Bangkok Feliz กรุงธนบุรี : รีวิวคอนโด

ติดต่อโครงการ


Bangkok Feliz กรุงธนบุรี (PREVIEW)
Bangkok Feliz กรุงธนบุรี : รีวิวคอนโด

ย่านธนบุรี เป็นอีกย่านหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ใจกลางเมือง เพราะปัจจุบันนี้รถไฟฟ้าวิ่งผ่านแล้ว คราวนี้เราเลยหยิบเอาโครงการ Bangkok Fe’liz’ กรุงธนบุรี 5-2 มาฝาก ทั้งทำเลที่อยู่เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS แถมยังอยู่ใกล้เมืองและศูนย์กลางธุรกิจแค่แม่น้ำเจ้าพระยากั้น จึงนับว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

การเดินทาง

ถ้ายึดเอาการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS เป็นหลัก เพียงแค่นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีกรุงธนบุรีแล้วออกทางออกที่ 3 จากนั้นเดินต่อมาทางซอยกรุงธนบุรี 5 เข้าซอยแล้วเลี้ยวไปทางซอยเจริญนคร 14 อีกหน่อย รวมระยะทางไม่เกิน 300 เมตร ก็ถึงหน้าโครงการพอดี ช่วงถนนในซอยกรุงธนบุรี 5 ที่ต้องเดินผ่านไปอาจจะมีรถราวิ่งผ่านมากหน่อย เวลาเดินก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะครับ เพราะเป็นซอยเล็กเลยไม่มีฟุตบาทให้เดินง่ายๆ โชคดีที่ระยะทางที่ต้องเดินผ่านซอยนี้แค่ 150 เมตร เลยไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่

ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกไม่น้อยเหมือนกัน เพราะแค่ข้ามสะพานตากสินมาก็เข้าเขตใจกลางธุรกิจอย่างย่านสาทรแล้ว แต่ติดอยู่ที่ปัญหารถติดที่หนักเอาเรื่องทั้งขาไปและขากลับ ส่วนเส้นทางเลี่ยงอื่นๆ ก็ดูจะหนีไม่ค่อยพ้นปัญหารถติดเท่าไหร่ ไม่ว่าจะหนีไปออกวงเวียนใหญ่ หรือเจริญนครแต่สุดท้ายการข้ามสะพานตากสินก็ดูจะเป็นเลือกในการเข้าเมืองที่ใกล้ที่สุดแล้ว ลืมบอกไปว่าที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยกรุงธนบุรี 5 ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งขาเข้าเมือง ดังนั้นถ้าข้ามมาทางสะพานตากสินเราจะต้องเลยมากลับรถที่ใต้สะพานข้ามแยกตากสิน แล้วค่อยออกทางคู่ขนานเพื่อเลี้ยวเข้าซอยกรุงธนบุรี หรือจะเลือกเส้นทางลงจากสะพานตากสินแล้วเลี้ยวเข้าถนนเจริญนคร เพื่อมาเข้าทางซอยเจริญนคร 14 ก็จะใกล้กว่า รวมถึงน่าจะรถติดน้อยกว่าหน่อย นอกเหนือจากนี้ถ้าต้องการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็ต้องเดินออกมาตั้งหลักที่ปากซอย ซึ่งสามารถเลือกได้ตามสะดวกทั้งฝั่งถนนกรุงธนบุรี และถนนเจริญนคร แน่นอนว่ามีรถเมล์ รถแท็กซี่ รวมถึงกะป๊อก็มีด้วยเช่นกัน แต่ถ้าต้องการเดินทางแบบเร่งด่วน พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็น่าจะสะดวกสุดแล้วครับ แถมมีวินอยู่ใกล้ๆ หน้าโครงการเลยด้วย เชื่อได้ว่าสะดวก ถึงที่หมายรวดเร็วแน่นอน

วิเคราะห์ตัวโครงการ

Bangkok Fe’liz’ กรุงธนบุรี เป็นคอนโด Low Riseสูง 8 ชั้น อาคารเดียวซึ่งตั้งอยู่ในซอยเจริญนคร 14 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี ด้วยความที่ทำเลอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมาก เพียงแค่ขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาก็เข้าสู่ย่านธุระกิจสำคัญอย่างสาทรได้ไม่ยาก เรื่องการเดินทางจึงจัดว่าค่อนข้างสะดวกมากเลยทีเดียว อีกทั้งความเจริญต่างๆ ก็แวดล้อมอยู่ครบเช่นกัน ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล คอมมิวนิตี้มอลล์ และแหล่งช็อปปิ้ง รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารก็ถือว่าอุดมสมบูรณ์ดี ใกล้ๆ ตัวโครงการมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านสะดวกซื้ออยู่ระหว่างทางในซอยที่ต้องเดินผ่านเข้าออกอยู่แล้ว แค่เดินลงมาจากห้องก็หาซื้ออาหารได้ไม่ยาก แต่ถ้าอยากมีตัวเลือกมากหน่อย ขยับมาทางปากซอยเจริญนคร 14 ก็มีร้านอาหารแบรนด์ดังอีกหลายร้านซึ่งอยู่ในอาคารสำนักงาน หรือจะข้ามไปฝั่งตรงกันข้ามก็มี Vue และ เสนาเฟสที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ความสะดวกสบายในการจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้จึงไม่เป็นปัญหาที่ต้องกังวลเลย ที่สำคัญถนนเจริญนครตลอดทั้งสายก็มีร้านค้า ร้านอาหารเจ้าดังๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นย่านที่มีชุมชนเดิมอยู่อาศัยกันมานาน บรรยากาศจึงคึกคัก แทบจะมีร้านรวงเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงกันเลย

ปัจจุบันตัวโครงการเริ่มทำการก่อสร้างไปแล้ว พอได้ไปดูที่ตั้งโครงการจริง เราจึงพอจะเห็นภาพรวมของอาคารได้ชัดเจนขึ้น รอบๆ โครงการมีอาคารสูงหลายอาคาร ถึงแม้ว่าในระยะประชิดจะเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านเดี่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เรื่องวิวก็ไม่สามารถคาดหวังอะไรได้เลย ห้องที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 5 ลงมา ก็ถูกอาคารพาณิชย์ข้างๆ บัง ส่วนห้องที่อยู่สูงขึ้นไป วิวระยะไกลก็ยังถูกอาคารสำนักงานสูงบังอีก หมดสิทธิ์เรื่องเล็งหาห้องวิวสวยไปเลยครับ

ตัวโครงการออกแบบมาให้มีอาคารเดียว เพราะที่ดินของโครงการมีขนาดเพียง 278.6 ตร.ว. เท่านั้น เรื่องบรรยากาศของการอยู่อาศัยจึงค่อนข้างสงบเงียบ เนื่องจากจำนวนยูนิตรวมมีเพียง 79 ยูนิตเท่านั้น และด้วยที่ตั้งของโครงการที่อยู่เข้ามาในซอยจึงลดความพลุกพล่านไปได้พอสมควร ถึงจะเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่เรื่อง Facilities ต่างๆ ทางโครงการก็พยายามจัดมาให้อย่างครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหน้าโครงการบริเวณชั้น 1 ส่วนห้องออกกำลังกายจะอยู่ที่ชั้น 2 และสวนหย่อมเล็กๆ บนชั้น 3 และ 7 แต่เรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอยของส่วนกลางก็กระทัดรัดเหลือเกิน จนไม่แน่ใจว่าจะใช้งานได้จริงแค่ไหน รวมถึงเรื่องลิฟท์โดยสารซึ่งมีเพียง 1 ตัว ดูแล้วการใช้งานก็ไม่ได้หนาแน่นเท่าไหร่ อีกทั้งตัวโครงการก็สูงเพียง 8 ชั้น คนที่อยู่ชั้นไม่สูงมากก็ยังพอจะเดินขึ้นลงบันไดได้ กลับกันกับเรื่องที่จอดรถ เพราะถ้าใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือมีแนวโน้มจะซื้อรถคงต้องพิจารณาเรื่องที่จอดรถของโครงการให้ดี เนื่องจากนับรวมจอดแบบซ้อนคันแล้ว สามารถจอดได้เพียง 40 คันเท่านั้นนะครับ ถ้าจำนวนรถเกินขึ้นมายังนึกภาพไม่ออกว่าจะแก้ปัญหากันยังไง เพราะบริเวณใกล้ๆ ก็หาที่จอดรถ หรือหาที่รับฝากรถไม่ได้เลยด้วย เรื่องนี้จึงมองข้ามไม่ได้เหมือนกัน

พาชมห้องตัวอย่าง

ห้องของโครงการ Bangkok Fe’liz’ กรุงธนบุรี 5-2 มีด้วยกัน 2 แบบใหญ่ ๆ คือ ห้อง 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่ขนาด 27.5 ตร.ม. และห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมีขนาดห้องเริ่มต้นที่ 42 ตร.ม. โดยขนาดและ Lay out ของห้องก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของห้องนะครับ จะมีพื้นที่เว้า พื้นที่ยื่นเพิ่มมากบ้างน้อยบ้างก็เป็นไปตามแบบของอาคาร ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งของห้องบาง Type ที่ทำให้การแต่งห้อง หรือการหาเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปมาใช้ยากขึ้น บางทีเลยเหมือนจะถูกบังคับกลายๆ ให้ต้องใช้เลือกเฟอร์นิเจอร์แบบ Built in แทนเพื่อตัดปัญหา สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน มีการจัดวาง Lay out ห้องไว้ค่อนข้างลงตัว เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอส่วนของพื้นที่นั่งเล่นก่อน และด้วยการจัดพื้นที่ห้องได้หน้ากว้างพอสมควร ระยะห่างของโซฟาและทีวีจึงได้ระยะกำลังดีไม่แคบจนเกินไป ส่วนด้านหลังโซฟาจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีการจัดแบ่งบริเวณอาบน้ำ แยกพื้นที่โซนแห้งและเปียกออกจากกันให้เรียบร้อย ถัดเข้าไปด้านในเป็นบริเวณของห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องเปิดรับแสงได้ดีขึ้นเพราะหน้าต่างห้องนอนก็เป็นกระจกบานสไลด์ที่กว้างกินพื้นที่เกือบเต็มผนังเลยทีเดียว อีกด้านที่ติดกับห้องนอน เป็นพื้นที่ของครัวและระเบียง ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารกินเอง เนื่องจากเป็นครัวปิดมีประตูกระจกกั้นเรียบร้อย และยังสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายกลิ่นได้อีกทาง ส่วนพื้นที่ระเบียงของห้อง ต้องบอกว่าคาดหวังอะไรมากไม่ได้ เพราะมีพื้นที่แคบชนิดที่ว่าถ้าวางเครื่องซักผ้าลงไปแล้วก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้ตากผ้ากันเลย  ที่สำคัญห้องใน Type นี้ก็เป็นแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการด้วย ซึ่งอาจจะมีขนาดพื้นที่ต่างกันบ้างเล็กน้อย ไม่เกิน 1-2 ตร.ม. จึงค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียวมากกว่า แต่ถ้าอยากได้ห้องที่กว้างขึ้นอีกหน่อยในขณะที่ยังเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนอยู่ ทางโครงการก็ยังมีห้องอีก Type ที่จัดมาให้พื้นที่กว้างถึง 33 ตร.ม. ซึ่งดูจากแปลนแล้วจะเห็นว่ามีการเพิ่มพื้นที่ในส่วนของห้องทำงานเล็กๆ ขึ้นมา โดยพื้นที่ในส่วนนี้ทางโครงการก็ทำประตูกระจกกั้นมาให้ด้วย ซึ่งข้อดีก็อาจจะได้พื้นที่ใช้สอยและพื้นที่เก็บของมากขึ้น แต่ก็อย่าลืมเรื่องของราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นด้วยนะครับ

นอกเหนือจากห้องแบบหนึ่งห้องนอนแล้ว ทางโครงการก็ยังมีห้องแบบ 2 ห้องนอนให้เลือกด้วย โดยมีขนาดห้องตั้งแต่ 42 ตร.ม. ขึ้นไป แต่ข้อเสียของห้องแบบ 2 ห้องนอนในโครงการนี้ก็คือ Lay out ห้องที่ถูกบังคับด้วยลักษณะของอาคารทำให้มีพื้นที่ของห้องไม่ค่อยเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม เนื่องจากห้องแบบ 2 ห้องนอนส่วนใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งมุมของอาคาร ลักษณะห้องจึงดูขาดๆ เกินๆ มากไปหน่อย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของวัสดุสุขภัณฑ์ ซึ่งทางโครงการก็เลือกมาใช้ได้ตามมาตรฐานครับ เฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาพร้อมห้องก็เป็นชุดครัว เคาน์เตอร์ครัว และเครื่องปรับอากาศ ส่วนของแถมและโปรโมชั่นเพิ่มเติมอันนี้ต้องลองเข้าไปสอบถามกันดู อาจจะต่อรองกันได้บ้างอันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัวครับ

ความคุ้มค่าน่าลงทุน

ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Bangkok Fe’liz’ กรุงธนบุรี 5-2 ซึ่งหมาะมากกับคนที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้ใจกลางเมืองและแหล่งธุรกิจสำคัญของกรุงเทพ แถมตัวโครงการยังอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 400 เมตร ทำให้การเดินทางเข้าใจกลางเมืองสะดวกสุด ไม่ว่าจะเป็นย่านสาทร สีลม สยาม หรือแม้แต่สุขุมวิท ก็สามารถเดินทางได้โดยแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวเลย ที่สำคัญแวดล้อมโครงการก็มีทั้งแหล่งช็อปปิ้ง โรงพยาบาล โรงเรียน รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ความเจริญจึงไม่ต่างจากเขตเมืองเลยถึงแม้จะข้ามมาอยู่ด้านฝั่งธนบุรีก็ตาม เหมาะกับการจับจองไว้อยู่อาศัยเอง รวมถึงการลงทุนปล่อยห้องเช่าด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเดินทางที่สะดวก และใกล้แหล่งธุรกิจ บริเวณใกล้ๆ ในย่านฝั่งธนฯ ก็มีอาคารสำนักงานจำนวนไม่น้อยเลย ทำให้การหาผู้เช่ามีความเป็นไปได้มาก และด้วยทำเลที่ตั้งที่ใกล้รถไฟฟ้า ก็ยังทำราคาค่าเช่าห้องได้ค่อนข้างดีทีเดียว ที่สำคัญตัวโครงการเองก็เริ่มทำการก่อสร้างไปพอสมควรแล้วด้วย จึงไม่ต้องรอกันนานหลายปี นอกเหนือจากเรื่องทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบมากๆ แล้ว เรื่อง Facilities ต่างๆ ในโครงการรวมถึงเรื่องที่จอดรถ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และนำมาประกอบการตัดสินใจ เพราะถ้าหากต้องจ่ายค่าส่วนกลางไปแล้วไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่ได้จริง ก็อาจจะทำให้เสียเงินเปล่า ส่วนเรื่องที่จอดรถถ้าหากไม่เพียงพอจริงๆ ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ เช่นกัน ใครที่ต้องใช้รถส่วนตัวเดินทางเป็นหลัก นอกจากจะต้องปวดหัวกับปัญหารถติดแล้ว ถ้าต้องมาเครียดเรื่องไม่มีที่จอดรถอีกคงไม่ดีแน่ แต่ถ้าจะลงทุนไว้เพื่อปล่อยเช่าหรือขายห้องต่อและไม่ได้อยู่อาศัยเอง ก็อาจจะไม่ต้องกังวลกับเรื่องพวกนี้มากนัก

 

บทความ รีวิวคอนโด ล่าสุด