Howto Buy Home Condo 2564

ซื้อบ้าน-คอนโด ในปี 64 อย่างไรเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ทั้งการลดจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม และหันมาเร่งระบายสต็อก รวมถึงการใช้กลยุทธ์โปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม มาช่วยกระตุ้นตลาดและยอดขาย โดยเฉพาะกลยุทธ์ด้านการลดราคา รวมถึงการอยู่ฟรี เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต ทำให้ต่างชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ออกไป

 

นอกจากบรรดาดีเวลลอปเปอร์จะพยายามกระตุ้นตลาดด้วยตัวเองแล้ว ภาครัฐเองก็มองเห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องมีมาตรการออกมาช่วยธุรกิจ ให้สามารถดำเนินต่อไปได้ จึงออกมาตรการในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง ให้เหลือในอัตรา 0.01% ซึ่งเดิมกำหนดสิ้นสุดในช่วงปลายปี 2563 แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระรอกใหม่ ทำให้ภาครัฐจึงต้องนำเอามาตรการดังกล่าวกลับมาใช้อีกครั้ง และมีการขยายกรอบเวลาไปจนถึงสิ้นปี 2564 นี้

มาตรการรัฐปี 64 ตัวช่วยทำให้เรามีบ้าน เป็นของตนเองง่ายขึ้น

ในการจะเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดนั้น นอกจาก “ราคาขาย” ที่ต้องจ่ายแล้วก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อยู่อีกหลายส่วนที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่ง​ 2 ค่าใช้จ่ายที่ถือว่าไม่น้อยเลยก็คือ “ค่าโอนกรรมสิทธิ์” และ “ค่าจดจำนอง” ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อราคาบ้านหรือคอนโดสูงขึ้นเท่าไร ก็จะเป็นต้องจ่ายค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และด้วยเหตุ นี้เองจึงทำให้ มาตรการรัฐมีส่วนสำคัญในการช่วยให้เราเป็นเจ้าของ บ้านหรือคอนโดได้ง่ายมากขึ้น เพราะจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายใน 2 ส่วนนี้ลงไปได้มาก โดยมีรายละเอียดในการลดหย่อน ดังนี้

House Investments Elements Assortment

1.ลดค่าโอนกรรมสิทธิ์ เหลือเพียง 0.01%

โดยปกติแล้วในการซื้อบ้านหรือคอนโด เราจะต้องเสียค่า “โอนกรรมสิทธิ์” เป็นจำนวน 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย ซึ่งต้องชำระให้กับกรมที่ดิน แต่ด้วยมาตรการรัฐเพื่อที่อยู่อาศัยปี 2564  จึงทำให้เราชำระค่าโอนกรรมสิทธิ์เหลือเพียง 0.01% เท่านั้น ซึ่งถือว่าช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก ทำให้เราเหลือเงินเพิ่มมากขึ้น สำหรับนำไปใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต ​เพราะหากบ้านหรือคอนโดราคา หลังละ 3,00,000 บาท จากเดิมที่ต้องชำระค่าโอนกรรมสิทธิ์สูงถึง 60,000 บาท แต่ผลจากมาตรการรัฐจะทำให้เหลือต้องชำระเพียงแค่ 300 บาทเท่านั้น

2.ลดค่าจดจำนอง​เหลือเพียง 0.01%

ค่าจดจำนอง คือ อีกหนึ่งค่าธรรมเนียมที่จำเป็นจะต้องชำระให้กับกรมที่ดิน ​ในการซื้อบ้านหรือคอนโดเช่นเดียวกับค่าโอนกรรมสิทธิ์ โดยมีการขอสินเชื่อหรือใช้บริการเงินกู้กับธนาคาร ซึ่งปกติจะคิดอยู่ที่ 1% ของวงเงินจำนอง หรือยอดเงินกู้ในกรณีที่ขอสินเชื่อกับธนาคารมาซื้อ  มาตรการรัฐเพื่อที่อยู่อาศัยปี 2564 จะทำให้เราจ่ายค่าจดจำนอง น้อยลงกว่าเดิม เหลือเพียง 0.01% โดยหากบ้านหรือคอนโดหลังละ 3,000,000 บาท จากที่ต้องชำระค่าจดจำนอง 30,000 บาท ก็จะเหลือชำระเพียงแค่ 300 บาทเท่านั้น

 

ทั้งนี้ ในการกระบวนการซื้อขายบ้านหรือคอนโด เราจะต้อง ชำระค่าโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนอง พร้อมกันซึ่ง​พอรวมกันแล้ว จะทำให้กลายเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก อย่างในกรณีบ้านหรือคอนโดราคา 3,000,000 บาท ก็ต้องชำระค่าใช้จ่ายสูงถึง 90,000 บาทเลยทีเดียว แต่ผลจากมาตรการรัฐปี 2564 ทำให้เราเหลือชำระเพียงแค่ 600 บาท เท่านั้น

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข การใช้มาตรการรัฐ เพื่อที่อยู่อาศัยปี 64

มาตรการรัฐเพื่อที่อยู่อาศัยปี 2564 สามารถช่วยให้ความฝัน ของคนที่อยากมีบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเอง สำเร็จเป็นจริงได้ง่าย มากขึ้น เสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ น้อยลง แต่ทั้งนี้ การจะได้สิทธิ์และ เข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไขที่ได้รับการลดหย่อนค่าโอนและค่าจดจำนองนั้น ก็มีรายละเอียดที่ต้องปฏิบัติให้ได้ตามเงื่อนไขเช่นกัน ดังต่อไปนี้

Check List ที่ต้องใส่ใจ ซื้อบ้าน-คอนโด แบบไหน ถึงใช้มาตรการรัฐได้

-ผู้ซื้อจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาและเป็นคนไทยเท่านั้น

-ต้องเป็นการซื้อบ้านหรือคอนโดที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ บ้านหรือคอนโดมือสอง รวมถึงบ้านสร้างเอง จะไม่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนตามเงื่อนไข

-ต้องเป็นการซื้อบ้านพร้อมที่ดิน หรือคอนโดจากโครงการที่ได้รับอนุญาตให้จัดสร้างถูกต้องตามกฎหมาย

-ต้องเป็นบ้านหรือคอนโดที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทเท่านั้น

-ต้องเป็นการโอนจากการซื้อ-ขายเท่านั้น และเป็นการโอนจากการซื้อ-ขายพร้อมจดจำนองในคราวเดียวกัน

-ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์–31ธันวาคม2564 หากเป็นการโอนและจดจำนองหลังจากนี้ อาจไม่ได้สิทธิ์ลดหย่อน ดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการต่อระยะเวลาของ มาตรการในอนาคต

ตารางแสดง การลดค่าใช้จ่าย จากการใช้มาตรการรัฐ

ตามเงื่อนไขของการลดหย่อนค่าโอนและจดจำนอง ของมาตรการรัฐเพื่อที่อยู่อาศัยปี 2564 ที่กำหนดราคาบ้านและคอนโดไว้ ไม่เกิน 3,000,000 บาท เพื่อให้มองเห็นภาพของการแบ่งเบาภาระ ค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนมากขึ้น สามารถพิจารณาจำนวนเงินที่ประหยัด ไปได้ดังนี้

Table Home Condo

สรุปเพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น คือ ทุก ๆ 1 ล้านบาทของราคาบ้านหรือคอนโดที่เราซื้อ ​จะเสียค่าโอนและจดจำนองเพียงแค่ 200 บาทเท่านั้น จากเดิมที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงถึง ล้านละ 30,000 บาท

เตรียมตัวอย่างไรดี ให้ปีนี้ มีบ้าน เป็นของตนเอง ได้สำเร็จ

จากมาตรการรัฐ ปี 2564 นี้ ถือว่ามีส่วนช่วยให้การ ซื้อบ้านหรือคอนโดที่อยู่อาศัยแห่งแรกได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้  เพื่อความมั่นคงและให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ก็ควรต้องมีการเตรียมตัวและให้รอบครอบ โดยสิ่งที่จำเป็นต้องใส่ใจในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยใช้มาตรการรัฐสำหรับปีนี้ ได้แก่ ​

1.ตรวจสอบความต้องการ ที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตาม เงื่อนไขมาตรการรัฐ

เงื่อนไขสำคัญที่ต้องใส่ใจเป็นอันดับแรกสุดเลย คือ เราต้องถามตัวเองให้แน่ใจว่า เราต้องการบ้านหรือว่าคอนโดกันแน่ ซึ่งควรพิจารณาแบบวางแผนระยะยาว เช่น เลือกทำเลให้เหมาะกับสถานที่ทำงาน หรือ เลือกจากขนาดของครอบครัว โดยหากอยู่คนเดียว ก็อาจเลือกซื้อเป็นคอนโด  แต่หากวางแผนจะแต่งงาน หรือเป็นครอบครัวที่มีสมาชิกมากกว่า 3 คนขึ้นไป การเลือกซื้อบ้านก็จะตอบโจทย์มากกว่า ซึ่งเมื่อตั้งเป้าหมายได้แล้ว ลำดับต่อมาก็ต้องไม่ลืมว่า การจะได้สิทธิ์ลดหย่อนตามมาตรการรัฐนั้น จะต้องเป็นบ้านหรือคอนโดใหม่ ที่มี​มูลค่า ไม่เกิน 3 ล้านบาท

2.เลือกซื้อบ้านหรือคอนโด ที่พร้อมโอนและเข้าอยู่ได้ทันที

สิทธิ์ลดหย่อนค่าโอนและค่าจดจำนองตามมาตรการรัฐ จะใช้ได้ถึงภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ดังนั้น ในการเลือกซื้อบ้าน หรือคอนโดเพื่ออยู่อาศัย จึงควรเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว พร้อมโอนและเข้าอยู่ได้เลยทันทีภายในสิ้นปีนี้ หรือหากเป็น คอนโดหรือบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า จะดำเนินการก่อสร้างและโอนได้ภายในปีนี้ เพราะหากยืดระยะเวลาการโอนออกไป ก็จะไม่ได้สิทธิ์ลดหย่อนตามมาตรการ และทำให้เราต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ​​

3.ตรวจสอบสถานะการเงิน และเอกสารในการขอสินเชื่อ ให้พร้อม

แม้จะได้สิทธิ์ลดหย่อนค่าโอนและค่าจดจำนองก็จริง แต่เราจะสามารถซื้อบ้านหรือคอนโดได้จริงหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า สถานะการเงินของเราผ่านพิจารณาตามเงื่อนไขของธนาคารหรือไม่ด้วย​ ซึ่งหากต้องการยื่นขอสินเชื่อให้อนุมัติ เราควรมีภาระผ่อนหนี้รวมกัน ต่อเดือนไม่เกิน 40% เช่นถ้ามีรายได้เดือนละ 40,000 บาท ก็ควรมี หนี้ผ่อนบ้านและอื่น ๆ รวมกันไม่เกิน​ 16,000 บาท ถ้ามากกว่านั้น ธนาคารก็อาจไม่พิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้ เพราะเมื่อต้องรับภาระ ผ่อนบ้านอาจไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายได้

 

นอกจากนั้นแล้ว เราก็ควรมีเงินเก็บสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้ด้วยก้อนหนึ่ง เพราะต้องไม่ลืมว่าเราจะเป็นต้องมีเงินก้อนประมาณ 20-30% ของค่าบ้านเตรียมไว้ด้วยก้อนหนึ่ง เนื่องจากธนาคารอาจไม่อนุมัติสินเชื่อให้ 100% เต็ม

Property Real Estate

ทั้งนี้ เอกสาร สำคัญในการอนุมัติขอสินเชื่อจากธนาคารที่ต้องเตรียมให้พร้อม เพื่อ ไม่ให้เป็นการเสียเวลา และอาจทำให้สูญเสียโอกาสในการใช้สิทธิ์ ตามมาตรการรัฐ ได้แก่

-หลักฐานเอกสารประจำตัว

ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนสมรส สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)

-หลักฐานเอกสารเกี่ยวกับการแสดงรายได้

ในกรณีของผู้มีรายได้ประจำสิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ ใบรับรองเงินเดือน หรือหลักฐานการรับ/จ่ายเงินเดือนจากนายจ้าง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร

กรณีผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ ต้องเตรียมสำเนาทะเบียน การค้า หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และบัญชีเงินฝาก พร้อมหลักฐานแสดงการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งนอกจากนี้แล้วหากมีเอกสารรายได้หรือทรัพย์สินอื่น ๆ อีก ก็จะยิ่ง ทำให้การรับพิจารณาอนุมัติสำเร็จได้ง่ายมากขึ้น

-หลักฐานเกี่ยวกับหลักทรัพย์และการซื้อขาย

ได้แก่​ สำเนาโฉนดที่ดิน สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด แผนที่แสดงทำเลที่ตั้งของที่ดินหลักประกัน สำเนาสัญญา จะซื้อจะขายหรือสัญญามัดจำเป็น ถ้าเป็นกรณีการซื้อห้องชุด ต้องมีสำเนาหนังสือสำคัญการจดทะเบียนอาคารชุด รวมถึงรายละเอียดทรัพย์ส่วนบุคคล และทรัพย์ส่วนกลาง ​

-กรณีมีผู้กู้ร่วม

จะต้องมีหลักฐานส่วนตัว และเอกสารหลักฐานแสดงรายได้ของผู้กู้ร่วมยื่นประกอบการพิจารณาคำร้องของสินเชื่อด้วย

4.ซื้อบ้านหรือคอนโดกับใคร ต้องแน่ใจว่าน่าเชื่อถือ

การจะได้สิทธิ์ลดหย่อนค่าโอนและค่าจดจำนองจาก มาตรการรัฐปี 2564 นั้น จะต้องเป็นบ้านหรือคอนโดที่ขายโดยผู้ประกอบการที่ได้สิทธิ์ดำเนินการโครงการตามกฎหมายเท่านั้น ดังนั้น ​เราจึงจำเป็นจะต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโครงการบ้านหรือ คอนโดก่อนซื้อให้ดี ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้เราได้สิทธิ์ตามมาตรการรัฐ แล้ว ก็ยังทำให้เราได้บ้านหรือคอนโดที่มีคุณภาพคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ไปด้วย

 

แม้ปี 2564 นี้ สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงไม่หายไป แต่ท่ามกลางวิกฤตก็ยังมีโอกาสสำหรับคนไทยที่ฝันอยากมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองอยู่จากมาตรการรัฐเพื่อที่อยู่อาศัย​  ซึ่งหากเราวางแผนเตรียมความพร้อม และเตรียมตัวเป็นอย่างดี ตามเงื่อนไขแล้วล่ะก็ จะสามารถซื้อบ้านหรือ คอนโดได้อย่างคุ้มค่าและลดค่าใช้จ่ายลงได้เป็นจำนวนมาก อันจะส่งผลให้เรามีเงินเหลือเก็บไว้ ใช้เพิ่มมากขึ้น มีบ้านเป็นของตัวเอง และดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมี ความสุขและราบรื่นแม้จะอยู่ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

 

ที่มา-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส.

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด