Tag : condo

1488 ผลลัพธ์
ASPIRE สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

ASPIRE สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

โครงการ: ASPIRE สุขุมวิท 48 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,450,000 บาท บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 98,000 บาท เจ้าของโครงการ Asian Property., Plc. จุดเด่น เติม Surprise ให้…เกินคาด โลดแล่น…ให้ถึงขีดสุดกับไลฟ์สไตล์แบบ ENERGETIC LIVING ที่พร้อมสปาร์คความสุขให้คุณ…แบบเกินความคาดหมาย พบความสุขอีก ฯลฯ ได้ที่ Aspire คอนโด สุขุมวิท 48 โลดแล่น…ให้ถึงขีดสุดกับไลฟ์สไตล์แบบ ENERGETIC LIVING ที่พร้อมสปาร์คความสุขให้คุณ…แบบเกินความคาดหมาย มีคอนโดบนสุขุมวิท…ง่ายเกินคาด มีสเปซในการใช้ชีวิต…กว้างเกินคิด มีพื้นที่ของวันพักผ่อน…สูงกว่าที่ฝัน มีการเดินทาง…รวดเร็วกว่าที่เคย และพบความสุขอีก ฯลฯ ได้ที่ Aspire คอนโด สุขุมวิท 48 ปีที่สร้างเสร็จ 2557 ที่ตั้ง: ASPIRE สุขุมวิท 48 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 5-0-98.3 ไร่ ที่ตั้ง ซอยสุขุมวิท 48 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.711467,100.594341 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สถานีพระโขนง (650 ม.)   สถานที่สำคัญใกล้เคียง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอกมัย พาร์คเลน เอกมัย เจ อเวนิว ทองหล่อ ห้าง ดิเอ็มโพเรี่ยม   ลักษณะโครงการ: ASPIRE สุขุมวิท 48 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bed 2 Bed ขนาดห้องที่มี 1 Bed / 25-38 ตร.ม. 2 Bed / 54-64 ตร.ม. จำนวนตึก 3 อาคาร จำนวนชั้น อาคาร A สูง 25 ชั้น, อาคาร B สูง 30 ชั้น, อาคาร C สูง 8 ชั้น จำนวนห้อง อาคาร A จำนวน 277 ยูนิต, อาคาร B จำนวน 560 ยูนิต, อาคาร C เป็นอาคารจอดรถ   ส่วนกลาง: ASPIRE สุขุมวิท 48 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 40% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 350 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิด ประตู Key Card สวนหย่อม Wi-Fi Internet บริเวณ Lobby   เพิ่มเติม: ASPIRE สุขุมวิท 48 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.apthai.com/Aspire/Aspire-Sukhumvit-48/home/ ข้อมูล ณ วันที่
LEVO Condo ลาดพร้าว 18 : รีวิวคอนโด

LEVO Condo ลาดพร้าว 18 : รีวิวคอนโด

โครงการ: LEVO Condo ลาดพร้าว 18 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,400,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 92,000 บาท เจ้าของโครงการ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ / Lalin Property จุดเด่น จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ โครงการพร้อมอยู่ ที่ตั้ง: LEVO Condo ลาดพร้าว 18(PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 0-1-92.7 ไร่ ที่ตั้ง ซอยลาดพร้าว 18 (ซอยเนตรประสม) ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.805263,100.569781 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ลาดพร้าว (350 เมตร) สถานที่สำคัญใกล้เคียง โฮมโปร — 0.5 กม. เซ็นทรัลลาดพร้าว — 1.5 กม. ศาลอาญา — 2.5 กม. BTS หมอชิต — 2.8 กม. SCB สำนักงานใหญ่ — 3 กม. เมเจอร์รัชโยธิน — 3 กม. สวนจตุจักร — 3 กม. เอสพลานาด — 5 กม. ม.หอการค้า — 5.9 กม. ทางด่วนประชาชื่น — 6 กม. ม.เกษตร — 6.2 กม. ทางด่วนวิภาวดี(ดินแดง) — 6.5 กม. ลักษณะโครงการ: LEVO Condo ลาดพร้าว 18(PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom / 26.00 – 42.00 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ช้ัน จำนวนห้อง 62 ยูนิต ส่วนกลาง: LEVO Condo ลาดพร้าว 18(PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 24 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 600 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย Fit & Firm Room ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัยเข้าออก Access Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ที่จอดรถในร่ม Greenery Garden   เพิ่มเติม: LEVO Condo ลาดพร้าว 18(PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1778 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://levocondo.com/ladprao18_project2/index.php ข้อมูล ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2557
Supalai City Resort พระนั่งเกล้า-เจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

Supalai City Resort พระนั่งเกล้า-เจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

โครงการ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สถานีพระนั่งเกล้า – เจ้าพระยา เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ขนาดใหญ่ ใกล้สี่แยกพระนั่งเกล้า ซึ่งอยู่ในย่านที่กำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มคนที่มองหาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า ด้วยระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานพระนั่งเกล้า (สายสีม่วง) ไม่เกิน 300 เมตร จึงตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่หวังพึ่งพาการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก แถมช่วงระยะเวลาที่ตัวโครงการจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าก็อยู่ก็พอๆ กับที่รถไฟฟ้าจะเปิดให้บริการ ทุกอย่างจึงค่อนข้างลงตัวเลย   การเดินทาง   การเดินทางหลักๆ ของคนที่ไม่ใช้รถส่วนตัวก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งตัวสถานีสะพานพระนั่งเกล้า อยู่ห่างออกไปเพียง 300 เมตร จัดว่าอยู่ในระยะเดินถึงได้สบายๆ ติดอยู่เล็กน้อยที่ตัวสถานีไม่ได้อยู่ด้านเดียวกันกับถนนหน้าโครงการ การเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าจึงต้องเดินข้ามทางม้าลายบริเวณสี่แยกถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่หลายเลนและมีปริมาณรถมาก การเดินข้ามทางม้าลายจึงต้องใช้ความระมัดระวังกันมากหน่อย แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยง ก็มีสะพานลอยที่อยู่ห่างจากตัวสถานีออกไปอีกประมาณ 100 เมตร อาศัยว่าเพิ่มระยะเดินอ้อมอีกประมาณ 200 เมตรแต่ปลอดภัยกว่ากันเยอะครับ ภาพเส้นทางจากโครงการ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท มาถึงสถานีพระนั่งเกล้า ระยะทางประมาณ 300 เมตร เริ่มออกจากโครงการ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท ต้องข้ามถนนไป เพื่อไปขึ้น Sky Walk เมื่อขึ้นไปแล้วก็เดินบน Sky Walk ไปเลยครับ สถานีจะอยู่ห่างประมาณ 300 เมตรครับ ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าสะดวกไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมีทั้งถนนรัตนาธิเบศร์ที่เป็นถนนสายหลัก และยังสามารถเลี่ยงไปใช้ถนนติวานนท์ หรือถนนงามวงศ์วานที่เป็นเส้นทางสายรองเพื่อไปขึ้นทางด่วนเพื่อเข้า-ออกเมือง แต่ถ้าต้องการเลี่ยงปัญหารถติดที่แยกแคราย ก็สามารถข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์ หรือเลยไปใช้ถนนวงแหวนรอบนอกเพื่อเข้า-ออกเมืองได้อีกเช่นกัน ตัวอย่างการเดินทางที่เราเลือกใช้ในครั้งนี้ เริ่มจากแยกแครายมุ่งหน้ามายังสะพานพระนั่งเกล้า พอเห็นป้ายบอกทางไปสนามบินน้ำก็ให้ชิดซ้ายเพื่อตรงไปกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้าเลยครับ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำมาอีกประมาณ 120 เมตร ก็จะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งเราต้องเลยขึ้นไปอีกเล็กน้อยเพื่อกลับรถมายังตัวโครงการ แต่ถ้าใครที่ค่อนข้างชำนาญเส้นทางในแถบนี้อยู่บ้าง ก็น่าจะพอนึกภาพออกว่า ถนนสนามบินน้ำที่อยู่หน้าโครงการ สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนติวานนท์ หรือจะวิ่งเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาไปออกถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เพราะไปใช้เส้นทางอื่นๆ ได้อีกมากมายเลยทีเดียว ภาพเดินทางจากปากเกร็ด วิ่งมาบนเส้นติวานนท์ แล้วเข้าสนามบินน้ำ เพื่อไปยังโครงการ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท มาจากปากเกร็ด เมื่อมาถึงสามแยกสนามบินน้ำ ให้เลี้ยวขวา เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วจะเข้าถนนสนามบินน้ำ จะผ่านการประปานครหลวงที่อยู่ทางซ้ายมือ เมื่อวิ่งมาเรื่อยๆ ก็จะผ่าน สำนักงานปปช. และกองสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อยู่ทางขวาครับ วิ่งเลยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมา ก็จะเจอศูนย์การค้าสลากไทยที่อยู่ทางขวา มาเจอสามแยกให้วิ่งตรงไป วิ่งมาก็จะเจอ ตึกกระทรวงพาณิชย์ที่อยู่ทางขวา วิ่งมาเรื่อยๆ ก็จะเจอโครงการอยู่ทางซ้าย เลี้ยวเข้าไปเลยครับ นอกเหนือจากนี้ การเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ก็สามารถทำได้ไม่ยากเพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่จึงมีรถผ่านไปมาค่อนข้างมาก ในขณะที่การเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก เพราะไม่มีวินมอเตอร์ไซค์ หรือป้ายรถเมล์อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเลย   วิเคราะห์ตัวโครงการ   โครงการศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สถานีสะพานพระนั่งเกล้า เป็นคอนโด High Rise ตึกเดี่ยว สูง 33 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นทางโครงการจึงชูประเด็นเรื่องวิวแม่น้ำมาเป็นจุดขายกลายๆ สำหรับห้องพักที่อยู่ในชั้นสูงๆ ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะจะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ด้วย ปัจจุบันบริเวณรอบๆ โครงการยังเป็นที่ดินว่าง และมีบ้านพักอาศัยในแนวราบอยู่บ้าง จึงยังไม่มีตึกสูงขนาบข้าง เรื่องวิวจากมุมสูงจึงเปิดโล่งในทุกๆ ด้านและยังค่อนข้างได้เปรียบเมื่อเทียบกับโครงการที่มีตึกสูงอยู่ใกล้ๆ แต่ในอนาคตก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสที่จะมีโครงการอื่นๆ ขึ้นมาบังวิวนะครับ ซึ่งถ้ามีอาคารสูงขึ้นในระยะใกล้เคียงจริง วิวแม่น้ำก็คงหมดไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเรื่องวิวแม่น้ำอย่าตั้งความหวังไว้เยอะนะครับ กว่าโครงการจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงกันได้เหมือนกัน   บริเวณรอบๆ โครงการในรัศมี 500 เมตร จัดว่าขาดแคลนเลยทีเดียว เพราะไม่มีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า หรือร้านสะดวกซื้อใดๆ เลย ต้องรอดูร้านค้าที่จะมาเปิดใต้โครงการว่าจะมีร้านอะไรให้พอพึ่งพาได้บ้าง ไม่อย่างนั้นคงต้องขับรถออกไปไกลอีกหน่อยบนถนนรัตนาธิเบศร์ จึงพอจะมีห้างสรรพสินค้าให้พึ่งพาอาศัยกัน เช่น เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ บิ๊กซี เลยไปถึงเทสโก้โลตัสบริเวณแยกแคราย และห้างเดอะมอลล์ บนถนนงามวงศ์วาน ซึ่งจัดว่าไกลจากตัวโครงการพอสมควรเลยทีเดียว แต่ถ้าในเรื่องสาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น โรงพยาบาล และสถานที่ราชการกลับอยู่ในระยะที่ใกล้กว่ามาก   ที่นี้ขยับเข้ามาดูภายในโครงการศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สถานีสะพานพระนั่งเกล้า – เจ้าพระยากันบ้าง ตัวที่ดินของโครงการมีขนาด 3 ไร่เศษ ซึ่งจัดสรรเป็นอาคารพักอาศัยรูปตัว L ที่มียูนิตรวมมากกว่า 700 ยูนิตเลยทีเดียว โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นกันตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไป ส่วนชั้น G จะแบ่งเป็นพื้นที่บริเวณ Drop-Off ร้านค้าใต้โครงการ และล็อบบี้ ส่วนชั้น 1-5 จะเป็นที่จอดรถ ที่นับรวมการจอดซ้อนคันแล้ว จะจอดได้เพียง 48% เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของโครงการระดับนี้ที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า เพราะเคลมว่าลูกบ้านส่วนใหญ่จะอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัว เรื่อง Facility ต่างๆ ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ก็มีทั้ง สระว่ายน้ำที่มีสระเด็กแยกไว้ให้ด้วย รวมถึงห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า ที่อยู่ในชั้น 6 แน่นอนว่าห้องพักบางส่วนจะได้วิวสระว่ายน้ำไปเต็มๆ เพราะมีระเบียงติดสระว่ายน้ำด้วย แต่ก็ต้องแลกกับความวุ่นวายเวลาลูกบ้านคนอื่นๆ มาใช้สระว่ายน้ำ และพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ นอกจากนี้ยังมี Rooftop Garden และ Sky Lounge บนชั้นดาดฟ้า รวมถึงสวนหย่อมที่กระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ ซึ่งลูกบ้านสามารถออกมาเดินเล่นรับลมเย็นๆ ได้ด้วยเช่นกัน ดูจากจำนวนพื้นที่ส่วนกลางเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตรวมทั้งหมดแล้ว ถ้าต้องใช้งานจริงๆ คงไม่เพียงพอต่อความต้องการแน่ๆ ต้องแบ่งๆ กันใช้ บางช่วงเวลาถ้ามีปริมาณคนใช้สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือสวนหย่อมหนาแน่นไปบ้างก็ต้องทำใจครับ   พาชมห้องตัวอย่าง   มาถึงห้องตัวอย่าง ซึ่งทางศุภาลัยยังคงสไตล์การจัดสรรให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องค่อนข้างกว้าง โดยห้องแบบ Studio ก็มีพื้นที่เริ่มต้นที่ 33 ตร.ม.แล้ว ในขณะที่ห้องแบบ 1 ห้องนอนก็จัดมาให้ในพื้นที่ 47 ตร.ม. เลยทีเดียว ถ้ามีโอกาสเข้าไปดูห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย จะเห็นว่าทางโครงการเปิดผนังห้องออกมาให้ดูแบบโล่งๆ ดังนั้นตำแหน่งประตูห้องและบรรยากาศภายในห้องหลังจากมีกำแพงล้อมรอบครบทุกด้านเราต้องอาศัยจิตนาการกันหน่อย ห้องทั้งหมดของโครงการขายกันมาแบบ Fully Furnished ตามแบบในห้องตัวอย่างเป๊ะเลย รวมถึงเครื่องปรับอากาศ และ Wallpaper ก็มีแถมมาให้ด้วย ถ้าเป็นห้องแบบ Studio พอเปิดประตูเข้าห้องมาก็จะเจอกับห้องนอน โดยมีมุมเล็กๆ หลังประตูห้อง แบ่งเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีไว้ ถัดเข้าไปด้านในก็คือ ห้องน้ำและห้องครัวที่แบ่งพื้นที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน โดยห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนช่วยป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นควันจากการทำอาหารได้ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งเครื่องครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจัดมาให้สมน้ำสมเนื้อกับราคาตามมาตรฐานของโครงการในระดับเดียวกัน ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมี Lay out ที่แบ่งพื้นที่ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น เพราะตัวห้องนอนจะถูกแยกออกจากห้องนั่งเล่น พร้อมกับพื้นที่ของระเบียงที่กว้างขึ้นด้วยเช่นกัน เฟอร์นิเจอร์ที่แถมมากับห้อง ส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว จึงยังพอจะจัดห้องและปรับเปลี่ยนตำแหน่งกันได้บ้าง และด้วยพื้นที่ภายในห้องที่ค่อนข้างกว้างขวางเลยไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.6 เมตรและการใช้ประตูกระจกบานเลื่อนทำให้เปิดรับแสงได้มาก ห้องจึงดูโปร่งสบายกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆ โครงการ นอกจากห้องพักทั้ง 2 แบบที่ทางโครงการจัดไว้ให้ชมในสำนักงานขายแล้ว ก็ยังมีห้องแบบอื่นๆ ในพื้นที่ขนาดต่างๆ กันให้เลือกอีกมาก ทั้งห้องแบบ 2 ห้องนอน และห้องแบบ Penthouse ซึ่งสามารถตรวจสอบ และสอบถามเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ของโครงการได้เลย ความคุ้มค่าน่าลงทุน ถ้านับในเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สะพานพระนั่งเกล้า – เจ้าพระยา นับว่าปัจจุบันจัดอยู่ในย่านที่กำลังได้รับความสนใจจากตลาดมากเลยทีเดียว เพราะความเจริญกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมาพร้อมๆ กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่คาดว่าจะพร้อมให้บริการภายในปี 2559 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่โครงการส่วนใหญ่จะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ดังนั้นจึงถือว่ามีศักยภาพด้านความพร้อมในการอยู่อาศัยมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย หรือต้องทำงานในย่านนี้ สำหรับการอยู่อาศัย จัดว่าตัวโครงการมีบรรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่านจนเกินไปถึงแม้จะตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 300 เมตรก็ตาม ในขณะที่สาธารณูปโภคอื่นๆ ในรัศมี 5 กิโลเมตรก็มีเพียบพร้อมทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานที่ราชการขนาดใหญ่ ส่วนการเดินทางเข้าเมือง แน่นอนว่าถ้าอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลักก็จัดว่าสะดวกมากๆ ในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ แต่ถ้าต้องการลงทุนห้องไว้ปล่อยเช่าอาจจะยังไม่ใช่ทำเลที่ดีที่สุด เพราะในระแวกใกล้ๆ ไม่มีสำนักงานขนาดใหญ่ หรือสถานศึกษาที่น่าจะเป็นกลุ่มผู้เช่าเท่าที่ควร ซึ่งคาดว่าน่าจะหาคนเช่าได้ค่อนข้างยาก ยิ่งถ้ามีโครงการอื่นๆ ในแนวรถไฟฟ้าเดียวกันเป็นตัวเปรียบเทียบด้วย โครงการศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สะพานพระนั่งเกล้า – เจ้าพระยา ก็อาจจะเสียเปรียบในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ เพราะหาร้านค้า ร้านอาหารที่อยู่ในระยะเดินถึงพึ่งพาไม่ได้เลย
The Sky รัชดา : รีวิวคอนโด

The Sky รัชดา : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Sky รัชดา (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,300,000 บาท (ณ วันเปิดตัว) บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 85,200 บาท เจ้าของโครงการ ไบรท์ ดีเวลลอปเมนท์ กรุงเทพ (ในเครือ Property Perfect) จุดเด่น คอนโดมิเนียมหรู ใจกลาง CBD ความเฟอร์เฟคระดับ Hi-Exclusive เรียบหรูดูมีสไตล์ในแบบ Elegant Simplicity ท่ามกลางความพร้อมของทำเลริมถนนรัชดาภิเษก ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีสุทธิสารและห้วยขวาง เพียง 400 เมตร ปีที่สร้างเสร็จ พ.ศ. 2558 ที่ตั้ง: The Sky รัชดา (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 6-1-99.80 ไร่ ที่ตั้ง ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง สามเสนนอก (บางซื่อใต้) เขตดินแดง, บางกะปิ (บางซื่อ) กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.784143,100.572399 ระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง (600 ม.) และ สถานีสุทธิสาร (600 ม.)   สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central พระราม9 เอสพลานาด TESCO LOTUS Fortune Town   ลักษณะโครงการ: The Sky รัชดา (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bed 2 Bed Duplex ขนาดห้องที่มี 1 Bed / 27.00- 51.00 ตร.ม. 2 Bed / 48.00 – 62.00 ตร.ม. Duplex / 65.00 – 88.00 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 29 ชั้น จำนวนห้อง 1,028 ยูนิต   ส่วนกลาง: The Sky รัชดา (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 411 คัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) ค่ากองทุน(/ตร.ม)   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิด ประตู Key Card สวนหย่อม ห้องสมุด (Sky Garden) ร้าน ซักอบรีด Sky Lounge   เพิ่มเติม: The Sky รัชดา (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1375 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.pf.co.th/condominium/thesky/ratchada/overview.php ข้อมูล ณ วันที่
A Space ME รัตนาธิเบศร์ : รีวิวคอนโด

A Space ME รัตนาธิเบศร์ : รีวิวคอนโด

ที่ผ่านมาเราพาไปดู คอนโดมิเนียม ที่ตั้งอยู่ตามแนว รถไฟฟ้าสายสีม่วง มาก็หลายโครงการแล้ว ซึ่งแต่ละครั้งที่ผ่านมา บนถนนรัตนาธิเบศร์ก็มักจะเห็นโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ครั้งนี้เราจึงถือโอกาสพาไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจของ บริษัท อารียา พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรด์ A Space ME คอนโดมิเนียม High Rise สูง 22 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสถานีศรีพรสวรรค์ และสถานีแยกนนทบุรีนั่นเอง   การเดินทาง   ถึงที่ตั้งของ A Space ME รัตนาธิเบศร์ จะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่เนื่องจากการก่อสร้างรถไฟฟ้ายังไม่แล้วเสร็จ การเดินทางที่สะดวกที่สุดในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถึงแม้ว่าการจราจรบนถนนสายนี้จะติดขัดเอาการในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ในขณะเดียวกันก็มีเส้นทางเลี่ยงอยู่พอสมควร ทั้งเส้นทางเลี่ยงเมืองนนทบุรี ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนติวานนท์ ถนนราชพฤกษ์ รวมถึงทางด่วนงามวงศ์วาน ก็สามารถเลือกใช้เป็นเส้นทางเข้าเมืองได้ตามความสะดวก ด้วยความที่ตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกตรงข้ามกับเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ การเดินทางมาจากฝั่งแครายมุ่งหน้าไปทางสะพานพระนั่งเกล้า จึงไม่ต้องกลับรถให้ยุ่งยาก พอผ่านสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์มาแล้วก็ให้เตรียมชิดซ้ายได้เลย นอกเหนือจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว การเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ ก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน เพราะมีทั้งรถเมล์ รถตู้ประจำทาง รวมถึงรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาตลอดเวลาเลยทีเดียว เหตุผลของการเลือกคอนโดมิเนียมที่เกาะแนวรถไฟฟ้า ก็เพราะเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายสำหรับคนเมืองอย่างเราๆ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้งานไม่ได้เกินปี 2559 ดังนั้นในอนาคตการเดินทางมายังโครงการ A Space ME รัตนาธิเบศร์ด้วยรถไฟฟ้าก็ดูจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ตัวโครงการตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์ และสถานีแยกนนทบุรี โดยอยู่ค่อนไปทางสถานีแยกนนทบรี ซึ่งอยู่ห่างจากหน้าโครงการออกไปประมาณ 450 เมตร จัดว่าเป็นระยะทางที่สามารถเดินไปมาได้สบายๆ และไม่เหนื่อยจนเกินไป ถึงแม้ว่าทางโครงการจะไม่มีบริการรถ shuttle รับส่งให้ก็ตาม   วิเคราะห์ตัวโครงการ   เนื่องจากที่ตั้งของโครงการ A Space ME รัตนาธิเบศร์ยังถือว่าอยู่ห่างจากความเจริญในเมืองพอสมควร จึงมีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบแบบชานเมืองอยู่มาก รอบๆ โครงการมีห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งช็อปปื้งที่สามารถพึ่งพาอาศัยและอยู่ใกล้ที่สุด ถัดเข้าหาเมืองหน่อยก็จะมี ห้าง Big C ที่อยู่บริเวณสถานีศรีพรสวรรค์ The Esplanade รัตนาธิเบศร์, Tesco Lotus บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี รวมถึงห้างพันทิพย์ พลาซ่า และห้าง The Mall งามวงศ์วาน ที่เรียงรายกันมาตั้งแต่ถนนรัตนาธิเบศร์ถึงถนนงามวงศ์วาน ดังนั้นในเรื่องอาหารการกิน รวมถึงที่จับจ่ายซื้อของใช้ในบ้านจึงอยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า และรถสาธารณะอื่นๆ นอกจากนี้รอบๆ โครงการยังไม่มีตึก หรืออาคารสูงขึ้นขนาบข้าง เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ และยังเป็นที่โล่งซึ่งยังไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีโครงการอื่นๆ สร้างตามมาในระยะประชิดหรือไม่ สำหรับการออกแบบของ A Space ME รัตนาธิเบศร์นั้น ตัวอาคารเป็นอาคารเดี่ยวสูง 22 ชั้น เน้นการสร้างบรรยากาศแบบรีสอร์ท ในขณะที่ยังตอบโจทย์ได้ดีในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานตามรูปแบบ Life Style ของคนรุ่นใหม่ รูปลักษณ์ภายนอกอาคารจึงดูทันสมัย โดยพยายามเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ตั้งแต่พื้นที่ร้านค้าในโซน Plaza Space เชื่อมต่อกับสวนบริเวณรอบอาคาร และล็อบบี้ขนาดใหญ่ ด้านบนมีสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่บนชั้น 17 และ 18 ที่มาพร้อมวิวแบบพาโนรามา สระว่ายน้ำแบบ Infinite Edge และห้องออกกำลังกาย ซึ่งให้บรรยากาศแบบการพักผ่อนในรีสอร์ท นอกจาก Facility พื้นฐานที่บอกไปแล้ว ทางโครงการยังมีห้องประชุม และห้องสมุดพร้อมอินเตอร์เน็ต wi-fi ไว้ให้บริการอีกด้วย เรียกได้ว่าจัดกันให้แบบไม่มีกั๊กกันเลย ในส่วนของที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่งจะมีห้องให้เลือกในฝั่งทิศตะวันออกกับทิศตะวันตก เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งของตัวอาคาร แต่สำหรับห้องพักในชั้น 18-22 ที่มีพื้นที่ทางเดินหน้าห้องแบบ Single Corridor จะมีแต่ห้องทางด้านทิศตะวันตกเท่านั้น ถ้าอยากได้พื้นที่หน้าห้องที่เปิดโล่งรับลม และรับวิวกว้างๆ ก็ต้องแลกกับแดดร้อนๆ ในช่วงบ่ายกันนิดนึงนะครับ นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นที่ฐานที่บอกไปแล้ว ก็ยังมีเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 24 ชั่วโมง พร้อมกล้องวงจรปิด มีระบบ Key Card Access ใช้ในการเข้าออกอาคาร และที่ลืมพูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่องลิฟท์โดยสาร ซึ่งมีบริการทั้งหมด 4 ตัว นับตามสัดส่วนของจำนวนยูนิตรวมที่ 401 ยูนิตแล้ว ถือว่าอยู่ในเกณฑ์สบายๆ ไม่หนาแน่นจนเกินไปครับ แถมทางโครงการก็คุยไว้ว่ามีระบบการจัดการลิฟท์ที่ให้ความรวดเร็วด้วย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเท่าไหร่ตอนใช้งานจริงๆ ส่วนเรื่องที่จอดรถสามารถจอดได้ตั้งแต่ชั้น 1-4 ซึ่งสามารถจอดได้ประมาณ 40% นับรวมแบบจอดซ้อนคันแล้วด้วย จัดว่าน้อยไปซักหน่อยถ้าคิดว่าการอยู่อาศัยในแถบนี้ ลูกบ้านน่าจะต้องอาศัยรถส่วนตัวในการเดินทางบ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นถ้าหากเจ้าของห้องกว่าครึ่งมีรถยนต์ส่วนตัว เรื่องที่จอดรถก็คงจะไม่พอแน่ๆ ครับ ปัญหาที่ตามมาก็น่าจะเป็นเรื่องการแย่งที่จอดรถกันนี่แหละที่น่ากังวล   พาชมห้องตัวอย่าง   ห้องพักของ A Space ME รัตนาธิเบศร์ เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด แบ่งเป็น 2 Type ที่ขนาด 25 ตร.ม. และ 32.10 ตร.ม. โดยที่ห้องขนาด 32.10 ตร.ม. จะมีอยู่เพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเป็นห้องขนาด 25 ตร.ม. ซึ่งทางโครงการมีห้องตัวอย่างไว้ให้เยี่ยมชม การจัดวาง Lay out ห้องต้องชมว่าทำออกมาได้ลงตัวมากๆ ถึงแม้ห้องจะมีขนาดแค่ 25 ตร.ม. แต่ก็ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และไม่น่าอึดอัดเลย ทั้งๆ ที่ภายในห้องจัดการตกแต่งไว้เต็มที่ พื้นที่ห้องครัวและห้องน้ำจะอยู่ในโซนด้านหน้าห้อง เปิดเข้าห้องมาปุ๊ปก็จะเจอครัวขนาดเล็ก ที่เหมาะกับการประกอบอาหารเบาๆ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำที่ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำแยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่อาศัยประตูกระจกบานเลื่อนช่วยแยกพื้นที่ทั้งสองออกจากกัน บริเวณห้องนอนมีขนาดกระทัดรัด วางเตียงขนาด 5 ฟุตเข้าไปด้านข้างก็เกือบจะเต็มพื้นที่แล้วนะครับ บริเวณปลายเตียง Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย ซึ่งสามารถใช้เป็นมุมแต่งตัวเล็กๆ ได้พอดี ถ้าดูตาม Lay out ห้องในแบบแปลนจะเห็นว่ามีระเบียงเล็กๆ อยู่ในห้องนอนด้วย ซึ่งของจริงพื้นที่ของระเบียงก็เล็กจริงๆ จนแทบจะไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้มากนัก แถมประตูเข้า-ออกระเบียงยังเป็นประตูบานสวิงในตำแหน่งตรงปลายเตียงพอดิบพอดี รูปแบบห้องตรงบริเวณนี้จึงดูขัดตาไปซักหน่อย จากที่ได้เข้าไปดูห้องตัวอย่างมาแล้ว ต้องบอกว่าทาง Areeya ตั้งใจออกแบบมาได้ดีทีเดียว เพราะการจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำได้ลงตัว และให้ความรู้สึกน่าอยู่และสามารถใช้งานได้จริง ทั้งชั้นเก็บของ และตู้แขวนต่างๆ ที่ Built-in มาให้พร้อมห้อง ซึ่งน่าจะช่วยให้มีพื้นที่เก็บของได้เป็นจำนวนมากและเป็นระเบียบเรียบร้อย ของที่เห็นในห้องส่วนใหญ่ทางโครงการจะให้มาพร้อมห้องเลย เรียกว่าขายกันแบบ Fully-Fitted แต่หน้าตา สีสันของเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาพร้อมห้องอาจจะไม่เหมือนกับแบบในห้องตัวอย่างซะทีเดียวนะครับ ลองสอบถามกับเซลล์ดูว่าชิ้นไหนแถมมาให้ แล้วหน้าตาจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนบ้าง ถามให้ละเอียดกันไปเลยจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง นอกจากนี้เรื่องระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้อง ทางโครงการก็เตรียมติดตั้งไว้ให้เสร็จสรรพ เช่น ตำแหน่งของเครื่องซักผ้า ที่วางอยู่ใต้เคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ตำแหน่งที่จะวางตู้เย็น เครื่องกรองน้ำ เป็นต้น เอาเป็นว่าซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมนิดหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่แล้ว เมื่อเปิดเข้ามาในห้องทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำ ส่วนทางขวาจะเป็นส่วนครัว ส่วนครัวทางโครงการจะ Build ให้ จะมีพื้นที่วางตู้เย็นอยู่ติดกับประตู อีกมุมหนึ่งของส่วนครัว ซิ้งค์ล้างจากก็ให้เป็นแบบมาตรฐาน มาดูห้องน้ำกันบ้าง อ่างล้างหน้า ก็เป็นแบบมาตรฐาน ชักโครกจะใช้ของ American Standard ฝักบัวที่โครงการให้จะเป็นแบบนี้ครับ พื้นระหว่างส่วนครัวกับส่วนนั่งเล่นจะแบ่งชัดเจน ส่วนครัวจะเป็นกระเบื้อง ส่วนห้องนั่งเล่น จะเป็นไม้ลามิเนต มาถึงส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นจะอยู่หน้าห้องนอน ตรงนี้เป็นที่วางทีวี จากห้องนั่งเล่น สามารถมองไปทางส่วนครัวได้ ประตูกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น จะเป็นกระจกบานเลื่อน มาถึงห้องนอน ก็ถือว่ากว้างพอสมควร อีกมุงนึงของห้องนอน พื้นที่วางตู้เสื้อผ้า หน้าต่างเป็นบานเกล็ด มองจากห้องนอนออกไปทางประตู จากห้องนอนมองไปมุมห้องนั่งเล่น มุมห้องครัวครับ สวิทซ์ไฟ   ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับทำเลของโครงการ A Space ME รัตนาธิเบศร์นั้น นับว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างน่าความสนใจเลยทีเดียว เนื่องจากอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีขนาดหลายเลน มีเส้นทางเลี่ยงได้หลายทาง อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงตัดผ่าน แน่นอนว่าในอนาคตการเดินทางเข้าเมืองก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้น ศักยภาพด้านความเจริญเติบโตก็มีโอกาสอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สำหรับคนที่เริ่มต้นมองหาที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้าไว้อยู่อาศัยเอง โครงการนี้น่าจะช่วยตอบความต้องการได้ไม่มากก็น้อย ทั้งในเรื่องของราคาห้องที่เริ่มต้นอยู่ที่ 1 ล้านปลายๆ (ในช่วงเปิดตัว) ซึ่งจัดสรรวัสดุอุปกรณ์มาได้มาตรฐานสมราคาคอนโดระดับนี้ รวมถึงเรื่อง Facility ที่มีครบทุกรูปแบบ และยังอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า มีแหล่งพักผ่อนอยู่ในระยะที่เดินทางสะดวก ทำให้การอยู่อาศัยในบริเวณจัดว่าสะดวกสบายดีทีเดียว ส่วนในแง่ของการลงทุน แน่นอนว่าทำเลในแถบนี้มีโอกาสในการเติบโตค่อนข้างดี การซื้อมาขายไปจึงมีความเป็นไปได้ที่จะทำกำไรได้เช่นกัน แต่ก็ต้องระวังเรื่องคู่แข่ง และตัวเปรียบเทียบเยอะเนื่องจากปริมาณห้องที่ล้นตลาดของทำเลในย่านนี้ เช่นเดียวกันกับการปล่อยห้องให้เช่า เพราะในบริเวณใกล้เคียงมีคอนโดอื่นๆ อีกหลายโครงการ ทำให้กลุ่มคนเช่ามีตัวเปรียบเทียบมากขึ้น รวมถึงการแข่งขันในเรื่องราคาค่าเช่า จึงอาจจะต้องทำการบ้านและลงโฆษณากันเหนื่อยหน่อย
Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 เป็นอีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์ CMC ซึ่งเกาะแนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ในซอยเดียวกันนี้มีโครงการ Chateau in Town อยู่ก่อนแล้วที่บริเวณท้ายซอย ซึ่งขณะนี้ทำการก่อสร้างเกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการที่เราจะพาไปดูในคราวนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการในชื่อเดียวกันแต่ต่างกันที่คอนเซ็ปต์การตกแต่งอาคาร รวมถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ค่อนมาทางปากซอยมากกว่า เราไปดูกันดีกว่าว่าโครงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง การเดินทาง เนื่องจากเป็นคอนโดในแนวรถไฟฟ้า BTS ดังนั้นการเดินทางไปยัง Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 ถ้าไม่พูดถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็คงจะผิดขึ้นมาทันที สถานีรถไฟฟ้า BTS ที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีบางจาก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 62 พอดี เมื่อลงจากสถานีแล้วให้เดินจากปากซอยสุขุมวิท 62 ไปยังซอยสุขุมวิท 62/1 เป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร สังเกตุหน้าปากซอยมีเต้นท์ขายรถ เข้าซอยมาอีกประมาณ 50 เมตรจะเห็นโครงการ Chateau in Town ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังตัวโครงการถึงแม้จะเป็นระยะทางที่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ทางเท้าที่ต้องเดินผ่านในช่วงค่ำๆ ถือว่าเปลี่ยวพอสมควรเหมือนกัน เพราะตลอดทางเป็นมีร้านค้าบ้างประปราย รวมถึงอาคารสำนักงานที่พอหมดเวลางานก็จะเงียบเหงาไปทันตาเหมือนกัน ดังนั้นถ้าคุณสาวๆ ต้องเดินกลับบ้านคนเดียวในช่วงค่ำๆ อาจจะอันตรายไปซักหน่อย แนะนำให้เลือกลงที่สถานีปุณณวิถีแล้วต่อรถเข้าไปอีกทีจะดีกว่าครับ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีเส้นทางหลักๆ คือถนนสุขุมวิท ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่แล้ว ดังนั้นในชั่วโมงเร่งด่วนจึงเป็นช่วงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โชคดีหน่อยที่ท้ายซอยเชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 62 ได้ จึงสามารถเลี่ยงไปใช้ทางด่วนเป็นเส้นทางเข้าเมืองได้อีกทาง กลับกันถ้าต้องการออกนอกเมืองถนนบางนา-ตราดและเส้นทางบูรพาวิถีก็เป็นอีกเส้นทางที่ใช้ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ทั้งรถเมล์ แท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็มีให้เลือกมากมายตลอดทั้งวัน การเดินทางเข้า-ออกโครงการจึงถือว่าสะดวกสบายดีทีเดียวครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 ซึ่งอยู่บนถนนสุขุมวิท ถนนสายที่ขึ้นชื่อว่าราคาที่ดินสูงลิบ และยิ่งเกาะแนวรถไฟฟ้า BTS ในทำเลไม่ไกลจากใจกลางย่านธุรกิจมากนักแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้โครงการคอนโดต่างๆ ได้รับความสนใจไม่น้อยเลย เช่นเดียวกับ Chateau in Town Beach Sense แห่งนี้ ที่นับเป็นโครงการที่ 2 แล้วที่สร้างอยู่ในซยอเดียวกันกับโครงการแรกซึ่งกำลังจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในอีกไม่ช้านี้แล้ว สำหรับโครงการ Chateau in Town Beach Sense นั้นมีความแตกต่างจากโครงการอยู่พอสมควร ทั้งในเรื่องการออกแบบ และการจัดวางตำแหน่งห้อง ด้วยรูปทรงตึกที่ต่างออกไป มีการจัดวางสระว่ายน้ำไว้ที่บริเวณชั้น 2 ในโซนด้านหน้าของโครงการ ส่วนตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว U เน้นบรรยากาศแบบบ้านพักริมชายหาดตามคอนเซปต์ของโครงการนั่นเอง บริเวณใกล้ๆ ซอยสุขุมวิท 62/1 ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยในแนวราบ สังเกตุได้จากในซอยยังมีบ้านเดี่ยวที่อาศัยกันอยู่ก่อนแล้ว เรื่องอาคารสูงๆ ที่จะขึ้นมาบังวิวกันในระยะประชิดจึงยังไม่มีปัญหาให้เห็น เรื่องอาหารการกินก็มีร้านอาหารกึ่งผับในซอยให้พอฝากท้องได้ หรือถ้าอยากได้อาหารตามสั่งธรรมดาอาจจะต้องเดินออกไปบริเวณปั๊มน้ำมันที่ปากซอยนั่นแหละครับ ถึงจะพอมีร้านอาหารแผงลอยให้พึ่งพาได้บ้าง รวมถึงร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และร้านกาแฟก็มีให้บริการอยู่ในปั๊มน้ำมันเช่นครับ นอกเหนือจากนี้แล้วก็เห็นจะมีแต่ต้องอาศัยนั่งรถไฟฟ้า BTS เข้าเมืองลงตามแหล่งช็อปปิ้ง และห้างสรรพสินค้าในเมืองอย่าง เอ็มโพเรียม, เทอมินัล 21, สยามพารากอน, เซ็นทรัลชิดลม ฯลฯ นั่นแหละครับ รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียน สถาบันกวดวิชาต่างๆ ที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าก็มีให้เลือกอีกหลายแห่งเช่นกัน แค่ต้องขยันเดินไปกับระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับตัวโครงการซักหน่อยเท่านั้นเอง ด้วยความที่เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้นเท่านั้น เรื่องวิวสวยๆ จากในห้องจึงไม่ถือเป็นจุดขายเท่าไหร่ ทางโครงการมีการจัดวางสระว่ายน้ำไว้ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งจัดเป็นศูนย์รวมของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ ทั้งฟิตเนส ห้องสตรีม รวมถึงสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนหย่อนใจก็อาศัยพื้นที่ในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ห้องส่วนหนึ่งจึงอาศัยวิวสระว่ายน้ำนี่แหละที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศแบบริมชายหาดได้บ้าง ในส่วนของที่พักอาศัยก็เริ่มกันตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป ใครที่เลือกห้องในชั้นนี้ก็ต้องแลกกับการขาดความเป็นส่วนตัวกันหน่อย เพราะเพื่อนร่วมบ้านคงเดินขึ้นลง เข้าออกที่ชั้นนี้เป็นว่าเล่นแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าห้องที่หันหน้าเข้าสระว่ายน้ำในชั้นที่สูงขึ้นจะไม่เจอปัญหาเรื่องเสียงรบกวนนะครับ พิจารณาทิศทางในการเลือกกันให้ดีๆ ส่วนที่น่าจะเป็นกังวลกันหน่อยก็เห็นจะเป็นเรื่องจำนวนที่จอดรถที่นับรวมซ้อนคันแล้วก็จอดได้เพียง 95 คันเท่านั้น ในขณะที่มีจำนวนยูนิตรวมเกือบๆ 200 ยูนิตเข้าไปแล้ว ถ้าใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวและต้องอาศัยการเดินทางด้วยการขับรถก็คงต้องคำนึงถึงปัญหานี้ไว้ด้วยนะครับ เพราะทางโครงการเค้าเน้นกลุ่มลูกค้าที่อาศัยรถไฟฟ้าเป็นหลักอยู่แล้ว เรื่องที่จอดรถเลยไม่เน้นเท่าไหร่ นอกจากนี้เรื่องจำนวนลิฟท์โดยสารก็มีให้เพียง 2 ตัว ในโซนปีกขวาของตึก ใครที่อยู่ไปทางปีกซ้ายก็เดินกันไกลหน่อยนะครับ พาชมห้องตัวอย่าง ในช่วงที่เราเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ ยังไม่มีห้องตัวอย่างของโครงการ Chateau in Town Beach Sense ให้ชมนะครับ ต้องอาศัยดูตามแบบแปลนในกระดาษ อย่างดีก็เข้าไปเดินชมห้องตัวอย่างของโครงการก่อนหน้าที่อยู่ในซอยเดียวกันได้ แต่ก็ต้องบอกว่าได้แค่ความคล้าย แต่ไม่ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงเลยซักนิด ทั้งเรื่องขนาดห้อง และการจัดวาง Lay out ห้อง ทำให้ไม่ค่อยเห็นภาพห้องที่ชัดเจนเท่าที่ควร งานนี้ก็เกิดอาการลังเลสิครับ ฟันธงได้ไม่เคลียร์ว่าของจริงจะเป็นอย่างไรกันแน่ จากที่ดูตามแบบแปลนซึ่งมี Type ห้องเยอะเหลือเกิน เพราะการจัดวางกลับซ้าย กลับขวา หลบเหลี่ยมมุมของตึกอีก เราจึงแบ่งเป็น Type หลักๆ คือ แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนครับ เปิดประตูห้องเข้ามากเจอพื้นที่ในส่วนห้องนั่งเล่นก่อนเลย ซึ่งอารมณ์แรกต้องบอกว่าไม่ค่อยสบายตาเท่าที่ควร เนื่องจากการกำแพงกั้นห้องนอนค่อนข้างทึบ บริเวณห้องนั่งเล่นจึงไม่ค่อยให้ความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ถัดจากห้องนั่งเล่นเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ส่วนห้องน้ำและห้องครัวจะแยกออกไปอยู่อีกด้านของห้องทำให้ได้ห้องครัวแบบปิด ในขณะที่จะเข้าห้องน้ำทีก็ต้องเดินผ่านเข้าออกทางห้องครัวด้วยเช่นกัน พื้นที่ใช้สอยของห้องค่อนข้างกระทัดรัดเลยทีเดียว เพราะห้องแบบ 1 ห้องนอน มีขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 28-34 ตร.ม. โดยที่แต่ละห้องจะมีขนาดต่างกันเพราะ Lay out ของตำแหน่งห้อง บางห้องมีระเบียงกว้าง บางห้องระเบียงแคบนิดเดียว ในขณะที่บางห้องก็มีพื้นที่ห้องนอนกว้างเพราะเป็นส่วนของอาคารที่ยื่นออกไป ดังนั้นการเลือกตำแหน่ง และเลือกแบบห้องให้โดนใจในหลายๆ ด้านจึงเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกันครับ ห้องทั้งหมดขายมาให้แบบห้องเปล่าๆ โล่งๆ มีเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาพร้อมกับห้องก็แค่ ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ด้วยราคาห้องที่เริ่มต้นอยู่ที่ 2 ล้านต้นๆ ในย่านสุขุมวิทใกล้รถไฟฟ้าด้วย จึงหวังของแถมมากไม่ได้ครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ในเรื่องความน่าลงทุน โครงการ Chateau in Town จะได้เปรียบในเรื่องราคาของห้องที่อยู่ในทำเลใกล้ย่านธุรกิจสำคัญของเมือง หากใครที่มีที่ทำงานเกาะอยู่ในแนวรถไฟฟ้า และกำลังมองหาที่พักอาศัยที่เดินทางไปมาสะดวก ที่นี่ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเหมือนกัน จะติดก็แต่ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัว ไม่ว่าจะต้องใช้งานทุกวัน หรือจอดทิ้งไว้เป็นส่วนใหญ่ เรื่องที่จอดรถคงเป็นปัญหาได้เหมือนกันนะครับ เพราะดูยังไงแล้วก็ไม่พอจอดจริงแน่ๆ ในเรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ก็จัดว่าครับครันดีตามมาตรฐาน มีแค่พอใช้งานได้ ถ้าไม่ได้หวังกับ Facility อลังการงานสร้าง ก็มองผ่านเรื่องนี้ไปได้อีกเรื่อง จะติดขัดอีกทีก็เรื่อง Lay out ห้องนี่แหละครับที่ต้องอาศัยจินตนาการกันให้ดีๆ เวลาเลือกห้อง ให้คิดเผื่อการตกแต่งห้องไว้ด้วย เพราะห้องบางแบบดูจะตกแต่งให้ลงตัวได้ยาก อาจจะต้องอาศัยการ Built-in ซึ่งก็ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย หากใครคิดจะลงทุนไว้ปล่อยเช่า อาจจะเหนื่อยหน่อย ถึงจะมีบริษัทห้างร้านในระแวกใกล้ๆ แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนพนักงานพลุกพล่านเหมือนในย่านธุรกิจกลางเมือง การทำการบ้าน ลงประกาศให้เช่าให้ดีๆ บวกกับราคาและการตกแต่งห้องที่ดึงดูดในน่าจะพอช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ ในโซนรถไฟฟ้าปลายๆ สายสุขุมวิทยังคงมีตัวเลือกอีกมากให้เปรียบเทียบ ถ้าต้องนั่งรถไฟ้ฟ้าไกลออกไปอีก 2-3 สถานีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ยังไงก็ต้องศึกษาปัจจัยต่างๆ ให้รอบครอบไว้ก่อนก็ดีครับ (คลิกดูบทวิเคราะห์การลงทุน)
Regent Orchid สุขุมวิท 101 : รีวิวคอนโด

Regent Orchid สุขุมวิท 101 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Regent Orchid สุขุมวิท 101 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,450,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 51,800 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด จุดเด่น คอนโดใหม่ บนถนนสุขุมวิท 101 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี และจุดขึ้นลงทางด่วน สุขุมวิท 62 จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2557 ที่ตั้ง: Regent Orchid สุขุมวิท 101 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 0 - 78 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.690479, 100.611168 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS ปุณณวิถี สถานที่สำคัญใกล้เคียง วัดธรรมมงคล วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร (วัดทุ่ง) เทสโก้ โลตัส อ่อนนุช ซีคอน แสควร์ Paradise Park ลักษณะโครงการ: Regent Orchid สุขุมวิท 101 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 28 – 33 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 21 ชั้น จำนวนห้อง 580 ยูนิต ส่วนกลาง: Regent Orchid สุขุมวิท 101 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 25 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 150 บาท สาธารณูปโภค Lobby ร้านค้า สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว + Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อห้อง 290 ต่อ 1 ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Regent Orchid สุขุมวิท 101 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-551-4162 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.rgphome.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2556
THE KITH แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

THE KITH แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

โครงการ: THE KITH แจ้งวัฒนะ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 900,000 บาท บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 32,100 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จุดเด่น สัมผัสอารมณ์ Minimal Style ในความเรียบง่ายสบายๆ เดินทางสะดวก รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: THE KITH แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 6-1-70 ไร่ ที่ตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พิกัดโครงการ 13.907023,100.511249 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ปากเกร็ด สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ คาร์ฟูร์ เมเจอร์ ฮอลลีวู้ด Health Land โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี โรงพยาบาลเจ้าพระยา โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เมืองทองธานี ลักษณะโครงการ: THE KITH แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 28.00 – 46.00 ตร.ม. จำนวนตึก 3 อาคาร จำนวนชั้น 6 ชั้น จำนวนห้อง 525 ยูนิต ส่วนกลาง: THE KITH แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค สวนหย่อย ร้านค้าภายในโครงการ Key Card Access ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง   เพิ่มเติม: THE KITH แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-583-3102 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thekithcondo.com ข้อมูล ณ วันที่ 27 กันยายน 2556
Lumpini Condo town รามอินทรา – ลาดปลาเค้า 2 : รีวิวคอนโด

Lumpini Condo town รามอินทรา – ลาดปลาเค้า 2 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Lumpini Condo town รามอินทรา - ลาดปลาเค้า 2 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 888,000 บาท บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 39,500 บาท เจ้าของโครงการ LPN Development Co., Ltd. จุดเด่น ติดถนนลาดปลาเค้า ห่างจากถนนรามอินทร 500 เมตร เดินทางสะดวกทั้งรามอินทรา และเกษตร-นวมินทร์ จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2556 ที่ตั้ง: Lumpini Condo town รามอินทรา - ลาดปลาเค้า 2 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด - ที่ตั้ง ถนนรามอินทรา-ลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.858976,100.611023 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ลาดปลาเค้า สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี สนามกอล์ฟทหารบก เซ็นทรัลพลาซ่า รามอินทรา เทสโก้ โลตัส โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงเรียนสารวิทยา มหาวิทยาลัยศรีปทุม วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร ลักษณะโครงการ: Lumpini Condo town รามอินทรา - ลาดปลาเค้า 2 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 – 26.50 ตร.ม. 2 ห้องนอน Combine ขนาด 45 ตร.ม. ( ขนาด 22.50 รวมกัน 2 ห้อง) จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 532 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต ส่วนกลาง: Lumpini Condo town รามอินทรา - ลาดปลาเค้า 2 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 157 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค ฟิตเนส ร้านค้า (ร้าน 7-ELEVEN) ร้านอาหาร, ร้านซัก อบ รีด สวนหย่อม อื่นๆ (สนามเด็กเล่น)   เพิ่มเติม: Lumpini Condo town รามอินทรา - ลาดปลาเค้า 2 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-689-6888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lpn.co.th/ ข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2556
The Privacy รัชดา – สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

The Privacy รัชดา – สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาบนถนน สุทธิสารวินิจฉัย น่าจะพอนึกภาพกันออกว่า ถนนสายนี้มีการจราจรที่คับคั่งแค่ไหน เนื่องจากเป็นอีกเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่างถนน รัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าว เอาไว้ด้วยกัน แถมบริเวณปากซอยด้านถนน รัชดาภิเษกยังมีสถานี รถไฟฟ้าใต้ดินอีก ที่อยู่อาศัยในแถบนี้จึงเป็นที่น่าจับตาไม่น้อยเลยครับ เราจึงอยากจะพาไปชมอีกหนึ่งโครงการในแบรนด์ The Privacy ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งตั้งอยู่กลางซอยพอดิบพอดี   การเดินทาง   การเดินทางมายังโครงการ The Privacy รัชดา-สุทธิสาร ถือว่าค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว เพราะมีทางเลือกหลายเส้นทาง ทั้งการโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่สถานีสุทธิสาร แล้วต่อรถเข้าซอย หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็เข้าออกได้ทั้งทางถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูญธรรม (เลียบทางด่วนพระราม 9 – รามอินทรา) ทำให้มีเส้นทางหลีกเลี่ยงปัญหารถติดในเวลาเร่งด่วนได้พอสมควรเลยทีเดียว   การไปชมโครงการ The Privacy รัชดา-สุทธิสารของเราในครั้งนี้ เราเลือกใช้เส้นทางถนนรัชดาภิเษก เริ่มต้นจากฝั่งลาดพร้าววิ่งตามถนนรัชดาภิเษกมาเรื่อยจนถึงแยกสุทธิสาร ซึ่งเป็นแยกใหญ่และมีอุโมงค์ข้ามแยก แต่เราไม่ต้องลงอุโมงค์นะครับ ให้ชิดซ้ายตรงมาที่แยก แล้วเลี้ยวเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัยเลย ตรงเข้ามาในซอยอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตร ก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้าคุณต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลัก พอมาถึงสถานีสุทธิสารแล้วให้เลือกทางออกที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปากซอยสุทธิสารแค่ 50 เมตรเท่านั้น แล้วค่อยต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือรถสาธารณะอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครที่กำลังคิดว่าจะอาศัยสองเท้าคู่ใจเดินจากปากซอยเข้าไป ต้องแอบเดือนกันดังๆ ว่าถนนหนทางในซอยไม่ได้เอื้อต่อการเดินเลยซักนิด เพราะไม่มีฟุตบาท และถนนในซอยก็เป็นถนน 2 เลนที่รถสวนกันไปมาในปริมาณมาก แถมระยะทางก็ไมใช่ใกล้ๆ การใช้บริการรถรับจ้าง หรือ Shuttle Bus ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้น่าจะเป็นทางเลือกที่สะดวก และปลอดภัยมากกว่าครับ   จากทางออกสถานีสุทธิสาร เดินไปทางแยกสุทธิสาร ่ตามทางก็จะมีของขายเต็มไปหมดเลย มีของกินให้เลือกก่อนเข้าห้องเยอะมากครับ วินมอเตอร์ไซด์ ต่อคิวกันได้ตรงนี้ครับ ป้ายราคาวินมอเตอร์ไซด์ อยากไปที่ไหนเช็คราคาตรงนี้ได้เลยครับ   ปัญหาหลักๆ ของการเดินทางเข้า-ออกถนนสุทธิสารวินิจฉัยก็คือ การจราจรที่ติดขัดมากๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน เพราะในซอยมีทั้งโรงเรียน บริษัท สำนักงาน ร้านค้า และยังมีอพาร์ทเม้นท์อีกหลายแห่ง ปริมาณคนและรถจึงหนาแน่นอยู่พอสมควร ถ้าต้องฝ่าฟันรถติดทุกๆ เช้า-เย็นก็ควรจะต้องวางแผนการเดินทาง และเผื่อเวลากันให้ดีๆ นะครับ เริ่มจากแยกลาดพร้าวมุ่งหน้าไปทางพระราม 9 ให้วิ่งมาถึงแยกสุทธิสาร เมื่อมาถึงแยกสุทธิสาร ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุทธิสาร เมื่อเข้ามาถนนสุทธิสาร ริมทางทั้งสองฝั่งจะมีร้านค้าวางเต็มไปหมด แต่เมื่อเข้ามาสักพักจะกลายเป็นถนน 2 เลน ช่วงนี้ให้ขับกันระวังนะครับ ก่อนจะถึงตรงคอขวดจะมีวินมอเตอร์ไซด์อยู่ทางขวามือครับ วิ่งเข้าไปตามทาง จะเป็นถนน 4 เลน ในซอยมีคลีนิกด้วยครับ มี 7-Eleven ร้านทำฟันก็มี ในซอยมีปั้ม ปตท อยู่ทางขวามือครับ ก่อนถึงโครงการ จะเห็นโครงการของเครือ Areya อยู่ก่อนถึงโครงการ The Privacy มาถึงจะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ ถึงแล้วครับ Sale Office the privacy ส่วนถนนเลย โครงการ The Privacy ไป จะไปเจอถนนลาดพร้าวครับ   วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ   The Privacy รัชดา-สุทธิสาร เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มีด้วยกันทั้งหมด 3 อาคาร บนเนื้อที่ 2 ไร่นิดๆ โดยมียูนิตรวมทั้งหมด 199 ยูนิต ภายใต้คอนเซ็ปต์การใช้ชีวิตติดธรรมชาติ เน้นความเป็นส่วนตัวในขณะที่ก็ยังคงความสะดวกสบายแบบคนเมืองไว้ ทำเลที่ตั้งเดินทางได้สะดวก ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และบริเวณโดยรอบก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคครบครัน ทั้งคลินิค โรงเรียน ร้านอาหาร ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ไปจนถึงสถานบันเทิงยามราตรีก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก จึงสามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการของคนเมืองอย่างแท้จริง ในขณะที่พื้นที่ติดๆ กันกับตัวโครงการยังคงเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีก็แต่คอนโด Low Rise ในเครือ Areeya ที่อยู่เยื้องไปทางด้านหลังเท่านั้นที่เป็นอาคารสูงในระดับเดียวกัน ดังนั้นเรื่องความเงียบสงบจึงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับการพักผ่อนอาศัยไม่น้อยเลย ในระยะใกล้ๆ ที่สามารถเดินถึงได้โดยไม่ลำบากเกินไป ยังพอมีร้านอาหารให้พึ่งพาได้บ้าง สำหรับคนที่พึ่งพาอาหารสำเร็จรูปเป็นหลัก บริเวณปากซอยสุทธิสารวินิจฉัยอุดมไปด้วยร้านค้าและแผงลอยขายอาหารมากมาย รวมถึงร้านสะดวกซื้อด้วย จึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องปากท้องซักเท่าไหร่ สำหรับห้างสรรพสินค้าก็มีทั้งเซ็นทรัลพระราม 9, เทสโก้โลตัส, เอสพลานาด ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งถนนรัชดาภิเษก นอกจากนี้ยังมีห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว, คริสตัลพาร์ค และห้างซีดีซี อีกด้วย   ภายในโครงการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางไว้ในบริเวณด้านหน้าโครงการฝั่งที่ติดกับถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ ห้องซาวน่า ห้องสมุด และLounge ที่ด้านบนของคลับเฮาส์ ส่วนอาคารพักอาศัยรายล้อมอยู่โดยรอบ และมีทางเดินภายในและพื้นที่สีเขียวของสวนเป็นตัวเชื่อมโยงส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน ตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นความทันสมัยซึ่งทางโครงการเรียกว่า สไตล์ Timeless Tropical Modern อีกทั้งยังชูจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 7-9 ยูนิตเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับจำนวนลิฟท์โดยสารที่ในแต่ละอาคารมีอยู่ 1 ตัวเท่านั้น ก็จัดว่ามีความหนาแน่นพอประมาณ ไม่ต้องรอใช้ลิฟท์กันนานมาก และโชคดีที่เป็นแค่คอนโด Low Rise การเดินขึ้นลงบันไดจึงพอทำได้ไม่ยากนักถ้าหากอยากจะเดินออกกำลังกายขึ้นมา ส่วนเรื่องจำนวนที่จอดรถทั้งโครงการก็ที่มีเพียง 38% เท่านั้น ถ้ารวมที่จอดซ้อนคันด้วยก็เพิ่มขึ้นมาอีกแค่นิดหน่อยเองครับ จึงนับว่ามีจำนวนน้อยเหมือนกันสำหรับคอนโดในทำเลที่น่าจะต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางอยู่พอสมควร แต่ถ้าไม่ติดขัดกับการฝ่าการจราจรเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าซักเท่าไหร่ และคิดว่าไม่มีแผนจะซื้อรถยนต์ส่วนตัว เรื่องที่จอดรถคงไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ครับ Masterplan แปลนอาคาร A แปลนอาคาร B แปลนอาคาร C แปลนห้องขนาด 28 ตร.ม. แปลนห้องขนาด 33 ตร.ม. แปลนห้องขนาด 42 ตร.ม. แปลนห้องขนาด 50 ตร.ม. พาชมห้องตัวอย่าง The Privacy รัชดา-สุทธิสาร มีแบบห้องให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 28 ตร.ม. – 42 ตร.ม. ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอน จะมีพื้นที่ 50 ตร.ม. สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้มีแบบ 1 ห้องนอน ทั้งขนาด 28 ตร.ม. และ 33 ตร.ม. ซึ่งทั้ง 2 ห้องมีการจัดวาง Lay out คล้ายคลึงกันมาก พอเปิดประตูห้องเข้ามาก็เจอพื้นที่ครัวซึ่งมีประตูกระจกบานเลื่อนแยกไว้เป็นสัดส่วน ถัดเข้าไปด้านในเป็นมุมรับประทานอาหารและพื้นที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งทั้งหมดนี้กินพื้นที่ยาวจนถึงระเบียงเลยทีเดียว ส่วนห้องนอนนั้นแยกออกไปอีกด้าน ซึ่งมีการจัดแบ่งไว้เป็นสัดส่วน ภายในห้องนอนมีพื้นที่สำหรับ walk in closet ด้วย ซึ่งห้องทั้ง 2 ขนาดจะต่างกันก็ตรงพื้นที่ในส่วนนี้ด้วย แน่นอนว่าห้องขนาด 33 ตร.ม. ต้องมีพื้นที่ในส่วนของห้องแต่งตัวมากกว่า แถมยังติดประตูกระจกบานเลื่อนกันพื้นที่ห้องแต่งตัวไว้อย่างชัดเจน ต่างจากห้องขนาด 28 ตร.ม. ที่มีพื้นที่เหลือพอให้วางตู้เสื้อผ้าแบบธรรมดาไว้หน้าห้องน้ำเท่านั้น ภายในห้องนอนเมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตเข้าไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่แค่เล็กน้อยเท่านั้น อย่างมากก็ทำได้แค่แขวนทีวีติดผนังที่ปลายเตียง ข้างเตียงวางโต๊ะเล็กๆ ไว้ที่หัวเตียงได้อีกนิดหน่อย พื้นที่ใช้สอยในห้องจึงค่อนข้างมีอยู่อย่างจำกัดเหมือนกัน การบริหารพื้นที่เก็บของเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรงัดเทคนิคต่างๆ มาใช้ เพื่อไม่ให้ห้องรกจนเกินไป เรื่องเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ทางโครงการมี Built-in มาให้ด้วย ทั้งห้องครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ รวมถึงระบบ Digital Door Lock ที่ติดตั้งมาให้ทุกห้อง ช่วยเพิ่มความรู้สึกทันสมัยและหรูหราได้อีกไม่น้อยเลยครับ เข้าห้องไปจะเจอส่วนครัวอยู่ทางซ้าย โครงการจะ Build ครัวมาให้ตามนี้เลยครับ เดินเข้ามาอีก ก็จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ก่อนจะไปส่วนห้องนั่งเล่น จะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวได้ ส่วนทางขวาจะเป็นทางเข้าห้องนอน ห้องจะแคบสักหน่อย ทางเดินจะค่อนข้างน้อย เครื่องปรับอากาศจะติดตั้งไว้ตรงปลายเตียง ห้องน้ำจะอยู่ในส่วนของห้องนอน เข้าไปจะเห็นส่วนครัวจะอยู่ทางขวา และโต๊ะทานข้าวจะเลยเข้าไป Build in ครัวที่ทางโครงการมีให้ ส่วนทางซ้ายจะเป็นส่วนของห้องน้ำ กับที่วางรองเท้า เข้ามาก็จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ไปต่อกันที่ห้องนอนกันเลยครับ ส่วนของห้องนอน พื้นที่สำหรับว่าตู้เสื้อผ้า ส่วนของตู้เสื้อผ้าสามารถเดินไปห้องน้ำได้ ห้องน้ำในห้องนอน ความคุ้มค่าน่าลงทุน   โครงการ The Privacy รัชดา-สุทธิสาร มีการเปิดให้จองแบบ Pre-Sale ไปบ้างแล้ว ทำให้จำนวนห้องที่เหลืออยู่ไม่มากนัก หลักๆ ก็จะเป็นห้องในอาคาร C ซึ่งเป็นอาคารตรงกลางที่เปิดขายทีหลังสุด ตัวโครงการเริ่มมีการก่อสร้างไปแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2557 นี้ ถ้ามองในแง่ของการลงทุนเพื่อปล่อยห้องให้เช่า ทำเลที่ไกลจากปากซอยมาเกือบ 2 กิโลเมตรแบบนี้ ถือว่าเสียเปรียบโครงการอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ปากซอยมากกว่า อีกทั้งในบริเวณใกล้ๆ ถึงจะมีบริษัท ห้างร้านอยู่พอสมควร แต่ก็คงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะเช่าห้องพักในราคาหมื่นต้นๆ โชคดีหน่อยที่ทางโครงการมีบริการรถรับส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้า เรื่องการเดินทางโดยรถสาธารณะจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว ที่เหลือก็แค่จัดสรรเวลาในการเดินทางไปยังที่ทำงานให้เหมาะสมเท่านั้น   ส่วนใครที่กำลังมองหาคอนโดไว้อยู่อาศัยเอง The Privacy รัชดา-สุทธิสารน่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่เลว สำหรับคนที่อยากได้ที่บรรยากาศสงบๆ เพื่อการพักผ่อน ยิ่งในบริเวณโครงการมีต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ในที่เดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้อีกมาก จะติดก็แต่เรื่องการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น รวมถึงปัญหาที่จอดรถที่มีค่อนข้างจำกัด ถ้าอยู่อาศัยกันในระยะยาว มีแผนการว่าจะซื้อรถอีกซักคัน เรื่องที่จอดรถก็ต้องไม่ลืมคิดคำนวนเผื่อไว้ด้วยนะครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็จัดว่าทางโครงการเตรียมมาให้ครบถ้วนดี ถ้าจะเล็งไว้ขายต่อในอนาคตก็น่าพิจารณาเช่นกัน เพราะถ้าชอบทำเลในย่านสุทธิสาร โครงการนี้ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่เลว ถือแล้วจะอยู่ลึกเข้ามาในซอย แต่ราคาห้องเริ่มต้นก็จับต้องได้ไม่ยากนักถ้าเทียบกับคอนโดอื่นๆ บนถนนรัชดาภิเษก และระแวกใกล้เคียง
The Forest แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

The Forest แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Forest แจ้งวัฒนะ (PREVIEW)   ราคา บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ บริษัท มหานที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จุดเด่น – จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ต้นปี 2556 ที่ตั้ง: The Forest แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 0 -70 ไร่ ที่ตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พิกัดโครงการ - ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ปากเกร็ด สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมเจอร์ ฮอลลีวูด โรงพยาบาลเจ้าพระยา โรงพยาบาลเวิล์ด เมดิคอล เซ็นเตอร์ ลักษณะโครงการ: The Forest แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 35 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 43 – 62 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 71 – 96 ตารางเมตร 3 ห้องนอน ขนาด 115 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 7 ชั้น จำนวนห้อง 79 ยูนิต ส่วนกลาง: The Forest แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 80% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค Relaxing Zone / Outdoor Library Zen Garden Luxury Lobby Swimming Pool Security Key Card Access   เพิ่มเติม: The Forest แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-582-0323, 02-583-4554 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.theforestcondo.com/home.php ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2555
Haus23 รัชดา-ลาดพร้าว : รีวิวคอนโด

Haus23 รัชดา-ลาดพร้าว : รีวิวคอนโด

โครงการ: Haus23 รัชดา-ลาดพร้าว (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 3,200,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 106,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เดลวี เพลส จำกัด จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 27 ชั้น บนถนนลาดพร้าว ใกล้ MRT จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: Haus23 รัชดา-ลาดพร้าว (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1- 2 – 13.3 ไร่ ที่ตั้ง ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.804935,100.575915 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ลาดพร้าว สถานที่สำคัญใกล้เคียง Union Mall Central ลาดพร้าว Big C Major รัชโยธิน สวนลุมไนท์ฯ ตลาดสะพาน 2 ตลาดโชคชัย 4 ( ลาดพร้าวซอย 53 ) ลักษณะโครงการ: Haus23 รัชดา-ลาดพร้าว (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms Duplex ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 30.48 -35.86 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 55.28 ตารางเมตร Duplex ขนาด 56.5 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 27 ชั้น จำนวนห้อง 236 ยูนิต ส่วนกลาง: Haus23 รัชดา-ลาดพร้าว (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 118 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค Lobby (ชั้น 1) ห้องสมุดสไตล์ Modern Retro สูง 5เมตร พร้อม Wi-Fi (ชั้น 2) สระว่ายน้ำแบบ infinity-edge pool (ระบบเกลือ) ขนาด 5 x 13 m. ลึก 1.2 m. (ชั้น 20) ห้อง Fitness เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง และ เซาวน่า (ชั้น 20) สวนหย่อมลอยฟ้า (ชั้น 25 ) ทางเดินแบบ Single Corridor ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. สวนหย่อมรอบโครงการและพื้นที่สีเขียวประมาณ 800 ตารางเมตร ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 78 : 1 Service Lift 1 ตัว ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Haus23 รัชดา-ลาดพร้าว (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-512-2323 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.haus23condo.com/site/ ข้อมูล ณ วันที่
Aspire สาทร – ตากสิน (Brick Zone) : รีวิวคอนโด

Aspire สาทร – ตากสิน (Brick Zone) : รีวิวคอนโด

โครงการ: Aspire สาทร - ตากสิน (Brick Zone)(PREVIEW)   ราคา 1,690,000 บาท บาท/ตารางเมตร 60,500 บาท เจ้าของโครงการ Asian Property Development (AP) จุดเด่น มีโอกาสทำไรจากราคาห้องที่จะปรับตัวในอนาคตสูงกว่าโครงการใกล้เคียง บริษัทเจ้าของโครงการมีความมั่นคงสูง จุดด้อย โครงการจะอยู่ค่อนข้างห่างจากสถานี BTS เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ตังโครงการอยู่ค่อนข้างลึกจากถนนใหญ่ โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ 2558 ที่ตั้ง: Aspire สาทร - ตากสิน (Brick Zone)(PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 4-9-94.7 ไร่ ที่ตั้ง ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.714104,100.464513 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS วุฒากาศ สถานที่สำคัญใกล้เคียง เดอะมอลล์ท่าพระ ตลาดพลู วงเวียนใหญ่ ลักษณะโครงการ: Aspire สาทร - ตากสิน (Brick Zone)(PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio ขนาดห้องที่มี Studio 28 ตร.ม. จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 364 ยูนิต ส่วนกลาง: Aspire สาทร - ตากสิน (Brick Zone)(PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 140 คัน(35%) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 350 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รปภ. และ CCTV 24 ชม.   เพิ่มเติม: Aspire สาทร - ตากสิน (Brick Zone)(PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-490-3563 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.apthai.com/Aspire/Aspire-Sathorn-Taksin-Brick-Zone-/home/ ข้อมูล ณ วันที่
ชีวาทัย รามคำแหง : รีวิวคอนโด

ชีวาทัย รามคำแหง : รีวิวคอนโด

โครงการ: ชีวาทัย รามคำแหง (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,890,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 59,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด จุดเด่น คอนโดมิเนียมใจกลางย่านรามคำแหง สูง 33 ชั้น พื้นที่สีเขียวเปิดโล่งรอบอาคาร พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Sky Swimming Infinity Edge Pool & Fitness รองรับรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคตอันใกล้ จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ ที่ตั้ง: ชีวาทัย รามคำแหง (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 3 - 32 ไร่ ที่ตั้ง ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหนาคร พิกัดโครงการ 13.761504,100.632649 ระบบขนส่งสาธารณะ Airport Link รามคำแหง สถานที่สำคัญใกล้เคียง เ ดอะมอลล์ บางกะปิ เดอะมอลล์ รามคำแหง บิ๊กซี หัวหมาก เมเจอร์ ฮอลลีวูด รามคําแหง โรงพยาบาลรามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง สนามกีฬาหัวหมาก ลักษณะโครงการ: ชีวาทัย รามคำแหง (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 30 และ 35 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 58, 60, 70 และ 72 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 33 ชั้น จำนวนห้อง 535 ยูนิต ส่วนกลาง: ชีวาทัย รามคำแหง (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 60% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 30 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Lobby ชั้นล่าง สระว่ายน้ำ ชั้น 33 ระบบน้ำเกลือ ขนาด 5 x 22 m. สระผู้ใหญ่ลึก 1.5 m. สระเด็กลึก 0.45 m. Sauna + Steam แยกห้องหญิงชาย สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 180:1 ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: ชีวาทัย รามคำแหง (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-732-2215 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://chewathai.com/residence.php?id=2 ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2557
Rich Park 2 เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

Rich Park 2 เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Rich Park 2 เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ (PREVIEW)   ราคา 1,880,000 บาท บาท/ตารางเมตร 90,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) จุดเด่น โครงการอยู่ใกล้สถานี Interchange เพียง 60 M ใกล้ตลาดและแหล่งชุมชน มี Upside gain สูง จุดด้อย โครงการอยู่ใกล้สถานี Interchange อาจมีข้อเสียเรื่องความไม่สงบ ละแวกโดยรอบไม่มีแหล่งสำนักงาน หรือหน่วยราชการขนาดใหญ่รองรับความต้องการหาที่พักอาศัย โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปลายป 2557 ที่ตั้ง: Rich Park 2 เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3-0-64.6ไร่ ที่ตั้ง ถนนประชาราษฎ์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.806375, 100.528936 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT Interchange สถานเตาปูน สถานที่สำคัญใกล้เคียง Lotus เตาปูน Big C วงศ์สว่าง The Mall งามวงศ์วาน Major รัชโยธิน โรงเรียนสตรีนนทบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บริษัทเครือซีเมนต์ไทย ลักษณะโครงการ: Rich Park 2 เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี TYPE A : 1 ห้องนอน TYPE B : 1 ห้องนอน TYPE C : 1 ห้องนอน TYPE D : ห้อง Studio 21 ตร.ม. TYPE E : 1 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี TYPE A : 28-35 ตร.ม. TYPE B : 30-35 ตร.ม. TYPE C : 35 ตร.ม. TYPE D : 1 ตร.ม. TYPE E : 5.5 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องพักทั้งหมด 720 ยูนิต และ Shop House 14 ยูนิต รวม 734 ยูนิต จำนวนห้อง 734 ยูนิต (ห้องพัก 720 ยูนิต, Shop House 14 ยูนิต) ส่วนกลาง: Rich Park 2 เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 50 % ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 32 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ, ฟิสเนส, key card access, สวนหย่อม, กล้องวงจรปิด   เพิ่มเติม: Rich Park 2 เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-886-1817 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.rp.co.th/richy/rk2/th/home ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2557
FUSE Mobius รามคำแหง – คลองตัน : รีวิวคอนโด

FUSE Mobius รามคำแหง – คลองตัน : รีวิวคอนโด

คราวนี้จะพาไปดูคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า Airport Rail Link กันบ้าง กับโครงการ Fuse Mobius รามคำแหง ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรามคำแหง 450 เมตร   การเดินทาง   Fuse Mobius รามคำแหง ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 3/1 ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับแยกคลองตัน การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Airport Rail Link ถือว่าสะดวกดีทีเดียว เพราะสามารถใช้เดินทางไปทำงานในเมือง ไปต่อรถไฟฟ้า BTS ที่พญาไท หรือแม้กระทั่งเดินทางไปยังสุวรรณภูมิก็สะดวกเช่นกัน ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการที่ห่างจากสถานีรามคำแหง 450 เมตรจึงไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคในการเดินเท่าไหร่ครับ อยู่ในระยะที่เดินได้จริงและยังไม่เหนื่อยจนเกินไป แต่ถ้าวันไหนเจอฝนตกหนักๆ ก็อาจจะเดินกันยากลำบากซักหน่อย นอกเหนือจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Airport Rail Link ที่เป็นเส้นทางต่อเข้าเมืองที่น่าจะสะดวกที่สุดแล้ว การเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะอื่นๆ ก็ยังมีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน ทั้งรถเมล์ รถตู้ วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ หรือแม้กระทั่งการเดินทางด้วยเรือในคลองแสนแสบก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำได้ด้วยเหมือนกัน   แผนที่ของโครงการ ที่ลากเส้นจาก Airport Link ไปยังโครงการ เส้นทางการเดินทางจากรถไฟฟ้า Airport link สถานีรามคำแหง ไปตัวโครงการ เริ่มจาก Airport link สถานีรามคำแหง เดินจากสถานีรามคำแหง ไปถึงโครงการประมาณ 450 เมตรครับ ผ่า่นการไฟฟ้านครหลวง เดินมาเรื่อยๆ จนถึงซอยรามคำแหง 3 เมื่อเข้าซอยรามคำแหง 3 มาแล้วให้ผ่านหน้า Show room Ford เพื่อเข้าซอยรามคำแหง 3/1 เมื่อเข้าซอยมาแล้ว เข้าไปอีกนิด ก็จะเจอโครงการ Fuse Mobius อยู่สุดซอย ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่าไม่ได้แย่เท่าไหร่ จะติดปัญหาก็แค่เรื่องรถติดเท่านั้นที่ต้องทำใจกันเยอะๆ หน่อย แต่ก็โชคดีที่มีเส้นทางเลี่ยงไปได้หลายทาง ทั้งทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนศรีรัชอยู่ใกล้ๆ หรือจะเลือกเส้นทางเข้าเมืองด้วยถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 9 ไปออกพญาไท ทองหล่อได้ หรือถ้าจะออกนอกเมืองก็ออกถนนศรีนครินทร์ มอเตอร์เวย์ หรือใช้เส้นทางเลียบทางด่วนรามอินทราก็ได้เช่นกัน ในชั่วโมงเร่งด่วนก็ต้องเลือกเส้นทางกันให้ดีๆ นะครับ เพราะรอบๆ นี้รถติดเอาเรื่องเลยทีเดียว อย่างครั้งนี้เรามาจากถนนพัฒนาการมาถึงแยกคลองตันแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนรามคำแหง โชคดีที่รถไม่ติดจึงใช้เวลาเดินทางไม่นาน พอผ่านสถานีรถไฟฟ้ารามคำแหงมาแล้ว ให้สังเกตุโชว์รูมฟอร์ดทางซ้ายมือให้ดีๆ เพราะโชว์รูมอยู่ที่ปากซอยรามคำแหง 3/1 พอดี  เลี้ยวเข้าซอยมาอีกประมาณ 150 เมตรก็จะถึงหน้าทางเข้าโครงการพอดี เริ่มต้นเดินทางจากถนนพัฒนาการครับ เลี้ยวขวาลอดใต้สะพานข้ามแยกคลองตันเลยครับ ให้วิ่งไปตามทางเรื่อยๆเลยครับ เมื่อวิ่งมาเรื่อยๆ จะเห็นรถไฟฟ้า Airport link อยู่ด้านหน้า สถานีรถไฟฟ้า Airport Link รามคำแหงอยู่ทางด้านซ้ายครับ เมื่อผ่าน Airport Link ก็จะเข้าสู่ถนนรามคำแหง จะผ่านการไฟฟ้านครหลวงที่อยู่ทางด้านซ้าย เมื่อวิ่งมาเรื่อยๆจนถึงซอยรามคำแหง 3 ให้เลี้ยวเข้าไปเลย เมื่อเข้าซอยรามคำแหง 3 มาแล้วให้ผ่านหน้า Show room Ford เพื่อเข้าซอยรามคำแหง 3/1 เข้าซอยรามคำแหง 3/1 มาแล้ว ก็จะเห็นตัวโครงการ Fuse Mobius อยู่สุดซอยเลยครับ เมื่อเข้าซอยมาแล้ว เข้าไปอีกนิด ก็จะเจอโครงการ Fuse Mobius อยู่สุดซอย วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ โครงการ Fuse Mobius รามคำแหง เป็นคอนโด High Rise ประกอบด้วยกัน 3 ตึก บนเนื้อที่ 9 ไร่เศษๆ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้แยกคลองตัน และไม่ห่างจากชุมชน แถมยังมีบริษัท ห้างร้านอีกมากมาย บริเวณรอบๆ จึงคับคั่งเอาการ ไหนจะโครงการ Airport Link Square ที่ใกล้จะสร้างเสร็จในเร็วๆ นี้ ห่างออกไปทางแยกคลองตันยังมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โชว์รูมรถ Volvo รวมถึงสำนักงานการไฟฟ้านครหลวง ช่วงกลางวันจึงมีร้านค้า ร้านอาหารริมฟุตบาทให้เลือกกันพอสมควร แต่แค่เฉพาะในช่วงกลางวันเท่านั้นนะครับ ช่วงเย็นๆ หรือค่ำๆ อาจจะเงียบกว่ามาก ในระยะทางที่สามารถเดินถึง พื้นที่รอบๆ ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดที่จะมาบังมุมบังวิวเท่าไหร่ ถ้าเลือกห้องในชั้นสูงๆ ได้ก็จะได้วิวมุมกว้างสบายตา ต้องบอกว่ายิ่งสูงวิวยิ่งดีครับ พื้นที่ทั้งหมดถูกจัดสรรไว้สำหรับอาคารพักอาศัย 3 ตึก แบ่งเป็นตึก A รูปทรงตัว L สูง 30 ชั้น ตึก B อยู่ถัดเข้ามาสูง 32 ชั้น และตึก C น้องเล็กสุดสูง 12 ชั้น ส่วนอีกหนึ่งอาคารขนาดใหญ่ทางด้านหน้าเป็นอาคารจอดรถ และศูนย์รวม Facility หลักๆ ของทางโครงการ การออกแบบอาคารพักอาศัยชูความโดดเด่นที่หน้าต่างห้องแบบ Fly Window ที่ยื่นออกมาเพื่อเปิดรับวิวได้กว้างขึ้น และทำให้หน้าตาตึกไม่ดูน่าเบื่อจนเกินไป  พื้นที่อยู่อาศัยของแต่ละอาคารเริ่มต้นที่ชั้น 2 ขึ้นไป ส่วนบริเวณชั้นล่างของอาคาร A และ B จะเป็นพื้นที่ของร้านสะดวกซื้อ ร้านซักรีด และสำนักงานนิติบุคคล ซึ่งขณะนี้ยังเปิดให้บริการไม่ครบ ถ้าหากมีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่ใต้อาคารก็คงจะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้อาศัยมากขึ้นครับ สำหรับอาคาร A ซึ่งดูจะมีความหนาแน่นมากที่สุด ด้วยจำนวนห้องที่มากถึง 652 ยูนิต กับจำนวนลิฟท์โดยสาร 3 ตัว การใช้งานในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องรอลิฟท์กันนานหน่อย ส่วนอาคาร B ซึ่งมีจำนวนห้อง 606 ยูนิต ซึ่งน้อยกว่าอาคาร A เล็กน้อย ในขณะที่ความหนาแน่นของจำนวนลิฟท์โดยสารต่อห้องแทบไม่ต่างกันเลย จะมีก็แต่อาคาร C ที่ดีกว่าหน่อยเพราะจำนวนยูนิตรวมน้อยกว่า แถมมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว ทำให้อัตราการใช้งานอยู่ที่ 66 ยูนิตต่อลิฟท์ 1 ตัว จึงสบายๆ ไม่ต้องรอกันนานเท่าไหร่ เรื่อง Facility ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทางโครงการให้ความสำคัญ เพราะมีการจัดสรรพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนแยกจากอาคารพักอาศัย โดยใช้พื้นที่บริเวณชั้น 4 ให้เป็นศูนย์รวมกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ทั้งสระว่ายน้ำเกลือขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่เกือบเต็มความยาวของอาคาร รวมถึงห้องออกกำลังกาย พร้อมห้องอาบน้ำ ห้องแต่งตัว และห้องอเนกประสงค์ที่มีอุปกรณ์สันทนาการมากมาย นอกจากนี้ยังมีลู่วิ่งทำเป็นทางลาดวนรอบอาคารไว้เอาใจคนชอบออกกำลังกาย ส่วนพื้นที่สีเขียวในโครงการก็ไม่ได้มีน้อยเลย เพราะมีสวนหย่อมอยู่ทั้งด้านบนอาคาร และรอบๆ บริเวณพื้นที่ด้านล่างที่เป็นทางเดินเชื่อมต่อระหว่างตึก ทำให้มีมุมให้พักผ่อนหย่อนใจอยู่หลายมุม ส่วนเรื่องที่จอดรถนั้น มีปริมาณรวมอยู่ที่ 60% ของจำนวนห้องทั้งหมด 1,390 ยูนิต คิดเป็น 834 คัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากสมควร แต่ก็ต้องลุ้นให้ลูกบ้านส่วนหนึ่งไม่มีรถส่วนตัวสำหรับใช้ในการเดินทาง เพราะถ้าทุกห้องมีรถกันครบ ก็ย่อมเกิดปัญหาที่จอดรถตามมาแน่นอน ถึงแม้ว่าการจัดสร้างอาคารจอดรถแยกออกจากที่อยู่อาศัยจะทำให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้นก็ตาม แต่การใช้งานจริงๆ ลูกบ้านอาจจะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร เพราะไหนจะต้องรอลิฟท์ลงจากห้องพัก แล้วเดินไปต่อลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้นจอดรถอีก ซึ่งอาคารจอดรถก็มีลิฟท์โดยสารให้แค่ 1 ตัวเท่านั้น จึงทำให้เสียเวลาพอสมควร ยังไม่นับเวลาที่ต้องหิ้วของปริมาณมากๆ จากรถกลับห้องอีก คงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้นก็คงเป็นช่วงเวลาฝนตกเพราะทางเดินระหว่างอาคารจอดรถไปยังตึกต่างๆ ไม่มีหลังคาให้หลบฝนเลย จุดนี้จึงอาจจะเสียเปรียบโครงการที่มีที่จอดรถอยู่ใต้ตึกไปซักหน่อยครับ บริเวณในซอยด้านหน้าโครงการครับ เมื่อเข้ามาในบริเวณโครงการ ก็จะมองไปเห็นตัวตึกสูงๆ ตั้งอยู่ เข้ามาในตัวโครงการจะเห็น ตึก A อยู่ด้านหน้า และจะเห็นพื้นที่ส่วนกลางอยู่ทางซ้าย ใต้อาคาร A และอาคาร B จะมีห้องสำหรับร้านค้า ส่วนของร้านค้า สำนักงานขาย และส่วนนิติบุคคล จะอยู่ด้านล่างของอาคาร A และอาคาร B ครับ มองไปจะเห็นอาคาร A และ อาคาร B อยู่ทางขวา และส่วนกลางอยู่ทางซ้าย อาคารส่วนกลางจะเป็นอาคารจอดรถ และเป็น Club House อยู่ด้านบน ลานจอดรถด้านหลังอาคาร C พาชมห้องตัวอย่าง เนื่องจากโครงการ Fuse Mobius รามคำแหงเป็นโครงการที่สร้างเสร็จ และมีลูกบ้านย้ายเข้าอยู่อาศัยกันแล้ว ดังนั้นห้องที่เหลือจึงอาจจะมีให้เลือกไม่มากนัก ซึ่งทางโครงการยังคงมีห้องตัวอย่าง และห้องว่างให้เลือกอยู่พอสมควร ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันในครั้งนี้ก็คือห้องแบบ 1 ห้องนอน  ซึ่งเป็นแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ ด้วยขนาดห้องที่มีให้เลือกตั้งแต่ 29-38 ตร.ม. การจัดวาง Lay out ห้องของทั้ง 2 ขนาดต่างกันเล็กน้อยครับ ระหว่างนี้ทางโครงการเหลือห้องตัวอย่างที่ตกแต่งเสร็จให้ชมที่ขนาด 29 ตร.ม. พอเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นก่อน มองเลยเข้าไปจะเป็นห้องนอนที่ถูกกั้นไว้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้พื้นที่ห้องนอนดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น ด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่นคือห้องครัว ซึ่งถูกวางไว้ในแนวเดียวกันกับห้องน้ำและระเบียง ครัวเป็นครัวแบบเปิดนะครับ ชุดเครื่องครัวและเคาน์เตอร์ครัวที่แถมมา ทางโครงการมีการคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้สอยพ่วงมาด้วย เพราะมีโต๊ะกินข้าวขนาดเล็ก แบบพับเก็บได้มาเป็นฟังก์ชั่นเสริม ทำให้ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยในห้องได้มากขึ้น ถืงแม้พื้นที่ครัวจะกว้างขวางเหมาะกับการทำครัวแต่กลับไม่มีการติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้ แถมตำแหน่งครัวยังอยู่ด้านในทำให้การระบายอาการทำได้ไม่ดี จึงกลายเป็นว่าไม่ค่อยเหมาะกับการทำครัวไปโดยปริยาย ถัดจากห้องครัวเข้ามาจะเป็นห้องน้ำขนาดกระทัดรัด ซึ่งทางโครงการออกแบบไว้แปลก ตรงที่ด้านในสุดซึ่งเป็นบริเวณห้องอาบน้ำ กลับมีประตูบานเลื่อนเป็นกระจกขุ่น สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงเล็กๆ ของห้องได้ ทั้งๆ ที่พื้นที่ระเบียงนั้นก็เล็กแสนเล็ก ชนิดที่วางเครื่องซักผ้าและแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์แล้วก็แทบจะไม่เหลือที่ไว้ทำประโยชน์อะไรได้ด้วยซ้ำ ลองนึกภาพว่าจะต้องเดินไปซักผ้า หรือตากผ้าที่ระเบียงก็ต้องเดินผ่านห้องน้ำทุกครั้งก็แปลกดีเหมือนกันนะครับ ส่วนพื้นที่ของห้องนอนนั้น ไม่เล็กไม่ใหญ่ เรียกว่าขนาดกำลังฟิตพอดี วางเตียงแล้วพื้นที่ปลายเตียงยังมีที่ว่างพอให้วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกด้วย และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ Fly Window ที่อยู่ในห้องนอน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้กรุกระจกบานใหญ่ แถมยังเป็นส่วนที่ยื่นออกไปนอกอาคาร ทำให้รับวิวได้กว้างขึ้น ในห้องตัวอย่างจึงตกแต่งทำเป็น Day Bed ติดริมกระจกให้นั่งเล่นชมวิวได้ชิลๆ กันไป ข้าวของที่เห็นในห้องตัวอย่างนั้นต้องบอกก่อนว่าไม่ได้มีแถมมาให้ทั้งหมดนะครับ สิ่งที่ได้นอกเหนือจากชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำตามมาตรฐานแล้ว ก็จะมีตู้เสื้อผ้า ที่นั่งบริเวณ Fly Window พร้อมช่องเก็บของ และติดตั้ง Wallpaper มาให้เรียบร้อย นอกเหนือจากนี้ก็ต้องจัดหากันเอง หรือถ้าเกิดถูกในเฟอร์นิเจอร์ตามแบบในห้องตกแต่ง ทางโครงการก็สามารถจัดตกแต่งให้ได้ เพียงแค่เราต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนมีการโอนห้อง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเท่านั้นครับ เข้าในส่วนของห้องนั่งเล่นจะจัดวางประมาณนี้ครับ ด้านหลังส่วนนั่งเล่น จะเป็นห้องนอน โดยมีฉากกระจกกั้นครับ ห้องนอนมีตู้ built มาให้ครับ ตำแหน่งห้องนอน มุมจากห้องน้ำมองออกมาที่ประตูห้อง จะเห็นครัวอยู่ด้านขวาครับ ส่วนของครัวทางโครงการ built มาให้ครับ โต๊ะทานข้าวสามารถพับเก็บเข้าไปด้านในได้ ส่วนของห้องน้ำ อ่างล้างหน้าใช้ของ American Standard โถสุขภัณฑ์ American Standard อีกมุมหนึ่งจากส่วนเปียกมองออกมาด้านนอก ประตูกั้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ส่วนพื้นห้องนั่งเล่นจะใช้เป็นกระเบื้องแกรนิโต้ ส่วนห้องนอนจะใช้เป็นพื้นลามิเนตครับ Audio Door Phone เอาไว้คุยกับคนที่มาหาเราที่รออยู่ที่ Lobby แอร์โครงการให้มาตัวเดียวติดในห้องนอน ใช้แอร์ Panasonic ความคุ้มค่าการลงทุน เนื่องจากโครงการนี้สร้างเสร็จและมีลูกบ้านย้ายเข้ามาอยู่กันแล้ว จึงอาจจะไม่มีห้องให้เราได้เลือกมากนัก นอกจากห้องที่เหลือๆ อยู่แล้ว อาจจะลองมองหาห้องที่หลุดจอง หรือเจ้าของห้องปล่อยขาย ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน จากที่ลองสอบถามพนักงานขายคร่าวๆ ก็พอจะเห็นว่ามีชาวต่างชาติมาพักอาศัยกันพอประมาณ รวมทั้งยังมีลูกบ้านที่เป็นนักศึกษามาเช่าห้องอยู่อีกจำนวนหนึ่ง การลงทุนเพื่อการปล่อยห้องเช่าจึงไม่น่าจะมีอุปสรรคในการหาคนเช่ามากนัก แถมบริเวณใกล้ๆ ก็มีอาคารสำนักงานใหญ่ๆ ที่พอจะมีกำลังเช่าห้องได้ไม่ยาก รวมถึงเรืองทำเลที่ตั้งของโครงการที่จัดว่าอยู่ในทำเลที่มีการเดินทางให้เลือกหลากหลายอยู่พอสมควร ทั้งรถไฟฟ้า Airport Rail Link และรถบริการสาธารณะอื่นๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คอนโด Fuse Mobius รามคำแหงจะมีความน่าสนใจในหมู่นักลงทุน ยิ่งถ้าโครงการ Airport Link Square ที่เป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าติดสถานีรามคำแหงเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ด้วยแล้วล่ะก็ บริเวณรอบๆ ก็จะคึกคัก และอุดมสมบูรณ์ขึ้นอีกหลายเท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้เรื่องสาธารณูปโภคที่ทางโครงการมีให้มาก็ถือว่าได้มาเต็มที่เหมือนกัน ทั้ง Club House ที่รวมกันอยู่ที่บริเวณชั้น 4 ของอาคารจอดรถ รวมถึงพื้นที่สีเขียวที่มีรอบโครงการ จึงทำให้บรรยากาศภายในร่มรื่นมากขึ้น  ภาพรวมของโครงการจึงดูน่าอยู่อาศัยดี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียให้ต้องคำนึงถึงนะครับ เพราะจำนวนยูนิตรวมของโครงการที่ค่อนข้างหนาแน่น จึงต้องพิจารณาถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตด้วย รวมถึงรื่องการตกแต่งห้อง หรือติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และเครื่องดูดควันเพิ่มเติม ก็ต้องพิจารณากันแต่เนิ่นๆ เพราะทางโครงการแถมเครื่องปรับอากาศมาให้เครื่องเดียวเท่านั้น ถ้าไม่พิจารณาติดตั้งก่อนตกแต่งห้อง หรือก่อนเข้าอยู่  แล้วมาทำเพิ่มทีหลังก็จะยุ่งยากมากขึ้นได้ครับ สำหรับทำเลแถบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวเลือกอื่น หรือตัวเปรียบเทียบนะครับ ซึ่งแต่ละโครงการด็มีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป จึงอยากจะแนะนำให้ลองดูเปรียบเทียบกันให้รอบคอบ เพื่อที่คุณจะได้ห้องที่ตรงกับความต้องการให้ได้มากที่สุดยังไงล่ะครับ
Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW)   ราคา 2 ล้านต้นๆ บาท/ตารางเมตร ประมาณ 60,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise โครงการใหม่จากศุภาลัย บนถนนเจริญราษฎร์ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน เพรียบพร้อมด้วยระบบขนส่งสาะารณะทั้ง BRT และ BTS จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 ที่ตั้ง: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 4-1-20 ไร่ ที่ตั้ง ถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.701594, 100.516427 ระบบขนส่งสาธารณะ BRT เจริญราษฎร์, BTS สุรศักดิ์ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สุรศักดิ์ BRT เจริญราษฎร์ โรงแรม เบสเวสเทิร์น พลัส แกรนด์ ฮาเวิร์ด โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ฟิวเจอร์มาร์ท (โฮมโปร พระราม 3) เอเชียทีค โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรบินสัน บางรัก เซ็นทรัลพระราม 3 ลักษณะโครงการ: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 34.5 – 35.5 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 49 – 54 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 80 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 26 ชั้น จำนวนห้อง 565 ยูนิต ส่วนกลาง: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 68% รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 40 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 400 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำบนชั้น 5F ห้องออกกำลังกายบนชั้น 5F สวนบนชั้น 5F Lobby สวนหย่อมบนชั้น 24F Sky Lounge 26F ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 188:1 ความหนาแน่นสูงสุด 28 ห้องต่อชั้น ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-211-2121 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.supalai.com/lite/gallery/ ข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2555