Ryl Feature 090223

เดอะเนสท์ เตรียมโกยรายได้ 2,700 ล้าน จาก 2 คอนโดพร้อมโอนในปี 66 ​

เดอะเนสท์ อสังหาฯ ตระกูล “มหากิจศิริ” เตรียมโกยรายได้ปี 66 จำนวน 2,700 ล้าน กับ 2 โครงการคอนโด และบ้านแนวราบ พร้อมเดินหน้าจับมือ KRD ยักษ์อสังหาฯ ญี่ปุ่นเปิดตัว เปิดอีก 2 โครงการใหม่กลุ่มบ้าน Luxury โซนศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา รวมมูลค่า 3,900 ล้านบาท

 

บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล “มหากิจศิริ” ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2552 โดยนางสาวอุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวของนายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป เจ้าของบริษัทไทยน็อคซ์ สเตนเลส และไทย คอปเปอร์ และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงงานผลิตเนสกาแฟในประเทศไทย

 

โดยนางสาวอุษณา ยังมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการของ PM Group และยังเป็นผู้ดูแลการดำเนินงานของโครงการกอล์ฟขนาดใหญ่ เช่น Mountain Creek Golf Resort, Lakewood Country Club และ Lakewood Links Golf Course อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการของบริษัทร่วม บริษัทในเครือ และอีกหลายบริษัทภายใต้กลุ่มบริษัทด้วย

The Nest

นอกจากนี้ ​นางสาวอุษณายังได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจอาหาร เมื่อช่วงในปี 2560 จากการเข้าซื้อกิจการ Pizza Hut ประเทศไทย จากบริษัท Yum International และปัจจุบันเป็นผู้ถือแฟรนไชส์แต่เพียงผู้เดียวของ Pizza Hut ประเทศไทย

 

สำหรับวงการอสังหาฯ บริษัท เดอะเนสท์ฯ อาจจะยังมีขนาดธุรกิจไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็เริ่มขยับการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องทุกปี และมุ่งเน้นการพัฒนาจับตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียม หรือบ้านแนวราบก็ตาม

 

แผนธุรกิจในปี 2566 เดอะเนสท์ มีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการรวมมูลค่า 3,900 ล้านบาท ที่ร่วมทุนกับบริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ KRD ได้แก่

 

1.โครงการ “เอเวียน ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา” (AVIAN Srinakarin-Krungthepkreetha)

บ้านเดี่ยว 2 ชั้นตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 42-0-54 ไร่ จำนวน 166 ยูนิต แต่ละยูนิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ตั้งแต่ 50.37-111.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 230-290 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท* จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2566 มีมูลค่าโครงการประมาณ 2,700 ล้านบาท

 

2.โครงการ “แอร์รี่ ศรีนครินทร์-สวนหลวง” (AERIE Srinakarin–Suan Luang)

บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่ดินกว่า 9​  ไร่ จำนวน 43 ยูนิต แต่ละยูนิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ตั้งแต่ 52.8-74.22 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 313-370 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท* จะเปิดตัวในไตรมาส 4 มูลค่าโครงการประมาณ 1,200  ล้านบาท

 

นอกจากบ้านแนวราบแล้ว ยังมีโครงการคอนโด  ที่อยู่ระหว่างการหาทำเลที่ดินเพื่อการพัฒนาต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นทำเลในเมืองที่มีศักยภาพ แต่ต้องสามารถพัฒนาให้มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายด้วย

The Nest (1)

ขณะที่ปี 2566 จะถือเป็นปีสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับเดอะเนสท์ ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ถึง 2,700 ล้านบาท เพราะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการคอนโด 2 โครงการที่เปิดการขายมาก่อนหน้านี้แล้ว คือ โครงการเดอะเนสท์​ จุฬา-สามย่าน และโครงการเดอะเนสท์ สุขุมวิท 71 รวมถึงโครงการบ้านแนวราบที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา อย่าง​โครงการ AERIE ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา และโครงการที่เปิดปีนี้ด้วย

 

โครงการ AERIE ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา ซึ่งในปีนี้จะมีการทยอยสร้างบ้านเสร็จออกมาอย่างต่อเนื่องประมาณ 60 ยูนิต ซึ่งมีลูกค้าจองไปแล้วประมาณ 40%  ขณะที่โครงการใหม่อีก 2 โครงการ ที่จะเปิดในปีนี้ จะเป็นบ้านที่ทยอยสร้างเสร็จพร้อมขายและพร้อมโอนเช่นเดียวกัน

 

ความมั่นใจในเป้าหมายดังกล่าวนั้น นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เล่าว่า เป็นเพราะ​ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 2566  มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ทั้งเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศที่ยังไหลมาลงทุนในไทยผ่านตลาดทุนและการลงทุนในกลุ่มเรียลเซ็กเตอร์ ประกอบกับจีนมีนโยบายเปิดประเทศ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักมากขึ้นอีกครั้ง ปัจจัยบวกเหล่านี้จะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน

เราทำธุรกิจต้องมองทั้งมุมบวกและมุมลบเพื่อประกอบในการกำหนดนโยบาย และปีนี้เรายังคงเชื่อมั่นและร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นบริษัทฯ เชื่อว่ายอดขายอสังหาฯ ตัวเลขจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบของผู้บริโภคในประเทศเองก็แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนภาพได้จากยอดขายบ้านแนวราบของบริษัทฯ ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคภายในประเทศ รวมถึงผลประกอบการด้านยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงปี 2565 ของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เน้นเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ

The Nest (2)

ด้านนายเคนอิจิ ฟูจิโนะ ประธานกรรมการ บ KRD กล่าวว่า แม้ว่าตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยจะเผชิญกับความท้าทายบางประการ เช่น ต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นจากราคาเหล็กที่พุ่งสูงขึ้น แต่เราเชื่อว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางสำหรับชาวจีน จะนำไปสู่การฟื้นตัวต่อไปของเศรษฐกิจไทยกับการฟื้นฟูตลาดอสังหาฯ

เรารู้สึกเสมอว่า The Nest Property เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ เห็นได้จากความร่วมมือที่โครงการคอนโดมิเนียม 125Sathorn ที่ประสบความสำเร็จจนเป็นที่น่าพอใจ รวมถึงโครงการ AERIE ที่อยู่ริมถนนกรุงเทพกรีฑายังได้รับความนิยมและมียอดจองจำนวนมาก

สำหรับ KRD เป็นกลุ่มบริษัทพลังงานแบบครบวงจรรายใหญ่ในญี่ปุ่น ได้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กำลังดำเนินการเกี่ยวกับ “Zero Energy House” ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยประเภทประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังคงแบ่งปันความรู้ให้กับพันธมิตร The Nest Property เพื่อส่งมอบ และพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคของประเทศไทย รวมถึงได้เลือกผลิตภัณฑ์หลายรายการจากผู้ผลิตญี่ปุ่น อีกทั้งได้ว่าจ้าง ALSOK ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยรายใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับโครงการ AERIE นับเป็นครั้งแรกที่ ALSOK ให้บริการรักษาความปลอดภัยสำหรับที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ภายใต้ชื่อบริษัท ALSOK Thai Security Service

 

นอกจาก โครงการร่วมทุน เดอะเนสท์ ยังมีโครงการที่บริษัทพัฒนา 100% อีก 5 โครงการคือ โครงการ The Nest Condo เพลินจิต, The Nest Condo Sukhumvit 22 , The Nest Condo Sukhumvit 64, The Nest Condo Sukhumvit 71 และโครงการ The Nest Condo Chula – Samyan

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดอะเนสท์ เปิดโปรเจ็กต์ “จุฬาฯ-สามย่าน” ชูจุดขาย ผลตอบแทนการเช่า 6%

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด