Samco Corporate

เปิดไอเดีย “ณพน เจนธรรมนุกูล” ปั้น สัมมากร สู่องค์กร 100 ปี

ถ้าหากดูบริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัย ซึ่งมีอายุการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน มากกว่า 50 ปีหรือครึ่งศตวรรษ ปัจจุบันมีอยู่ไม่กี่บริษัทเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัทเก่าแก่ อย่าง บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO ที่เริ่มต้นก่อตั้ง​ตั้งแต่ปี 2513

 

ขณะที่ได้เริ่มต้นดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ​ ประเภทบ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มาตั้งแต่ปี 2517 เป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินเพื่อขายเป็นหลัก จนถึงปัจจุบันได้พัฒนาโครงการเพื่ออยู่อาศัย และมีลูกบ้านแล้วกว่า 6,000 ยูนิต

 

นอกเหนือจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยแล้ว สัมมากร ยังได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ ​ให้เช่า โดยพัฒนาศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ ศูนย์การค้าสัมมากรเพลส (Sammakorn Place) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่บนถนนรังสิตคลอง 2 ถนนรามคำแหง และถนนราช-พฤกษ์  เป็นการสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท

Samco Coporate

ไอเดียปั้น “องค์กร 100 ปี”

ปัจจุบันสัมมากร อยู่ภายใต้การบริหารงานของ นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากรฯ ซึ่งได้เข้ามานั่งเก้าอี้ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการได้กว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งเป้าหมายสำคัญของการขับเคลื่อน “สัมมากร” ในฐานะผู้บริหาร คือ การพาให้บริษัทมีการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และอยู่ยาวนานไปสู่การเป็น “องค์กร 100 ปี” ด้วยการยึดหลักการทำงานที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพการบริหารงาน และการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ มีความเป็นพรีเมียม เนื่องจากมีชื่อเสี่ยงเป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนาน

 

นายณพน เล่าว่า หลังจากได้เข้ามาบริหารบริษัทเป็นระยะเวลาประมาณ​ 6 ปี และขึ้นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้วางระบบการทำงานให้ “สัมมากร” ดำเนินธุรกิจอยู่ได้อย่างยาวนานเป็น 100 ปี และให้พนักงานทำงานกับบริษัทให้ได้นานที่สุด โดยวางแผนระยะสั้นในช่วง 3-5 ปีนี้ กับการทำงานใน 3 ส่วนสำคัญ คือ

1.บุคลากร

มีการฝึกอบรมเสริมทักษะให้กับพนักงานในด้านต่าง ๆ การเสริมทีมงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ และการจัดพื้นที่การทำงานให้เหมาะสม

2. ระบบการทำงานในองค์กร

การวางระบบทุกอย่างภายในองค์กร ด้วยการนำระบบดิจิทัลเข้ามาเสริมประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยดิจิทัล

3.ผลิตภัณฑ์

พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของลูกค้า มีการปรับโมเดลการดำเนินธุรกิจ จากเดิมพัฒนาบ้านแบบเดียวมาโดยตลาด แต่ปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น และการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ

ทีมงานสัมมากรเจอการเปลี่ยนแปลงมาพอสมควร จึงเน้นการใส่ใจประสิทธิภาพการทำงาน อย่างช่วงโควิด ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน ที่บังคับให้ทุกอย่างเร็วขึ้น และต้องทำทันที แต่ยังมีประสิทธิภาพ

One Gate Samco

แตกซับแบรนด์แยกกลุ่มเป้าหมาย

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนอีกสิ่งหนึ่งของ “สัมมากร” คือ การเพิ่ม Sub-Brands ที่หลากหลาย และก้าวไปสู่ตลาดบ้านลักชัวรี่ ซึ่ง “นภณ” เล่าว่า แบรนด์หมู่บ้านสัมมากร กลุ่มลูกค้าทั่วไปยังยอมรับในเรื่องของคุณภาพ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่ด้วยการขยายไปสู่โอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ และศักยภาพของบริษัท ที่สามารถพัฒนาบ้านทั่วไปได้จนถึงบ้านลักชัวรี่ ทำให้บริษัทจึงต้องเพิ่มแบรนด์ใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อแยกกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน และแบรนด์นั่นเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วย

 

ในปีนี้บริษัทได้พัฒนาแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ออกมาทำตลาดถึง 5 แบรนด์ ดังนี้ ​ 1.แบรนด์วัน เกต ราคา 93-135 ล้านบาท 2.แบรนด์ทู เอกมัย  ราคาเริ่มต้น 85 ล้านบาทขึ้นไป 3.แบรนด์พาร์ค เฮอริเทจ ราคา 49-85 ล้านบาท​ 4.แบรนด์บาร์นยาร์ด เขาใหญ่ ราคาเริ่ม 15.9 ล้านบาท และ​​ 5.แบรนด์โพรวิเดนซ์ เลน ราคาเริ่ม 39 ล้านบาท

 

ล่าสุด เปิดตัวโครงการ พาร์ค เฮอริเทจ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มแอสเซท โปร ผู้ประกอบการรายใหญ่ในจังหวัดศรีสะเกษ พัฒนาบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ มูลค่ารวม 2,210 ล้านบาท ยังตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 20 แยก 8 บนพื้นที่กว่า 12ไร่ มีบ้านเดี่ยว 3 ชั้นสไตล์ Modern Classic จำนวน 32 ยูนิต พร้อมลิฟต์และสระว่ายน้ำส่วนตัว ขนาดที่ดิน 60 – 133 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น  471 – 778 ตารางเมตร ราคาขาย 49 – 95 ล้านบาท ซึ่งเฟสแรกเปิดขาย 16 ยูนิต คาดว่าจะปิดการขายได้ช่วงกลางปี 2566

Samco Park Heritage

ปี 66 โฟกัสตลาดบ้าน 10 ล้าน

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2566  บริษัทจะเน้นพัฒนาโครงการบ้านราคาระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป แต่ตลาดระดับกลาง ราคา 4-6 ล้านบาท ยังคงพัฒนาออกมาทำตลาด ซึ่งแผนการเปิดตัวโครงการในปีหน้า จะมีโครงการส่วนหนึ่งที่เลื่อนเปิดจากปีนี้ไปสมทบด้วย 3 โครงการ  ขณะเดียวกันในปีนี้จะเป็นปีสำคัญที่บริษัทรับรู้รายได้ จากการเปิดตัวโครงการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

 

ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ​บริษัททำยอดขายบ้านแนวราบได้แล้ว  2,000 ล้านบาทจากเป้าทั้งปี 3,500 ล้านบาท และมีรายได้ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะทำรายได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้จำนวน 1,500 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและพัฒนาจำนวน 8 โครงการ

 

โดยปีนี้บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่เพียง ​ 6 โครงการ จากแผนเดิมจะเปิดตัว 9 โครงการใหม่มูลค่า 10,000 ล้านบาท การที่บริษัทเลื่อนเปิดโครงการใหม่ไปในปี 2566 เนื่องจากต้องการโฟกัสและทำตลาด โครงการ พาร์ค เฮอริเทจ  ให้ได้เป้าหมายยอดขายที่วางไว้

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สัมมากร ส่งโครงการมิตติ จับตลาดบ้าน 4-7 ล้าน ประเดิมโซน​ ชัยพฤกษ์-วงแหวน

สัมมากร สวนกระแสตลาด ทำรายได้ปี’62 สูงสุดในรอบ 50 ปี

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด