ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ พร้อมเปิดให้บริการ 12 กันยายน ตามแผน หลังลงทุน 15,000 ล้านปรับโฉมใหม่นาน 3 ปี สร้างพื้นที่ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า ประเดิม 2 งานแรก หลังตุนงานไว้ในมือแล้ว 160 งานพร้อมจัดปี 66
หลังจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (Queen Sirikit National Convention Center-QSNCC) เริ่มปรับปรุงโฉมใหม่ ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2562 ในวันที่ 12 กันยายน 2565 ก็จะเป็นวันเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในส่วนของพื้นที่การจัดงานประชุม และอีเวนต์แล้ว หลังใช้ระยะเวลานานถึง 3 ปีเต็ม กับเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาท
ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ มาพร้อมกับพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า หรือมีพื้นที่รวม 300,000 ตร.ม. รองรับพื้นที่การจัดงานได้มากถึง 78,500 ตร.ม. มีห้องประชุม 50 ห้อง พื้นที่รีเทล 12,000 ตร.ม. และพื้นที่จอดรถ 3,000 คัน
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า การกลับมาของศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ มีศักยภาพที่จะรองรับการจัดงานในทุกรูปแบบ และผู้ใช้บริการทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งคาดว่ามีผู้เข้าใช้บริการมากกว่า 13 ล้านคนต่อปี เพิ่มจากช่วงก่อนปิดปรับปรุงที่มีผู้เข้าใช้บริการ 6 ล้านคนต่อปี
โดยได้ตั้งเป้าหมายให้ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ เป็นมากกว่า “ศูนย์การประชุม” และรองรับงานมากกว่า “ไมซ์” (MICE) ศูนย์ฯ สิริกิติ์ โฉมใหม่ จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่ให้มีความยืดหยุ่นรองรับการจัดงานทุกรูปแบบได้พร้อม ๆ กัน และเอื้อต่อการจัดการด้านโลจิสติกส์ และขนย้ายสินค้าจัดแสดงทุกประเภท พร้อมมีอุโมงค์ทางเชื่อมกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRTเข้าสู่พื้นที่จัดงาน
ด้านนายสุทธิชัย บัณฑิตวรภูมิ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า งานแรกของการเปิดให้บริการศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ จะเป็น 2 งานที่จัดพร้อมกัน คือ ASEAN SUSTAINABILITY AND ENERGY WEEK 2022 ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2565 และงาน T ISSUE & PAPER BANGKOK 2022
โดยปัจจุบันมีงานอีเวนต์ที่คอนเฟิร์มมาจัดงานจนถึงปี 2566 แล้ว 160 งาน แบ่งเป็นงานเดิมที่เคยจัดที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์มาแล้ว 50% และอีก 50% เป็นงานใหม่ ส่วนภายในปีนี้จะมีงานที่จัดขึ้นประมาณ 20% งาน คาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งราคาการใช้บริการจะปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 10-15% ขณะที่หากเปรียบเทียบราคากับศูนย์ประชุมที่อื่นจะสูงกว่าประมาณ 20%
สำหรับงานอีเวนต์ที่จะจัดขึ้นภายในปี 2565 อาทิ
– Asia Pacific Leather Fair หรือ APLF งานแสดงสินค้าเครื่องหนังชั้นนำของโลก ปกติแล้วจะจัดอยู่ที่ประเทศฮ่องกง จะจัดในวันที่ 19 – 21 ตุลาคม 2565
– ASIA FRUIT LOGISTICA งานแสดงสินค้านานาชาติด้านผักและผลไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเคยจัดอยู่ที่ฮ่องกงเช่นกัน จะจัดในวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายน 2565
– Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGAB) งานจัดแสดงสินค้าอัญมณีครั้งยิ่งใหญ่ รวบรวมทั้งการค้าขาย สัมมนา และกิจกรรมเสริมความรู้ด้านอัญมณี เพื่อผู้ซื้อและซัพพลายเออร์จากทั่วโลก เดิมจัดที่ประเทศสิงคโปร์ จะจัดในวันที่ 2 – 5 พฤศจิกายน 2565
-“T-Pop Concert Fest” รวมศิลปินเพลงป๊อปแนวหน้าชั้นนำของไทย เช่น พีพี บิวกิ้น, ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป “4EVE”, โบกี้ ไลอ้อน ในวันที่ 29-30 ตุลาคม 2565
-งานมหกรรมเกมที่ยิ่งใหญ่ทีสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “Thailand Game Show” ในวันที่ 21-23 ตุลาคม 2565 -งานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ในวันที่ 13-18 พฤศจิกายน 2565
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในการก้าวสู่การเป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All คือ พื้นที่โซนรีเทล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แอคทีฟไลฟ์สไตล์มอลล์” เต็มรูปแบบแห่งแรกของกรุงเทพฯ (BALM – Bangkok Active Lifestyle Mall) บนเนื้อที่กว่า 11,000 ตารางเมตร BALM จะเป็นตัวสร้างสีสันและเติมเต็มให้กับศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ใจกลางกรุงเทพ ที่ดึงดูดทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยให้ย่านพระราม 4 – รัชดา กลายเป็นอีกหนึ่งที่พบปะสังสรรค์พูดคุยและใช้ชีวิตที่เนืองแน่นไปด้วยร้านค้ารีเทลหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ร้านอุปกรณ์กีฬา ร้านขายสินค้าไอที เป็นต้นโดยพื้นที่รีเทลในเบื้องต้นจะเปิดให้บริการประมาณ 50%
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
–6 ไฮไลท์ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ ที่พร้อมใช้งาน ก.ย.65
–โฉมใหม่ “ศูนย์ประชุมสิริกิติ์” ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า เปิดแน่!! กันยายน 2565