LPN Wisdom ประเมินพิษโควิด-19 ทุบดีเวลลอปเปอร์เปิดตัวโครงการใหม่ปี 2563 ติดลบ 30-70% สาเหตุจากกำลังซื้อที่ลดลง ความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ โดยล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการปรับประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย จากที่คาดว่าจะเติบโตในอัตรา 2.8% ลงมาอยู่ที่ติดลบ 5.3% (ยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะออกมา)
การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อภายในประเทศ และการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้แนวโน้มการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 มีแนวโน้มลดลง ทำให้ LPN Wisdom ปรับการคาดการณ์แนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง 6% มาอยู่ที่ปรับตัวลดลง 30 – 70% ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โดยแบ่งแนวทางการศึกษาไว้ 3 แนวทาง กล่าวคือ
กรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงในไตรมาส 2 ของปี 2563 เศรษฐกิจฟื้นตัวในไตรมาส 3 ของปี 2563 LPN Wisdom คาดว่าจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2563 จะอยู่ที่ 70,000-75,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 250,000-270,000 ล้านบาท หรือลดลง 30-35% เมื่อเทียบกับปี 2562
กรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาส 3 ของปี 2563 เศรษฐกิจฟื้นตัวในไตรมาส 4 ของปี 2563 LPN Wisdom คาดว่าจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2563 จะอยู่ที่ 50,000-55,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 175,000-190,000 ล้านบาท หรือลดลง 50-55% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562
กรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปี 2563 LPN Wisdom คาดว่าในปี 2563 จะมีจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ 35,000-40,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 120,000-135,000 ล้านบาท หรือลดลง 65-70% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562
ในขณะที่ไตรมาสแรกของปี 2563 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 66 โครงการลดลง 23% จากการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 86 โครงการในปี 2562 คิดเป็นจำนวนยูนิตที่เปิดใหม่ในไตรมาสแรกของปี 2563 17,180 ยูนิต ลดลง 38% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 คิดเป็นมูลค่าโครงการเปิดใหม่ในไตรมาสแรกของปี 2563 จำนวน 61,950 ล้านบาท ลดลง 27% เมื่อเทียบกับมูลค่าการเปิดโครงการใหม่ 86,359 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2562
ทิศทางการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในไตรมาสแรกของปี 2563 เน้นการเปิดตัวโครงการในแนวราบเป็นหลัก ทำให้มีจำนวนการเปิดตัวที่อยู่อาศัยในแนวราบทั้งบ้านเดียว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ 8,630 ยูนิต ในไตรมาสแรกปี 2563 เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 ขณะที่การเปิดตัวอาคารชุดในไตรมาสแรกของปี 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 8,512 ยูนิต หรือ ลดลง 56% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562
ทำเลที่มีการเปิดตัวโครงการอาคารชุดในไตรมาสแรกของปี 2563 อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (circle line) ที่มีการเดินรถเชื่อมต่อกันเมื่อปลายปี 2562 และ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-ศรีนครินทร์-สำโรง ที่จะเปิดใช้งานปี 2564 ขณะที่แนวราบจะอยู่ในย่านรังสิต-ปทุมธานี และบางนา-ศรีนครินทร์ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีเส้นทางคมนาคมได้สะดวก
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังในการเปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการ มีการปรับกลยุทธ์การขายโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาช่วยในการสื่อสารการตลาดและการขายมากขึ้น เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ให้กับผู้ประกอบการที่น่าสนใจ ถ้ากลยุทธ์ดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ก็จะเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์การขายของผู้ประกอบการในช่วงวิกฤติ และอาจจะมีส่วนทำให้ความมั่นใจของผู้ประกอบการในการเปิดตัวโครงการใหม่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง