Ananda Revenue Q164

อนันดาฯ เผยผลงาน Q1/64 ทำยอดขายกว่า 3,979 ล้านบาท แต่กำไรธุรกิจหลักเหลือ 38.8 ล้าน

อนันดา เผยยอดขายไตรมาสแรก ปี 2564 สูงกว่าเป้าหมาย 17% อยู่ที่ 3,979 ล้าน ขณะที่ทำกำไรจากธุรกิจหลักได้ 38.8 ล้าน ​ส่วนรายได้รวมทำได้กว่า 1,046 ล้าน ลดลงกว่า 31% แต่ยังคงมั่นใจทำยอดโอนทั้งปีได้ตามเป้ากว่า 16,000 ล้าน

 

นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรก ปี 2564 มียอดโอนทั้งหมด 3,059 ล้านบาท และมีสัดส่วนยอดโอนจากลูกค้าชาวต่างประเทศใกล้เคียงจากปีก่อนที่ระดับ 21% ขณะที่มียอดขายรวม 3,979 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 17% ที่ระดับ 3,393 ล้านบาท จากโครงการพร้อมอยู่ที่ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มีอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม

แม้ว่าช่วงเดือนมกราคม และมีนาคมที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยทั้งประเทศในวงกว้าง แต่บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานในส่วนยอดขาย และยอดโอนเป็นที่น่าพึงพอใจ พร้อมปิดการขาย 100% ในโครงการไอดีโอ โมบิ อโศก มูลค่าโครงการกว่า 3,200 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 381 ล้านบาท ลดลงถึง 17% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา หรือ EBITDA จากการดำเนินงานของธุรกิจหลัก กว่า 225 ล้านบาท

Ananda Ideo Chula

กำไรธุรกิจหลักทำได้แค่ 38.8 ล้าน

อย่างไรก็ตาม จากการชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสแรก ปี 2564 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสำหรับปีจากการดำเนินงานในธุรกิจหลัก เป็นจำนวน 38.8 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวน 336.2 ล้านบาท หรือ 89.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากไตรมาสแรกของปี 2563 มีการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท พีระ เซอร์กิต วัน จำกัด และบริษัท พรีระ คาร์ท จำกัด จำนวน 356.5 ล้านบาท สอดคล้องกับเป้าหมายในการลดสัดส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเป็นจำนวน 5.5 ล้านบาท

 

ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า มีจำวน 155.3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันนของปีก่อนหน้าเป็นจำนวน 4.2 ล้านบาท หรือ 2.6%  โดยปีที่ผ่านมาได้เริ่มมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ 7 โครงการ ได้แก่ โครงการเอลลิโอ เดล เนสท์, ไอดีโอ คิว วิคตอรี่,​แอชตัน อโศก-พระราม 9, ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36, ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์, ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร และเอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ

รายได้รวม Q1 ลดลง เหลือกว่า 1,046.5 ล้าน

นอกจากนี้ ในส่วนของรายได้รวมไตรมาสแรก บริษัทมีจำนวน 1,046.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 475.2 ล้านบาท หรือลดลง 31.2% โดยมีสาเหตุหลักมาจากในไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา มีการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท พีระ เซอร์กิจ วัน จำกัด และบริษัท พีระ คาร์ท จำกัด จำนวน 356.5 ล้านบาท และในปัจจุบันบริษัทมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ ผ่านการร่วมทุนในกิจการร่วมค้า ซึ่งมีการรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า

 

นายเสริมศักดิ์  กล่าวอีกว่า ในปี 2564 นี้ถือเป็นอีกปีที่ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงรับมือกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยที่วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จะเป็นความหวังของชาวไทย และต่างประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวและกำลังซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่มีความต้องการซื้อสูง จะเป็นตัวช่วยให้แนวโน้มและความมั่นใจกลับมาดีขึ้น และเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงทุกอย่างก็จะกลับสู่ภาวะปกติ

000 DEALS

ยืนเป้าโอนทั้งปีกว่า 1.6 หมื่นล้าน

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายยอดโอน 16,008 ล้านบาท และยอดขาย 18,570 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 24,422 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ได้แก่ ทำเลทองหล่อ สุรวงศ์ สะพานควาย สุขุมวิท 38 และลำสาลี พร้อมแนวคิดใหม่ ดีไซน์การออกแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์วิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ และในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทฯประกาศความร่วมมือกับ Bitkub  เพื่อการนำคริปโทเคอร์เรนซี่ มาใช้สำหรับการซื้อบ้านและคอนโดจากอนันดา ซึ่งอนันดาเป็นบริษัทในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทย ที่อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการซื้อเพิ่มมากขึ้นในการนำคริปโทเคอร์เรนซี่มาใช้ด้านการชำระเงิน

 

ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทฯ ยังคงรักษาเงินสดรวมโครงการร่วมทุนเกินกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายสามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ และมีเป้าหมายในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ภายใต้เป้าหมายระยะยาวที่ 1:1 สำหรับในเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท เพื่อชำระคืนตามสิทธิหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ครั้งที่ 1/2559

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด