Chiwathai

ชีวาทัย เดินแผนธุรกิจปี 65 สู่รายได้ 3,000 ล้าน ปั้นโปรเจ็กต์ใหม่-ขยายสู่ธุรกิจขายบ้านมือสอง

ชีวาทัย เดินหน้าแผนธุรกิจปี 65 เตรียมเจรจาซื้อที่ดิน 6 แปลง ปั้นโครงการใหม่มูลค่า 5,000 ล้าน พร้อมวางเป้าทำรายได้ 2,800-3,000 ล้าน หลังตุน Backlog ในมือ 1,800 ล้าน ขณะเดียวกันมองหาโอกาสธุรกิจสร้างรายได้เพิ่ม และกระจายความเสี่ยง ประมูลทรัพย์มือสอง จากกรมบังคับคดี  รีโนเวทขายใหม่ทำกำไรขั้นต้น 30%

 

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ภาพรวมของปี 2565 ยังเป็นปีที่มีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ จากผลกระทบ​การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่รุนแรงและต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปีที่ผ่ามา ส่งผลกระทบต่อทั้งประเทศ  นอกจากนี้ ยังมีปัญหากำลังซื้อของผู้บริโภค ที่ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง ทำให้ถึงแม้ว่ามีความต้องการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียม แต่กำลังซื้ออาจจะมีไม่เพียงพอ รวมถึงยังต้องการสินค้าราคาถูก ทำให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันด้านราคาที่อยู่อาศัย เกิดเป็นสงครามราคา และภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรง ซึ่งในบางทำเลก็อาจจะเกิดภาวะโอเว่อร์ซัพพลาย จากการเปิดตัวกันจำนวนมาก ในโครงการบ้านแนวราบ

Chiwathai 1

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปัจจัยลบเกิดขึ้น แต่สัญญาณในเชิงบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ยังมีให้เห็น ไม่ว่าจะเป็น การปรับตัวเข้ากับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มองว่าเป็นเรื่องปกติในชีวิต กลุ่มคนระดับกลางยังมีกำลังซื้อที่ดี และมีความต้องการซื้ออสังหาฯ ดอกเบี้ยธนาคารยังอยู่ในอัตราต่ำ ยังมีการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home)  ทำให้เกิดความต้องการบ้านแนวราบ แนวโน้มกลุ่มลูกค้าต่างชาติจะกลับเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น และแผนการพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการจะมีเพิ่มมากขึ้น

ชีวาทัย แผนปี 65 สร้างรายได้ 3,000 ล้าน

สำหรับแผนธุรกิจปี 2565 เบื้อต้นบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการ คือ โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส2) จำนวน 380 ยูนิต มูลค่าโครงการ 994 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมโลวไรซ์ สไตล์ Loft ที่ตั้งอยู่บนทำเลย่านลาดพร้าว มีห้องให้เลือกตั้งแต่ 26.0-45.50 ตร.ม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยจะเปิดการขายในช่วงเดือนเมษายนนี้

 

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อที่ดินจำนวน​ 6 แปลง เพื่อพัฒนาโครงการรวมมูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการ  คอนโดโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค  2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท บ้านเดี่ยว แบรนด์ชีวารมย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท และทาวน์โฮม แบรนด์ชีวาโฮม 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท โดยหากการเจรจาซื้อที่ดินเป็นผลสำเร็จจะเปิดตัวภายในปีนี้ แต่หากไม่สำเร็จจะเปิดตัวในปีต่อไป

 

ส่วนเป้าหมายรายได้ปี 2565 คาดว่าจะทำได้ 2,800-3,000 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้จะมี 2 โครงการใหม่มูลค่า 2,581 ล้านบาท ที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้เป็นปีแรก ได้แก่ โครงการชีวาทัย  ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส2) มูลค่า 994 ล้านบาท และโครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า มีจำนวน 593 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,587 ล้านบาท   รวมถึงยังมีโครงการเดิมที่ยังมียอดขายรอรับรู้รายได้  (Backlog) ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องมูลค่า 1,800 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีอัตรากำไรเติบโต 4-10%

ซื้อบ้านมือ 2 รีโนเวทปั้นรายได้ 400 ล้าน

ชีวาทัย มองหาโอกาสทางการตลาด และการลดความเสี่ยง จากการดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการบ้านและคอนโด ด้วยการขยายธุรกิจใหม่ CHEWA RENUE ซึ่งเป็นการซื้อทรัพย์มือ 2 ที่กรมบังคับคดี เพื่อนำมารีโนเวทใหม่ และนำออกขาย

Chiwathai 2

นายบุญ กล่าวว่า ธุรกิจนี้มีความน่าสนใจ เพราะหลายทำเลไม่สามารถหาซื้อที่ดินมาพัฒนาโครงการได้แล้ว และถึงแม้หาซื้อได้ก็จะมีราคาแพง ทำให้พัฒนาโครงการออกมาแล้วราคาบ้านจะสูง ซึ่งการขยายมาธุรกิจดังกล่าว จะช่วยการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เพิ่มรายได้ให้กับบริษัท และยังเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่สามารถเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลที่ดีได้ โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถทำรายได้จากธุรกิจดังกล่าวมูลค่า 400 ล้านบาท ภายในระยะ 3 ปีนับจากนี้

หลายโครงการอยู่ในทำเลที่ดี แต่ลูกค้ามีปัญหาการเงิน ทำให้บ้านถูกยึด เราไปประมูลแล้วนำมารีโนเวทขาย ซึ่งลูกค้าหลายคนก็ไม่มายด์ที่จะซื้อบ้านมือ 2

สำหรับทรัพย์ที่จะประมูลจากกรมบังคับคดี จะมีทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยว และคอนโด โดยราคาคอนโดจะอยู่ประมาณ 2-3 ล้านบาท บ้านเดี่ยวระดับราคา 4-5 ล้านบาท ซึ่งหากการประมูลไม่มีคู่แข่งจะได้ราคาลดลงมาถึง 50% เมื่อบริษัทซื้อมาจะใช้ระยะเวลาประมาณ รีโนเวท กำไรขั้นต้น 30% กำไรสุทธิ 20%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด