สีจระเข้ เปิดแฟลกชิพ สร้างประสบการณ์สัมผัสสินค้าจริง ตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่มนิชมาร์เก็ต อยากเห็นของจริง พร้อมบริการช่างทาสี มั่นใจสิ้นปีสร้างยอดขายตามเป้า 50 ล้าน ปี 66 เตรียมต่อยอดแฟลกชิพ ขยายจุดโชว์ในร้านดีลเลอร์ที่มีกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ ประเดิมโซนภาคตะวันออก ก่อนขยายสาขาตามหัวเมืองใหญ่
นายพงษ์พันธุ์ ประทีปมโนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวแฟลกชิพ สโตร์ แห่งใหม่ที่สำนักงานใหญ่ ย่านถนนกรุงเทพกรีฑา เพื่อใช้เป็นจุดแสดงผลิตภัณฑ์สีจระเข้ (SEE JORAKAY) และการใช้งาน สำหรับกลุ่มลูกค้าที่สนใจสินค้า ต้องการเห็นการใช้งานจริง รวมถึงการรับบริการให้คำปรึกษา ด้านการใช้งานสีแบบครบวงจร
สำหรับสีจระเข้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์สีพรีเมียม จับตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยผลิตจากวัตถุดิบที่มาจากหินปูนธรรมชาติ 100% จากประเทศสเปน จึงเป็นสีแบรนด์เดียวที่เป็นสีธรรมชาติ และรายแรกของไทย โดยที่ผ่านมาจะเน้นการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งหลังจากเปิดตัวสีจระเข้ในงานสถาปนิกครั้งที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับและสนใจในสีจระเข้ มีการสอบถามผ่านช่องทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติถึง 10 เท่า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มีความต้องการเห็นผลิตภัณฑ์ และการใช้งานจริง นอกเหนือจากข้อมูลทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น
บริษัทจำเป็นต้องมีแฟลกชิพ สโตร์ เพราะสีไม่มีหน้าร้าน เป็นสีเฉพาะกลุ่ม ลูกค้าต้องการเห็นการใช้งานจริงและต้องการได้รับคำปรึกษา รวมถึงต้องการได้รับบริการทาสี บริษัทจึงต้องต่อยอดความต้องการลูกค้าให้ได้สัมผัสสีจริง และการบริการแบบครบวงจร
โดยแฟลกชิพ สโตร์ นอกจากจะแสดงการใช้งานผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ และเทรนด์สี ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ยังจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายจุดแสดงสินค้าและการใช้งานสีจระเข้ ในลักษณะช้อปอินช้อป ในร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3,000 แห่ง เบื้องต้นจะขยายสาขาในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และภาคตะวันออก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนารูปแบบ รวมถึงคัดเลือกร้านค้าตัวแทนจำหน่าย คาดว่าจะเริ่มขยายสาขาแฟลกชิพ สโตร์ได้ในปีหน้า
นายพงษ์พันธุ์ กล่าวอีกว่า การขยายร้านแฟลกชิพ สโตร์ในครั้งนี้ บริษัทยังไม่ได้หวังผลตอบรับในด้านยอดขาย แต่คาดว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งภายใน 3-5 ปีข้างหน้า คาดว่ากลุ่มสีจระเข้จะมียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขายรวมของบริษัท ซึ่งบริษัทยังมีการทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สีจระเข้ในด้านอื่น ๆ อีกต่อเนื่องด้วย
อย่างไรก็ตาม ในด้านยอดขายของปีนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายไว้ 50 ล้านบาท แม้ว่าในช่วงต้นปีนี้จะมีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงปัจจัยลบต่าง ๆ หลายอย่าง อาทิ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น แต่ยอดขายตั้งแต่ปีจนถึงปัจจุบัน ยังถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ครึ่งปีหลังการทำตลาดยังเหนื่อย เพราะปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในภาพรวม เราพยายามบริหารจัดการทั้งระบบ ไม่ได้จัดการเฉพาะด้านสินค้า และกลุ่มลูกค้าของสีจระเข้ไม่ได้คอนเซิร์นเรื่องราคาเป็นหลัก แต่เน้นคุณภาพของสินค้าและความคุ้มค่า
ด้านนายชินธร อรรถสารประสิทธิ์ ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า นโยบายของบริษัท ต้องการนำเสนอสินค้านวัตกรรม และมีจุดเด่นที่ชัดเจนสู่ผู้บริโภค จึงพัฒนากลุ่มสี Color Cement ซึ่งเป็นสี Cement Based หลังจากนั้น ได้ต่อยอดมาสู่ผลิตภัณฑ์สีจากวัตถุดิบหลักธรรมชาติอื่น ๆ โดยจับมือกับผู้นำสีด้านนี้ในประเทศสเปน ร่วมกันเปิดตลาดสีธรรมชาติจาก Limebase เป็นรายแรกในประเทศไทย ด้วยความโดดเด่นของ Graphenstone ที่มีกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูง
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว บริษัทได้ตัดสินใจสร้างแบรนด์สีจระเข้ ที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน มีความโดดเด่นในเรื่องความเป็นธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของโครงการหรือแม้แต่ช่างผู้ใช้งาน
โดยภายในแฟลกชิปสโตร์ยังมีโซนให้ทดสอบสินค้าจริง โซนสำหรับนั่งทำงาน บริการกาแฟ พร้อมบริการแนะนำสินค้า เลือกสี และออกแบบลายโดยผู้เชี่ยวชาญ จบครบทุกขั้นตอนภายในที่เดียว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
–สีจระเข้ รีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 20 ปี ปูทางสร้างยอดขาย 300 ล้าน
–7 ฟังก์ชั่น “จระเข้ เทอร์โบ พลัส” ประโยชน์มากกว่า ในราคาสุดคุ้ม