Tmb X Wisesight

ทีเอ็มบี จับมือ ไวซ์ไซท์ ล้วงพฤติกรรมการเงิน GEN Y อะไรคือของที่พวกเขาต้องมีก่อน 40

ทีเอ็มบี จับมือ ไวซ์ไซท์ เผยข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกทางการเงินในโซเชียลมีเดียของกลุ่มคน “GEN Y” ผ่านแคมเปญ #ของมันต้องมีก่อน40

 

พบส่วนใหญ่มีความฝันสร้างอนาคตที่ดีและมั่นคง อยากมีบ้าน รถ และเงินออม  ชี้พฤติกรรมการเงินที่ส่งผลให้ GEN Y ไปไม่ถึงเป้าหมายทางการเงิน พร้อมแนะทางแก้ปัญหาเพื่อให้ GEN Y มีพฤติกรรมทางการเงินที่ดีขึ้น

ทีเอ็มบีจัดแคมเปญ #ของมันต้องมีก่อน40

นางกาญจนา  โรจวทัญญู หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับไวซ์ไซท์ (WISESIGHT) ผู้นำด้าน Social Monitoring Tool รายใหญ่ของไทย ในการจัดทำแคมเปญ #ของมันต้องมีก่อน40 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคน GEN Y  ที่มีการเปิดรับข้อมูล อัพเดทข่าวสารทางช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก ติดตาม Influencers ที่มีแนวคิดคล้ายกัน ผ่านทางช่องทางโซเชียล โดยเฉพาะ Twitter และ เฟซบุ๊ก (Facebook) เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต

Tmb X Wisesight 3

 

ทั้งนี้ ทีเอ็มบี มีวิสัยทัศน์ของการเป็นธนาคารแบบยั่งยืน (Sustainable Banking) ที่มุ่งมั่นให้ความรู้ทางด้านการเงิน พร้อม ทั้งมีการใช้เครื่องมือกระตุ้นให้คนมีพฤติกรรมทางการเงินที่ถูกต้อง รวมไปถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ โดยได้เน้นถึงกลุ่มคนเป้าหมายที่เป็น GEN Y ช่วงต้นอายุระหว่าง 23 – 30 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มกำลังแรงงานสำคัญของประเทศ เริ่มทำงาน มีรายได้ แต่ไม่มีการวางแผนทางด้านการเงิน ไม่สามารถจัดการบริหารการเงินได้อย่างเหมาะสม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มที่พร้อมเปิดรับคำแนะนำ และความรู้ทางด้านการบริหารจัดการเงิน

“จะเห็นได้ว่าในเฟสแรกเราได้จุดกระแสด้วย Influencer อย่าง กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ กันต์ กันตถาวร และกาละแมร์ พัชรศรี ที่เป็นดาราเซเลบ มีแง่มุมในด้านการใช้ชีวิต ตั้งเป้าหมายด้านหน้าที่การงาน การเงินอย่างชัดเจน รวมไปถึง มิ้นท์  บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวจากเพจ I Roam Alone และ ช่า เจ้าของเพจบันทึกของตุ๊ด ที่เป็นไอดอลสร้างแรงบันดาลใจ มาร่วมแชร์เป้าหมายชีวิตให้คนที่ติดตามได้ฟังกัน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแฮชแท็กแคมเปญ #ของมันต้องมีก่อน40 ที่สามารถติดเทรนด์ Twitter อันดับหนึ่ง มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์เป้าหมายชีวิตรวมแล้วกว่าหมื่นความคิดเห็น”

Tmb X Wisesight 2

เนื่องจากทีเอ็มบีเชื่อว่าหาก GEN Y ได้ตระหนักถึงเป้าหมายในชีวิตแล้ว จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนพฤติกรรมตรงตามความเชื่อของทีเอ็มบี  Make THE Difference ที่ว่าคนเราสามารถเปลี่ยนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น และนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้จนสำเร็จ นอกจากนี้กิจกรรมต่อไปที่จะเกิดขึ้นในกลางเดือนธันวาคมนี้ จะมีขึ้นเพื่อชักชวนให้ GEN Y ได้ลุกขึ้นเปลี่ยนพฤติกรรม ทางการใช้จ่าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนตั้งเป้าหมายที่จะได้เริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในปีถัดไป

เผยข้อมูลลึก Gen Y ของมันต้องมีก่อน40

ด้านนายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ได้นำข้อมูลบนโซเชียล มาวิเคราะห์และปลดล็อคศักยภาพของข้อมูลดิบจนกลายเป็นอินไซท์เพื่อส่งต่อให้แบรนด์ และเอเจนซี่นำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการวางกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยข้อมูลโซเชียลที่ไวซ์ไซท์นำมาวิเคราะห์นั้นมาจาก Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, Pantip และเว็บไซต์ข่าวต่างๆ ปัจจุบันมีข้อมูลดิบที่เก็บเอาไว้ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จำนวนมหาศาล ที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ในถัง Big Data และไม่เคยลบทิ้งเลยทำให้ในปัจจุบันบริษัทมีจำนวนข้อมูลดิบมากที่สุดในประเทศไทย

Tmb X Wisesight 5

 

ส่วนนายพุทธศักดิ์ ตันติสุทธิเวท ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงข้อมูลที่ได้จากวิเคราะห์เก็บข้อมูลดังนี้  คนไทยใช้สื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียล) 74% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งคิดเป็น อันดับ 8 ของโลก สำหรับจำนวนผู้ใช้โซเชียลในประเทศไทย พบว่าสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมที่ครองใจคนไทยในยุคนี้ และมีผู้ใช้งานบน Facebook 56 ล้านบัญชี Instagram 13 ล้านบัญชี และ Twitter 9.5 ล้านบัญชี และระยะเวลาที่ใช้คิดเป็น  3 ชั่วโมง 11 นาที เวลาเฉลี่ยใน 1 วัน และยังพบว่า 80% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย เคยซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และกว่า 50% เป็นคน GEN Y (อายุ 28-38 ปี)

“ดังนั้นในการทำแคมเปญ #ของมันต้องมีก่อน40 ในครั้งนี้ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลถึงพฤติกรรมเชิงลึกของกลุ่มคน GEN Y ที่ได้จุดกระแสผ่านบรรดา Influencer จะเห็นได้ว่าการแสดงความคิดเห็น แชร์ มีความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกับ Influencer ที่กดติดตามกันดังนี้ คนที่ติดตาม กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ กันต์ กันตถาวร และกาละแมร์ พัชรศรี ก็จะเป็นเป้าหมายเรื่องการเก็บเงิน มีบ้าน สร้างความมั่นคงในชีวิต ด้านกลุ่มคนที่ติดตามบล็อกเกอร์สายเที่ยว ก็จะมีเป้าหมายเรื่องเที่ยว เรื่องการใช้ชีวิตอิสระเสรี”

หากลงลึกในด้านความคิดเห็นของในแต่ละแพลตฟอร์มนั้น ก็จะเห็นว่ามีความแตกต่างกันไปอีกเช่นกัน อย่างเช่นใน Facebook จะเป็นไปในทิศทางที่แสดงออกถึงความจริงจังในชีวิต แสดงออกถึงตัวตนด้านที่อยากให้คนอื่นเห็น #ของมันต้องมีก่อน 40 ของชาว Facebook ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความมั่นคง เช่น อยากมีเงินเก็บ บ้าน รถยนต์ ธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น ส่วนทางด้าน Twitter นั้น จะเป็นไปในแนวทางที่มีความอิสระเสรี เป็นตัวของตัวเอง มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกับความเห็นใน Facebook ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินเพื่อซื้อบัตรคอนเสิร์ต อยากเจอศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ และอยากเลี้ยงแมว เป็นต้น

 

Tmb X Wisesight 4

 

จากการวิเคราะห์ Data ของแคมเปญในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า Influencer มีอิทธิพลทางความคิดให้ผู้ติดตามได้คล้อยตามง่าย ดังนั้นเมื่อเหล่า Influencer ลุกขึ้นมาทำอะไร จะเกิดกระแส เกิด Social Voice ในการทำตาม ซึ่งแน่นอนว่าในการทำแคมเปญครั้งนี้ เมื่อได้จุดกระแสออกไปแล้ว เกิดการตั้งคำถามให้กับกลุ่ม GEN Y ให้เกิดการฉุกคิดเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงิน เพื่อนำไปสู่แนวทางในการวางแผนชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

GEN Y อยากมี “บ้าน” เพราะของมันต้องมีก่อน40

นอกจากนี้ ยังพบว่าความหวัง “ของมันต้องมี” ก่อนอายุ 40 คือ  อยากมีบ้าน (48%) รถยนต์ (22%) ขณะที่อยากมีเงินออมและสินทรัพย์อื่นๆ มีไม่มาก (13%) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับ GEN Y เมื่อวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลจากการศึกษา พบว่ามียอดใช้จ่ายในกลุ่มสินค้า “ของมันต้องมี” ถึง 69% ขณะที่รายการซื้อบ้าน ซื้อรถที่เป็นความฝันมีสัดส่วนที่ลดลงมาก รวมทั้งสัดส่วนเงินออมมีไม่ถึง 10%

 

โดยเฉลี่ย GEN Y หมดเงินไปกับ “ของมันต้องมี” ปีละเกือบแสนหรือ 1 ใน 4 ของรายได้ต่อปี ส่วนใหญ่เป็นการซื้อโทรศัพท์ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋า และนาฬิกา/เครื่องประดับ และถ้าขยายภาพให้ชัดเจนในแต่ละกลุ่ม GEN Y ใช้เงินไปกับ“ของมันต้องมี” ถึงปีละ 1.37 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าสูงเทียบได้กับ 13% ของรายได้ประเทศ (GDP) หรือ 8 เท่าของมูลค่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หรือ 91% ของมูลค่าการลงทุนในโครงการ EEC 5 ปี

 

Tmb X Wisesight 1

 

สาเหตุที่ GEN Y อยากได้ “ของมันต้องมี” เป็นเพราะซื้อตามเทรนด์กลัวเอ้าท์ (42%) มากกว่ามองเป็นของจำเป็น (37%) แถมเงินที่ใช้ซื้อนั้น คนส่วนใหญ่ (70%) บอกมีเงินไม่พอ แต่ใช้การกู้จากธนาคารและใช้บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดในการใช้จ่าย ซึ่งเมื่อลงรายละเอียดพบว่ามากกว่า 70% ของ GEN Y มีการผ่อนชำระที่ต้องเสียดอกเบี้ย นอกจากนี้ GEN Y มีลักษณะเข้าทำนองฝันไกลแต่ไปไม่ถึง สะท้อนจาก GEN Y ที่เริ่มต้นทำงานเฉลี่ยตั้งเป้าอยากมีเงินเก็บ 6 ล้านบาท แต่บอกจะออมเงินแค่เฉลี่ยเดือนละ 5,500 บาท ซึ่งถ้าเก็บด้วยอัตรานี้ต้องใช้เวลาถึง 90 ปี จึงจะถึงเป้าหมาย

 

GEN Y จะต้องทำอย่างไรหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไรเพื่อนำไปสู่การมีพฤติกรรมทางการเงินที่ดีหรือมีวินัยทางการเงิน สิ่งแรกที่แนะนำคือ ลดเงินที่ใช้กับ “ของมันต้องมี” ง่ายๆ โดยลดลงแค่ 50% (เชื่อว่าลดหมด 100% เป็นไปได้ยาก) ควบคู่กับวางแผนการบริหารเงินให้ดีโดยเพิ่มการออมการลงทุนให้ถูกที่ แค่นี้ GEN Y จะมีเงินสะสมเพิ่มขึ้น 43,000 บาทต่อปี เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี 20 ปี หรือยาวไป 30 ปีก็จะสามารถซื้อทรัพย์สินตามที่เคยตั้งความหวังไว้ได้ไม่ยาก คุณนริศกล่าวปิดท้าย ด้วยข้อเสนอแนะสำหรับ GEN Y เพื่อให้สามารถวางแผนทางการเงิน และประสบผลสำเร็จในเป้าหมายที่วางไว้ได้ดียิ่งขึ้น

 

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ ทีเอ็มบี และ ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) 

 

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด