รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงมีความเคลื่อนไหวในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผลกระทบของมาตรการ LTV ของแบงก์ชาติจะยังมีต่อเนื่อง นี่ยังเจอภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อคนชะลอตัวไปด้วย ตลาดอสังหาฯ ก็ออกอาการแย่พอสมควร งานนี้ก็ต้องวัดกึ๋นและฝีมือกันละว่าใครจะ สามารถประครองตัวเองให้ผ่านพ้นปีนี้ไปได้ และจบปีได้สวยกว่ากัน…
โกลเด้นแลนด์กวาดยอดขาย GOLDEN EMPIRE แจ้งวัฒนะ
นายภวรัญชน์ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮม และนีโอโฮม บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า โครงการ โกลเด้น นีโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เป็นบ้านนีโอ โฮม เนื้อที่ประมาณ 31 ไร่ จำนวน 156 หลัง มูลค่า กว่า 1,200 ล้านบาท มียอดขายใน 2 วันแรกที่เปิดจอง ถึง 650 ล้านบาท ต่อมาได้เปิดโครงการที่ 2 โกลเด้น ซิตี้ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น และ 3 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ จำนวน 167 หลัง มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์ขายหมดทั้งโครงการอีกครั้ง ด้วยยอดขายรวม 732 ล้านบาท
สิริเวนเจอร์ส ผนึก สวทช. พัฒนา “รถยนต์ไร้คนขับ”
นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (SIRI VENTURES) เปิดเผยว่า แผนทดสอบนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยใน SIRI VENTURES Private PropTech Sandbox ได้เปิดตัว 3 สตาร์ทอัพแห่งอนาคต AIROVR เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ Fling นวัตกรรม โดรนเดลิเวอรี่ และ SoundEye ระบบเซนเซอร์รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ตรวจสอบเสียงผิดปกติ นำร่องพัฒนาและทดลองใช้จริงเป็นกลุ่มแรก จับมือ สวทช. สร้าง 3D Mapping เชื่อมโยงรถยนต์ไร้คนขับ เตรียมทดลองวิ่งจริงไตรมาส 4 นี้ ครึ่งปีหลังจ่อลงทุนในสตาร์ทอัพ 4 ด้าน รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 600 ล้านบาท พร้อมสรุปภาพรวมความสำเร็จครึ่งปีแรกของ 2019 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยี (PropTech) ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ตลอดจนสร้างสรรค์และส่งต่อนวัตกรรมการใช้ชีวิตที่ไร้รอยต่อในยุคดิจิทัลให้กับลูกบ้านแสนสิริ
ชีวาทัย เปิดตัวโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ เป็นคอนโดมิเนียมแบบอาคารสูง 25 ชั้น โดยมีจำนวนห้อง 649 ยูนิต พร้อมร้านค้า 5 ร้านในโครงการ ซึ่งมีที่จอดรถอยู่ที่ 49% ของโครงการ บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ โดยบริษัทยังได้ร่วมมือกับบริษัท COMMAX Company Limited เพื่อนำเทคโนโลยี Home Automation เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกโครงการ
BMF จับมือพันธมิตรญี่ปุ่นรุกตลาดวัสดุกันไฟ
นายกศิปัญญ์ ศิริธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม. จำกัด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารสูงครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบไม่กี่ปีมานี้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในแต่ละครั้งเกิดความสูญเสีย ทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินโดยในบางกรณีก็ยากที่จะประเมินมูลค่าการสูญเสีย ด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการนำเสนอทางเลือกใหม่เพื่อป้องกัน ลดความเสี่ยง และบรรเทาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือกับ มิตซูบิชิ เคมิคอล คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว อัลโพลิค คลาส เอ2 (ALPOLIC A2) แผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิทไส้กลางกันไฟมาตรฐานใหม่สู่ตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบันมีการใช้วัสดุอะลูมิเนียมคอมโพสิทอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการเมกะโปรเจ็คต์ขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งสนามบิน สถานีรถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต รวมถึงอาคาร Mixed use ขนาดใหญ่ของภาคเอกชน โดยตลาดรวมมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี
จัดงานรับสร้างบ้าน กระตุ้นตลาด
นางศิริพร สิงหรัญ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association) เปิดเผยว่า ได้เตรียมจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder Expo 2019 ขึ้นในระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน 2562 ที่อิมแพค ฮอลล์ 6 เมืองทองธานี เพื่อกระตุ้นตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังให้เติบโต โดยปีนี้จะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ตารางเมตร จากปีก่อนหน้าใช้พื้นที่จัดงาน 4,000 ตารางเมตร เนื่องจากย้ายสถานที่จัดงานไปยังเมืองทองธานี ภายในงาน จะเป็นการรวบรวมบริษัทรับสร้างบ้านระดับชั้นนำมาไว้ในงาน พร้อมด้วยแบบบ้านจากบริษัทต่าง ๆ มากกว่า 1,000 แบบ และภายในงานยังมีบ้านในทุกระดับราคาให้ผู้บริโภคได้เลือก ตั้งแต่ 1 – 100 ล้านบาทขึ้นไป และยังมีผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายในงานได้กว่า 3,000 ล้านบาท
ปิดท้าย…
ด้วยการเปิดเผยข้อมูลของสำนักวิจัย Krungthai Compass ธนาคารกรุงไทย ที่ออกมาระบุว่า ผลกระทบจากมาตรการของแบงก์ชาติ ส่งผลให้มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมติดลบ 16% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบติดลบน้อยกว่าแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม เนื่องจากส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่จริง ไม่ได้ปล่อยเช่าหรือเก็งกำไร
และประเมินว่าปีนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีมูลค่า 5.1 แสนล้านบาท หดตัว 10% โดยที่อยู่อาศัยแนวราบหดตัว 4% ขณะที่คอนโดมิเนียมมีโอกาสติดลบ 20% และพบว่าบ้านแฝดหรือบ้านที่อยู่อาศัยกึ่งกลางระหว่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ มีส่วนช่วยพยุงตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้รับความนิยมมากขึ้น มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแฝดเติบโต 30% ขณะที่ทาวเฮ้าส์ขยายตัว 7% บ้านเดี่ยวและตึกแถวอยู่ในภาวะหดตัว (อ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติม)