Tag : News

2376 ผลลัพธ์
เดอะคิวบ์ นวมินทร์-รามอินทรา เชิญร่วมงาน Open House คอนโดพร้อมอยู่ 26-27 ส.ค.60 นี้

เดอะคิวบ์ นวมินทร์-รามอินทรา เชิญร่วมงาน Open House คอนโดพร้อมอยู่ 26-27 ส.ค.60 นี้

เดอะคิวบ์ นวมินทร์-รามอินทรา (The Cube Nawamin-Raminthra) โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ (Low Rise) 8 ชั้นพร้อมความทันสมัยทั้งภายในและภายนอกจาก บริษัท คิวบ์ เรียล พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่สร้างเสร็จใหม่ทั้ง 2 อาคาร จัดงาน Open House (เปิดบ้านหลังใหม่) ให้ชมโครงการบนสถานที่จริงกับบรรยากาศสบาย ๆ และกิจกรรมสนุก ๆ  ในวันที่ 26-27 สิงหาคม 2560 และเลือกซื้อคอนโดให้ตรงกับความต้องการทั้งอยู่อาศัยและเพื่อลงทุนตั้งแต่ขนาด 24, 26.5 และ 28 ตารางเมตร  เริ่มเพียง 1.59 ล้านบาท*  พร้อมเฟอร์นิเจอร์ (Fully Furnish) ครบทุกฟังก์ชั่นของแบรนด์ Modernform  เพียงจอง 5,000 บาท สามารถเข้าอยู่ได้เลย (*ตามเงื่อนไขของทางบริษัท) โดยสามารถปรึกษาด้านการเงินโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ทันทีที่บูทธนาคารกว่า 5 บูทภายในงาน หรือเลือกรับข้อเสนอพิเศษที่พลาดไม่ได้  เพื่ออำนวยความสะดวกและให้กับกลุ่มผู้ต้องการที่พักอาศัยแบบสร้างเสร็จพร้อมอยู่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และเพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในทำเลศักยภาพ เพราะใกล้แหล่งงาน ย่านธุรกิจ และบรรยากาศโดยรอบโครงการฯ น่าอยู่ มีความเป็นส่วนตัวสูงและปลอดภัย ติดถนนใหญ่และใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) สถานีนวมินทร์ (ในอนาคต)  พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย ห้องเซาว์น่า (แยกชาย/หญิง) สวนหย่อม กล้องวงจรปิด (CCTV) รอบโครงการและภายในตัวอาคารทั้ง 2 อาคาร ระบบคีย์การ์ดทางเข้าอาคาร และลิฟท์แบบคีย์การ์ดล็อคชั้น ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง Wi-Fi อินเตอร์เน็ตที่ล็อบบี้ส่วนกลาง การเดินทางสะดวกติดถนนใหญ่ และใกล้ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ร้านอาหาร  พบกันได้ที่โครงการ The Cube Nawamin-Raminthra  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและชมห้องตัวอย่างโทร. 1246 (ทุกวันไม่เว้นวันหยุด) และติดตามกิจกรรมสนุก ๆ รวมทั้งความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ทางเฟซบุ๊ค : www.facebook.com/The Cube-Condo และ www.thecube-condo.com
เผยผลงาน “อภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯและสินเชื่อปี 2017” ผู้เข้าชมงานกว่า 6 หมื่นคน รวมยอดขายกว่า 15,000 ล้านบาท

เผยผลงาน “อภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯและสินเชื่อปี 2017” ผู้เข้าชมงานกว่า 6 หมื่นคน รวมยอดขายกว่า 15,000 ล้านบาท

สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เผยผลการจัดงาน “อภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯและสินเชื่อปี 2017” ยอดผู้เข้าชมงานประมาณ 60,000 คน ส่วนยอดขายรวมกว่า 15,000 ล้านบาท สินค้าบ้าน-คอนโดฯใหม่ทรงตัว ส่วนบ้านมือสอง-NPA ยอดขายลดลง นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในฐานะผู้จัดงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดและสินเชื่อแห่งปี 2017 ระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขผู้เข้าชมงานฯ ตลอดทั้ง 4 วันมีจำนวนไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา คือประมาณ 60,000 คน และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมีผลให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยหรือตัดสินใจซื้อสินค้าที่่มีราคาสูงๆ นอกจากนี้ยังมีผลให้จำนวนนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในตลาดลดลงอย่างมากหรือแทบจะหายไปจากตลาดก็ว่าได้ ส่งผลทำให้ได้ยอดขายของงานในปีนี้รวมทั้งสิ้นกว่า 15,000 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากปีที่แล้วที่มียอดขายรวมประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดขายที่ลดลงเป็นส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทบ้านมือสองและทรัพย์สินรอการขายจากธนาคาร(NPA) ในขณะที่ยอดขายสินค้าประเภทบ้านคอนโดโครงการใหม่ และยอดจองสินเชื่อภายในงานตัวเลขก็ยังใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้านนายบริสุทธ์  กาสินพิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ กล่าวว่า ในฐานะฝ่ายจัดการ งานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯและสินเชื่อแห่งปี 2017 สังเกตเห็นว่าในตอนนี้ผู้บริโภคใช้เวลาในการหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อบ้านนานขึ้น และต้องการข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่รอบด้านมากขึ้น สะท้อนได้จากจำนวนผู้ลงทะเบียนเพื่อเข้าชมงาน และการดาวน์โหลด Application ในการชมงาน “ปีนี้เราได้พัฒนา Application ชื่อ “อภิมหกรรมบ้าน” เพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้บริโภคได้เก็บข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยที่สนใจ รวมถึงข้อมูลทำเล แผนที่ ความรู้และคำแนะนำในการซื้อบ้าน ซึ่งปรากฏมีผู้สนใจดาวน์โหลด Applicationดังกล่าวเฉพาะในวันงานถึงกว่า 6,000 คน ซึ่งบริษัทจะยังพัฒนาApp.นี้ต่อไป เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อบ้านที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด”  
MQDC พร้อมเปิดตัว ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พื้นที่วิจัยเพื่อความสุขและความยั่งยืน แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน

MQDC พร้อมเปิดตัว ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พื้นที่วิจัยเพื่อความสุขและความยั่งยืน แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล เตรียมเปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่ราว 1,000 ตรม. มีมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นกว่า 200 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ กลางเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้  ตั้งเป้าเพื่อยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ ให้เน้นการพัฒนาโครงการให้เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน “การเปิดตัวศูนย์ RISC นี้จะเป็นจุดสำคัญของวิวัฒนาการใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เรามีความตั้งใจที่จะทำให้ RISC เป็นศูนย์กลางการคิดค้นนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ที่ซึ่งผลงานวิจัยที่ออกมาจะไม่ใช่เพียงเพื่อนำมาใช้เฉพาะกับโครงการต่าง ๆ ของแมกโนเลียเท่านั้น แต่เรายังเปิดกว้างเพื่อให้บุคคลภายนอกได้มีโอกาสนำงานวิจัยของเราไปใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ใช้ในการพัฒนาโครงการหรือเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่ต้องการยกระดับคุณภาพของวงการอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยรวมให้ดีขึ้น”  รศ. ดร.สิงห์ กล่าวย้ำอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว รศ. ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์ริสค์ หรือที่เรียกว่า RISC กล่าวว่า หลังจากที่บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์     ผู้ลงทุนและดำเนินการบริหารโครงการที่พักอาศัยแนวราบ คอนโดมีเนียม และโครงการมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ ภายใต้แบรนด์ แมกโนเลียส์ (Magnolias) และ วิสซ์ดอม (Whizdom) ได้เริ่มลงทุนก่อสร้างศูนย์ฯ มาตั้งแต่ปีที่ 2559 และจะพร้อมเปิดพื้นที่วิจัยนี้ให้กับทุกคน ทุกองค์กร ที่สนใจด้านการพัฒนาและก่อสร้างอย่างยั่งยืน “RISC จะทำการวิจัยภายใต้หลักการ “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” เราจะพยายามค้นคว้าวิจัยให้บรรลุเป้าหมายทางความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อการพัฒนาทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ” รศ. ดร.สิงห์ กล่าวว่า “บริษัทได้ทุ่มทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการรองรับกิจกรรมวิจัยและสร้างนวัตกรรมใหม่แบบครบวงจร โดยเฉพาะส่วนของห้องแล็บและศูนย์ทดสอบได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยไว้พร้อมรองรับการใช้งานให้ทีมงานนักวิจัยได้สามารถทำการศึกษา ค้นคว้าและทดสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในพื้นที่ 1,000 ตรม ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ประกอบไปด้วย ห้องทดสอบการใช้งานของงานระบบต่างๆ อาทิ เช่น ห้องทดสอบประสิทธิภาพของงานระบบปรับอุณหภูมิใต้แผ่นปูพื้นหรือ radiant flooring ซึ่งระบบนี้จะทำหน้าที่ช่วยปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เหมาะสมและลดการใช้พลังงาน ห้องทดสอบสภาวะอากาศ ห้องทดสอบระบบเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับสารระเหยจากวัสดุตกแต่งในอาคาร “ ศูนย์ RISC จะเป็นเสมือนห้องค้นคว้าของประชาชนด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน เป็นที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยศูนย์ RISC ได้รวบรวมวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับงานก่อสร้าง จำนวนกว่า 300 ชิ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการออกแบบและก่อสร้าง พร้อมทั้งเป็นแหล่งรวมงานดีไซน์ใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ RISC ยังจัดสรรพื้นที่ทดสอบพืชพรรณต่างๆ ที่สามารถปลูกภายในอาคารที่ช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศภายในอาคารได้พื้นที่ Laboratory ที่มีเครื่องมือทันสมัยสำหรับสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งมีพื้นที่ Simulation Lab ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์และการออกแบบด้านการประหยัดพลังงาน การใช้แสงสว่าง เป็นต้น ภายในศูนย์ RISC ยังประกอบไปด้วย ห้องทดสอบผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีต่อวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งต่างๆ มีห้องทดสอบระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนและแสง ตลอดจนแล็ปทดสอบการใช้งานของวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ผลทดสอบจากแล็บจะช่วยให้ทางบริษัทสามารถเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดและคงทน ปลอดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ตลอดจนยังช่วยลดค่าใช้จ่ายพลังงานให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย ศูนย์ RISC วางเป้าหมายในการสร้างผลงานนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการสร้างที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่อาศัยในโครงการ รวมถึงสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ภายในและรายล้อมโครงการ “การเปิดตัวศูนย์ RISC นี้จะเป็นจุดสำคัญของวิวัฒนาการใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เรามีความตั้งใจที่จะทำให้ RISC เป็นศูนย์กลางการคิดค้นนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ที่ซึ่งผลงานวิจัยที่ออกมาจะไม่ใช่เพียงเพื่อนำมาใช้เฉพาะกับโครงการต่าง ๆ ของแมกโนเลียเท่านั้น แต่เรายังเปิดกว้างเพื่อให้บุคคลภายนอกได้มีโอกาสนำงานวิจัยของเราไปใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ใช้ในการพัฒนาโครงการหรือเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่ต้องการยกระดับคุณภาพของวงการอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยรวมให้ดีขึ้น”  คุณวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC กล่าวย้ำอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว รศ. ดร.สิงห์ กล่าวอีกว่าทางศูนย์ RISC ตั้งเป้าขยายเครือข่ายทีมนักวิจัยระดับชั้นนำกว่า 100 คนในอีก5 ปีข้างหน้า สำหรับตัวศูนย์ฯ เองก็ได้มีการก่อสร้างและตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกชิ้น โดยที่นี่ถือเป็นสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโดย the WELL Building Standard from the International WELL Building Institute (IWBI)  ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกในการรับรองอาคารที่ส่งเสริมสุขภาวะ โดย IWBI พิจารณาให้ใบรับรองการออกแบบและก่อสร้างที่พิถีพิถัน ทั้งทางด้านคุณภาพอากาศ แสงสว่าง น้ำ พื้นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น เราได้นำเอาวัสดุที่ทำจากเปลือกไข่อัพไซเคิลมาเป็นวัสดุพื้นผิวโต๊ะและเคาน์เตอร์ วอลเปเปอร์ฟอกอากาศ และสีทาภายในอาคารปลอดสารระเหย รวมถึงวัสดุตกแต่งทุกชนิดปลอดจากสารระเหยฟอร์มัลดีไฮด์ เป็นต้น โครงการของ MQDC ถือเป็นผู้บุกเบิกวงการอสังหาฯ เป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยีล้ำหน้า เพื่อคุณภาพชีวิตและการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย อาทิเช่น โครงการ วิสซ์ดอม รัชดา-ท่าพระ เป็นโครงการอาคารห้องชุดพักอาศัยแห่งแรกที่นำเทคโนโลยี Co2 sensors ผนวกกับ Energy Recovery Ventilation (ERV) ซึ่งเป็นระบบถ่ายเทอากาศภายในอาคาร โดยมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับอากาศเป็นตัวช่วยสั่งการให้มีการถ่ายอากาศเสียออกและเติมออกซิเจนเข้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยปรับคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ indoor air quality ให้ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้โครงการ วิสซ์ดอม 101 ก็จะเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ถูกออกแบบให้เป็นโครงการเมืองอัจฉริยะแบบบูรณาการหรือ Smart City remote asset management โดยโครงการนี้จะติดตั้งเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะร่วมกับระบบเชื่อมต่อครบวงจร ร่วมกันคิดค้นแอพพลิเคชั่นขึ้นใหม่เพื่อให้สั่งการทำงานได้จากรีโมทคอนโทรล เพื่อตอบโจทย์เรื่องการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ได้แก่ การประหยัดพลังงาน ลดปัญหาจราจร ลดมลพิษทั้งภายนอกและภายในโครงการ ตลอดจนช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบสาธารณูปโภคและวัสดุต่างๆ ภายในอาคาร MQDC มีความมุ่งมั่นที่จะฉีกกฏการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบเดิมๆ มาเป็นโครงการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมหรือ Sustainnovation โดยมุ่งคิดค้นนวัตกรรมใหม่ นำมาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีปัจจุบัน อาทิ โฮมออโตเมชั่น การใช้พลังงานบริสุทธิ์ การจัดการทางด้านการเงินให้ผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงข้อมูลการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ นำมาใช้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกโครงการบรรลุเป้าหมายการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืน
IAO Takeda ที่ปรึกษาออกแบบบินตรงจากญี่ปุ่นดูงาน RUNESU THONGLOR 5

IAO Takeda ที่ปรึกษาออกแบบบินตรงจากญี่ปุ่นดูงาน RUNESU THONGLOR 5

มร.โทโมยาสุ ยามาเบะ (ซ้าย) และ นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (co-CEO) บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด ให้การต้อนรับมร.ทาคายูกะ ยามากุจิ (กลาง) หัวหน้าทีมออกแบบตกแต่งภายในจากบริษัท ไอเอโอ ทาเคดะ (IAO Takeda) บริษัทออกแบบอันดับหนึ่ง 5 ปีซ้อนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษางานออกแบบโครงการรูเนะสุ ทองหล่อ 5 (RUNESU THONGLOR 5) เดินทางมาตรวจเช็คความถูกต้อง และความเรียบร้อย ของห้องตัวอย่าง ณ Sales Gallery @โครงการ The Taste Thonglor บริเวณต้นซอยทองหล่อ 11 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ลูกค้ามาสัมผัสนวัตกรรมที่อยู่อาศัยครั้งแรกในประเทศไทย ภายในต้นเดือนกันยายนนี้ โครงการรูเนะสุ ทองหล่อ 5 ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ในซอยทองหล่อ 5 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต ออกแบบโครงการและฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยบรรยากาศการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นแท้จริง ปรากฏการณ์ใหม่ของวงการอสังหาฯ ในไทย วัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบางส่วนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 2561 มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท
Chateau-in-Town_สุทธิสาร

Chateau-in-Town_สุทธิสาร

บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ไฮเอ็นด์ทาวน์โฮม โครงการใหม่ล่าสุด จาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “LIFE IN FULL BLOOM” ทุกตารางเมตรของโครงการนี้จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบให้ความสุขโอบล้อมตัวเรา ด้วยบรรยากาศแห่งธรรมชาติที่ร่มรื่นและงดงาม ศูนย์กลางแห่งทำเลศักยภาพ! บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการเดินทางสู่ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ใกล้ถนนใหญ่นครอินทร์ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองสะดวกทุกการเดินทาง เชื่อมต่อ ทางด่วนศรีรัชฯ-วงแหวนรอบนอก และสามารถเข้าสู่ทำเลรัชดาภิเษก หรือ สาทร ภายในไม่เกิน 15 นาที นับว่าเป็นโครงการที่มีทำเล ที่สามารถตอบสนองทุกการเดินทางอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อย่างห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งฯ อย่าง Makro นนทบุรี , Big C วงศ์สว่าง, The Walk , Home Pro, Crystal Park (ราชพฤกษ์) จึงเรียกได้ว่าทำเลนี้เป็นที่เพรียบพร้อมและน่าจับตามองในการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง รายละเอียดโครงการ   ชื่อโครงการ    บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 สถานที่ตั้ง    ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พื้นที่โครงการ    22–2–10.73 ไร่ พื้นที่ขาย    13–3–87.59 ไร่ พื้นที่สวน    0–2–82.72 ไร่ (พื้นที่สวนสาธารณะ และสวนหย่อมทั้งโครงการ) พื้นที่สโมสร    0–1–17.48 ไร่ จำนวน    271 ยูนิต รายละเอียดแบบบ้าน  แบบ Urbanist  หน้ากว้าง   5.00 เมตร พื้นที่ใช้สอย 141 ตารางเมตร  ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถ 2  คัน สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะขนาดใหญ่ CCTV เข้า- ออกโครงการ พร้อม รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ Access Card สำหรับเข้าออกโครงการ เส้นทางคมนาคม                                                   - เชื่อมต่อเข้าโซนรัชดาภิเษก และสาทร เพียง 15 นาที ทางด่วนศรีรัช ด่านพระราม 6 (6 กม.) รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ (4.5 กม.) ถนนพระราม5-นครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย สถานศึกษา โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 โรงเรียนสตรีนนทบุรี โรงเรียนเขมาภิรตาราม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โรงเรียนโยธินบูรณะ ห้างสรรพสินค้า   Makro นนทบุรี Big C วงศ์สว่าง The Walk Home Pro Crystal Park (ราชพฤกษ์) สถานพยาบาล    โรงพยาบาลนนทเวช โรงพยาบาลธนบุรี 2 โรงพยาบาลเจ้าพระยา เว็ปไซต์    :     http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    :      1623 เริ่มก่อสร้าง    พฤษภาคม 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ธันวาคม 2561 บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ไฮเอ็นด์ทาวน์โฮม ที่ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นของการพักผ่อน รองรับทุก Lifestyle และโดดเด่นด้วย Walk-In-Closet ที่กว้างขวาง มิติใหม่แห่งการพักอาศัยสุดหรูหรา ที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติได้อย่างลงตัว บนทำเลศักยภาพที่เป็นศูนย์กลางของการเดินทางสู่ใจกลางเมือง เชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย เริ่มต้น 3.59 ล้าน* เปิด PRE-SALE ให้จอง 19-20 ส.ค.60 นี้ 2 วันเท่านั้น!! รับข้อเสนอ "จ่ายน้อยคืน 100%" ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ไฮเอ็นด์ทาวน์โฮม ทำเลคุณภาพติดถนนใหญ่และทางด่วน

บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ไฮเอ็นด์ทาวน์โฮม ทำเลคุณภาพติดถนนใหญ่และทางด่วน

บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ไฮเอ็นด์ทาวน์โฮม โครงการใหม่ล่าสุด จาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “CONNECTIVITY OF PERFECT LIVING” เชื่อมต่อชีวิตและการผ่อนคลายที่เหนือระดับไปอีกขั้น กับคลับเฮาส์สุดหรู การออกแบบมีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส ให้คุณได้พักผ่อนในพื้นที่สุดพิเศษเหนือระดับ ทำเลที่เชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด! บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ตั้งอยู่บนทำเลคุณภาพที่สามารถเชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขีดจำกัด  เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที ใกล้ถนนใหญ่ ติดกับจุดขึ้น-ลงทางด่วนสุขาภิบาล 5 และใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการใช้ชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ    บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล สถานที่ตั้ง    จุดขึ้น-ลง ทางด่วน สุขาภิบาล 5 ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่โครงการ    14–0–52.60 ไร่ จำนวน    145 ยูนิต ที่ดินต่อยูนิต    เริ่มต้น 18 ตร.วา รายละเอียดแบบบ้าน ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถได้ 2  คัน สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส สวนสาธารณะและบริเวณพักผ่อน ระบบ Access Card สำหรับเข้าออกโครงการ กล้องวงจรปิดทางเข้า-ออกโครงการ ระบบสายไฟฟ้าปักเสาพาดสาย ตามแบบมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวง ระบบท่อเมนประปา ตามมาตรฐานการประปานครหลวง เส้นทางคมนาคม ถนนวัชรพล ถนนเพิ่มสิน ถนนสายไหม ถนนหทัยราษฎร์ ถนนพหลโยธิน ถนนรามอินทรา ถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล 5 ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สถานศึกษา โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 75 เฉลิมพระเกียรต โรงเรียนสายอักษร ม.เกษตร ห้างสรรพสินค้า Fashion Island The Promanade CDC, Crystal Park Central (รามอินทรา) Central East Ville Big C สุขาภิบาล 5 สถานพยาบาล โรงพยาบาลสายไหม โรงพยาบาลสินแพทย์ เว็ปไซต์    :    http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    :    1623 บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ไฮเอ็นด์ทาวน์โฮม ที่มีการออกแบบสไตล์ Modern Luxury ให้คุณได้สัมผัสชีวิตหรูหราเหนือระดับ ที่ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นของการพักอาศัยอย่างลงตัว พร้อม Living Area ที่ดีไซน์ไว้รองรับทุก Lifestyle และสะท้อนบุคลิกกับรสนิยมผู้พักอาศัย บนทำเลศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดในการเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมือง! ด้วยราคาสุดพิเศษเริ่มต้น 3.89 ล้าน* เปิด PRE-SALE ให้จอง 19-20 ส.ค.60 นี้ 2 วันเท่านั้น!! รับข้อเสนอ "จ่ายน้อยคืน 100%" ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทิศทางอาคารให้เช่าอีก 3 ปีขยายตัว 16.5% ชี้เทรนด์กรีนบิวดิ้งมาแรง เหตุช่วยลดค่าใช้จ่ายพลังงานและเพิ่มค่าเช่าได้สูง

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทิศทางอาคารให้เช่าอีก 3 ปีขยายตัว 16.5% ชี้เทรนด์กรีนบิวดิ้งมาแรง เหตุช่วยลดค่าใช้จ่ายพลังงานและเพิ่มค่าเช่าได้สูง

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทิศทางอาคารสูงให้เช่าอีก 3 ปี มีแนวโน้มขยายตัว 16.5% อุปทานเพิ่มเป็น 9.73 ล้านตารางเมตร พบเทรนด์อาคารเขียวประหยัดพลังงานสนใจเริ่มมีมากขึ้น เหตุช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อเดือนสูง และยังเรียกค่าเช่าได้สูงกว่าอาคารทั่วไป นายชาญ ศิริรัตน์  รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากผลการวิจัยล่าสุดของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้  พบว่า ในปี 2560 พื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 2559 ที่มีอยู่ 8.404 ล้านตารางเมตร เนื่องจากปี 2560 มีโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดให้บริการต่อเนื่องมา และในอนาคตคาดว่ามีอุปทานใหม่เตรียมเปิดให้บริการ อีกกว่า 1.389 ล้านตารางเมตรในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานสะสมขยายตัว 16.5% มาอยู่ที่ 9.793 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราการเช่ารวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5% จากครึ่งปีแรก 2559 และเพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน “อาคารสำนักงานในปัจจุบันเริ่มเข้าสู่การเป็นรูปแบบของอาคารประหยัดพลังงาน (อาคารเขียวหรือ Green Building) เนื่องจากต้นทุนพลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยอาคารประหยัดพลังงานเริ่มเข้ามาในประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น อาทิ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ ที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารจัดการ เป็นอาคารอนุรักษ์พลังงานเขียว สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้พลังงานในแต่ละเดือนมากกว่า 50%  และทิศทางตึกสูงที่สร้างขึ้นใหม่ในปัจจุบันเริ่มพัฒนาออกมาในรูปแบบของอาคารเขียวมากขึ้น ซึ่งการปรับปรุงอาคารให้เป็นอาคารเขียว หรือการออกแบบอาคารใหม่ให้เป็นอาคารเขียวนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารจัดการอาคารในระยะยาววิธีหนึ่ง เพราะอาคารเขียวแต่ละแห่งนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการประหยัดพลังงานเท่านั้น แต่ยังเพียบพร้อมด้วยซอฟท์แวร์ในด้านการป้องกันการเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ เอาไว้อย่างดี เพื่อให้เป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีต่อผู้อยู่อาศัยในตัวอาคารอีกด้วย ดังนั้นอาคารเขียวจึงมักได้รับการพิจารณาจากผู้เช่าเป็นอันดับต้นๆ” ปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้รับความไว้วางใจในการบริหารอาคารโครงการขนาดใหญ่และมีเทคโนโลยีซับซ้อน ในปัจจุบันรวม 30 อาคาร ซึ่งในการบริหารโครงการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่นั้น พลัสฯ ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี่ในระดับมาตรฐานสากลเพื่อรองรับการปฏิบัติงานสำหรับอาคารขนาดใหญ่เหล่านั้น โดยคิดค้นซอฟต์แวร์ขึ้นมาสำหรับบริหารจัดการแต่ละอาคารโดยเฉพาะ มีการจัดเก็บฐานข้อมูล ของแต่ละอาคารอย่างละเอียด ทำแผนการบริหารงานและบริหารงบประมาณในการซ่อมบำรุงอาคารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับตัวอาคาร เนื่องจากอาคารที่ได้รับการบริหารจัดการที่ดี ไม่เพียงแต่จะคงสภาพที่ดีเท่านั้นแต่ยังสะท้อนไปยังราคาที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงสามารถเพิ่มค่าเช่าได้สูงกว่าอาคารทั่วไปอีกด้วย ในที่นี้ ขอยกตัวอย่างอาคารที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้เป็นผู้บริหารจัดการ คือ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นอาคารเขียว ที่มีพื้นที่บริหารรวมถึง 100,000 ตารางเมตร ซึ่งจากการออกแบบอาคารและการบริหารจัดการอาคารที่ดีจึงส่งผลให้อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างมากทางด้านการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากล่าสุดสามารถคว้ารางวัลจากงาน Thailand Energy Award 2017 ประเภทอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน อาคารใหม่ (New and Existing Building) จาก "Thailand Energy Awards 2017" กระทรวงพลังงาน รวมทั้งได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด ASEAN Energy Awards 2017 ประเภท Energy Efficient Building Award 2017 ซึ่งผลอย่างไม่เป็นทางการได้รับรางวัล รองอันดับที่ 2 (2nd. Runner-up) สำหรับในปีนี้ เนื่องจากมีความโดดเด่นตามเกณฑ์การตัดสินที่ประกอบกันหลายด้าน อาทิ ด้านสถาปัตยกรรม ด้านจัดการพลังงาน และด้านการบริหารจัดการอาคารเขียวให้มีความเสถียรหลังจากที่ได้เปิดการใช้งานแล้ว ดังนั้นในส่วนนี้ผู้ดูแลอาคารจึงมีความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพของตัวอาคารให้เป็นไปตามเกณฑ์ ทั้งระบบคุณภาพอากาศ ระบบแสงสว่าง ระบบปรับอากาศซึ่งส่งผลต่อการใช้พลังงานโดยรวม ระบบการจัดการขยะ/จัดการมลพิษ เป็นต้น ซึ่งพลัส พร็อพเพอร์ตี้ในฐานะผู้บริหารจัดการอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 7 ปี จึงถือว่ารางวัลนี้เป็นความภาคภูมิใจของคนทำงานเบื้องหลัง เพราะหัวใจหลักของการอนุรักษ์พลังงาน/ประหยัดพลังงานในอาคารเขียวมาจากหลายส่วนที่สอดรับกับ โดยเริ่มตั้งแต่นโยบายการออกแบบอาคาร ให้เอื้อต่อการเป็นอาคารประหยัดพลังงาน รวมถึงการติดตั้งซอฟท์แวร์เพื่อควบคุมการทำงานของแสงที่เข้ามาสู่ตัวอาคาร การป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร รวมถึงระบบการจัดการน้ำและระบบรักษาความปลอดภัย เป็นต้น และปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการมีผู้ดูแลอาคารที่มีความรู้ความเข้าใจในการทำงานของอาคารเขียว เพราะหากการออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้วแต่ผู้ดูแลไม่มีความรู้ความเข้าใจก็จะเป็นการลงทุนโดยสิ้นเปลืองแต่ไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ “ภาพรวมของตลาดของธุรกิจบริหารอาคารสำนักงานในปัจจุบันว่า เป็นตลาดที่โอกาสในการเติบโตสูงซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเมืองใหญ่ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและเริ่มขยายตัวออกไปสู่เขตปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะเปิดโอกาสให้ความต้องการอสังหาฯ ในไทยสูงขึ้น โดยเฉพาะอาคารสำนักงานซึ่งจะเป็นอาคารที่มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยีมากขึ้น” นายชาญ กล่าวสรุป  
บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย บ้านโมเดลใหม่แห่งปี 2017 ตอบรับทุกความต้องการของการใช้ชีวิต

บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย บ้านโมเดลใหม่แห่งปี 2017 ตอบรับทุกความต้องการของการใช้ชีวิต

บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย โครงการทาวน์โฮมจาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Magnificent Nature”—ค้นพบความสงบที่ลงตัว บนวิถีชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ – มาร่วมพบความสงบของการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ ให้คุณเพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับพื้นที่สีเขียวรอบด้าน พร้อมคงความเป็นส่วนตัวบนวิถีชีวิตเหนือจินตนาการบนที่สุดของทำเลศักยภาพกับดีไซน์ใหม่ล่าสุดของปี 2017 ที่ออกแบบได้อย่างคุ้มค่าเต็มพื้นที่ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามการอยู่อาศัยจริง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรองรับทุกกิจกรรมของครอบครัว มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของสุดยอดทำเล! สัมผัสความสะดวกสบายกับโครงการ บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย ทาวน์โฮม 3 ชั้น ทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่เสรีไทย 52 ใกล้ทั้งวงแหวนฯและสถานนีรถไฟฟ้าสายสีส้มในระยะทาง 3 กิโลเมตร ทำให้สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวมเร็ว อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Fashion Island, The Mall บางกะปิ, Healthfield Inter School, NIDA, โรงพยาบาล เสรีรักษ์, โรงพยาบาล นวมินทร์ 9, สวนสยาม เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นทำเลศักยภาพที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ    บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย ที่ตั้งโครงการ    ติดถนนใหญ่ เสรีไทย 52 พื้นที่โครงการ    32–1–61.36 ไร่ ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง5เมตร จำนวนหลัง    334 ยูนิต พื้นที่ดิน    เริ่มต้น 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย    152 ตร.ม. รายละเอียดแบบบ้าน ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ 152 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถได้ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และบริเวณพักผ่อน สวนสาธารณะ Access Card เข้า - ออกโครงการ พร้อมป้อมยามรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดทางเข้า-ออกโครงการ สถานที่สำคัญรอบโครงการ โรงเรียน เตรียมอุดมฯน้อมเกล้า NIDA Healthfield Inter School โรงพยาบาลเสรีรักษ์ รงพยาบาล นวมินทร์ 9 โรงพยาบาลสินแพทย์ สวนสยาม ตลาดน้ำขวัญเรียม Paseo Town The Promanade Fashion Island The Mall บางกะปิ วงแหวนกาญจนาภิเษก รถไฟฟ้าสายสีส้ม ถนน ลาดพร้าว เว็ปไซต์    http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    1623 บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ใกล้ทั้งวงแหวนฯและสถานนีรถไฟฟ้าสายสีส้มในระยะทาง 3 กิโลเมตร มาพร้อมดีไซน์ใหม่ล่าสุดของบ้านกลางเมือง 2017 เริ่มต้น 3.89 ล้าน* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
NVD แถลงแผนครึ่งปีหลัง พร้อมเปิดตัวทีมผู้บริหารมือดีเสริมความแกร่ง

NVD แถลงแผนครึ่งปีหลัง พร้อมเปิดตัวทีมผู้บริหารมือดีเสริมความแกร่ง

นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD (ที่ 3 จากซ้าย)  พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร แถลงข่าวแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ทั้งคอนโดมิเนียม“Banyan Tree Residences Riverside Bangkok” และทาวน์โฮมหรู “Nirvana Define Srinakarin - Rama 9” เดินหน้ารุกธุรกิจรับสร้างบ้านโฉมใหม่ เปิดโอกาสให้เป็นเจ้าของบ้านเนอวานาบนที่ดินของลูกค้าเอง พร้อมเปิดตัวทีมผู้บริหารเสริมความแกร่ง ดูแลด้านการเงิน ออกแบบ งานขาย งานก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย ณ ห้อง Ballroom Maneeya B ชั้น M  โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ รายชื่อคณะผู้บริหาร จากซ้ายไปขวา นายรณชัย ไตรยสุนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานออกแบบและพัฒนาธุรกิจ นายอนุชาติ อังสุเมธางกูร กรรมการผู้จัดการ นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายจิรเดช นุตสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน นายสุรพงษ์ เจียมอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ นายนันทชาติ กลีบพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ
Pleno พหลโยธิน-รังสิต พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลศูนย์กลางรังสิต

Pleno พหลโยธิน-รังสิต พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลศูนย์กลางรังสิต

Pleno พหลโยธิน-รังสิต โครงการทาวน์โฮมใหม่ล่าสุดจาก  AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live in the Embrace of Nature” ใช้ชีวิตมีระดับ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ – ร่วมใช้ชีวิตบนศูนย์กลางของรังสิตกับสุดยอดทำเลทาวน์โฮม ติดถนนใหญ่เพียงหนึ่งก้าว ให้ทุกไลฟ์สไตล์อยู่ใกล้แค่เอื้อม จากความปรารถนาของชีวิตที่จะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสู่งานสถาปัตย์กรรมอันล้ำสมัย ทางเข้าขนาดใหญ่แสดงถึงฐานะอันโดดเด่น คลับเฮ้าส์ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรองรับทุกกิจกรรมของครอบครัว เติมเต็มความต้องการของการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของสุดยอดทำเล! สัมผัสความสะดวกสบายใจกลางรังสิต กับโครงการ Pleno พหลโยธิน-รังสิต ทาวน์โฮม 2 ชั้น ทำเลศักยภาพเพียง 1 กม.ถึงฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, 3.5 กม.ถึงทางด่วนโทลเวย์, 5.5 กม.ถึงทางด่วนอุรัถยาและ 2.2 กม.ถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ  อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ,  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต,  ไทยวัสดุ, บุญถาวร ,  เทสโก้โลตัส,  เมเจอร์รังสิต, เซียร์รังสิต, โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรีและโรงพยาบาลปทุมเวช จัดได้ว่าเป็นทำเลศักยภาพที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง รายละเอียดโครงการ   โครงการ    Pleno พหลโยธิน-รังสิต ที่ตั้งโครงการ    ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.3 ตร.วา พื้นที่โครงการ    33-1-12.4 ไร่ พื้นที่ขาย    7794.50  ตร.วา พื้นที่สวนสาธารณะ    398.29  ตร.วา พื้นที่ตั้งอาคารสโมสรและสระว่ายน้ำ    187.94  ตร.วา จำนวนยูนิต    373  ยูนิต รายละเอียดแบบบ้าน แบบบ้าน FLORA ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 106 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก ฟิตเนส สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะภายในโครงการ  พื้นที่ตั้งนิติบุคคล ระบบรักษาความปลอดภัย  เส้นทางคมนาคม ใช้เส้น ถ.พหลโยธิน ทางเข้าโครงการติดกับ ถ.พหลโยธินฝั่งขาเข้า  ถัดจากโรงกษาปณ์เลยซอยคลองหลวง 8  ทางเข้าอยู่ติดกับศูนย์อีซูซุ ก่อนถึงฟิวเจอร์พาร์ครังสิต สถานศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ปทุมธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้ง ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ไทยวัสดุ บุญถาวร เทสโก้โลตัส เมเจอร์รังสิต เซียร์รังสิต สถานพยาบาล โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี โรงพยาบาลปทุมเวช โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต สถานที่สำคัญ โรงกษาปณ์ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง วัดพระธรรมกาย สวนสนุกดรีมเวิลด์ เว็ปไซต์    http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    :     1623 Pleno พหลโยธิน-รังสิต พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นในบ้าน ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างอิสระ ใจกลางรังสิต เพียง 1 กม.ถึงฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 3.5 กม.ถึงทางด่วนโทลเวย์ 5.5 กม. เริ่มต้น 2.19 ล้าน* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/  
The Excel Hideaway Sukhumvit 71 คอนโดทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาจับต้องได้

The Excel Hideaway Sukhumvit 71 คอนโดทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาจับต้องได้

  ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมสักแห่งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศักยภาพทำเล, ราคาที่เอื้อมถึง, การเดินทางที่ง่ายสะดวกสบาย, Facility ภายในโครงการ รวมไปจนถึงสาธารณูปโภคโดยรอบ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็เป็นเงื่อนไขอันดับต้นๆ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงเงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้นว่ามีคอนโดมิเนียมที่ดีและเพียบพร้อมเช่นนั้นอยู่จริง เรามีคอนโดฯ ใหม่ล่าสุดที่น่าสนใจในย่านสุขุมวิทมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือ “The Excel Hideaway Sukhumvit 71” โครงการคุณภาพจาก All Inspire ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง ด้วยการคำนึงถึงที่อยู่อาศัยเป็นเป็นหลักภายใต้คอนเซ็ปต์ Hideaway ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงไม่วุ่นวายแม้อยู่ใจกลางเมือง แต่จะดูโดดเด่นและมีน่าสนใจแค่ไหน การเดินทางไปยังโครงการสะดวกเพียงใด ตามไปทำความรู้จักกับทำเลศักยภาพนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ   คอนโด Low Rise บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย โครงการ “The Excel Hideaway Sukhumvit 71” ตั้งอยู่ในซอยปรีดีย์พนมยงค์ 14 เป็นทำเลที่น่าสนใจมากค่ะ แทบจะเรียกว่าอยู่บนใจกลางย่านสุขุมวิทที่มีความครบเครื่องทั้งในส่วนของออฟฟิศ แหล่งการค้า แหล่งช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์สุดฮิต จุดเด่นของทำเลคอนโดนี้คือใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง (ห่างเพียง 1.5 กิโลเมตร) และรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช (ห่างเพียง 1.8 กิโลเมตร) สามารถใช้เข้า-ออกเมืองเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงทองหล่อ พร้อมพงศ์ และอโศกแล้ว เรียกได้ว่ารวดเร็วและสะดวกสบายอย่างแท้จริง สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ก็ยังสะดวกสบายไม่ต่างกันค่ะ เพราะโครงการอยู่ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ในระยะเพียง 330 เมตร เพราะอยู่ใกล้ทางด่วนเฉลิมนคร เรียกได้ว่าสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกนอกเมือง   เส้นทางเข้าเมืองหลักๆ จะใช้ถนนสุขุมวิทขาเข้ามุ่งหน้าตรงเข้าไปทางเอกมัยหรือทองหล่อได้เลย หรือจะใช้เส้นทางถนนพระราม 4 ผ่านกล้วยน้ำไทไปถึงสีลม-สาทรก็ยังได้ ส่วนด้านถนนสุขุมวิท 71 ก็วิ่งตรงไปตัดถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 9 ไปจนถึงรามคำแหงได้สบายๆ   ส่วนใครที่จะออกนอกเมืองหรืออกต่างจังหวัดก็สามารถใช้ถนนสุขุมวิทขาออกมุ่งหน้าตรงไปทางบางนา สมุทรปราการได้เลย หรือใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ วนไปลงมอเตอร์เวย์แล้วต่อด้วยถนนกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ ไปถึงพัทยาได้ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง หากใครไม่ได้ใช้รถส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวลค่ะ ทางโครงการมีบริการ Shuttle Service รับ-ส่ง ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกบ้าน แถมในซอยยังคึกคักมีรถผ่านมาก หาเรียกแท็กซี่ได้ง่าย และยังมีวินมอเตอร์ไซด์หรือรถสองแถวผ่านในซอยตลอดทั้งวันอีกเช่นกัน เรียกได้ว่าสะดวกแบบไหนก็เลือกใช้บริการได้เลยค่ะ   แหล่งไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกของคนเมืองที่แท้จริง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น T77 ที่อยู่ห่างออกไป 600 เมตร เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่ภายในมีรีเทล มอลล์สุดชิคอย่างฮาบิโตะ (Habito) ศูนย์รวมร้านอาหารระดับนานาชาติ พร้อมด้วยร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมายที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัว หรือถ้าออกไปทางถนนใหญ่ก็จะมี Summer Hill คอมมูนิตี้มอลล์ใหม่อยู่ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพระโขนงให้เลือกไปชิลล์กันได้อย่างเพลิดเพลิน Summer Hill คอมมูนิตี้มอลล์ใหม่อยู่ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพระโขนง Habito รีเทล มอลล์ สุดชิค อยู่ไม่ห่างจากโครงการ นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์ที่เรายกตัวอย่างไปแล้วนั้น บริเวณรอบโครงการ “The Excel Hideaway Sukhumvit 71” ยังมีสถานศึกษา อาทิ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (วิทยาเขตกล้วยน้ำไท) และสถานพยาบาล รวมไปจนถึงตลาดสด ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อให้แวะกินแวะซื้อมากมาย หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศจากมาใช้ชีวิต Slow Life ก็สามารถเดินทางไปซอยปรีดี พนมยงค์ 31 (ซอยเอกมัย 12) ที่อยู่ไม่ไกลโครงการ ซึ่งภายในซอยมีร้านคาเฟ่ดีๆ มากมายให้ได้นั่งชิลล์หลีกหนีความวุ่นวาย เรียกได้ว่าผู้อยู่อาศัยในย่านนี้มีตัวเลือกในเรื่องของอาหารการกินที่เยอะและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพทีเดียวค่ะ   นอกจากทำเลศักยภาพของ โครงการ “The Excel Hideaway Sukhumvit 71” ที่เราแนะนำกันไปแล้ว การออกแบบและ Facility ภายในคอนโดยังจัดเต็มเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้งานสูงสุด ซึ่งจะดีแค่ไหนถ้าได้สัมผัสความเป็นอยู่ที่เพียบพร้อมทุกด้านในย่านสุขุมวิทด้วยตนเอง กับการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมดีๆ ควรแค่แก่การลงทุนทั้งอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่า แวดล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ทั้งยังเดินทางสะดวกสบาย ในราคาที่ไม่ว่าใครก็จับต้องได้ บอกได้คำเดียวว่า "ไม่ควรมองข้ามค่ะ"   ทั้งนี้โครงการ “The Excel Hideaway สุขุมวิท 71” จะเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ. 2561 และคาดว่าจะเสร็จในเดือน ม.ค. 2562 ซึ่งถือว่าเป็นคอนโดใหม่ที่น่าจับตาเป็นอย่างมาก ซึ่งโครงการจะมีงาน VVIP Day ในวันที่ 2 กันยายนนี้ ที่ โรงแรงอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ (BTS สถานีราชดำริ ทางออก 4) สำหรับคนที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ http://www.allinspire.co.th/ หรือโทร. 02-029-9999 คลิกดูรายละเอียดโครงการ https://goo.gl/9QPNJ2  
Pleno พหลโยธิน-วัชรพล พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้าสถานีภูมิพลและจุดขึ้น-ลงทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา

Pleno พหลโยธิน-วัชรพล พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้าสถานีภูมิพลและจุดขึ้น-ลงทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา

Pleno พหลโยธิน-วัชรพล โครงการทาวน์โฮมล่าสุดจาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Connexion To The Metropolis Sanctuary” จากประสบการณ์อันยาวนานสู่วิสัยทัศน์การเลือกสรรทำเลอย่างผู้นำ เชื่อมต่อใจกลางเมืองด้วยรถไฟฟ้าและทางด่วนจากถนนใหญ่เพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเข้าถึงย่านธุรกิจการค้าและแหล่งช้อปปิ้ง ให้ทุกกิจกรรมการเดินทางเป็นเรื่องง่าย ให้ทุกไลฟ์สไตล์อยู่ใกล้กว่าที่คิด มาพร้อมดีไซน์จากแรงบันดาลใจตึกระฟ้า ณ ใจกลางมหานคร ผสมผสานศิลปะรูปแบบการตกแต่งที่ได้รับความนิยมตลอดกาล แบบ Modern Art Deco สู่การสร้างสรรค์รูปลักษณ์ใหม่ด้วยลวดลายกราฟฟิกที่สวยงาม สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวิถีชีวิตคนเมืองผ่านทุกรายละเอียดที่งดงามไร้กาลเวลา มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของสุดยอดทำเล! สัมผัสประสบการณ์ใหม่ กับโครงการ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล ทาวน์โฮม 2 ชั้น ทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้าสถานีภูมิพล สะดวกสบายด้วยทางขึ้น-ลงทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา เพียง 10 นาที ใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกสบายมากมาย ทั้งเซนทรัล พลาซา รามอินทรา, บิ๊กซีสะพานใหม่, โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 1, 2, โรงเรียนสารวิทยา, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช, โรงพยาบาลสายไหม, สถานีตำรวจนครบาลสายไหม, และตลาดยิ่งเจริญ จัดได้ว่าเป็นทำเลศักยภาพที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง รายละเอียดโครงการ   รายละเอียดโครงการ โครงการ    Pleno พหลโยธิน-วัชรพล ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพิ่มสิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220 พื้นที่โครงการ   30-3-79.74 ไร่ พื้นที่ขาย    6,494.75 ตร.วา พื้นที่สวนสาธารณะ    377.85 ตร.วา พื้นที่ตั้งอาคารสโมสรและสระว่ายน้ำ    105.15 ตร.วา จำนวนยูนิต    321 ยูนิต ลักษณะโครงการ LUXE : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น  18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  100.71 ตร.ม. 3 ห้องนอน  1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน METRO : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น  20.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  130.55 ตร.ม. 3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก ฟิตเนส สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะภายในโครงการ พื้นที่ตั้งนิติบุคคล ระบบรักษาความปลอดภัย เส้นทางคมนาคม ถนนพหลโยธิน ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ถนนกาญจนาภิเษก สนามบินดอนเมือง ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ สถานีรถไฟฟ้าโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช (เปิดใช้ปี 2563) สถานีรถไฟฟ้าสะพานใหม่ (เปิดใช้ปี 2563) สถานศึกษา โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 1,2 โรงเรียนสารวิทยา โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน โรงเรียนผ่องสุวรรณวิทยาลัย สายไหม มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตสะพานใหม่ ห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้ง เซนทรัล พลาซา รามอินทรา บิ๊กซีสะพานใหม่ สถานพยาบาล โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลสายไหม โรงพยาบาลเซนทรัลเยนเนอรัล สถานที่สำคัญ สถานีตำรวจนครบาลสายไหม กองทัพอากาศ ตลาดยิ่งเจริญ เว็ปไซต์    : http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    :    1623
August-Condo_สะพานพระราม3

August-Condo_สะพานพระราม3

Pleno รามอินทรา-วงแหวน โครงการทาวน์โฮมคุณภาพ ใหม่ล่าสุด จาก AP ทำเลใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ครั้งแรกของนวัตกรรมการออกแบบพื้นที่ชีวิต ที่ตอบรับทุก Lifestyle คนเมือง สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวผ่านทุกตารางเมตร ตอบสนองทุกรายละเอียดและความต้องการ เอกสิทธิ์ของชีวิตสมบูรณ์แบบและความงดงามของการใช้ชีวิต ให้ทุกคนได้อบอุ่นและผ่อนคลายกับพื้นที่สีเขียวตลอดทั่วโครงการ เพิ่มระดับความสุขให้มากกว่าที่เคย ด้วยการพักผ่อนอย่างมีระดับกับ คลับเฮาส์สุดหรู ,ฟิตเนส,สระว่ายน้ำ และสวนพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศธรรมชาติ สุดยอดการค้นพบ! ทำเลแห่งอนาคต หากท่านกำลังหาโอกาส หรือความเป็นไปได้ ที่จะใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ขอแนะนำ โครงการใหม่ Pleno รามอินทรา-วงแหวน ทาวน์โฮมคุณภาพ บนสุดยอดทำเลแห่งอนาคต ถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ที่สามารถตอบสนองทุกการเดินทางอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว ไม่เกิน 5 นาที ถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนฯ ทั้ง 2 อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย ตัวอย่างห้างสรรพสินค้า หรือ แหล่งช้อปปิ้งฯ ชื่อดัง เช่น Fashion Island ,The Promanade, Central Plaza รามอินทรา เป็นต้น รายละเอียดโครงการ   ชื่อโครงการ    Pleno รามอินทรา-วงแหวน สถานที่ตั้ง    ถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวงสามวาตะวันตก เขตมีนบุรี กทม. พื้นที่โครงการ    22–3–12 ไร่ (9,112.0  ตร.วา) พื้นที่ขาย    12–1–10.7 ไร่ (4,910.7  ตร.วา) พื้นที่สวน     2–0–81.2 ไร่ พื้นที่สโมสร    0–0–93.4 ไร่ จำนวน    180 ยูนิต รายละเอียดแบบบ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 126 ตร.ม.ที่จอดรถ 2 คันหน้ากว้าง 5.5 เมตร สิ่งอำนวยความสะดวก อาคารสโมสรพร้อมฟิตเนส และสระว่ายน้ำ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ กว่าครึ่งไร่ (247.2 ตร.วา) สวนหย่อมอื่นๆภายในโครงการ รวมกันมากกว่า 1.5 ไร่ (634 ตร.วา) ระบบรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ Access Card สำหรับเข้าออกโครงการ (Easy Pass) ระบบ CCTV ทางเข้า – ออกโครงการ ป้ายเรียกบริการแท็กซี่ด้านหน้าโครงการฯ เส้นทางคมนาคม ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (3.3 กม.) ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) (4.1 กม.) ถนนลำลูกกา ถนนสายไหม-สุขาภิบาล5 ถนนหทัยราษฎร์ สถานศึกษา  ม. เวสเทิร์น ม. ศรีปทุม โรงเรียนสารสาสน์ สายไหม โรงเรียนสาธิต พัฒนา ห้างสรรพสินค้า Big C ลำลูกกา, Home Pro ลำลูกกา The Promenade , Fashion Island Central Plaza รามอินทรา สถานพยาบาล  รพ.สายไหม สถานที่ท่องเที่ยว สวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์ สวนสนุก สวนน้ำสวนสยาม เว็ปไซต์    :    http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    :    1623 เริ่มก่อสร้าง    พฤษภาคม 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    มกราคม 2563 Pleno รามอินทรา-วงแหวน พรีเมี่ยมทาวน์โฮมแบบ Flexible Space ที่ออกแบบพื้นที่ชีวิตให้เข้ากับทุก Lifestyle ของคนเมือง และเชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เพียง 5 นาที ถึง ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หรือ วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก เริ่มต้น 2.49 ล้าน* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/  
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทำเลพระโขนง-อ่อนนุชดีมานด์ต่างชาติพุ่ง ค่าเช่าขยับ 10% ราคารีเซล 5 ปี เพิ่ม 40%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทำเลพระโขนง-อ่อนนุชดีมานด์ต่างชาติพุ่ง ค่าเช่าขยับ 10% ราคารีเซล 5 ปี เพิ่ม 40%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยผลสำรวจตลาดเช่าที่อยู่อาศัยของต่างชาติ ในปี 2560 พบความต้องการในย่าน พระโขนง – อ่อนนุชเติบโตสูง ชี้ครึ่งปีแรกค่าเช่าขยับแล้วถึง 10% อัตราผลตอบแทนสูง 5-7% แซงหน้าย่านทองหล่อ –เอกมัย อีกทั้งตลาดรีเซลยังทำกำไรสูงกว่า โดยรูปแบบ 1 ห้องนอน ในระยะเวลา 5 ปี มีราคาขายต่อยูนิตเพิ่มขึ้นจากราคาในช่วงเปิดตัวถึง 24% นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ทำการสำรวจ ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ โดยพบว่าทำเลพระโขนง-อ่อนนุช เป็นทำเลใหม่ที่ตลาดเช่าโดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างประเทศที่มาทำงานในเมืองไทย (Expat) มีความต้องการเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยล่าสุดครึ่งปี 2560 มีชาวต่างชาติเช่าห้องชุดเพื่ออยู่อาศัยในย่านนี้สูงถึงประมาณ 70% เพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2555 ที่มีชาวต่างชาติเช่าเพียง 56% จากความต้องการที่สูงขึ้นนี้จึงทำให้คอนโดมิเนียมในย่านนี้สามารถปรับค่าเช่าขึ้นได้แบบก้าวกระโดด โดยค่าเช่ามีการขยับตัวสูงขึ้น 10% ใน 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรับขึ้นมาดังกล่าวถือว่าเป็นการปรับที่สูงกว่าโซนทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเป็นโซนที่ชาวต่างชาตินิยมเช่าคอนโดมิเนียมมากที่สุด ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 90% มีผู้เช่าคนไทยเพียงแค่ 10% โดย โซนทองหล่อ–เอกมัย มีอัตราค่าเช่าขึ้น 4% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวต่างชาติเริ่มหันไปเช่าคอนโดมิเนียมโซนพระโขนง–อ่อนนุช เพราะการเดินทางสะดวกมีรถไฟฟ้าผ่านแถมยังมีระยะทางไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ที่สำคัญราคาอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สูงมากเหมือนโซนใจกลางเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะย่านทองหล่อ–เอกมัย ซึ่งเดิมเป็นทำเลที่มีความต้องการเช่าของต่างชาติ (ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ อเมริกา จีน) นั้น มีจำนวนที่ดินในการพัฒนาอย่างจำกัด ส่งผลให้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างน้อย ทำให้ราคาเปิดตัวมีราคาแพงและส่งผลให้อัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าลดลง โดยมีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที 800 – 1,000 บาทต่อตารางเมตร หรือคิดเป็นผลตอบแทน (Rental Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 % ต่อปี หากขนาด 1 ห้องนอน (40-50 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ 35,000-55,000 บาท และรูปแบบ 2 ห้องนอน (60-80 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 60,000-80,000บาทต่อเดือน ในขณะที่โซนพื้นที่พระโขนง-อ่อนนุช มีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 500 – 600 บาทต่อตารางเมตร หรือคิดเป็นผลตอบแทน (Rental Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 5-7 %  รูปแบบห้องที่นิยมคือ ขนาด 1 ห้องนอน (30-35 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ 14,000-18,000 บาท และรูปแบบ 2 ห้องนอน (50-60 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 25,000-36,000บาทต่อเดือน นอกจากนี้ในส่วนของห้องที่นำกลับมาขายใหม่ (รีเซล) ในย่านพระโขนง–อ่อนนุช ก็ถือว่ามีความน่าสนใจ โดยตั้งแต่ปี 2555  เป็นต้นมา พบว่ารูปแบบ 1-2 ห้องนอนถูกนำกลับมาขายใหม่มากที่สุด โดยรูปแบบ 1 ห้องนอน มีราคาขายต่อยูนิตเพิ่มขึ้นจากราคาในช่วงเปิดตัวถึง 40% โดยปัจจุบันราคาเฉลี่ยรีเซลอยู่ที่ 122,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของห้องรีเซลย่านทองหล่อ – เอกมัย อยู่ที่ 230,000 บาทต่อตารางเมตร เมื่อเปรียบเทียบกันจะพบว่าราคารีเซลในพื้นที่พระโขนง-อ่อนนุช ถูกกว่าพื้นที่ทองหล่อ – เอกมัย ถึง 47% และยังสามารถทำกำไรได้ดีกว่าถึง 9% “ปัจจัยที่สนับสนุนให้ทำเลพระโขนง – อ่อนนุช ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ เพราะมีการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วและยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และไม่เพียงแต่ราคาที่ถูกกว่าย่านทองหล่อ–เอกมัยเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่โดดเด่นในด้านการคมนาคมที่สะดวก ทั้งถนนสายหลักเส้นสุขุมวิท ใกล้ทางขึ้นทางด่วนที่สะดวก รวมถึง แนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (BTS) ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จึงทำให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบใหม่ๆ อย่างครบครัน  ทั้งโรงเรียนนานาชาติ ร้านอาหารที่เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย แหล่งแฮงค์เอ้ทท์  และคอมมูนิตี้มอลล์ที่หลากหลาย แต่ก็ยังมีสถานที่ที่ตอบสอนองความต้องการของคนพื้นที่ เช่น ตลาดแบบดั้งเดิมในย่านพระโขนง หรือร้านอาหารเก่าแก่เจ้าดัง ทำให้ทำเลนี้มีสีสัน และสามารถเอื้อผลประโยชน์ต่อการลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมอีกด้วย และในอนาคตเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาพร้อมเปิดให้บริการ บริเวณนี้จะกลายเป็นจุดอินเตอร์เชนจ์ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเทา ปัจจัยเหล่านี้จึงสนับสนุนให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลพระโขนง – อ่อนนุช ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ” นายอนุกูล กล่าว
เนอวานา ไดอิ (NVD) แถลงรายได้ครึ่งปีแรก 1,315 ล้านบาท เติบโต 226% เตรียมเปิดอีก 2 โครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท เดินหน้า ธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดทัพผู้บริหารมือดีเสริมความแกร่ง

เนอวานา ไดอิ (NVD) แถลงรายได้ครึ่งปีแรก 1,315 ล้านบาท เติบโต 226% เตรียมเปิดอีก 2 โครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท เดินหน้า ธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดทัพผู้บริหารมือดีเสริมความแกร่ง

บมจ. เนอวานา ไดอิ (NVD) เปิดตัวเลขผลประกอบการครึ่งปีแรก บันทึกรายได้รวม 1,315 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 226% สร้างกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท เผยแผนครึ่งปีหลังเปิดตัวอีก 2 ​โครงการ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายหลักมาจากคอนโดระดับพรีเมียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok และโครงการ Define ศรีนครินทร์-พระราม 9 พร้อมรุกธุรกิจรับสร้างบ้านโฉมใหม่ เปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบ้านเนอวานา บนที่ดินของลูกค้าเอง เร่งสร้าง Nirvana Home Building Center ศูนย์รับสร้างบ้านแห่งใหม่ พร้อมจัดทัพผู้บริหารระดับมือดีมาดูแลด้านการเงิน ออกแบบ งานขาย งานก่อสร้าง นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD เผยว่า “ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา NVD ทำรายได้รวม (Total Revenue) ทั้งสิ้น 1,315 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่มีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ  และ NVD ได้เสริมความแข็งแกร่งของทีมงาน และได้ผู้บริหารมืออาชีพ ทั้งด้านการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานก่อสร้าง การเงินและการจัดการเข้ามา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ การที่ บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้ควบรวมกับ บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นับเป็นการผนวกจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างที่นำสมัย มั่นคงแข็งแรง เข้ากับความสามารถด้านการออกแบบที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเนอวานา ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์แก่ NVD เป็นอย่างมาก เป็นที่มาของแผนยุทธศาสตร์ Synergistically Beyond” “ในด้านการทำการตลาดนั้น เราวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ NVD คือ กลุ่ม B ถึง A++ ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ชอบความแตกต่าง เน้นรายละเอียด เพราะโครงการที่เราพัฒนานั้น จะพัฒนาภายใต้แนวความคิด Life is Full of Details เน้นการใช้ Human-Centered Design ในการออกแบบ โครงการจะถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ระดับพรีเมียม ตอบรับ high-end lifestyle สำหรับด้านคุณภาพนั้นเรามีการก่อสร้างที่มีคุณภาพ โดยใช้พื้นฐานนวัตกรรมของไดอิ ที่จะสร้างความรวดเร็วในการก่อสร้าง ทั้งยังมีความแข็งแกร่ง สวยงาม และทนทาน  ตอบโจทย์การขยายตลาดในวงที่กว้างขึ้น ทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจรับสร้างบ้าน  ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ Synergistically Beyond ที่จะตอบสนองการเติบโต ในช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้นายศรศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินธุรกิจของ NVD แบ่งเป็น  3 หมวด คือ 1.) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ครอบคลุมโครงการทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ภายใต้แบรนด์ Nirvana Beyond, Nirvana Define, Nirvana @WORK และคอนโดมิเนียมแบรนด์ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok 2.)  ธุรกิจรับสร้างบ้าน ลูกค้าสามารถสร้างบ้านเนอวานา ในที่ดินของลูกค้า โดยบริษัทมองเห็นโอกาสทางการตลาดที่จะเติบโตไปได้ต่อเนื่องและยั่งยืน อีกทั้งยังมีความพร้อมที่จะต่อยอดธุรกิจนี้ไปได้ด้วย Synergistically Beyond โดยมีแผนสร้าง Nirvana Home Building Center แห่งใหม่บริเวณพระราม 9 ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่ของการรับสร้างบ้าน ที่จะมีบ้านจริงให้ลูกค้าเลือก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2561 และสุดท้าย 3.) ธุรกิจวัสดุก่อสร้างรูปแบบทันสมัย ธุรกิจนี้จะใช้ศักยภาพเชิงเทคโนโลยีการผลิตวัสดุก่อสร้างเดิมของไดอิ โดยเสริมการออกแบบที่แตกต่างและทันสมัย ในสไตล์ของเนอวานาเข้าไป เป็น Innovative Product รูปแบบใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า คาดว่าธุรกิจนี้จะเติบโตไปพร้อมกับ NVD และตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ด้านนายจิรเดช นุตสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารมืออาชีพในวงการการเงิน ซึ่งได้เข้ามาร่วมทัพผู้บริหารเมื่อไม่นานมานี้ โดยรับผิดชอบสายงานการเงินของ NVD กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ NVD ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาว่า “ในครึ่งปีแรก NVD บันทึกรายได้รวม 1,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 912 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 226 เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2559 โดยการเติบโตนั้นมาจากธุรกิจทั้ง 3 ส่วนของ NVD คือ 1) รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นเงิน 997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 722 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกของปี 2560 เนื่องจาก โครงการใหม่ๆ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ โครงการ @WORK รามอินทรา และลาดพร้าว-เกษตร นวมินทร์ และโครงการ Define พระราม 9  ส่วนที่ 2) รายได้จากบ้านสั่งสร้างและธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นเงิน 265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่วนที่ 3) รายได้จากการขายวัสดุก่อสร้างเป็นเงิน 53 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเป็นเงิน 415 ล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2560 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 290 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 112 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกของปี 2560 และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 NVD มีรายได้รอรับรู้ (Backlog) อยู่ประมาณ 920 ล้านบาท” ในช่วงครึ่งปีหลัง NVD จะเปิดตัวอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท  ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้   แบรนด์ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok มูลค่า 6,000 ล้านบาท และโครงการ Define ศรีนครินทร์-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท” “โครงการ Define ศรีนครินทร์-พระราม 9 เป็นโครงการนำร่องบนที่ดินผืนใหญ่ของ NVD ขนาด 237 ไร่ ติดสองฝั่งถนนตัดใหม่ ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ย่านกรุงเทพกรีฑา  NVD มีแผนจะพัฒนา 6-7 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 13,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จในอีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok น่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายปี 2561 เป็นต้นไป” เกี่ยวกับ บมจ. เนอวานา ไดอิ (NVD) บมจ. เนอวานา ไดอิ (NVD) เป็นบริษัทควบรวมระหว่าง บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (Nirvana Development Co.,Ltd)  และ ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Daii Group) ด้วยทุนจดทะเบียน 1,405.6 ล้านบาท โดยดำเนินธุรกิจหลัก คือ 1) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development) ได้แก่ การพัฒนาโครงการบ้านอยู่อาศัย (Nirvana Beyond, Nirvana Icon, Intro) สำนักงานโฮมออฟฟิศ (Nirvana @Work) ทาวน์โฮม (Nirvana Define, Cover, Cluster) คอนโดมิเนียม (Banyan Tree Residences Riverside Bangkok) โดยปัจจุบัน มีโครงการที่พัฒนาแล้วทั้งสิ้น 18 ​โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือรวมกว่า 14,000 ล้านบาท, 2) ธุรกิจรับสร้างบ้าน (Nirvana Home Builder)  3) ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง NVD จึงเกิดจากการผนวกจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างที่นำสมัย มั่นคงแข็งแรงของไดอิ เข้ากับความสามารถด้านการออกแบบที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเนอวานา บริษัทฯ ได้วางกรอบกลยุทธ์การทำงานไว้ภายใต้แนวคิดที่ต้องมุ่งมั่นไปข้างหน้า โดยคำนึงถึงทุกองค์ประกอบในการทำงานเพราะเราเชื่อว่า ภายใต้ทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต ล้วนนำมาซึ่งความสุขทั้งของลูกค้า เพื่อนร่วมงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ถือหุ้นทุกคน ส่งผลให้การพัฒนาสินค้าจากทางเนอวานา ไดอิ จะสามารถตอบสนอง     ความต้องการของลูกค้า ทั้งในด้านฟังก์ชั่นการใช้งานและตอบสนองความต้องการในการทางความรู้สึก ในรูปแบบที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของเนอวานาอย่างแท้จริง เพราะที่ เนอวานา ไดอิ เราเชื่อว่า Life is Full of Details.  
นารายณ์ ฯ ผุดเมกกะโปรเจ็ค เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56

นารายณ์ ฯ ผุดเมกกะโปรเจ็ค เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56

“นารายณ์ พร็อพเพอตี้”เปิดบิ๊กโปรเจ็คช่วงครึ่งปีหลัง “เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56” ยึดทำเลทองรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ภายใต้แนวคิด "Never Before No More Again"อัดแน่น จัดเต็ม ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันกว่า 30 รายการ พร้อมสวนขนาดใหญ่  Mega Park, อยู่หน้าห้างและ หน้าสถานีรถไฟฟ้า ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบายรอบด้าน ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท พบข้อเสนสุดพิเศษในงาน Exclusive sales  26  สิงหาคมนี้ นายเจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผย ถึงแผนการดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ว่า บริษัทมีแผนงานที่จะเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่อีกหนึ่งโครงการ ได้แก่ โครงการเดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 นับเป็นโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่โครงการที่สองของปีนี้  ต่อจากโครงการเดอะพาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้าที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้  โดยมีขายไปแล้วกว่า 60 % มูลค่าโครงการรวมทั้ง 2 โครงการกว่า 12,000 ล้านบาท "ภาวะตลาดอสังหาฯในปีนี้ ไม่น่าจะโตได้มากเหมือนปีก่อนๆ การแข่งขันจะสูงทุก segment การทำอสังหาฯ ไม่ได้ดูเทียบปีต่อปี จะต้องอ่านตลาดไปล่วงหน้าอีก 2 ปี  ภาวะตลาดแบบนี้ต้องอ่านตลาดดีๆ ของต้องดีจริง ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่มีอัตราการเติบโตสูง โปรดักส์แตกต่างจากท้องตลาด ให้คุณภาพชีวิตที่ดีกับผู้ซื้อจริงเท่านั้นถึงจะอยู่ได้" นายเจนต์ชัย กล่าว โครงการเดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 เป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัยที่ถูกพัฒนาขึ้นในย่านทำเลที่ดีที่สุดอีกโครงการหนึ่ง บนเนื้อที่ 13-3-12.3ไร่ จำนวนยูนิต 2,047 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 6,000ล้านบาท พัฒนาภายใต้แนวคิด "Never Before No More Again" ด้วยจุดเด่นของโครงการที่มากด้วยสวนขนาดใหญ่Mega Parkไม่ต่ำกว่า 3 ไร่ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในโครงการแบบที่ไม่มีที่ไหนเคยทำมาก่อน โครงการตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษมซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562โครงการอยู่ติด MRT สถานีภาษีเจริญเพียง 40 เมตรเท่านั้น สามารถเดินทางเข้ามาในย่านกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบายการเดินทางโดยรถยนต์ก็สะดวกเพราะอยู่ติดถนนเพชรเกษม สามารถออกไปทางฝั่งเหนือด้วยถนนราชพฤกษ์ หรือจะเข้าเมืองย่านสาทรผ่านสะพานตากสินก็ได้โดยง่าย ทั้งนี้โครงการถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ด้วยโครงการอยู่ตรงข้ามห้างซีคอน บางแค และใกล้สถานีรถไฟฟ้า เพียง 40 เมตร มีไลฟสไตล์ที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆที่อยู่ภายในโครงการเน้นพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ และ Facility จัดเต็มโดยแบ่งออกเป็น 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ ทาวเวอร์ A จำนวน 32 ชั้น, ทาวเวอร์ Bจำนวน 31 ชั้น และ ทาวเวอร์ Cจำนวน 29 ชั้น ราคาเริ่มต้น1.79 ล้านบาท  ประกอบด้วย ห้อง Studio ขนาด 25-25.5 ตารางเมตร ,ขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 26.5-37.5ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน  48.5-62ตร.ม. มีสัดสัดส่วนของจำนวนที่จอดรถมากถึง 50% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) จุดเด่นของโครงการที่ต้องไฮไลท์มีทั้งหมด 4 โซน ได้แก่โซนที่ 1 Star Pavilion  ตั้งอยู่บนชั้น 32 ทาวเวอร์ A ที่ให้คุณพาเพื่อนมานั่งชิลล์  ชมวิวกรุงเทพฯแบบพาโนรามา ประกอบด้วยMini Theatre & Karaoke Room , SKY Private Party Roomโซนที่ 2 Double Volume Co-Working Space จัดพื้นที่ให้มี Co- Working Space ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ทันสมัยด้วยสไตล์การออกแบบ Modern Loft ใช้วัสดุไม้ผสมเหล็ก คัดสรรเอาธรรมชาติเข้ามาตกแต่งเพื่อให้เรารู้สึกไม่อึดอัดโซนที่ 3 Double Volume Fitness ฟิตเนสที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ห้องซาว์น่า  ห้องโยคะ และอีกหนึ่งความน่าสนใจ คือBoxing Stage บริเวณชั้น 5 เป็นเวทีมวย ให้ได้ปล่อยพลังกันเต็มอิ่ม ส่วนโซนที่ 4 Pools & Garden สระและสวน มีแรงบันดาลใจมาจากเสน่ห์ของพื้นที่เกษตรกรรมในย่านบางแคเดิมที่เต็มไปด้วย ต้นแค และกล้วยไม้ คลอง และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ จึงนำมารังสรรค์เพื่อใช้ในการออกแบบโครงการเพื่อให้ผู้พักอาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติ สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือทั้ง 2 สระขนาด 6x25 และ 7x24  พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ที่เชื่อมกันระหว่าง 3 อาคารปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการขอ EIA ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุญาตในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563  บริษัทฯ ได้กำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการในงานExclusive Sales วันที่ 26 สิงหาคมนี้ ณ สำนักงานขายโดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนใน Website : naraiproperty.com เพื่อรับ Gift Voucher  มูลค่า 10,000 บาทเมื่อจองและทำสัญญา “ด้วยภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมอยู่ในภาวะทรงตัวในปัจจุบัน การเลือกโลเคชั่นในการพัฒนาโครงการ และการสร้างจุดเด่นที่แตกต่างเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย ในราคาที่สมเหตุสมผลในการพัฒนาโครงการจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่มีการเติบโตของพื้นที่สูง ส่งผลทำให้ราคาที่ดินเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ประกอบการต้องทำให้คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด” นายเจนต์ชัยกล่าว   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับโครงการเดอะพาร์ค แลนด์ เพชรเกษม 56 โทร.02-4548585 www.naraiproperty.com
Pleno ราชพฤกษ์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ

Pleno ราชพฤกษ์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ

Pleno ราชพฤกษ์ โครงการทาวน์โฮมคุณภาพ ใหม่ล่าสุด จาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live in the Embrace of Nature”--ใช้ชีวิตมีระดับ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ – โดดเด่นที่สุดบนทำเลศักยภาพของถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้าสะดวกทุกการเดินทาง เพรียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับทุก Lifestyle ทั้ง คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และส่วนกลางที่มีสวนสวยขนาดใหญ่ ด้วยแรงบันดาลใจ จากดอกราชพฤกษ์ เพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ให้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ   มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของสุดยอดทำเล! สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แสนสบาย กับโครงการใหม่ Pleno ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนทำเลศักยภาพถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สามารถตอบสนองทุกการเดินทางอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว ไม่เกิน 10 นาที ถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชฯ – วงแหวนรอบนอก อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อย่างห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งฯ อย่าง Central Plaza WestGate, Central Plaza รัตนาธิเบศร์, The Walk ราชพฤกษ์, The Crystal SB ราชพฤกษ์  และใกล้โรงพยาบาลกับสถานศึกษาชั้นนำ เช่น รพ. เกษมราษฐ์ รัตนาธิเบศร์ รพ. พระนั่งเกล้า  รร.อนุบาลเด่นหล้า รร. เทพศิรินทร์ นนทบุรี เป็นต้น เรียกว่าเป็น ทำเลศักยภาพ ที่เพรียบพร้อมและน่าจับตามองในการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง   รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ   :   Pleno ราชพฤกษ์ สถานที่ตั้ง   :   บางกร่าง 45 ถ.ราชพฤกษ์ ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000 ลักษณะโครงการ   :   ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน   :   346 ยูนิต พื้นที่โครงการ   :   29-3-75.5 ไร่ พื้นที่ขาย   :   6,938.3 ตารางวา พื้นที่สวนสาธารณะ    :   352.4 ตารางวา พื้นที่ตั้งอาคารสโมสรและสระว่ายน้ำ   :   134.9 ตารางวา รายละเอียดแบบบ้าน แบบบ้าน FLORA  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 106.86 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก   ฟิตเนต สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะภายในโครงการ พื้นที่ตั้งนิติบุคคล ระบบรักษาความปลอดภัย เส้นทางคมนาคม เพียง 800 ม. จากถนนราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางรักใหญ่ 6 กม. เดินทางสะดวกสบายหลายเส้นทาง ถ.ราชพฤกษ์ ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ถ.รัตนาธิเบศร์. เชื่อมสู่เมืองด้วยทางพิเศษสายศรีรัช– วงแหวนรอบนอก ที่ ถ.ราชพฤกษ์ สถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลพลาซา เวสเกต เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์  เดอะ วอล์ค ราชพฤกษ์ เดอะ คริสตัล พาร์ค ราชพฤกษ์ สถานพยาบาล    รพ.เกษมราษฏร์ รัตนาธิเบศร์ รพ.พระนั่งเกล้า   เว็ปไซต์   :   http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ   :   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร   :   1623 Pleno ราชพฤกษ์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นในบ้าน ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างอิสระ บนทำเลศักยภาพ ถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ เพียง 10 นาที และใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง เชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย เริ่มต้น 2.09 ล้าน* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
Pleno ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ใช้ชีวิตอย่างมีระดับ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ

Pleno ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ใช้ชีวิตอย่างมีระดับ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ

Pleno ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ โครงการทาวโฮมจากแบรนด์ AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live in the Embrace of Nature”-- ใช้ชีวิตมีระดับ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ – ที่สุดแห่งทาวน์โฮมทำเลศักยภาพที่โดดเด่นบน ถ.ชัยพฤกษ์ โอบล้อมด้วยธรรมชาติตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคนเมืองด้วยการเดินทางใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้าเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ พระราม 5 สะดวกทุกการเดินทาง โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ภายในโครงการพร้อมสถาปัตย์ที่ดีไซน์สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากดอกชัยพฤกษ์เติมเต็มความต้องการของชีวิตที่สมบูรณ์แบบ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของสุดยอดทำเล! ทำเลศักยภาพใกล้ทางด่วน สามารถตอบสนองทุกการเดินทางที่มุ่งสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว  ใกล้ถนนชัยพฤกษ์และถนนหมายเลข 345 เชื่อมต่อการเดินทางด้วยทางด่วนศรีรัชฯและรถไฟฟ้าสายสีม่วง สะดวกรวดเร็วกับโครงการ Pleno ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้างสรรพสินค้า เดอะ คริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์, เซนทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ, โฮมโปร ชัยพฤกษ์, เมเจอร์ ฮอลลีวูด ปากเกร็ด, โรงพยาบาลปากเกร็ด, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านนทบุรีและโรงเรียนาสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ รายละเอียดโครงการ โครงการพลีโน่    ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ สถานที่ตั้ง    ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่โครงการ    18-3-34 ไร่ พื้นที่ขาย    4,515.40 ตร.วา พื้นที่สวนสาธารณะ    228.60 ตร.วา พื้นที่ตั้งอาคารสระว่ายน้ำ    53.80 ตร.วา จำนวนยูนิต    229 ยูนิต รายละเอียดบ้าน แบบบ้าน FLORA  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  106.86 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะภายในโครงการ พื้นที่ตั้งนิติบุคคล ระบบรักษาความปลอดภัย เส้นทางคมนาคม    ถนนชัยพฤกษ์ และ ถนน 345 สถานศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านนทบุรี โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้ง The Crystal PTT ชัยพฤกษ์ Central แจ้งวัฒนะ HomePro ชัยพฤกษ์ Major  Hollywood ปากเกร็ด สถานพยาบาล โรงพยาบาลปากเกร็ด โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สถานที่สำคัญ อบต.คลองพระอุดม วัดสะพานสูง เว็ปไซต์    http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    1623
‘เอพี ไทยแลนด์’ มุ่งลดคาร์บอนในอากาศ จับมือ ‘บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป’ ลงนามเปิดตัวโครงการ ‘ChargeNow’ สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมล้ำหน้าแห่งอนาคต

‘เอพี ไทยแลนด์’ มุ่งลดคาร์บอนในอากาศ จับมือ ‘บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป’ ลงนามเปิดตัวโครงการ ‘ChargeNow’ สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมล้ำหน้าแห่งอนาคต

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ริเริ่มโครงการ ‘ChargeNow’ เครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอกย้ำความเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเพื่อเท่าทัน และล้ำหน้าต่อเทรนด์การใช้ชีวิตด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่เพียงแต่ที่อยู่อาศัย แต่ยังหมายรวมถึงคุณภาพสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของสังคมเมืองอีกด้วย เอพีมุ่งหวังนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมไร้การปล่อยก๊าซคาร์บอนในที่สุด โดยจะเริ่มสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้ากับคอนโดมิเนียมเครือเอพี และขยายต่อไปยังโครงการอื่นๆ ในอนาคต นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม กล่าวว่า “เอพี (ไทยแลนด์) เราดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์สำคัญ คือ ‘AP Think Different’ โดยเราให้ความสำคัญกับการคิดต่าง และพัฒนาธุรกิจเพื่อความสำเร็จแบบยั่งยืน เราจึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนา เพื่อเท่าทันและล้ำหน้าต่อเทรนด์การใช้ชีวิต และเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคต และตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 26 โดยเป้าหมายสูงสุดของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนเมือง เรามุ่งมั่นที่จะสร้าง       ที่อยู่อาศัยซึ่งตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตอันทันสมัย เราเปิดรับทุกไอเดียใหม่ๆ ทางเลือกในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการใช้พื้นที่ต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อการมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของผู้อยู่อาศัย และเอพี (ไทยแลนด์) มองว่าโครงการ ChargeNow จึงเป็นแง่มุมใหม่ของการใช้ชีวิตอันทันสมัย และยังสามารถลดจำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างแท้จริง เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตร ผู้ริเริ่มโครงการที่ดี และล้ำสมัยอย่างโครงการ ChargeNow เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย และนำไปสู่การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมเติบโตไปกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอนาคต” “การสนับสนุนให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า และระบบปลั๊กอิน ไฮบริดจะช่วยให้สามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศได้ เนื่องจากการหันมาใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า หรือระบบปลั๊กอิน ไฮบริดจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันได้ถึง 50% เมื่อลดการใช้ปริมาณน้ำมันจะสามารถลดการผลิตมลพิษทางอากาศได้ด้วยเช่นกัน” นายวิทการกล่าวเสริม ในปัจจุบัน โครงการ ChargeNow ให้บริการสถานีสาธารณะในการชาร์จรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 65,000 แห่ง ใน 27 ประเทศทั่วโลก ด้วยวิธีการชาร์จที่สะดวกและรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย สถานีโครงการ ChargeNow จะแสดงที่ตั้งผ่านสมาร์ทโฟน และในเว็บไซต์ ซึ่งสามารถช่วยให้ลูกค้าทราบได้ว่าสถานีไหนว่างพร้อมให้บริการหรือมีการใช้งานอยู่ โดยลูกค้าจะได้รับการ์ด ChargeNow และสามารถเข้ารับบริการในสถานีซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ลูกค้าสะดวก ลูกค้าจะได้รับบิลค่าบริการทุกสิ้นเดือนเช่นเดียวกับบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือ โครงการ ChargeNow จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเจ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหัวชาร์จ AC ทั้งแบบ Type 1 (SAE J1772) และ Type 2 (IEC 62196) ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดหรือยี่ห้อใดโดยจะมีการชี้แจงถึงรายละเอียดในการลงทะเบียนล่วงหน้า ในช่วงประมาณไตรมาสที่สามของปี 2560 นี้ “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง”
GLAND กำไรไตรมาส 2 พุ่ง 176.84%

GLAND กำไรไตรมาส 2 พุ่ง 176.84%

บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) GLAND แจ้งผลกำไร งวด 3 เดือน (ไตรมาส 2) มีกำไรสุทธิจำนวน 305.02 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 110.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 194.84 ล้านบาท คิดเป็น 176.84% นายสุรกิจ ธารธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ของ GLAND แจ้งว่า หลังจากที่ GLAND จัดตั้งกอง REIT เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 โดย GLAND ให้เช่าอาคารสำนักงาน The 9th Towers  และ Unilever House แก่ กองทรัสต์ GLANDRT คิดเป็นค่าเช่าตลอดอายุสัญญา จำนวน 5,997.7 ล้านบาท ส่งผลให้ GLAND มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก “ใน Pipe line เรายังมีอาคารสำนักงานให้เช่า G Tower ที่จะนำเข้ากอง REIT อีก ซึ่งตอนนี้ G Tower ปล่อยเช่าเต็มพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ GLAND ยังมีพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าที่จะจัดตั้งกอง REIT พื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นอีก 1 กองในอนาคต” นายสุรกิจ กล่าว สำหรับอาคาร จี ทาวเวอร์ เป็นอาคารมีดีไซน์ที่ได้รับการชื่นชมจากนิตยสาร Architecture นิตยสารออกแบบระดับโลก ได้นำไปลงปกเพื่อเผยแพร่ พร้อมยกให้เป็นอาคารรูปทรงล้ำสมัย “The Next Generation of Architecture in Asia, New Building Technologies” โดยส่วนมากเป็นผู้เช่าที่ประกอบธุรกิจทางการเงิน การประกันภัย เช่น กรุงไทยแอ็คซ่า, SCB, Huawei, DHL, TOTO  และ Booking.com  ซึ่งชี้ให้เห็นว่าทำเลที่ตั้งของอาคารสำนักงานใจกลางเมือง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัย และการออกแบบที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถดึงดูดผู้เช่ารายใหญ่ได้จำนวนมาก “จากรายได้หลักของบริษัทที่มาจาก โครงการ เดอะ แกรนด์ พระราม 9 ด้วยความต้องการอาคารสำนักงานที่มีมากขึ้น ทำให้บริษัทเตรียมก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ได้แก่ อาคาร เดอะ ซุปเปอร์ ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศ ด้วยพื้นที่ใช้สอย 320,000 ตร.ม. โดยตั้งเป้าให้เป็นทั้งศูนย์รวมของอาคารสำนักงานเกรดเอ ศูนย์ประชุมและห้องจัดเลี้ยง ร้านอาหาร และจุดชมวิวที่สูงที่สุดในประเทศในอนาคต พร้อมรองรับลูกค้ากลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และจากแผนการพัฒนาโครงการ เดอะ ซุปเปอร์ ทาวเวอร์ จะส่งผลให้ โครงการ เดอะ แกรนด์ พระราม 9 กลายเป็นอาณาจักรที่มีครบทั้ง 6 ฟังก์ชัน ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม ศูนย์การค้า สถานที่จัดเลี้ยง และสถานที่ท่องเที่ยว และทาง GLAND ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยว และโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าสายสีแดงในอนาคตอีกด้วย” นายสุรกิจ กล่าวในท้ายที่สุด  
ส.ธุรกิจรับสร้างบ้านลั่นฆ้องเปิดงาน “Home Builder & Materials Expo 2017”

ส.ธุรกิจรับสร้างบ้านลั่นฆ้องเปิดงาน “Home Builder & Materials Expo 2017”

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านควงพันธมิตรเปิดงาน 3 งานยิ่งใหญ่ของวงการธุรกิจที่อยู่อาศัย “พิชิต อรุณพัลลภ” เผยงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2017” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–20 สิงหาคม 2560 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งเป้ายอดขายที่ 2,700 ล้านบาท วันนี้ (17 สิงหาคม2560) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นประธานเปิดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2017” จัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 17–20 สิงหาคม 2560 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดงานของอีก 2 งานคือ อภิมหกรรมบ้าน –  คอนโด และสินเชื่อแห่งปี จัดโดยสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย และงาน International Realtors Conference and Real Estate Expo 2017 จัดโดย NATIONAL ASSOCIATION OF REALTORS โดยนายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่าในการจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2017 จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะยกระดับมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นส่วนช่วยในการกระตุ้นตลาดรับสร้างบ้าน อันเป็นส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจทางด้านที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน และในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 17 -20 สิงหาคม 2560 โดยมีบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ เข้าร่วมแสดง กว่า 30 บริษัท รวมถึงผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างและนวัตกรรมเกี่ยวกับบ้าน สถาบันการเงิน และสื่อในวงการอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของกิจกรรมภายในงาน ปีนี้ สมาคมฯ ได้จัดเตรียมกิจกรรมต่าง ๆ ไว้มากมายซึ่งประกอบไปด้วย  - การแสดงงานของกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ จำนวนกว่า 30  บริษัท พร้อมด้วยแบบบ้านที่มีให้เลือกภายในงานมากกว่า 1,000 แบบ ถือเป็นงานเดียวที่รวบรวมแบบบ้านไว้มากที่สุด นอกจากนี้ หลายบริษัทยังมีการนำแบบบ้านที่ออกแบบใหม่ล่าสุด และไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน มาจัดแสดงภายในงานนี้ พร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านโดยเฉพาะ -  มุมที่ปรึกษาสถาปนิก และวิศวกร เพื่อให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย -  การแสดงนวัตกรรมจากพันธมิตรกลุ่มผู้ผลิต และจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ที่นำนวัตกรรมเกี่ยวกับบ้านมาจัดแสดงในงาน เช่น เทรนด์บ้านแบบ Eco-Friendly หรือบ้านประหยัดพลังงาน, เทรนด์ Home Tech สำหรับคนรุ่นใหม่ที่จะมีการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย รวมถึงเทรนด์การออกแบบ และปลูกสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น  - มุมบ้านราคาพิเศษ HOT PRICE - มุมที่รวบรวมบ้านราคาพิเศษจำนวน 28  หลังในราคาสุดพิเศษ - นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นเฉพาะผู้ที่จองปลูกสร้างบ้านภายในงาน ยังมีสิทธิลุ้นรับ รถยนต์ Suzuki Celerio จำนวน 1 คัน และทองคำหนัก 1 บาทอีก 4 รางวัล - กิจกรรม CSR ของสมาคมฯ โดยในปีนี้สมาคมฯ จัดกิจกรรม “สร้างล้าน  ช่วยร้อย” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ “สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน สร้างอนาคตเพื่อเด็กไทย” ซึ่งยอดจองปลูกสร้างบ้านในงานทุก ๆ 1 ล้านบาท จะสมทบ 100 บาท เพื่อนำไปซื้อเครื่องติดตามการทำงานของหัวใจ และระบบไหลเวียนของเลือดชนิดเคลื่อนที่ได้ และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อหัตถการทางการแพทย์สำหรับเด็ก เพื่อมอบให้กับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) พร้อมกันนี้ นายพิชิต ยังกล่าวในตอนท้ายว่าสมาคมฯ เชื่อมั่นว่า งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2017 จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยพัฒนา และยกระดับมาตรฐานเศรษฐกิจฐานรากให้กับประเทศ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภคต่อไปพร้อมกับตั้งเป้ายอดขายภายในงาน 2,500-2,700 ล้านบาท
เมทริส คอนโด 3 ทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ครบทุกมิติของชีวิตที่สมบูรณ์

เมทริส คอนโด 3 ทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ครบทุกมิติของชีวิตที่สมบูรณ์

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปดูทำเลศักยภาพและความพิเศษของคอนโดมิเนียมแบบ High Rise แบรนด์ใหม่ เมทริส บนสามทำเล Expanding CBD อย่าง ลาดพร้าว, พัฒนาการ, พระราม 9 –รามคำแหง ซึ่งเพิ่งเปิดตัวกันไปไม่นานและน่าสนใจมากๆ กับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบ ‘มิด-เซ็นจูรี่ โมเดิร์น’ (Mid-Century Modern) ที่ผสานความคลาสสิก ความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ Remaster The Modern DNA ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่รักอิสระ ชอบความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความสง่างามเหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นคอนโดคุณภาพในเครือ Major Development นั่นเองค่ะ   เรื่องทำเลที่ตั้งหลายคนคงจะรู้จักและทราบกันดีอยู่แล้วว่า เมทริส (METRIS) มีทั้งหมด 3 โครงการ 3 ทำเลศักยภาพที่น่าจับตามากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะแต่ละโครงการอยู่ในย่าน Expanding CBD แวดล้อมด้วยร้านกาแฟเก๋ๆ  ห้างสรรพสินค้า และศูนย์รวมความบันเทิงที่ครบครัน  พร้อมกับความสะดวกสบายในแง่ของการเดินทาง และการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ไม่ต่างจากในเมือง อาทิ การเดินทางไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (Airport Rail Link) และทางด่วน หรือเส้นทางโทลล์เวย์ที่สามารถเดินทางเข้าในเมืองหรือออกนอกเมืองไปยังต่างจังหวัดได้อย่างรวดเร็ว แต่จะมีรายละเอียดอะไรบ้างสามารถดูได้ที่นี่เลยค่ะ.. เมทริส พระราม 9 -รามคำแหง, เมทริส พัฒนาการ, เมทริส ลาดพร้าว    เมทริส พระราม 9-รามคำแหง เริ่มต้นด้วย เมทริส พระราม 9-รามคำแหง ตั้งอยู่ในทำเลอันแสนสะดวกสบายบริเวณแยกพระราม9 - รามคำแหง จุดเด่นของโครงการนี้คือทำเลดีที่สุดของส่วนต่อขยายเมือง ซึ่งกำลังพัฒนาไปเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการคมนาคม Expanding CBD Rama 9 เชื่อมต่อในตัวเมืองอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 10 นาทีก็ถึงเอกมัยแล้ว โครงการล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ โฮมโปร, ฟู๊ดแลนด์, เดอะมอลล์รามคำแหง 2 และ 3 ทั้งยังเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกด้วยทางด่วนพิเศษศรีรัช, ทางด่วนรามอินทรา เชื่อมต่อชีวิตคนเมืองด้วยการเดินทางใกล้รถไฟฟ้า ARL, MRT Ramkamhang station 12 (รฟฟ.สายสีส้ม) ที่ห่างเพียง 300 เมตรเท่านั้น อีกเรื่องที่ถือเป็นจุดขายของเมทริส พระราม 9-รามคำแหง คงจะหนีไม่พ้นทางเข้า-ออก ซึ่งตามชื่อโครงการเลย ที่สามารถเข้าออกได้ถึง 2 ทาง ทั้งฝั่งถนนพระราม 9 และฝั่งถนนรามคำแหง ทำเลนี้มีดีเรื่อง option การเดินทางจริงๆ ค่ะ นอกจากทำเลที่น่าสนใจแล้ว ดีไซน์ตัวอาคารก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะใช้เส้นสายแนวตั้งเรียบง่ายแข็งแรง สะท้อนสไตล์เรียบเท่ด้วยรูปทรงเลขาคณิต สร้างความสมดุลจากความต่างอย่างลงตัว การออกแบบภายในถูกลดทอนให้เกิดความเรียบง่าย เปิดให้เห็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน เผยโครงสร้างและวัสดุที่ใช้ด้วยไม้สีเข้ม พื้นผิวปูนเปลือย เสาหินสีดำเงาและกระจกสีทอง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ในโครงการก็ยังคงรูปแบบและโทนสีเอกลักษณ์ของยุค Mid- Century Modern ได้เป็นอย่างดี เมทริส พระราม9-รามคำแหง - ล็อบบี้ เมทริส พัฒนาการ ต่อมากับ เมทริส พัฒนาการ คอนโดสำหรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง จุดเด่นอยู่ที่ความเป็นส่วนตัวท่ามกลางส่วนต่อขยายเมืองที่ไม่วุ่นวาย ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพซอยพัฒนาการ 12 ที่สะดวกต่อการเข้าเมืองและออกนอกเมืองได้หลายเส้นทาง เพียง 10 นาทีถึงทองหล่อ-เอกมัย จะทะลุพัฒนาการ 20 ออกถนนอ่อนนุช 17 ก็เป็นอีกทางออกที่ดีไม่ไช่น้อย และยังอยู่ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียง 100 เมตร สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะไปชลบุรี พัทยา หรือแม้แต่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเดินทางเข้าเมืองก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงทองหล่อและเอกมัยแล้วค่ะ ที่สำคัญกำลังจะมีอุโมงค์ทางลอดรามคำแหง – พัฒนาการสามารถเชื่อมไปยังแอร์พอร์ทลิงค์สถานีหัวหมากได้ด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561 ถือว่าเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ทำงานฝั่งสุวรรณภูมิ หรือระแวกใกล้เคียง นอกจากจะเป็นทำเลที่สะดวกแล้ว การดีไซน์อาคารยังแสดงออกถึงความเรียบง่ายในรูปแบบเฉพาะตัว แต่ยังคงกลิ่นอาย Mid-century Modern ทั้งยังตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่โดยจัดให้มีพื้นที่สีเขียวควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมต่างๆด้วยแนวคิด NEW URBAN LIFESTYLE ซึ่งมีพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งด้านนอกและในตึก อาทิ ลานบาสเกตบอล, ฟิตเนสกลางแจ้ง, ลานบาร์บีคิวสำหรับจัดปาร์ตี้ และสระว่ายน้ำพร้อมวิว 180 องศา ลานบาสเกตบอลและสระว่ายน้ำพร้อมวิว 180 องศา เมทริส ลาดพร้าว – 1 ห้องนอน สุดท้ายกับ เมทริส ลาดพร้าว ตั้งอยู่ในทำเลทองย่านลาดพร้าวจริงๆ ค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนลาดพร้าวในซอย 8 จุดเด่นแรกอยู่ในด้านโลเคชั่นที่สะดวกสบายต่อการเดินทางแสนง่าย เชื่อมต่อ 3 เส้นทางสำคัญ เช่น ถ้าจะเข้าเมืองก็สะดวกโดยใช้เส้นพหลโยธินขาเข้า ส่วนขาออกก็ออกทางถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปดอนเมือง-รังสิต หรือจะหลบรถติดเส้นสะพานควาย อารีย์ ก็มาวิ่งเส้นวิภาวดี มุ่งหน้าแยกดินแดงเพื่อขึ้นทางด่วนดินแดงก็ได้เช่นกัน บอกได้เลยว่า เมทริส ลดพร้าว เหมาะกับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และกลุ่มคนที่ทำงานตามออฟฟิศทาวน์เวอร์ตามเส้นทางที่กล่าวมา รวมถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวกรวดเร็วเพราะอยู่ห่างจาก MRT พหลโยธิน เพียง 250 เมตร  ไม่เพียงเท่านี้ยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, สวนสาธารณะ, สถานศึกษา และสถานพยาบาล ที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้อาศัยได้เป็นอย่างดี เมทริส ลาดพร้าว - 2 ห้องนอน นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ลูกบ้านจะได้รับแล้ว เช่น สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Co-Working Space เมทริส ลาดพร้าว  ยังมีระบบจอดรถอัตโนมัติที่เพิ่มความสะดวกสบายในการจอดรถอีกด้วย พื้นที่ส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยง   จะว่าไปแล้วความน่าสนใจของทั้ง 3 โครงการก็ดูโดดเด่นไม่แพ้กัน สำหรับห้องชุดในโครงการประกอบไปด้วยห้อง 3 ประเภท ได้แก่ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในราคาต่อตารางเมตรที่ 90,000-120,000 บาท อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าแบรนด์ เมทริสพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายเหนือระดับ ทั้งยังให้มากกว่าใคร อาทิ เทคโนโลยีการเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ (Motion Sensor Lighting) ในโถงทางเดินของโครงการช่วยให้ลูกบ้านประหยัดเงินค่าส่วนกลาง ภายในโครงการเลือกใช้แต่งสุขภัณฑ์แบรนด์ดังชั้นนำระดับสากลอย่าง HAFELE (รับประกัน 5 ปี*) และยังมีฟิตเนสสุดล้ำสำหรับคนรักสุขภาพกับ Dynamic Fitness Center ให้ความรู้สึกอุ่นใจปลอดภัยด้วยระบบ Digital Door Lock พร้อม Car Wash พื้นที่ล้างรถสำหรับลูกบ้าน ที่สำคัญคืออนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิต Pet-Friendly Condo ซึ่งมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ลูกบ้านจะได้ความรู้สึกสะดวกสบายอย่างเพียบพร้อม และยังสัมผัสได้ถึงความงามแบบย้อนยุคแต่คงไว้ซึ่งความทันสมัยต่อเนื่องเชื่อมกันไปทั้งโครงการ   คงต้องบอกว่า เมทริส (METRIS) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพจาก Major Development ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ ทั้งด้วยศักยภาพของทำเล และตัวโครงการเองที่มีการจัดสรรพื้นที่ในส่วนต่างๆ ไว้อย่างลงตัว รวมถึงเลือกใช้วัสดุที่คุ้มค่าเกินราคาห้อง ใครที่กำลังเล็งห้องในทำเลทั้ง 3 ย่านนี้อยู่ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน ขอกระซิบให้รีบตัดสินใจเลยค่ะ เพราะทั้งสามโลเคชั่นที่โครงการเลือกนั้นเป็นย่านธุรกิจที่จะขยายตัวในอนาคต สอดรับกับความต้องการของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการลงทุนในทำเลทองที่มีแนวโน้มในการเพิ่มมูลค่าขึ้นทุกปีแน่นอน ซึ่งปัจจุบันกำลังเดินการสร้างอยู่และจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2563 แถมยังอยู่ในเรทราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก ยังไงก็เก็บไว้พิจารณากันดูนะคะ   สำหรับผู้ที่สนใจ โครงการ เริ่ม 2.8 ล้าน* เปิดจองพร้อมกัน 3 ทำเล พัฒนาการ, พระราม9-รามคำแหง และลาดพร้าว วันที่ 7-10 ก.ย. นี้ ที่งาน September Hot ชั้น 1 Fashion Hall, Siam Paragon  ฟรี! เครื่องดูดฝุ่น iRobot! ลงทะเบียนออนไลน์ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 40,000 บาท* เมทริส ลาดพร้าว คลิก https://goo.gl/z3GaMZ เมทริส พัฒนาการ คลิก https://goo.gl/dUqp3Y เมทริส พระราม9-รามคำแหง คลิก https://goo.gl/fGhmGQ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-116-1111
The Excel Ratchada 17 ตอบโจทย์ทำเลสวยกับความพร้อมทุกการใช้ชีวิต

The Excel Ratchada 17 ตอบโจทย์ทำเลสวยกับความพร้อมทุกการใช้ชีวิต

เดี๋ยวนี้การจะเลือกเป็นเจ้าของคอนโดซักห้อง คงไม่จำเป็นแล้วว่าจะต้องเลือกแต่คอนโดใหญ่ใจกลางเมืองเท่านั้น ถ้าคอนโดมิเนียมโครงการไหนอยู่บนทำเลที่ดี สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย มีถนนสายหลักเชื่อมโยงไปได้หลายทาง บวกกับอยู่ใกล้กับแหล่งช็อปปิ้ง ใกล้แหล่งชุมชนบ้าง แค่นี้ก็คงเป็นเหตุผลดึงดูดที่เพียงพอให้เราตัดสินใจซื้อคอนโด…. จริงมั้ยคะ? ถ้าใครกำลังมองหาคอนโดมิเนียมดีๆ ซักห้องบนเงื่อนไขที่ว่ามานี้ล่ะก็ เรามีคอนโดมิเนียมน่าสนใจที่แทรกตัวอยู่ในย่านรัชดาภิเษกมาแนะนำกันค่ะ โครงการที่ว่านี้ก็คือ “The Excel Ratchada 17” คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดจาก All Inspire ซึ่งคอนเซปต์โครงการสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ที่ต้องการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมบนทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง และเพียบพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง เราจะไปดูกันค่ะว่าทำเลใน “ซอยรัชดาภิเษก 17” จะตอบโจทย์ในการอยู่อาศัยของคนเมืองมากน้อยแค่ไหน มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง การเดินทางไปยังโครงการสะดวกอย่างไร.... ไปทำความรู้จักกับทำเลศักยภาพนี้กันเลยค่ะ เดินทางสะดวก ครอบคลุมทุกเส้นทาง เริ่มต้นกันด้วยการเดินทางมายังโครงการ “The Excel Ratchada 17” สามารถเดินทางได้หลายทิศทาง และหลายวิธีการเลยค่ะ การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดก็คือ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ซึ่งมีสถานีสุทธิสาร อยู่ใกล้ๆ ปากซอยรัชดาภิเษก 17 เลยทีเดียว ขึ้นจากสถานีแล้วเดินมาอีกนิดหน่อย ก็สามารถเลือกต่อรถรับจ้าง หรือเรียกวินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ แต่ถ้าอยากออกกำลังกายซักหน่อย ลองเดินเข้าซอยไปที่โครงการก็ได้นะคะ บรรยากาศในซอยโอเคเลยค่ะ เดินได้ไม่ยากมีทางเท้าตลอดเส้นทาง ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์นั้น ถนนหนทางแถบนี้เชื่อมโยงกันเป็นใยแมงมุมเลยค่ะ เข้าออกได้หลายทางมากๆ ถนนสายหลักๆ ที่เราสามารถเลือกใช้เดินทางมายังโครงการก็คือ ถนนรัชดาภิเษก, ถนนสุทธิสารวินิจฉัย, ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนดินแดง โดยถนนสายหลักทั้ง 4 สายนี้จะถูกเชื่อมโยงด้วยถนนย่อยในซอยต่างๆ ซึ่งซอยรัชดาภิเษก 17 ก็เป็นซอยสำคัญที่มีเส้นทางลัดเลาะไปออกถนนสายหลักที่ว่ามานี้ทั้งหมดเลยทีเดียว.... ลองมาดูกันค่ะ ว่าซอยรัชดาภิเษก 17 เป็นเส้นทางลัดไปออกซอยไหนได้บ้าง หากต้องใช้ทางด่วน จากเส้นทางลัดเลาะที่ว่ามานี้ ก็ทำให้ด่านทางด่วนดินแดง และด่านทางด่วนพระราม 9 เป็นทางเลือกในการขับรถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างง่ายดาย รวมถึงทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่ใกล้กับโครงการอีกเช่นกันค่ะ วันไหนถ้าขี้เกียจขับรถ ก็เรียก Taxi หรือใช้บริการรถประจำทางบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปค่ะ รถราผ่านในซอยเยอะหาเรียก Taxi ได้ไม่ยากค่ะ อีกอย่างถนนในซอยประชาสุขซึ่งเชื่อมกับซอยรัชดาภิเษก 17 ก็มีรถเมลวิ่งผ่านหลายสายเลยค่ะ จากหน้าโครงการไปแค่ 100  เมตรเท่านั้น ก็เจอป้ายรถเมล์แล้ว แถมบริเวณนั้นยังมีป้อมตำรวจเพิ่มความอุ่นใจในการสัญจรและอยู่อาศัยได้อีกด้วย   สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เพื่อชีวิตที่ใช่ การอยู่คอนโดมิเนียม ชีวิตต้องง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมเพื่อการอยู่อาศัยถึงจะตอบโจทย์คนเมือง “The Excel Ratchada 17” อยู่ในย่านที่พร้อมไปด้วยอาหารการกิน แหล่งช็อปปิ้ง สถานที่ Hangout สถานศึกษา รวมถึงแหล่งงานใหญ่ๆ ที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างครบครัน อาทิเช่น ตลาดเมืองไทยภัทร, The Street รัชดา, Esplanade รัชดา, เซ็นทรัล พระราม 9, ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, ตลาดห้วยขวาง, ตลาดนัดรถไฟ, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, อาคารเมืองไทยภัทร, G Land Tower, มหาวิทยาลัยหอการค้า, โรงพยาบาลพระราม 9 ฯลฯ นอกจากสถานที่ใหญ่ๆ ที่เรายกตัวอย่างไปแล้วนั้น บริเวณซอยรัชดาภิเษก 17 ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อปลีกย่อยให้เราได้พึ่งพาอีกเพียบ เริ่มตั้งแต่บริเวณปากซอยที่มีทั้ง McDonald และ Max Value ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ แบรนด์ดังอีกหลายร้านให้เลือก พอขยับเข้าซอยมาอีกหน่อย ร้านอาหารง่ายๆ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง อาหารตามสั่งก็มีให้เลือกเป็นระยะๆ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟดีๆ ก็มีให้เห็นค่ะ..... ใกล้ๆ ที่ตั้งโครงการเอง ก็มี 7-11 อยู่ห่างออกไปเพียง 100 เมตรเท่านั้น ความเพียบพร้อมในเรื่องอาหารการกินต้องบอกว่าไม่ผิดหวังแน่นอน aboutthailandliving.com บรรยากาศในย่านรัชดาภิเษก หลายคนก็รู้ดีว่าย่านนี้จัดเป็น New CBD ที่แทบจะไม่เคยหลับใหล กิจกรรมต่างๆ บนถนนสายนี้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ร้านค้า ร้านอาหาร หลายแห่งจึงเปิดให้บริการกันแบบ 24 ชั่วโมง ผู้คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้จึงมีตัวเลือกเยอะเลยค่ะ ตั้งแต่ของอร่อยริมข้างทาง ในตลาดสด ไปจนถึงร้านหรูบนห้าง แหล่ง Hangout หรือร้านอาหารนานาชาติอีกมากมาย จนต้องบอกว่ามีให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวจริงๆ ค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะกับทำเลศักยภาพบนถนนรัชดาภิเษก ที่ตั้งของโครงการ “The Excel Ratchada 17” ที่เราเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ และเราคงบรรยายได้ไม่สมจริงเท่ากับการได้ลองไปสัมผัสความเป็นอยู่ในย่านรัชดาภิเษก ด้วยการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม The Excel Ratchada 17 ซักห้อง   เราเชื่อว่าด้วยการออกแบบของโครงการ และ Faclity ที่ทาง The Excel Ratchada 17 จัดมาอย่างเต็มที่ น่าจะเป็นคำตอบที่โดนใจใครหลายๆ คน ที่จะทำให้การอยู่ในคอนโดมิเนียมทำเลดีๆ ซักแห่งเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อม คลิกดูรายละเอียดโครงการ  https://goo.gl/HBj7wU Website โครงการ : www.allinspire.co.th Tel. : 02-029-9999
ศุภาลัย เปิดบ้านจัดงานแถลงข่าวสรุปยอดขายครึ่งปีแรก และเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ใหม่ พร้อมโชว์ยอดขายโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ ทะลุ 2,000 กว่าล้านบาท ในวันเปิดจอง

ศุภาลัย เปิดบ้านจัดงานแถลงข่าวสรุปยอดขายครึ่งปีแรก และเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ใหม่ พร้อมโชว์ยอดขายโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ ทะลุ 2,000 กว่าล้านบาท ในวันเปิดจอง

ผ่านพ้นไปด้วยความชื่นมื่นกับงานแถลงข่าวครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมากับ สรุปยอดขายของ บมจ.ศุภาลัย ครึ่งปีแรก 2560 พร้อมเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ใหม่ล่าสุด “ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ” ภายใต้คอนเซปต์ Convenience of Life #ชีวิตติดสบาย ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 150 เมตร ภายในงานได้รับเกียรติจาก 2 ผู้บริหาร ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร และนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ ที่มาต้อนรับสื่อมวลชนด้วยความเป็นกันเอง โดยนายไตรเตชะ ระบุว่า ไตรมาส 2 บริษัทฯ สามารถกวาดยอดขายได้พุ่งสูงถึง 13,344 ล้านบาท เติบโต 29% โดยแบ่งเป็นตัวเลขยอดขายจากโครงการแนวราบ 8,154     ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 5,190 ล้านบาท อีกทั้งยังเปิดเผยข้อมูลโครงการ “ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ” เป็นครั้งแรก กับราคาสุดสบายกระเป๋า เริ่มเพียง 1.5 ล้านบาท ผ่อนสบายๆ เริ่มเดือนละ 4,900 บาท และอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดในงานวันแถลงข่าว  คือการรวมสุดยอดร้านอร่อยย่านภาษีเจริญ ในบรรยากาศภาษีเจริญ Food Street มาร่วมสังสรรค์มื้อกลางวันระหว่างผู้บริหารและสื่อมวลชน ได้อิ่ม อร่อย ประทับใจ เสมือนได้อยู่ในย่านภาษีเจริญ อีกทั้งยังเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อโครงการ “ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ” สามารถกวาดยอดขายทะลุถึง 2,000 กว่าล้านบาท ในงานเปิดจองวันที่ 5-6 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเข้ามารอคิวจับจองกันตั้งแต่ช่วงเช้า และทยอยเข้ามาจองซื้อกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อมอบชีวิตติดสบายสำหรับผู้พักอาศัย โดยให้ทุกการใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายๆ สบายกว่าใคร อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และใกล้ระบบคมนาคมที่สะดวกรวดเร็วอย่างรถไฟฟ้า แวะเวียนไปเยี่ยมชมโครงการได้ที่สำนักงานขาย สอบถามข้อมูลโทร 1720 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.supalai.com