Fd Feature 7

Bitcoin กับการฟอกเงินและอาชญากรรม [VDO]

Categories : Life+Style
Tags : ,

Bitcoin กับการฟอกเงินและอาชญากรรม

 

มีหลายคนมีความเชื่อว่า ตัว Bitcoin มักจะถูกนำไปใช้ในการฟอกเงิน หรือการซื้อยาเสพติด หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ  ในตลาดมืด เพราะว่าตัว Bitcoin ไม่สามารถที่จะมา Track ข้อมูลได้ว่า ใครเป็นเจ้าของ Bitcoin หรือใครเป็นคนโอน Bitcoin ให้ใคร ทำให้ตัว Bitcoin มักจะนิยมถูกนำไปใช้ในการฟอกเงิน หรือว่าถูกนำไปใช้ในตลาดมืด ทีนี้มีกรณีศึกษาเกี่ยวกับ ตัว Bitcoin และ Silk Road ซึ่งเป็นเว็บที่ให้บริการซื้อขายยาเสพติดได้

 

เดี๋ยวเรามาดูกันว่าจริง ๆ แล้ว ตัว Bitcoin มัน Track เส้นทางการโอนไม่ได้จริง ๆ หรือไม่ แล้วจริง ๆ ในตลาดมืดเค้านิยมใช้ Bitcoin ในการทำธุรกรรมจริง ๆ หรือไม่

 

 

Silk Road เว็บขายยาเสพติดกับ 21,000 BTC ที่หายไป

สำหรับเรื่องราวของ Bitcoin and Silk Road ได้มีทาง a16z  ทำการสรุปเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง (Credit : Crypto, Beyond Silk Road by a16Z)

โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2011 ซึ่งเป็นดือนที่เว็บ Silk Road ที่จะทำหน้าที่เหมือนกับเป็น Marketplace ที่จะทำให้คนสามารถซื้อขายยาเสพติดได้ ​ โดยจะสังเกตเห็นด้านซ้ายของเว็บไซต์  (ภาพประกอบ) จะมีเมนู สำหรับการซื้อขายยาเสพติดแต่ละชนิด

 

Bitcoin Silkroad10

 

โดยเว็บไซต์ Silk Road นี้จะมีเว็บมาสเตอร์ใช้ชื่อ Account ว่า DPR ย่อมาจาก Dread Pirate Roberts ซึ่งเป็นชื่อตัวละครตัวหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Princess Bride ซึ่งแน่นอนว่าทางการของ USA ก็ต้องการทราบตัวของ DPR ว่าคือใคร เพื่อที่จะได้ทำการเข้าจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยหน่วยงานต่าง ๆ ของ USA มีหลายหน่วยงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น FBI หรือ DEA รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

สำหรับตัวเว็บไซต์ Silk Road การที่จะเข้าไปใช้งานได้ จะต้องใช้งานผ่านทาง Thor Browser ซึ่ง Thor Browser มีคุณสมบัติตรงที่จะปกปิดร่องรอยของผู้ใช้งาน ทำให้ไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบหาตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้งานได้เหมือนกับการใช้ Web Browser ทั่วไป อย่างเช่น Google Chrome ที่เราจะสามารถทราบ IP Address เป็นต้น

 

นั่นจึงทำให้ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนทางหน่วยงานของทาง USA มีการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไป โดยเจ้าหน้าที่ที่แผงตัวเข้าไปใช้ชื่อว่า Nob โดย Nob ก็ไปบอก DPR ว่าตัวเองเป็น Drug Lord หรือว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดย Nob ก็เข้าไปทำการพูดคุยกับ DPR เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื้อใจ เพื่อที่จะทราบข้อมูลหลาย ๆ อย่าง เช่น ปกติแล้ว DPR จะใช้งานเว็บในช่วงเวลาประมาณไหนบ้าง เพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน

 

Bitcoin Silkroad2 Bitcoin กับการฟอกเงินและอาชญากรรม

3 เหตุการณ์กับปมปัญหา

ถัดมาในปี 2013 ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น 3 อย่างด้วยกันที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ และข้อสงสัยเกี่ยวกับการโจรกรรม Bitcoin 21,000 BTC

 

เหตุการณ์แรก คือ มี Account รายหนึ่งที่ชื่อ Death from Above ซึ่งมาขู่ทาง DPR โดยบอกว่า ตัวเค้ามีข้อมูลส่วนตัวเหล้านี้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ที่ต้องการตามจับตัว DPR ถ้า  DPR ไม่อยากให้เค้าเปิดเผยข้อมูลนี้แก่ทางเจ้าหน้าที่ DPR จะต้องส่ง Bitcoin มาให้เขาจำนวนหนึ่ง

 

Bitcoin Silkroad3

 

เหตุการณ์ที่สอง มี Account ที่ชื่อว่า French Maid ซึ่งเข้าติดต่อกับ DPR โดยบอกว่า French Maid มีข้อมูลว่า ตอนนี้ทางการมีความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวน ตัว DPR ไปถึงไหนแล้ว ถ้า DPR อยากได้ข้อมูลในส่วนนี้ ว่าสืบสวนสอบสวนไปถึงไหนแล้วก็ให้ DPR โอนตัว Bitcoin มา แล้วเขาจะขายข้อมูลให้กับ DPR

 

เหตุการณ์ที่ 3 ที่สำคัญ คือ ปรากฏว่าตัว Bitcoin จำนวน 21,000 Bitcoin หายไป จากกระเป๋าของเว็บ Silk Road

 

ทั้ง 3 เหตุการณ์ก็ทำให้ DPR ค่อนข้างหัวเสียอย่างมาก โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ Bitcoin ที่หายไปเป็นของทาง Vendor รายต่าง ๆที่มีการเปิดบัญชีอยู่กับทาง Silk Road ทาง DPR จึงเริ่มทำการสืบสวนภายใน แล้วก็พบว่า ผู้ต้องสงสัย คือ Curtis Green ซึ่งเป็น Admin รายหนึ่งของเว็บ Silk Road เนื่องจาก DPR พบว่าตัว USER กับ Password ของ Curtis Green มีการถูกนำไปใช้รีเซ็ทตัว Account ของ Vender รายต่าง ๆ ในเว็บ Silk Road  DPR ก็สรุปว่า Curtis Green เป็นคนที่เอาตัว Bitcoin ออกไป DPR จึงตัดสินใจที่จะจ้างทาง Nop ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของทางการแฝงตัวเข้ามา ไปฆ่า Curtis Green โดยจ้างเป็นจำนวนเงิน 80,000 USD

 

แต่อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ Bitcoin หายออกไปจากเว็บ Silk Road ตัว Curtis Green ก็ถูกทางการควบคุมตัวไปเรียบร้อยแล้ว แล้วมีการให้ข้อมูลกับทางการไปแล้ว พอทาง DPR มาจ้างวาน Nop เพื่อฆ่า Curtis Green ทางการก็เลยจัดฉากว่า Curtis Green ถูก Nop ฆ่าไปแล้ว เพื่อที่จะได้ให้ DPR โอนเงินมาที่ Nop เพื่อที่จะได้มีข้อมูลเพิ่มเติม เอาไว้ใช้ในการเข้าจับกุม DPR

 

หลังจากมีการรวบรวมข้อมูล และหลักฐานแล้ว ทางการก็สามารถสรุปได้ว่า ตัว DPR ก็คือ Ross Ulbricht

หลังจากนั้น Ross Ulbricht ก็ถูกทางการเข้าทำการจับกุมตัว แล้วเว็บ Silk Road ก็ถูกปิดไป

 

ใครเป็นใครผู้ร้ายตัวจริง?

พอมาถึงตรงนี้ หลายคนก็อาจจะคิดว่าเคสนี้จบไปแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีอยู่อีก 3 ประเด็นที่ทางเจ้าหน้าที่ยังมีความสงสัยว่า ใครเป็นตัวการในแต่ละเรื่อง ซึ่ง 3 ประเด็นดังกล่าว ก็คือ

1.ใคร คือ Death from Above ที่คอยขู่ DPR

2.ใครคือ French Maid ที่คอยขายข้อมูลให้กับทาง DPR

3.ใครเป็นคนเอา Bitcoin จำนวน 21,000 Bitcoin ไป

 

Bitcoin Silkroad4

 

โดยระหว่างการสืบค้นหาข้อเท็จจริงว่าใครเป็นตัวการ ทางเจ้าหน้าที่ก็พบว่า ตัว Nob ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่แฝงตัวเข้าไป มีพฤติกรรมแปลก คือ มีการขาย Bitcoin ออกมาทุกเดือน และมีการโอนเงินเข้าบัญชีของตัวเองในระหว่างทำเคส Silk Road และพบว่าตัว Nob มีความพยายามที่จะไปลบ ตัวข้อมูลการโอนเงินในอดีต กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ

 

Bitcoin Silkroad5

 

จากการตรวจสอบครั้งนี้ ก็ได้คำตอบว่า Death from Above ก็คือ Nob นั่นเอง และตัว French Maid ก็คือ Nob เช่นเดียวกัน ก็หมายความว่า Nob ทำตัวเป็นสายลับ 2 หน้า ก็คือ ทางด้านหนึ่งก็ทำตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการในการพยายามจับกุมตัว DPR ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ขายข้อมูลของการสืบสวนของทางการให้ทาง DPR เช่นกัน

 

ทีนี้ ตัว Bitcoin จำนวน 21,000 Bitcoin ใครเป็นเอาไป ตอนแรกทางการก็คิดว่า เป็น Nob แต่พอไปตรวจสอบแล้วก็พบว่า ไม่ใช่ Nob จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ทำการตรวจสอบผ่านทางระบบ Blockchain เช่นเดียวกับที่จับ Nob ได้ ก็มาดูว่า เคสนี้ใครเป็นตัวการ ก็พบว่า Bitcoin จำนวนนี้ถูกโอนไปที่เว็บ Exchange ซึ่งก็คือ Mt.Gox ซึ่งเคยเป็นเว็บ Crypto Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วก็พบว่า เจ้าของ Account ที่ Bitcoin ถูกโอนไป คือ Shaun Bridges ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการ ที่ร่วมอยู่ในการสืบสวนสอบสวนจับตัว DPR

 

Bitcoin Silkroad6

 

โดย Shaun Bridges ก็ถือว่าเป็นเจ้าที่ของทางการที่มีประสบการณ์การทำงานในด้าน IT Security มามากกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญอย่างสูง แต่เคสนี้ Shaun Bridges ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ เพราะว่าข้อมูลที่บันทึกลงระบบ Blockchain ของ Bitcoin สุดท้าย ทั้ง 2 คนก็ถูกทางการของ USA ดำเนินคดี แล้วก็ทำการจับกุมตัวไป โดยเคสนี้เรียกได้ว่าเป็น Perfect Criminals เลยทีเดียว เพราะทั้ง 2 คนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในระบบ IT Security มาหลายสิบปี มีความสามารถในการจัดการข้อมูล ลบร่องรอยข้อมูล รวมถึงรู้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะมีแนวทางการสืบค้นหาข้อมูลหลักฐานยังไง ทั้งหมดเป็นเรื่องราวของ Bitcoin แล้วก็ตัว Silk Road

 

Bitcoin Silkroad7 - Bitcoin กับการฟอกเงินและอาชญากรรม

4 คุณสมบัติ Blockchain ไขปมปริศนา

จากปมปริศนาทั้งหมดที่ถูกไขและหาคำตอบได้ โดยเฉพาะการสืบดูว่า เส้นทางการเงินของ Nob ว่ามาอย่างไง ซึ่งถือเป็นการสืบค้นเส้นทางของการทำธุรกรรมต่าง ๆ เป็นเพราะ Bitcoin ใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่ทำให้สามารถรู้เส้นทางการทำธุรกรรมได้ทั้งหมด ที่ถือว่าเป็นข้อดีของคุณสมบัติพื้นฐาน​​ของ Blockchain ที่ Bitcoin นำมาใช้ ซึ่ง Blockchain มีคุณสมบัติพื้นฐานสำคัญดังนี้ ​

 

Bitcoin Silkroad1

 

1.คุณสมบัติแรก คือ Public หมายความว่า ข้อมูลการโอนเข้าโอนออก หรือเส้นทางการโอนของ Bitcoin เป็นข้อมูลที่ Public ที่ใคร ๆ ก็สามารถที่จะเข้าไปดูข้อมูลได้

 

2.Immutable หรือ Permanent ความหมาย ก็คือ ข้อมูลของการโอนเข้าโอนออกตัว Bitcoin จะไม่สามารถมาถูกแก้ไขภายหลังได้ โดยจะมีการบันทึกเวลาและข้อมูลของ Transaction ที่เกิดขึ้นลงไว้ในระบบ Blockchain

 

3.Reliable หมายความว่า ข้อมูลที่มีการลงบันทึกในระบบ Blockchain เป็นการเข้ารหัส Cryptography ทำให้มีความปลอดภัยและถูกต้องเชื่อถือได้

 

4.Decentralization หมายความว่า ตัวข้อมูลที่มีการบันทึกในระบบ Blockchain มีการบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ทำให้การ Hack ระบบเพื่อเข้าไปแก้ไขข้อมูลทำไม่ได้ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ Nob โดยใช้ Blockchain มา Track ดูว่า Bitcoin ที่ Nob ได้มา ได้มายังไง ซึ่งพอตรวจสอบไปจนถึงสุดทางก็พบว่า Bitcoin ที่ Nob ได้มาทั้งหมด มาจาก Account ของทาง Silk Road นั่นเอง

 

Bitcoin กับการฟอกเงินในตลาดมืด

เรามาดูข้อมูลเพิ่มเติมกันว่า จริง ๆ แล้ว Bitcoin มีการถูกนำไปใช้ในตลาดมืดมากน้อยแค่ไหน แล้วความเสียหายที่จะถูกนำไปใช้ในการฟอกเงิน มีมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับตัว Cash หรือเงินสด

 

จากข้อมูลของ Chainalysis ในแผนภาพนี้ (ภาพประกอบ) จะแสดงสัดส่วนของปริมาณการใช้ Bitcoin ในตลาดมืด ให้สังเกตเส้นสีส้ม ซึ่งแสดงสัดส่วนการใช้ Bitcoin ในตลาดมืด จะเห็นว่าสัดส่วนการใช้ลดลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา

 

Bitcoin Silkroad8

 

จากประมาณ 20% จนมาใกล้ ๆ 0% จะสังเกตว่าสัดส่วนการใช้ Bitcoin ในตลาดมืดลดลงอย่างมากในปี 2013 ซึ่งเป็นปีที่ตัว Ross Ulbrich ถูกจับ และ Silk Road ถูกปิดตัวลงไป นั่นก็คือหลังจากเหตุการณ์นี้ ในตลาดมืดเริ่มรู้แล้วว่า ตัว Bitcoin เป็นเครื่องมือที่สามารถที่จะมา Track เส้นทางการโอนได้ แต่ตัว Bitcoin นี่แหละเป็นหลักฐานชั้นดีในการตามหาตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของเงิน

 

ถัดมาเป็นรายงานความเสี่ยงเกี่ยวกับการฟอกเงิน แล้วก็สนับสนุนเงินให้กับผู้ก่อการร้ายของทาง สหราชอาณาจักร (UK)​ จะสังเกตเห็นว่า ความเสียหายของการที่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือนในการฟอกเงินของเงินสดจะมีความเสี่ยงสูงกว่า ในขณะที่ Digital Currencies มีความเสี่ยงต่ำ

 

Bitcoin Silkroad9 - Bitcoin กับการฟอกเงินและอาชญากรรม

 

หลังจากที่ราดูข้อมูลแล้ว จะเห็นว่า จริง ๆ แล้วแนวโน้มของสัดส่วนการใช้ Bitcoin ในตลาดมืดจะมีสัดส่วนลดลงเรื่อย ๆ  ทีนี้ พอมาดูความเสี่ยง ก็จะเห็นว่าความเสี่ยงนี้ พวก Digital Currency จะถูกนำไปใช้ในการฟอกเงิน ก็ยังต่ำกว่าเงินสด เนื่องจากว่า พวกเงินสดจะไม่มีเทคโนโลยี Blockchain มารองรับ ทำให้การติดตามทำได้ยากมาก

 

แต่ที่นี้ในส่วนของ Digital Currency ก็มีกลุ่ม Developer ที่พัฒนาตัว Privacy Coin ขึ้นมา อย่างเช่น Monero, Zcash, Zcoin ซึ่งตัว Privacy Coin เหล่านี้ก็จะมีฟังก์ชั่นที่จะปกปิดหรือว่าซ่อนตัวข้อมูลเส้นทางการโอน ก็ทำให้คนคาดการณ์กันว่าต่อไปเหรียญพวกนี้ก็อาจจะถูกนำมาใช้ในตลาดมืดมากขึ้นหรือเปล่า

 

อย่างไรก็ตามจากข้อมูล เราก็จะเห็นว่า ณ ปัจจุบัน เงินสดก็ยังเป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้ในการฟอกเงินและถูกนำมาใช้ในตลาดมืด มากกว่าตัว Digital Currency

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทความ Life+Style ล่าสุด