565 เอพี ไทยแลนด์ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม จำนวนทั้งสิ้น 65 โครงการ มูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนโครงการใหม่ที่มากที่สุดตั้งแต่เคยดำเนินธุรกิจมา แบ่งเป็นทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท บ้านเดี่ยวจำนวน  26 โครงการ มูลค่า 35,600 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท  ส่งผลให้ทั้งปีเอพี ไทยแลนด์จะมีโครงการพร้อมขายทั้งกทม.และต่างจังหวัดมากกว่าถึง 182 โครงการ มูลค่ากว่า 149,000 ล้านบาท

โดยไฮไลต์ที่น่าสนใจในปี 2565 คือ

ตลาดทาวน์โฮม

-ตั้งเป้าหมายการเติบโตมากขึ้นกว่า 30% ด้วยการมีทาวน์โฮมในทุกเซกเมนต์ ประกอบด้วย  1.การเปิดตัว 20 แบบบ้านใหม่ จาก 6 แบรนด์ทาวน์โฮม  และ 2.เตรียมเพิ่มส่วนแบ่งตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้นเพิ่มขึ้น

-ชูจุดขายด้วยบ้านหน้ากว้างสูงสุด 11 เมตร แบรนด์บ้านกลางเมือง The Edition และแกรนด์ พลีโน่  3.บุกตลาดทาวน์โฮม 2 ชั้นในเขตปริมณฑล ด้วยแบรนด์น้องใหม่ PLENO TOWN ด้วยราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท

ตลาดบ้านเดี่ยว

-วางแผนเป็นผู้นำในธุรกิจบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี 2558 – ครึ่งแรกปี 2564)  ผ่าน 3 แบรนด์​ ได้แก่ THE PALAZZO คฤหาสน์หรูในเซกเมนต์ซูเปอร์ลักชัวรี่ THE CITY บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่เซกเมนต์ไฮเอนด์ และ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบน

 

Ap 65 2

 

-การบุกไปยังตลาดใหม่ในพื้นที่เขตปริมณฑล อย่างสมุทรสาคร และสมุทรปราการ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ บ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่ เพื่อมุ่งเจาะกลุ่ม Gen M และ Gen Z กับแบบบ้านดีไซน์ใหม่  

คอนโดมิเนียม

ตลาดคอนโดถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ยังคงต้องดูในปีหน้าว่าจะกลับมาเติบโตมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าปี 65 เราจะเริ่มเห็นบางเซกเมนต์ที่ดีขึ้น อย่างเซกเมนต์กลางถึงกลางล่าง และถ้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ปกติ การจราจรกลับมาติดขัดเหมือนเดิม น่าเป็นโอกาสที่ดีที่มีต่อตลาดคอนโด

-เปิดตัว 5 คอนโดมิเนียมใหม่ มูลค่า 13,000 ล้านบาท

-ชู ASPIRE เป็น Fighting Brand หลักบุกลุยตลาดแมส ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเริ่มต้น 84,000 บาท/ตร.ม. ใน 4 ทำเล ได้แก่ 1.Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ ซึ่งพร้อมเปิดพรีเซลในวันที่ 19-20 มีนาคมนี้ 2.Aspire รัชโยธิน  3.Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 และ 4.Aspire อ่อนนุช สเตชั่น พร้อมด้วย LIFE พหล-ลาดพร้าว

Ap 65 3

-ในปีนี้ยังเตรียมเปิด 3 คอนโดพร้อมอยู่ ที่ตอบทุกเซกเมนต์กับ 1.RHYTHM  เอกมัย เอสเตท  2.LIFE สาทร เชียร์ร่า และ 3.ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม

 

“แน่นอนว่า บทเรียนที่เราเรียนรู้มาตลอด 2 ปีของการแพร่ระบาด วิธีการทุกอย่างที่เราเคยทำและเรียนรู้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วทั้งสิ้น เรายังคงต้องเผชิญอยู่กับความท้าทายใหม่ ๆ โรคระบาดยังคงอยู่กับเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ คาดว่าครึ่งปีแรกของปี 65 น่าจะยังคงไม่ต่างจากปีนี้ แต่เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง โลกรับมือกับโอมิครอนได้ดีขึ้น ยารักษาผลิตออกมาใช้งานได้จริง ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจทั่วโลกน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ”

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด