โครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ต่างจากพื้นที่ของจังหวัดอื่น ๆ แถมยังเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ด้วย ทำให้ได้รับผลกระทบด้านกำลังซื้อ และความมั่นใจต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมากด้วย สะท้อนได้จากการชะลอตัวลงของทั้งฝั่งดีมานด์และซัพพลาย
โดยล่าสุด ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือ REIC ได้สรุปสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ในส่วนที่อยู่อาศัยของพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 พบว่าทั้งซัพพลายและดีมานด์หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
-การออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน ในช่วงครึ่งปีแรก จำนวนโครงการ ลดลง 22.8% และจำนวนยูนิตลดลง 15.7%
-การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำมากในช่วงที่ไม่ปกติ
-การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย จำนวนยูนิตลดลง 21.9% และมูลค่าลดลง 18.1%
โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินจากกรมที่ดินจำนวน 71 โครงการ 7,090 ยูนิต จำนวนโครงการลดลง 22.8% และจำนวนยูนิตลดลง 15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมี 92 โครงการ 8,409 ยูนิต ในจำนวน 7,090 ยูนิต
ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้
-ทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 3,682 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 51.9% ของจำนวนการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั้งหมด บ้านแฝด จำนวน 1,676 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 23.6%
-บ้านเดี่ยว จำนวน 1,667 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 23.5%
-ส่วนที่เหลือเป็น อาคารพาณิชย์ และที่ดินจัดสรร ตามลำดับ
เมื่อพิจารณารายจังหวัดในพื้นที่ EEC ในครึ่งแรกปี 2564 จังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุด เรียงลำดับได้ดังนี้
อันดับ 1 จังหวัดชลบุรี มีจำนวน 3,704 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 52.2% ของการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั้งหมด และมีการออกใบอนุญาตจัดสรรเพิ่มขึ้น 9.2%
อันดับ 2 จังหวัดระยอง มีจำนวน 2,782 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 39.2% มีการออกใบอนุญาตจัดสรรลดลง 7.3%
อันดับ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวน 604 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 8.5% มีการออกใบอนุญาตจัดสรรลดลงมากถึง 70.0%
การออกใบอนุญาตก่อสร้าง ทั้งที่เป็นบ้านที่ประชาชนสร้างเอง บ้านในโครงการจัดสรร และอาคารชุด มีจำนวนประมาณ 17,049 ยูนิต เพิ่มขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 แบ่งออกเป็น
-การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบจำนวนประมาณ 13,895 ยูนิต ลดลง 1.8%
-การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยอาคารชุด จำนวนประมาณ 3,154 ยูนิต เพิ่มขึ้น 78.9% เมื่อเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563
จังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากที่สุด
อันดับ 1 จังหวัดชลบุรี มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยประมาณ 10,389 ยูนิตคิดเป็นสัดส่วน 60.9% ของการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั้งหมด
อันดับ 2 จังหวัดระยอง มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยประมาณ 3,722 ยูนิตคิดเป็นสัดส่วน 21.8% ของการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั้งหมด
อันดับ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยประมาณ 2,938 ยูนิตคิดเป็นสัดส่วน17.2% ของการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั้งหมด
การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย มีจำนวน 16,045 ยูนิต ลดลง 21.9% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 มีจำนวน 20,550 ยูนิต มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 37,855 ล้านบาท ลดลง 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 มีมูลค่า 46,209 ล้านบาท
เมื่อพิจารณารายจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย
อันดับ 1 จังหวัดชลบุรี มีจำนวน 12,489 ยูนิต ลดลง 5.3% และมีมูลค่า 30,436 ล้านบาท ลดลง 3.6%
อันดับ 2 จังหวัดระยอง มีจำนวน 2,794 ยูนิต ลดลง 47.5% และมีมูลค่า 5,874 ล้านบาท ลดลง
43.8%
อันดับ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวน 762 ยูนิต ลดลง 62.6% และมีมูลค่า 1,545 ล้านบาท ลดลง 63.1%