นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่เริ่มใช้วันที่ 1 เมษายน 62 ที่ผ่านมา ประกอบกับตัวลูกค้าประสบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดต่อการยื่นขอสินเชื่อ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ปัญหาส่งครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ปัญหาการประท้วงในประเทศฮ่องกง และแนวโน้มกำลังซื้อจากต่างชาติลดลง โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งเป็นปัจจัยกระทบต่อภาพรวมอสังหาฯ ในปีนี้
แต่หากพิจารณาจากตลาดอสังหาฯ ในโซนภาคตะวันออก ยังถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องการเดิน มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(สำโรง-ลาดพร้าว) มีแหล่งที่อยู่อาศัย และหากในอนาคตเกิดโครงการรถไฟรางเบา (LRT) ที่จะวิ่งจากบางนา-สุวรรณภูมิ จะสร้างความคึกคักและเพิ่มศักยภาพของการอยู่อาศัยมากขึ้น ล่าสุดโครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบินได้รับการลงนามเป็นที่เรียบร้อย
ในปีนี้บริษัทจึงได้ปรับกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง และต่อเนื่องถึงปี 2563 โดยชูในเรื่อง Active Wellness มาใช้ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งเริ่มนำร่องกับโครงการ เซนส์ บางนา-สุวรรณภูมิ ที่ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวรวมมากถึง 29,600 ตร.ม.มีพื้นที่ปั่นจักรยาน 2,600 ตารางเมตร และลู่วิ่ง ความยาวถึง 7,400 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นเทรนด์และความต้องการของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน
“แม้ว่าบริษัทยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งประเภทคอนโดมิเนียม และแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิศ แต่บริษัทต้องปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบของลูกค้า”
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพการก่อสร้าง และการใส่ใจในการบริการที่มีต่อลูกค้า ผ่านวิสัยทัศน์ We build real matters for living เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสถึงความคุ้มค้าที่ได้รับจากโครงการผ่านทางคุณภาพบ้าน รวมถึงการใส่ใจในเรื่องสุขภาพ
ด้านนายวีระชัย หาญจริยากูล ผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์ ธุรกิจบ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 หลังจากตลาดชะลอตัวช่วงประกาศใช้มาตรการ LTV
โดยช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายโครงการแนวราบได้ 600 ล้านบาท มาจากโครงการโฮมออฟฟิศ คาสเคด บางนา , บ้านเดี่ยว โครงการ วีรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช , ทาวน์โฮม เพล็กซ์ เกษตร-นวมินทร์ และบ้านแนวคิดใหม่ โครงการเซนส์ สายไหม 56
“ตลาดโครงการแนวราบ การแข่งขันสูง เนื่องจากผู้ประกอบการหลายค่าย หันมาเล่นตลาดแนวราบมากขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัท ก็มีจุดแข็งหลายด้าน มีเครือข่ายทางธุรกิจที่พร้อมสนับสนุน”
ปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินผืนใหญ่อยู่บนทำเลบางนา-สุวรรณภูมิ ประมาณ 180 ไร่ มีแผนจะทยอยนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในกลุ่มแนวราบต่อเนื่องได้ถึง 8 ปี หรือมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทฯได้นำที่ดิน 23 ไร่ มาพัฒนาโครงการ เซนส์ บางนา-สุวรรณภูมิ รูปแบบทาวน์โฮมและบ้านแฝด จำนวน 160 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 810 ล้านบาท แบ่งพัฒนาเป็น 4 เฟสๆละ 40 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 4.99-6ล้านบาท ซึ่งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 จะเปิดรอบวีไอพีก่อน
ส่วนแผนพัฒนาโครงการในปี 2563 จะพัฒนาโครงการอย่างน้อย 3 โครงการ รวมมูลค่า 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการทาวน์โฮม แบรนด์ สตอรี่ส์ จำนวน 200 ยูนิต โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ วีรัณยา จำนวน 150 ยูนิต รวมทั้ง 2 โครงการมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และโครงการบริเวณสุขาภิบาล 2 ภายใต้แบรนด์ เพล็กซ์ ที่จะเปิดกลางปีหน้าจำนวจน 227 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท.