Property Market Chonburi 2020

สำรวจตลาดอสังหาฯ ชลบุรี ปี 63 “คอนโด-ทาวน์เฮ้าส์” แนวโน้มชะลอตัว

พื้นที่ภาคตะวันออก นับว่ามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพราะเป็นพื้นที่สำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยว การเกษตร และเมืองอุตสาหกรรม พื้นที่ภาคตะวันออก ยิ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น เมื่อรัฐบาลจัดทำโครงการการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) หรืออีอีซี (EEC)  ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด  ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

 

เมื่อพื้นที่ดังกล่าว ได้ถูกวางให้เป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวหนาแน่นไปได้ด้วยจำนวนประชากร  ทั้งที่ย้ายมาเพื่อทำงาน และอยู่อาศัย จึงทำให้เกิดการพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ออกมารองรับ หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์  เพื่อการอยู่อาศัย เป็นการสร้างซัพพลายออกมารองรับ กับจำนวนประชากรที่ย้ายถิ่นเข้ามาทำงานในพื้นที่ดังกล่าว และในบรรดาจังหวัดที่มีโคงการอสังหาฯ เกิดขึ้นอย่างหนาแน่น และเพิ่มจำนวนมาต่อเนื่อง คือ จังหวัดชลบุรี

 

โดยจากผลการสำรวจล่าสุด ในช่วงครึ่งหลังปี 2562 ในพื้นที่ภาคตะวันออก ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่า จังหวัดชลบุรีมีจำนวนที่อยู่อาศัยเสนอขายมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด EEC ซึ่งคาดว่าในปี 2563 นี้จะมีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ จำนวน 6,689 ยูนิต แม้จะลดลงจากช่วงปี 2562 ที่มีเปิดตัวโครงการใหม่ 17,295 ยูนิต  ก็ตาม  โดยจะเป็นการเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 3,651 ยูนิต และเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง จำนวน 3,038 ยูนิต ขณะที่ยูนิตเหลือขายทั้งหมดคาดว่าจะมี 88,644 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามีจำนวน 85,481 ยูนิต

ปี 63 ยอดขาชะลอตัวอัตรดูดซับเหลือ 1.1-1.3%

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า แนวโน้มที่อยู่อาศัยในจังหวัดชลบุรีในปี 2563 จะเหลือขายอยู่ในตลาดจำนวน 44,060 ยูนิต  ซึ่งเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับอัตราดูดซับที่ลดต่ำลงมาอยู่ที่  2.1%  ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 และคาดว่าในปี 2563 อัตราดูดซับจะเหลือประมาณ 1.1-1.3% และคาดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยก็จะลดลงมาอยู่ที่ 30,141 ยูนิต มูลค่าประมาณ  59,293 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานซึ่งมีมูลค่า 64,095 ล้านบาท ลดลง 20.0%

Reic Vichai 1

โดยช่วงครึ่งปีหลังปี 2563 มีที่อยู่อาศัยเหลือขายอยู่ในตลาดจำนวน 44,060 ยูนิต ประกอบด้วย

  • คอนโด  19,348 ยูนิต
  • ทาวน์เฮ้าส์  12,699 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว  5,730 ยูนิต
  • บ้านแฝด  4,979 ยูนิต
  • อาคารพาณิชย์  1,304 ยูนิต

ในปี 2563 คาดว่าอัตราดูดซับจะเหลือประมาณ  1.1-1.3%  โดยคาดว่าที่อยู่อาศัยในแต่ละประเภท จะมีอัตราดูดซับในปี 2563 ดังนี้

  • คอนโด  มีอัตราดูดซับ 1.2%
  • บ้านแฝด  มีอัตราดูดซับ 1.3%
  • ทาวน์เฮ้าส์  มีอัตราดูดซับ 1.3%
  • อาคารพาณิชย์   มีอัตราดูดซับ 1.2%
  • บ้านเดี่ยว  มีอัตราดูดซับ 1.1%

Property Chonburi 2020 2อสังหาฯ ชลบุรีโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 12.9%

การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในปี 2563 คาดว่า จะลดลงมาอยู่ที่ 30,141 ยูนิต หรือลดลง 12.9% จากปี 2562 ที่มีจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ 34,593 ยูนิต  ซึ่งปีนี้การโอนกรรมสิทธิ์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 5 ปีตั้งแต่ปี 2558-2562 ที่มีระดับการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 33,812 ยูนิต  ส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ  59,293 ล้าน  บาท ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานซึ่งมีมูลค่า 64,095 ล้านบาท ซึ่งลดลง 20.0% จากปี 2562 ที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 74,106 ล้านบาท

 

ด้วยภาพรวมดังกล่าวผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การเสนอขาย โดยเฉพาะ คอนโด และทาวน์เฮ้าส์ที่มีอัตราการดูดซับชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงต้นปี 2562 และคาดว่าจะต่อเนื่องมาถึงปี 2563

มองตลาดอสังหาฯ ชลบุรี ครึ่งหลังปี 62

สำหรับผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ช่วงสิ้นปี 2562 มีจำนวนที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างเสนอขายจำนวนทั้งสิ้น 675 โครงการ  แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 510 โครงการ โครงการคอนโด 165 โครงการ  จำนวนรวม 50,655 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 176,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่มีจำนวน 49,750 ยูนิต  ในจำนวนที่อยู่อาศัยทั้งหมด แบ่งเป็น

  • คอนโด  21,806 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว  6,534 ยูนิต
  • บ้านแฝด  5,747 ยูนิต
  • ทาวน์เฮ้าส์  15,053 ยูนิต
  • อาคารพาณิชย์  1,515 ยูนิต

โดยมีโครงการที่เปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังเพียง 6,593 ยูนิต แบ่งเป็นอาคารชุด 3,700 ยูนิต และบ้านจัดสรร 2,893 ยูนิต

Property Chonburi 2h2019 6

เมื่อพิจารณาจากยูนิตขายได้ใหม่จากการสำรวจพบว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2562 มียูนิตขายได้ใหม่จำนวน 6,270 ยูนิต ลดลงจากช่วงครึ่งปีแรก 27.5% ในจำนวนดังกล่าวเป็นการขายคอนโด  2,535 ยูนิต และเป็นบ้านจัดสรร 3,735 ยูนิต และมียูนิตเหลือขายจำนวน 44,385 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก  8% มูลค่ารวม 155,838 ล้านบาท โดยมียูนิตเหลือขายประเภทโครงการคอนโดจำนวน 19,271 ยูนิต บ้านจัดสรรจำนวน 25,114 ยูนิต

 

โดยบ้านจัดสรรที่เหลือขาย จำนวน 25,114 ยูนิต ยังแบ่งออกเป็นที่อยู่ประเภทต่างๆ ได้แก่

  • บ้านเดี่ยว  5,789 ยูนิต
  • บ้านแฝด  5,002 ยูนิต
  • ทาวน์เฮ้าส์  12,923 ยูนิต
  • อาคารพาณิชย์  1,400 ยูนิต

จากการที่จำนวนยูนิตขายได้ใหม่มีอัตราการขายได้ลดลงถึงร้อยละ 27.5% จึงส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายมีอัตราเพิ่มขึ้น 8%

เปิด 5 ทำเลอสังหาฯ ขายดีในจังหวัดชลบุรี

สำหรับทำเลที่อยู่อาศัยขายดี ของจังหวัดชลบุรี ได้แก่

1.ทำเลพัทยา-เขาพระตำหนัก จำนวน 7,185 ยูนิต

2.ทำเลหาดจอมเทียน จำนวน 6,864 ยูนิต

3.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร-บายพาส จำนวน 3,798 ยูนิต

4.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน จำนวน 3,729 ยูนิต

5.ทำเลบางแสน-หนองมน-บางพระ จำนวน 3,306 ยูนิต

 

ระดับราคาที่เหลือขายมากที่สุด ใน 5 อันดับแรก ได้แก่

1.ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท เหลือขาย 13,411 ยูนิต

2.ระดับราค 2.01-3.00 ล้านบาท เหลือขาย 13,352 ยูนิต

3.ระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท เหลือขาย 8,739 ยูนิต

4.ระดับราคา 5.01-7.50 ล้านบาท เหลือขาย 3,662 ยูนิต

5.ระดับราคา 1.01-1.50 ล้านบาท เหลือขาย 1,801 ยูนิต

บทสรุปอสังหาฯ​ ชลบุรี ณ สิ้นปี 62

Property Chonburi 2h2019 8

ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดชลบุรี มียูนิตเหลือขายในช่วงสิ้นปี 2562 จำนวน 44,385 ล้านบาท มูลค่า 155,838 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการยังไม่ได้ก่อสร้าง 20,219 ล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 14,639 ล้านบาท และโครงการที่ก่อสร้างเสร็จ 9,527 ล้านบาท  ซึ่งเป็นโครงการพร้อมโอน  หรือเป็น Inventory ในตลาด คิดเป็นมูลค่า 31,501 ล้านบาท  แบ่งเป็น

  • คอนโด  4,608 ยูนิต
  • บ้านเดียว  963 ยูนิต
  • บ้านแฝด   691 ยูนิต
  • ทาวน์เฮ้าส์   2,639 ยูนิต
  • อาคารพาณิชย์  626 ยูนิต

สำหรับทำเลที่มียูนิตสร้างเสร็จเหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1.ทำเลหาดจอมเทียน จำนวน 1,496 ยูนิต

2.ทำเลพัทยา-เขาพระตำหนัก จำนวน 1,311 ยูนิต

3.ทำเลศรีราชา-อัสสัมชัญ จำนวน 1,209 ยูนิต

4.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน จำนวน 1,145 ยูนิต

5.ทำเลแหลมฉบัง จำนวน 1,051 ยูนิต

 

โดยระดับราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งเหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1.ระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท จำนวน 2,958 ยูนิต

2.ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท จำนวน 2,377 ยูนิต

3.ระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท จำนวน 1,779 ยูนิต

4.ระดับราคา 5.01-7.50 ล้านบาท จำนวน 678 ยูนิต

5.ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 670 ยูนิต

 

ทำเลขายได้ใหม่สูงสุด 5 อันดับได้แก่

1.ทำเลหาดจอมเทียน จำนวน 1,037 ยูนิต มีอัตราดูดซับ 2.2%

2.ทำเลพัทยา-เขาพระตำหนัก จำนวน 718 ยูนิต มีอัตราดูดซับ 1.5%

3.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร-บายพาส จำนวน 712 ยูนิต มีอัตราดูดซับ 2.6%

4.ทำเลบางแสน-หนองมน-บางพระ จำนวน 703 ยูนิต มีอัตราดูดซับ 2.9%

5.ทำเลศรีราชา-อัสสัมชัญ จำนวน 581 ยูนิต มีอัตราดูดซับ 2.7%

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด