Tag : Home

816 ผลลัพธ์
Merit Grand Suvarnabhumi-เมอริทแกรนด์ สุวรรณภูมิ : รีวิวบ้าน

Merit Grand Suvarnabhumi-เมอริทแกรนด์ สุวรรณภูมิ : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Merit Grand Suvarnabhumi (เมอริทแกรนด์ สุวรรณภูมิ) เจ้าของโครงการ : บริษัท โซล่า พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถ.บางนา-ตราด ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พื้นที่โครงการ : 30 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 200 ยูนิต ขนาดห้อง : - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 135 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 4,290,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยว Style Modern ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ตอบโจทย์ให้ทุกคน ในครอบครัวทุกๆ ฟังค์ชั่น ด้วยราคาที่เกินคุ้มสำหรับวัสดุระดับ Premium ในทุกหลัง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนบางนา-ตราด, ถนนวงแหวนรอบนอก, สนามบินสุวรรณภูมิ สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส,โฮมโปร, บิ๊กซี, เซ็นทรัล บางนา, ม.หัวเฉียว, ม.อัสสัมชัญ, รพ.บางนา, วัดศรีวารีน้อย  
Foresta Nimitmai 40-ฟอเรสต้า นิมิตใหม่ 40 : รีวิวบ้าน

Foresta Nimitmai 40-ฟอเรสต้า นิมิตใหม่ 40 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Foresta Nimitmai 40 (ฟอเรสต้า นิมิตใหม่ 40) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอ เบสท์ เอสเตท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนนิมิตใหม่ แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. พื้นที่โครงการ : 61-1-80 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 312 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน อัลไพน์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ทีมเบอร์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ - แบบบ้าน โอลีป บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ซีด้า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ไลแลค บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ   สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,960,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวโครงการใหม่พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ให้คุณและครอบครัวได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกหลังสะท้อนแนวคิดแบบ MODERN MINIMAL ที่ออกแบบฟังก์ชั่นเพื่อครอบครัวรุ่นใหม่ ระบบขนส่งสาธารณะ : ถนนนิมิตใหม่, วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สถานที่ใกล้เคียง : โรงเรียนสารสาสน์วิเทศนิมิตใหม่, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า, โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา, ม. มหานคร, ม. เกษมบัณฑิต, โรงพยาบาลหนองจอก, โรงพยาบาลนพรัตน์, Tesco Lotus, Big C  
Chuanchuen Prime Ville Krungthep-Pathumthani-ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

Chuanchuen Prime Ville Krungthep-Pathumthani-ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Chuanchuen Prime Ville Krungthep-Pathumthani(ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี) เจ้าของโครงการ : บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถ.กรุงเทพฯ-ปทุมฯ ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ : 33-0-69.4 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 146 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - แบบ IRIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. - แบบ MARISA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. - แบบ VANDA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 4,990,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : เดือน ธ.ค.63 จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวรุ่นใหม่ สไตล์ American Cottage อบอุ่นลงตัว ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานโครงการใหม่ล่าสุด บนถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี ความสุขในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติกับสังคมคุณภาพ ใกล้สนามกอล์ฟ ฟลอร่าวิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ สถานที่ใกล้เคียง : The Tree Community Mall, โรบินสัน ศรีสมาน, เมืองทอง, ศูนย์ราชการ, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, รพ.ปทุมธานี, รพ.ปากเกร็ด 2, รพ.ปากเกร็ด, รพ.เวิร์ดเมดิคอล
Supalai Essence Suanluang-ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง : รีวิวบ้าน

Supalai Essence Suanluang-ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Supalai Essence Suanluang (ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง) เจ้าของโครงการ :  บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ซอยชุมชนมหาดไทย 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. พื้นที่โครงการ : 15 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน ศุภศิลป์ บ้านรุ่นใหม่ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ศุภศิริ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 321 ตร.ม. ขนาด 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สโมสร - สระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 7,300,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวจาก ศุภาลัย แนวคิด “IT’S TIMELESS LIVING IN DOWNTOWN” ที่อยู่อาศัยทำเลศักยภาพย่านบางนา-ตราด ที่คุณอาจหาความคุ้มค่าแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีก ให้คุณสะท้อนทุกด้านที่เป็นตัวคุณ สัมผัสแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่ผสานทั้งความหรูหรา คุ้มค่า ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนศรีนครินทร์, ถนนวงแหวนรอบนอก, ทางพิเศษบูรพาวิถี, สนามบินสุวรรณภูมิ, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีอุดม สถานที่ใกล้เคียง : MEGA บางนา, IKEA, เทสโก้ โลตัส, Market Village, Index Living Mall, SB Design Sqaure, Bangkok Mall, สวนหลวง ร.9, ม.รามคำแหง 2, รพ.ปิยมินทร์, รพ.จุฬารัตน์ 1  
Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ2) : รีวิวบ้าน

Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ2) : รีวิวบ้าน

บ้านเดี่ยวที่ออกแบบจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของครอบครัวเมืองกับธรรมชาติ กับโครงการ Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2)  บ้านเดี่ยวสไตล์ใหม่เอาใจคนรุ่นใหม่จาก AP (Thailand)   ที่พบกับความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ และอยู่ใกล้จากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะครบครัน ใช้เวลาเพียง 10 นาทีถึงแจ้งวัฒนะ ทำเล   นนทบุรี เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ติดกับกรุงเทพฯ มีประชากรที่หนาแน่นรองจากกรุงเทพฯ แต่เสน่ห์ของนนทบุรีก็ไม่แพ้เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันอย่างห้างสรรพสินค้า แหล่งสำนักงานราชการ รัฐวิสาหกิจมากมาย เปรียบเสมือนกรุงเทพฯ มีอะไร นนทบุรีก็มีเช่นกัน เพ็งสายตามาจับจ้องมาที่ถนนแจ้งวัฒนะ เป็นอีกหนึ่งถนนแหล่งธุรกิจอีกเส้นหนึ่ง ถือว่าเป็นถนนสายนักทำงานทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนจึงมีความมีความสำคัญ นอกจากนี้ยังสิ่งอำนวยครบครันไม่ว่าจะเป็น เซนทรัลแจ้งวัฒนะ โรงพยาบาล World Medical Center เป็นต้น       ถอยห่างจากความวุ่นวายบนถนนแจ้งวัฒนะ ออกไปไม่ไกลจะพบกับโครงการ “Centro ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2” ตั้งอยู่บนถนน ทางหลวงชนบท นนทบุรี 2051 ซึ่งมีความเงียบสงบไม่วุ่นวาย และไม่ห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเข้าถึงอย่าง เซนทรัล พลาซ่า แจ้งวัฒนะ , The Crystal PTT , Home Pro ชัยพฤกษ์ , เมืองทองธานี , โรงพยาบาลปากเกร็ด , โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และ โรงพยาบาล World Medical Center , โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า , โรงเรียนสารสาสน์ , โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี , โรงเรียนหอวังนนทบุรี , มหาวิยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  นอกจากนี้ย้งใกล้รถไฟฟ้าสายสีมว่ง(สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ) และในอนาคตจะใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีปากเกร็ด)     ภาพรวมโครงการ     " Centro ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2 " เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ประมาณ 47 ไร่ ทำให้มีเพื่อนบ้านถึง 207 หลัง จุดเด่นของโครงการแบบบ้านที่มีหน้ากว้าง พร้อมกับมีห้องน้ำให้กับทุกห้องนอน  เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น บวกกับส่วนกลางที่ครบครันบนพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ อย่าง Fitness , Kid’s bike lane , Jogging track , Playground , สระว่ายน้ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เริ่มจากประตูหน้าโครงการเป็นแบบ Security Gate ในส่วนของทางเข้า - ออกของโครงการเป็นระบบ Access Card (Easy Pass) และมาพร้อมกับกล้องวงจรปิด CCTV กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เมื่อผ่านประตูหลักมาแล้ว ตรงเข้ามาเป็นถนนเพื่อเข้าไปโครงการ โดยสองข้างทางประดับด้วยต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น เป็นธรรมชาติ สบายตา   แต่ก่อนที่จะพาไปชมบ้านตัวอย่าง มาเดินชมส่วนกลางของโครงการกันก่อนครับ และนี้คือหน้าตาภาพรวมของส่วนกลาง       พื้นที่ตรงนี้เป็นส่วนของ Playground ให้เด็ก ๆ ได้มาวิ่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ   ถัดมาจาก Playground เป็น Kid's Bike Lane ให้น้อง ๆ หนู ๆ มาปั่นจักรยานออกกำลังกายครับ   สระว่ายน้ำของส่วนกลางเป็นระบบเกลือ แยกสระเด็ก - ผู้ใหญ่ ซึ่งสระเด็กความลึกอยู่ที่ 30 ซม. ส่วนผู้ใหญ่ 1.30 ซม.   และนี้คือหน้าตาของสระว่ายน้ำเด็กข้าง ๆ มีเตียงสระว่ายน้ำให้ผู้ปกครองมาดูแล เด็ก ๆ ได้อย่างใกล้ชิด   ต่อจากสระว่ายน้ำมาต่อกันที่ Co - working space สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งอ่านหนังสือ หรือตั้งกลุ่มคุยกับเพื่อนบ้าน   สำหรับคนที่รักสุขภาพต้องนี้เลย Fitness ตัวห้องรายล้อมไปด้วยกระจก ทำให้ดูโอ่โถ่งกว้างขว้าง ไม่อึดอัด   Plan   Shine  พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถในร่ม     Radiant  พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถในร่ม     Glorious  พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถในร่ม     Luminance  พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถในร่ม   ชมบ้านตัวอย่าง   วันนี้บ้านตัวอย่างที่จะพาไปชม เป็นแบบ Luminance พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถในร่ม และทางโครงการให้เป็นบ้านเปล่า แต่แถมวอลเปเปอร์ และสัญญาณกันขโมยให้กับทุกยูนิต เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านให้อุ่นใจมากขึ้น   และนี้คือหน้าตาของบ้าน Luminance ตรงตามฟังก์ชั่นแบบหน้าบ้านมีความกว้าง ตัวบ้านออกแบบสไตล์ Modern + Contemporary คือเน้นความเรียบง่าย วัสดุเน้นเป็นเหล็กหรือกระจก มีความเป็น Modern บวกเข้ากับโทนสีของบ้านเป็นสีขาว และมีไม้มาต่อเติมดูมีกลิ่นอาย Contemporary ได้อย่างลงตัว   ก่อนที่จะเข้าไปชมตัวบ้านด้านหน้าจะเห็นเป็นที่จอดรถในร่ม ที่สามารถจอดได้ถึง 3 คัน และมีประตูที่เชื่อมเข้าไปยังในบ้านอีกด้วย   และนี้คือประตูหลักเพื่อเข้าไปในบ้านเป็นประตูกระจก  ซึ่งกระจกภายในบ้านทั้งหลังเป็นกระจกลามิเนต แข็งแรง ป้องกันความร้อน และเก็บเสียงได้ดี   เข้ามาถึงห้องแรกจะพบกับ Common Area เพดานสูงถึง 2.6 เมตร มีความกว้างสบายสามารถวางโซฟาแอลเชฟ ก็ยังเหลือพื้นที่อีกมาก   ถัดมา พื้นที่ส่วนนี้สามารถทำเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร จากภาพจะเป็นโต๊ะสำหรับหกที่นั่งและมีบาร์ แต่เปลี่ยนเป็นโต๊ะยาว 8 ถึง 10 ที่นั่งก็ยังได้สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกมาก หรือมีเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้านก็ยังรับไหว   ด้านขวามือสุดจะพาไปสู่ห้องครัว   และนี้คือหน้าตาของห้องครัว ทางโครงการ Built in เน้นวัสดุด้วยไม้ แต่สามารถเปลี่ยนได้ตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัยครับ   ด้านบนเป็นตู้ไฟ ทางโครงการได้ Built in เป็นตู้ไม้ปิดไว้เพื่อความสวยงาม และประตูด้านขวามือเปิดออกไปจะเป็นส่วนด้านหลังบ้าน   ในส่วนของพื้นที่ด้านนี้ สามารถทำเป็นพื้นที่ซักล้างได้ และจะเห็นประตูอีกสองบ้านเป็นส่วนของห้องแม่บ้าน และห้องน้ำครับ   ส่วนนี้คือ หน้าตาของห้องแม่บ้าน   และห้องน้ำด้านหลังบ้าน   กลับเข้ามาในบ้าน เดินต่อจากโซนโต๊ะรับประทานอาหาร ด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำกลาง   ในห้องน้ำกลางจะไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำครับ   ออกจากห้องน้ำ จะพบกับประตูไม้ที่เชื่อมกับโรงจอดรถ   ไปต่อกัน แต่ก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ยังมีห้องทางด้านซ้ายมือ   ในส่วนของห้องนี้ ทางโครงการได้ทำเป็นห้องดูหนัง หรือผู้อยู่อาศัยจะทำเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้อง เวลาแขกของคุณลูกและแขกของคุณพ่อคุณแม่มา จะได้แยกกันได้ หรือจะทำเป็นห้องอ่านหนังสือตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัย   พื้นที่ในห้องนี้ กว้างพอที่สามารถทำเป็นห้องกิจกรรมต่างๆ หรือมุมโปรดได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำให้ในตัวด้วย   ภายในห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง จะมีห้องน้ำมาให้ในตัว ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม   เดินต่อเพื่อไปยังชั้น 2 ของบ้านด้วยบันไดไม้สำเร็จรูปสีธรรมชาติ   ขึ้นมาถึง จะพบกับห้องมากมายเริ่มจากซ้ายมือกันเลยครับ   ในส่วนของห้องนอน 1 ภายในห้องกว้างพอรองรับเตียง 6 ฟุตก็ยังไม่ดูอึดอัด ทางโครงการตกแต่ง Built in ให้กลิ่นอายถึงผู้หญิงดูเรียบง่าย สบาย ๆ หน้าต่างทำให้เป็นบานไม้เลื่อนขึ้นมาให้ดูเก๋ ๆ มากขึ้น   นอกจากนี้ปลายเตียง ยังพอมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือได้อีกด้วยครับ   ห้องน้ำชั้นบนทุกห้อง จะมีกระจกกั้นในส่วนของพื้นที่อาบน้ำครับ   ออกมาจากห้องนอน 1 จะเห็นอีกสามห้องเริ่มจากตรงกลางกันก่อนครับ ซึ่งความจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่ทางโครงการได้ติดกระจกบานเลื่อนเพื่อสร้างเป็นอีกห้องครับ   ทางโครงการ ได้จัดทำเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 หรือเป็นห้องทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน และจะเห็นประตูกระจกเพื่อไปยังระเบียงหน้าบ้าน   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค และราวกันตกเป็นกระจกใสลามิเนต และยังสามารถเดินเชื่อมกับ Master Bedroom ได้   กลับเข้ามาด้านขวามือ จะเป็นห้องนอน 2 ทางโครงการ Built in ให้เป็นห้องนอนเด็ก สร้างลูกเล่นทำพื้นต่างระดับเพิ่มมิติมากขึ้น และยังมีพื้นที่สร้างโดมของเล่นเด็กให้หนู ๆ ได้เข้าไปเล่นได้อีกด้วย ห้องก็ยังดูกว้างไม่เล็กครับ   ห้องน้ำของห้องนอน 2 เหมือนกับห้องนอน 1 มีกระจกกั้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียก และแห้งอย่างชัดเจน   และห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom กว้างขวางดูโอ่โถง มีพื้นที่มาก รองรับเตียง King Size ก็ยังมีพื้นที่เหลือ ๆ   มีกระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโล่ง เพื่ออากาศถ่ายเท และยังสามารถเชื่อมไปยังห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 ได้ครับ   หันหลังกลับมาจะเป็นส่วนของ Walk In Closet และห้องน้ำครับ   สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แยกซ้ายขวาเป็นตู้ของคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างลงตัว ไม่ต้องใช้ตู้เสื้อผ้าร่วมกัน   ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำ ก็ยังมีพื้นที่พอทางโครงการ Built in เป็นตู้ใหญ่และโต๊ะเสริมสวยของคุณแม่ ก็ยังเหลือพื้นที่กว้างไม่อึดอัด   ส่วนของห้องน้ำ Master Bedroom ทางโครงการจะมีอ่างอาบน้ำให้ครับ   ภายในห้องน้ำก็มีเนื้อที่กว้างมาก นอกจากจะมีอ่างอาบน้ำ ซ้ายมือก็เป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำด้วยฝักบัว   และมีกระจกแบบบานกระทุ้งเพื่อให้อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น   และนี้คือบ้านตัวอย่างบ้านเปล่า เป็นแบบ Glorious พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม.  4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถในร่ม   สำหรับที่จอดรถเป็นแบบในร่มจอดได้ถึงสามคัน และมีประตูเชื่อมเข้าสู่ตัวบ้าน   ประตูหลักเข้าบ้าน ยังคงเป็นกระจกลามิเนต กันความร้อนได้เวลาแสงแดดส่องเข้ามา ไม่ทำให้ผู้อยู่อาศัยร้อนเกินไปครับ   หน้าต่างและประตูทั้งบ้าน เป็นแบบล็อคสองชั้น เหมือนกันหมดทุกยูนิตครับ   ตัวล็อคชั้นที่สองเป็นแบบก้นหอย เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน   ในส่วนของพื้นที่ด้านนี้เป็น Common Area สามารถทำเป็นห้องรับแขก และเชื่อมยาวไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร   ลึกเข้ามาด้านซ้ายมือจะนำไปสู่ห้องครัว   ภายในครัวซิงค์ล้างจาน อยู่ตรงกับหน้าต่างบ้านใหญ่ เพื่ออากาศถ่ายเท และไม่อับชื้น   อีกด้านของห้องครัวเป็นเคาน์เตอร์ และยังมีพื้นที่ไว้วางตู้เย็นได้ครับ มุมขวาบนเป็นตู้ไฟ   มีประตูเชื่อมออกไปหลังบ้าน และด้านหัวประตูมีพัดลมดูดอากาศเวลาทำอาหารไม่ให้กลิ่นอาหารกระจายเข้าสู่ตัวบ้าน   เปิดประตูออกมา เป็นส่วนของพื้นที่ซักล้าง   ด้านหลังบ้าน ยังมีพื้นที่ ทางโครงการได้ติดตั้งปั๊มน้ำ และ Condensing Unit    กลับเข้ามาด้านตรงข้ามของห้องครัว จะเป็นห้องนอนชั้นล่าง หรือทำเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้   ภายในห้องนี้ สามารถทำเป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุในบ้านได้ หรือไว้เป็นห้องนอนแขกก็ย่อมได้   ภายในห้องมีห้องน้ำให้ภายในตัวตามฟังก์ชั่นมีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัว   ภายในห้องน้ำ มีแยกพื้นที่เปียกและแห้งไว้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคกันลื่น     เมื่อเข้ามาสิ่งแรกจะพบกับอ่างล้างหน้าจากแบรนด์  Cotto   โถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto       ด้านข้างโถสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่สำหรับอาบน้ำ มีฝักบัวจากแบรนด์ Cotto เช่นกัน     ตรงข้ามกับห้องจะเจอบันไดแต่ก่อนจะขึ้นไปชั้น 2 ประตูขวามือเชื่อมจากที่จอดรถหน้าบ้าน และตรงกลางคือห้องน้ำกลางของบ้าน       หน้าตาของห้องน้ำกลางของบ้าน จะไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำ   ขึ้นบันไดไปต่อเพื่อไปยังชั้น 2   หน้าตาภาพรวมของชั้นสอง พื้นที่ตรงกลางสามารถกั้นเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือห้องดูทีวีชั้น 2 ก็ได้ ไว้ทำกิจกรรมภายในครอบครัวในตอนกลางคืนก่อนแยกย้ายเข้านอน   เมื่อขึ้นบันไดมา ที่กำแพงด้านข้างจะเจอสัญญาณกันขโมย   เมื่อขึ้นบันไดมาชั้นสองด้านขวามือ จะเป็นห้องนอน 1 และ 2 มาเริ่มจากห้องนอนแรก ด้านขวามือกันก่อนครับ   ภายในห้องนอนแรก มุมห้องด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ   หน้าตาของห้องน้ำ ของห้องนอน 1       ภายในห้องน้ำ มีพื้นที่ต่างระดับแยกระหว่างพื้นที่เปียกกับแห้งไว้     ถัดมาเป็นห้องนอน 2 ออกแบบมาเหมือนกับห้องนอนแรก มีความโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด   และส่วนนี้คือห้องน้ำในห้องนอน 2   และห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom รายล้อมด้วยกระจกบานใหญ่   ประตูกระจกเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงบ้าน   ถ้าสังเกตให้ดีที่ระเบียงบ้านจะมีรูระบายน้ำเวลาฝนตกน้ำฝน จะได้ไหลออกไปได้ไม่ให้เกิดน้ำขัง   มีพื้นที่ยื่นออกมาจากห้อง Master Bedroom เพื่อไว้ติดตั้ง Condensing Unit   กลับเข้ามาในส่วนของพื้นที่ส่วนนี้สามารถทำเป็น Walk In Closet  ด้านขวามมือเป็นห้องน้ำครับ       หน้าตาของห้องน้ำในห้อง Master Bedroom   อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอย และมีตู้เก็บของด้านล่าง   สีกับธรรมชาติมีความเกี่ยวข้องสอดคล้องกับปรากฏการณ์ธรรมชาติและช่วงชีวิตของเรา จึงเกิดเป็นแนวคิดของโครงการ Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2) บ้านเดี่ยวสไตล์ใหม่เอาใจคนรุ่นใหม่จาก AP (Thailand) ที่มาพร้อมกับรูปแบบบ้านใหม่ที่มีหน้ากว้าง และภายในบ้านมีห้องน้ำให้ในตัวทุกห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัว บวกกับส่วนกลางที่ครบครันบนพื้นที่ 1.5 ไร่ นอกจากนี้ตัวโครงการอยู่ห่างจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะแค่เอื้อมเพียง 10 นาทีถึง            
The Plant Krungthep-Pathumthani – เดอะ แพลนท์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

The Plant Krungthep-Pathumthani – เดอะ แพลนท์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ   ชื่อโครงการ : The Plant Krungthep-Pathumthani (เดอะ แพลนท์ กรุงเทพ-ปทุมธานี ) เจ้าของโครงการ :  บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ตั้งโครงการ : ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น , บ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน Parodia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 35 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน Pereskia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 40 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน Plumosa บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 50 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,000,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดโครงการใหม่ สไตล์โมเดิร์น บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ นนทบุรี - ปทุมธานี รองรับทุกการเดินทาง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี , ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (345) , สะพานปทุมธานี 2 , ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) สถานที่ใกล้เคียง : สน.เทศบาลเมืองปทุมธานี ,ชวนชื่นกอล์ฟอเวนิว , รพ.ปทุมธานี , ศาลากลาง จ.ปทุมธานี , เทสโก้ โลตัส , ไทวัสดุ , รร.ปทุมวิไล , รร.สาธิตปทุม , รร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ , The Tree Avenue  
VENUE Rama 5-3 – เวนิว พระราม 5-3 : รีวิวบ้าน

VENUE Rama 5-3 – เวนิว พระราม 5-3 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : VENUE Rama 5-3 (เวนิว พระราม 5-3) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ตั้งโครงการ : บางไผ่ซอย 4 ถ.บางไผ่พัฒนา ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พื้นที่โครงการ :  7-2-56.1 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้าน 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 46 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน VENUE 149 บ้าน 2 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่ม 38.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - ห้องเด็กเล็ก - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,990,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 94 บาท/ตร.วา ปีที่สร้างเสร็จ : เดือน ธ.ค. 2561 จุดเด่นโครงการ : บ้าน 2 ชั้น สะดวกสบายกับหลากหลายเส้นทางที่เลือกได้บนทำเลพระราม 5 แนวคิด Organic Living ให้คุณได้ใช้ชีวิตในแบบที่คุณเลือกท่ามกลางธรรมชาติ ภายใต้สังคมคุณภาพที่อบอุ่นเพียง 46 ครอบครัว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนนครอินทร์ , ถนนราชพฤกษ์ ,วงเวียนพระราม 5 ,สะพานพระราม 5 , ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก , รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ , รถไฟสายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ สถานีบางอ้อ สถานที่ใกล้เคียง : วัดโชติการาม , วัดสังฆทาน , Tesco Lotus นครอินทร์ , Tesco Lotus นครอินทร์ , Makro นครอินทร์
THE CITY Ratchada-Wongsawang – เดอะ ซิตี้ รัชดา-วงศ์สว่าง : รีวิวบ้าน

THE CITY Ratchada-Wongsawang – เดอะ ซิตี้ รัชดา-วงศ์สว่าง : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : THE CITY Ratchada-Wongsawang (เดอะ ซิตี้ รัชดา-วงศ์สว่าง ) เจ้าของโครงการ : บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนนครอินทร์ หน้าบ้าน ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี พื้นที่โครงการ : 31 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 94 ยูนิต     ขนาดบ้าน : -  เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 63.00 ตร.วา. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 262-500 ตร.ม. ขนาด 4-5 ห้องนอน , 4-5 ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 15,900,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : เดือน ธ.ค. 2563 จุดเด่นโครงการ : เดอะซิตี้ บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์น ที่ใส่ใจในทุกดีเทลของการใช้ชีวิต ที่สุดด้วยทำเลคุณภาพ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย พื้นที่สีเขียวและคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ความลงตัวของชีวิตครอบครัวสมบูรณ์แบบ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนนครอินทร์ , ถนนติวานนท์ , ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก , รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ , รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข สถานที่ใกล้เคียง : The Mall งามวงศ์วาน , Central ลาดพร้าว , Central รัตนาธิเบศร์ , The Walk ราชพฤกษ์ , The Crystal ราชพฤกษ์ , รร.นานาชาติเด่นหล้า , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , รพ.ยันฮี , รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น , รพ.นนทเวช ,รพ.วิภาวดี    
Centro Chaiyaphruek – Chaengwattana 2 – เซนโทร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2 : รีวิวบ้าน

Centro Chaiyaphruek – Chaengwattana 2 – เซนโทร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ   ชื่อโครงการ : Centro  Chaiyaphruek – Chaengwattana 2 (เซนโทร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2 ) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พื้นที่โครงการ : 47-2-51.1 ไร่ ลักษณะโครงการ :  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 270 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 3-5 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 175 - 255 ตร.ม. ที่ดิน 50 ตร.ว.ขึ้นไป สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์พร้อมฟิตเนส และสระว่ายน้ำพร้อมระบบเกลือ - สวนสาธารณะขนาดใหญ่ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,890,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : ธันวาคม 2563 จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวที่ออกแบบจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของครอบครัวเมืองกับธรรมชาติพร้อมตอบทุกความต้องการของลูกค้าครอบครัวเมืองรุ่นใหม่ที่มองหาบ้านเดี่ยวสำหรับการเริ่มต้นของครอบครัว ด้วยพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 154-254 ตารางเมตร ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนรัตนาธิเบศร์ , ถนนกาญจนภิเษก (วงแหวนรอบนอก) สถานที่ใกล้เคียง : The Crystal SB PTT , Homepro , Central แจ้งวัฒนะ , Pure Place , รพ.ปากเกร็ด , รพ. , World Medical Center , มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช , ร.ร.นานาชาติเด่นหล้า , ร.ร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ , ร.ร.หอวัง นนทบุรี, ร.ร.สวนกุหลาบ นนทบุรี  
Passorn Chaengwattana-Chaiyaphruek – ภัสสร แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ : รีวิวบ้าน

Passorn Chaengwattana-Chaiyaphruek – ภัสสร แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Passorn Chaengwattana-Chaiyaphruek (ภัสสร แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ ) เจ้าของโครงการ : บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ตั้งโครงการ : ถนนหอการค้าไทย ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พื้นที่โครงการ :  45-1-20.3 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 193 ยูนิต ขนาดบ้าน : - บ้าน พิมายา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม ที่ดิน 50.40 ตร.วา - บ้าน พิณพัทรา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม. 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องครัว, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 2 ที่จอด                       รถ ที่ดิน 58 ตร.วา - บ้าน พลอยไพลิน พื้นที่ใช้สอย 201 ตร.ม. 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องครัว, 1 ห้องรับ                       ประทานอาหาร, 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 61 ตร.วา - บ้าน พราวพรรณราย พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องครัว, 1 ห้อง                       รับประทานอาหาร, 2 ที่จอดรถ, 1 ห้องแม่บ้าน ที่ดิน 66 ตร.วา สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำแยกสระเด็ก-สระผู้ใหญ่ - สวนสาธารณะ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,290,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 37 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ส.ค.2564 จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Elegant Symmetry สะท้อนสมมาตรของการออกแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่งดงามเหนือกาลเวลา จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ทางหลวง 345 , ถนนชัยพฤกษ์ , ถนนราชพฤกษ์ , ห้าแยกปากเกร็ด , ทางด่วนศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : รร.วัดสะพานสูง , วัดสะพานสูง , เมเจอร์ ฮอลลีวูด , The Crystal ชัยพฤกษ์ , รพ.วิภาราม ปากเกร็ด , รร.ปากเกร็ดวิทยา
Trendy Tara Rama 2 – เทรนดี้ ธารา พระราม 2 : รีวิวบ้าน

Trendy Tara Rama 2 – เทรนดี้ ธารา พระราม 2 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Trendy Tara Rama 2 (เทรนดี้ ธารา พระราม 2 ) เจ้าของโครงการ :  บริษัท ธารารมณ์เอสเตท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซ.อนามัยงามเจริญ 11 ถ.พระราม 2 ซ.47 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. พื้นที่โครงการ : 72 – 2 – 52 ไร่ ลักษณะโครงการ :  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 282 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน NOVA ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. - แบบบ้าน GEO ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. - แบบบ้าน ARTE (C3) ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม. - แบบบ้าน MOTIF (C3) ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 207 ตร.ม. - แบบบ้าน PRIMA ขนาด 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 268 ตร.ม. - แบบบ้าน PRIMA (C2) ขนาด 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 283 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 6,490,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 25 บาท/ตร.วา/เดือน ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมเข้าอยู่ จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ต่อเติมความหมายดีๆ ให้ชีวิต อิสระแห่งการพักอาศัย สะท้อนทุกองศาความเป็นคุณ ขยายพื้นที่เทรนดี้ให้กว้างขวางขึ้นทุกตารางนิ้ว ชาร์จความสุขเต็มอิ่มด้วยมุมพักผ่อนส่วนตัวแบบไร้กรอบ เต็มที่กับพื้นที่การใช้งานอย่างต่อเนื่อง เทรนดี้กับมุมส่วนตัวของชีวิต ฉีกทุกนิยามความเทรนดี้ ให้คุณเลือกดีไซน์หน้าบ้านได้เองถึง 4 เฉดสี สดชื่น และผ่อนคลายสไตล์ Modern Tropical Garden สูบฉีดความสดชื่นไปกับหมู่พรรณไม้เขตร้อนหลากหลายชนิด ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนพระราม 2  , ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ , ทางด่วนขั้นที่ 1 สถานที่ใกล้เคียง : The Bright พระราม 2  , Health Land พระราม 2 , ตลาดรวยยิ่งรวย , รพ.บางมด ,วัดเลา ,วัดท่าข้าม, สำนักงานที่ดินบางขุนเทียน    
Centro Ratchapruek Suanphak – เซนโทร ราชพฤกษ์-สวนผัก : รีวิวบ้าน

Centro Ratchapruek Suanphak – เซนโทร ราชพฤกษ์-สวนผัก : รีวิวบ้าน

Centro Ratchapruek Suanphak (เซนโทร ราชพฤกษ์-สวนผัก) - บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบเดินทางสะดวกด้วยทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ และรถไฟฟ้า (สายสีน้ำเงิน เปิดใช้บริการปี 62) และเป็นครั้งแรกที่ออกแบบมาเพื่อตอบรับทุก Life Style ของทุกคนในครอบครัว พร้อมคลับเฮาส์หรู   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น 7,200,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 176 ยูนิต พื้นที่โครงการ 44-1-74.1 ไร่ คาดว่าจะแล้วเสร็จ พฤศจิกายน 2563 ที่ตั้งโครงการ ถนนบางกรวย - จงถนอม ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   ร.ร.เด่นหล้า พระราม 5 ร.ร.เทพศิรินทร์นนทบุรี ร.ร.บดินทร์เดชา นนทบุรี ร.ร.เซนต์คาเบรียล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร The Crystal SB ราชพฤกษ์ Homepro ราชพฤกษ์ The Walk ราชพฤกษ์ Central ปิ่นเกล้า รพ.ตา หู คอ จมูก รพ.เจ้าพระยา รพ.ยันฮี รพ.ธนบุรี 2 ช่างชุ่ย ตลาดน้ำตลิ่งชัน     แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 3-5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2-3 คัน   สิ่งอำนวยความสะดวก   คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่น ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.apthai.com/บ้านเดี่ยว/centro/centro-ราชพฤกษ์-สวนผัก
Grandio Ladprao – Kaset Nawamin – แกรนดิโอ ลาดพร้าว – เกษตรนวมินทร์ : รีวิวบ้าน

Grandio Ladprao – Kaset Nawamin – แกรนดิโอ ลาดพร้าว – เกษตรนวมินทร์ : รีวิวบ้าน

Grandio Ladprao-Kaset Nawamin (แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์) - บ้านเดี่ยวหรู ผสานความโมเดิร์นกับกลิ่นอายสไตล์อังกฤษ หรูหรา สวยงาม จัดสรรฟังก์ชั่นได้ลงตัวและใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด กับห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง Family Room ขนาดใหญ่ ชั้นล่างเพิ่มห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ครบทุกการใช้งานของคนในครอบครัว และให้มากกว่าใครกับที่จอดรถในร่ม 3 คัน ใจกลาง ลาดพร้าว และ เกษตรนวมินทร์ ใกล้เซ็นทรัลอีสต์วิลล์   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น 6,590,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 81 ยูนิต พื้นที่โครงการ 20 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ซอยนวมินทร์ 42 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   รพ.นพรัตน์ รพ.สินแพทย์ รพ.เวชธานี รพ.พญาไท รร.บดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 รร.เลิศหล้า เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ตลาดหัวมุม Big C สุขาภิบาล 1 Fashion Island The Promanade Chocolate Ville Max Value CDC The Crystal Chic Republic The Walk   แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   Placentia บ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอยรวม 186 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน Lambert บ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอยรวม 182 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน Osborne บ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอยรวม 151 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน     สิ่งอำนวยความสะดวก   คลับเฮ้าส์ สวนพักผ่อน สนามเด็กเล่น ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 062-545-6644 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://goldenland.co.th/House/
บ้าน Burasiri Bangna – บุราสิริ บางนา : รีวิวบ้าน

บ้าน Burasiri Bangna – บุราสิริ บางนา : รีวิวบ้าน

Burasiri Bangna (บุราสิริ บางนา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ใกล้ ABAC บางนา เต็มที่กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดกว่า 4 ไร่ จาก แสนสิริ   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น 4,190,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 327 ยูนิต พื้นที่โครงการ ประมาณ 92 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3413 อำเภอบางบ่อ จ.สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้าง เดือนมิถุนายน 2017   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ Mega Bangna Market Village สุวรรณภูมิ บิ๊กซี บางพลี ตลาดเสริมสุข มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา The American School of Bangkok โรงเรียนนวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ     แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   เรือนตรีชวา พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เรือนดุสิตา พื้นที่ใช้สอย 127 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เรือนแก้วมุกดา พื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เรือนพุทธรักษา พื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เรือนสุพรรณิการ์ พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ เรือนนิมมานรดี พื้นที่ใช้สอย 337 ตร.ม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ     สิ่งอำนวยความสะดวก   คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย สวนส่วนกลางประมาณ 3 ไร่ Co-Working Space ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ Key Card Access IRFD เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ประตูรั้วโครงการแบบ Double Gate     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.sansiri.com/singlehouse/burasiri-bangna/th/
รอยร้าวของผนัง สัญญาณอันตราย…หรือแค่เรื่องธรรมชาติ

รอยร้าวของผนัง สัญญาณอันตราย…หรือแค่เรื่องธรรมชาติ

เคยมองไปบนผนังบ้านของตัวเองแล้วสังเกตเห็นรอยร้าวกันบ้างมั้ย รอยร้าวเหล่านั้นเป็นแค่เรื่องธรรมชาติหรืออันตรายต่อบ้านขนาดไหน ลองมาดูกันครับ เคยสงสัยกันบ้างไหมครับว่าทำไมอาคารบ้านเรือนเราอยู่ๆก็เกิดมีรอยร้าวทั้งๆที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆ แบบบ้านบางหลังสร้างมาตั้งหลายปีก็ไม่เห็นว่าจะร้าวเลย แล้วรอยร้าวพวกนี้ส่งสัญญาณอะไรให้เราบ้าง อันตรายแค่ไหน แบบบ้านจะพังไหม หรือ แค่เราคิดมากไปเอง ไม่แน่อาจจะแค่เรื่องธรรมชาติหรือเปล่าไปถามบางคนก็ว่าแค่ปูนร้าวไม่มีอะไรหรอก แต่อีกคนมาบอกว่าต้องแก้นะเดี๋ยวบ้านพัง แล้วตกลงเราจะรู้ได้อย่างไร ว่ารอยร้าวที่เกิดกับบ้านเรานั้นอันไหนต้องแก้ไข หรืออันไหนปล่อยไว้ก็ได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับรอยร้าวที่ทั้งทำให้เราร้าวรานและร้อนใจนั้นมีแบบไหนกันบ้าง และจะแก้ไขอย่างไร ลองมาดูกันครับ 1.รอยร้าวที่เกิดบนผนัง รอยร้าวประเภทนี้ส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตรายถึงขั้นบ้านถล่มดินทลาย แต่มักจะมาในรูปแบบของความน่ารำคาญ คือจะทำให้ดูรกหูรกตา ไม่น่ามอง แต่ในกรณีนี้ไม่สามารถทำให้บ้านพังได้ครับ เช่น 1.1 รอยร้าวแบบแตกลายงา มักจะเกิดจากปูนฉาบขาดน้ำ คือ ผนังก่ออิฐแห้งเกินไปทำให้เมื่อเราเริ่มงานฉาบปูน น้ำที่ผสมในปูนฉาบที่ได้สัดส่วนดีงามแล้ว โดนผนังด้านในดูดเอาน้ำไปทำให้ปูนฉาบผิดสัดส่วนและแห้งเกินไป เมื่อใช้อาคารไปซักพักจึงเกิดเป็นรอยดังกล่าว หรืออาจจะโดนเร่งงานจากเจ้าของบ้านหรือรีบเก็บงวดงาน ทำให้เมื่อก่อผนังอิฐเสร็จก็ฉาบเลยไม่รอให้ผนังอิฐเซ็ทตัวนั่นเอง การแก้ไข : A - ก่อนงานฉาบปูนให้เรารดน้ำผนังก่ออิฐให้ชุ่มก่อนเพื่อไม่ให้ผนังขาดน้ำ แล้วแบบไหนถึงเรียกว่าไม่ขาดน้ำ สังเกตง่ายๆก่อนจะเริ่มงานฉาบลองเอาฝ่ามือไปนาบผนังถ้ารู้สึกว่าเย็นๆชื้นๆก็แสดงว่าใช้ได้แล้วนั่นเอง B - ถ้าสายไปเสียแล้ว เพราะแตกไปเรียบร้อยก็แก้ไขได้ไม่ยาก ให้ใช้สีที่มีความยืดหยุ่นสูง หาได้หลากหลายยี่ห้อในท้องตลาดมาทาทับให้เรียบร้อย และมักจะแก้ได้อย่างชะงัดทีเดียวครับ 1.2 รอยแตกของผนังตามริมขอบวงกบ อันนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความมักง่ายของช่างก่อสร้าง ที่ไม่ยอมทำเสาเอ็น เสาเอ็นก็คือเสา คสล.ขนาดประมาณ 7 x 7 cm ที่ทำเป็นกรอบครอบวงกบประตูไว้นั่นเอง เพื่อป้องกันปูนฉาบแตกจากการเปิดปิดประตู ฉะนั้นในระหว่างการก่อสร้างเจ้าของบ้านก็ควรตรวจสอบให้รอบคอบก่อนจะที่ช่างจะฉาบปูนครับ 1.3 รอยแตกแนวทแยงบนผนังกว้างประมาณ1-2 มม.อันนี้เริ่มจะน่ากังวลขึ้นมาหน่อยครับ รอยร้าวประเภทนี้มักจะเกิดหลังจากอาคารสร้างเสร็จไปแล้วซักพัก หากเราเจอให้ลองเอาดินสอขีดตรงปลายรอยแตกแล้วสังเกตว่าร้าวต่อหรือไม่ ถ้าไม่ก็ถือว่าไม่อันตรายอาจจะแค่เกิดการบิดของผนังหรือเวลาสิบล้อขับผ่านหน้าบ้านบ่อยๆเกิดการสะเทือนมากเป็นต้น แต่ถ้ารอยร้าวกว้างและยาวมากขึ้นอาจจะสันนิษฐานได้ว่า โครงสร้างอาคารอาจจะกำลังทรุดตัว ควรปรึกษาวิศวกรเป็นการด่วน 2.รอยร้าวที่เกิดบนคาน รอยร้าวบริเวณนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือเยอะ ให้คิดไว้ก่อนว่านั่นคือเรื่องอันตราย ให้รีบหาสาเหตุและแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด เพราะไม่ใช่เรื่องปกติแล้วครับ โดยเราอาจสังเกตได้ดังนี้ 2.1รอยร้าวแบบแตกลายงาแต่ไม่ปริออกมา อันนี้น่าจะเกิดจากปูนฉาบขาดน้ำเช่นเดียวกับข้อ 1.1 หรืออาจจะเป็นช่างฉาบปูนคนเดียวกัน ไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ 2.2 รอยร้าวเป็นเส้นตรงแนวตั้งตรงกลางคานและปริจนเห็นเนื้อปูนหรือเหล็กเสริมด้านใน อาการนี้แสดงว่าคานรับน้ำหนักเกินกว่าที่วิศวกรกำหนดไว้ เรามักจะเจอกรณีแบบนี้ในอาคารประเภทโกดังที่มีการกองเก็บสินค้าเกินกำลัง ให้ลองเอาของที่ตั้งอยู่บนเหนือคานออกแล้วสังเกตดูว่ารอยร้าวมันหยุดหรือไม่ ถ้าหยุดก็แสดงว่าเราเจอสาเหตุ ขั้นตอนต่อไปก็ให้กระจายการวางน้ำหนักให้สมดุลกันทั้งอาคาร แต่ถ้ายังคงร้าวต่ออันนี้ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าอาคารของเราก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ก็รีบอพยพชั่วคราวกันก่อนครับ แล้วรีบติดต่อวิศวกรมาดูโดยเร็วที่สุด เพราะอาจจะทำให้อาคารพังได้ 3.รอยร้าวที่เกิดบนเสา รอยร้าวที่เกิดกับเสาก็เป็นอีกตำแหน่งที่ถือว่าอันตรายถึงชีวิตได้ง่าย ถ้าไม่นับรอยแตกลายงา รอยร้าวของเสามักจะเกิดที่หัวเสา อาจจะฉีกออกแค่เสาหรือทั้งคานและเสาก็ได้ อันนี้รีบย้ายออกจากบ้านก่อนเลยครับ แล้วติดต่อวิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ เพราะเกิดจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน เกิดแรงเฉือนอย่างรุนแรงที่ตำแหน่งหัวเสาเชื่อมกับคานและจะทำให้อาคารทรุดลงมาได้ การแก้ไขมีตั้งแต่เสริมเหล็กรับแรงให้กับเสา ไปจนถึงทุบอาคารทิ้งกันเลย ฉะนั้นถ้าเจอรอยร้าวแบบนี้อย่านิ่งนอนใจอย่างเด็ดขาดครับ 4.รอยร้าวที่เกิดบนพื้น รอยร้าวบนพื้นมักจะมีให้เห็นบริเวณพื้นชั้นล่าง และเป็นพื้นที่วางบนดินหรือที่เรียกว่าพื้นหล่อในที่ โดยสาเหตุเกิดจากการทรุดตัวของดินถมบดอัดที่อยู่ใต้พื้น พอดินที่รับน้ำหนักพื้นทรุดลงก็จะทำให้พื้นทรุดตาม ทำให้เห็นรอยร้าวตามขอบพื้นที่ติดกับคาน การแก้ไข หากกำลังเริ่มทำแบบบ้านให้พยายามทำพื้นแบบวางบนคานไม่ว่าจะเป็นพื้นหล่อหรือพื้นสำเร็จรูปก็ตาม ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดกับบ้านเราอย่างแน่นอน ส่วนคนที่อยู่แบบบ้านเดิมมานานและพื้นทรุดตัวแล้ว อันนี้แก้ยากครับ ง่ายสุดคือทุบพื้นเดิมทิ้งแล้วหล่อใหม่ดีกว่า เป็นยังไงบ้างครับได้รับรู้กันไปพอสมควรสำหรับเรื่องรอยร้าวในตำแหน่งต่างๆ ทั้งที่อันตรายและไม่อันตราย วันไหนว่างๆลองเดินสำรวจรอบบ้านกันดู หรือว่าใครกำลังเจอปัญหานี้พอดีก็จะได้มีแนวทางในการแก้ไขเบื้องต้นได้ครับ ขอบคุณแหล่งที่มา http://www.forfur.com/%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4
ซื้อบ้านมือสอง มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

ซื้อบ้านมือสอง มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

เป็นเรื่องปกติที่เวลาเราซื้อบ้านมือสองจะมี “ความเสี่ยง” มากกว่าบ้านใหม่ เพราะถ้าเราซื้อบ้านใหม่ ก็สามารถเลือกได้เลยว่าจะเอาโครงการไหน รู้ประวัติที่มาของโครงการ ความน่าเชื่อถือ เเต่บ้านมือสองนั้นเเตกต่างกัน เพราะอย่างๆน้อยบ้านต้องมีเจ้าของมาก่อนแล้วเเน่นอน แล้วถ้าเราจะเลือกซื้อบ้านมือสองสักหลัง เราเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงเรื่องอะไรบ้าง?    1.เเน่ใจได้ยังไงว่าคนที่อยู่บ้านหลังนั้นเป็นเจ้าของบ้าน? อย่างเเรกสุดที่เราต้องเจอเลย เพราะเราไม่อาจเเน่ใจได้เลยว่าเขาใช่เจ้าของบ้านตัวจริงหรือเปล่า? หรือเพียงเเค่ผู้อยู่อาศัย ผู้เช่าบ้าน ก่อนจะตกลงซื้อขายเบื้องต้นต้องตรวจสอบให้ดีก่อน วิธีตรวจสอบคือการเอาโฉนดไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินว่าเจ้าของชื่ออะไร พอถึงวันนัดวางเงินก็เอาเอกสารมาเทียบกัน ถ้าตรงกันก็ถือว่าถูกต้อง เเต่ถ้าซื้อบ้านเอง เเนะนำให้สำนักกฎหมายเข้ามาดูเเล จะปลอดภัยกว่า     2.บ้านมีทางออกมั้ย? ความเสี่ยงต่อมาคือเรื่องทางออก ถ้าเป็นบ้านที่อยู่นอกโครงการหมู่บ้านจัดสรร และมีถนนตัดผ่านหน้าบ้าน ต้องตรวจสอบก่อนว่าถนนเส้นนั้นเป็นถนนส่วนบุคคลหรือเป็นถนนภาระจำยอมที่ให้บ้านอื่นสามารถใช้ได้ร่วมกัน เเต่ถ้าใครเลือกขอสินเชื่อธนาคารก็ไม่ต้องกังวล เพราะเจ้าหน้าที่ธนาคารจะส่งฝ่ายประเมินเอกสารไปตรวจสอบให้เรา สบายใจไร้กังวล   3.เรื่องราคาจะเป็นกลางมั้ย? เรื่องสำคัญที่หลายคนกังวลคือเรื่องราคา หลายคนอาจไม่มีประสบการณ์ซื้อขายบ้านมาก่อน ดังนั้นต้องตรวจสอบราคาให้ดีก่อนว่าเป็นราคาตลาดหรือมั้ย? ถ้าเก็บข้อมูลได้เยอะเเล้วเจอหลังที่ใช่ ก็ซื้อได้เลย เเต่ถ้าเพิ่งดูครั้งเเรกแล้วชอบ ก็อย่าพึ่งรีบตัดสินใจ เราอาจจะลองค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เเล้วเปรียบเทียบราคาบ้านในละเเวกเดียวกัน เเต่ก็ต้องเช็คข้อมูลให้ถูกต้องด้วย อย่าเชื่อหมดทุกอย่าง ได้ข้อมูลที่พอใจเเล้วเราก็ลงพื้นที่จริงได้เลย อย่าลืมอีกเรื่องคือ เมื่อตกลงราคากันได้เรียบร้อย ต้องคุยกันให้เด็ดขาดว่าฝ่ายไหนจะจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง?   4.บ้านถูกอายัดอยู่หรือเปล่า? การอายัดเกิดจากการเอาบ้านไปติดจำนองเเล้วไม่ผ่อนเจ้าหนี้ เจ้าหนี้จึงไปขออำนาจศาลอายัดบ้านไว้ก่อน เหตุการณ์แบบนี้มักเกิดกับการซื้อขายบ้านในเมือง หลายคนเลยที่ดูบ้านเรียบร้อย ตกลงจะซื้อพร้อมวางเงิน เเต่บ้านกลับถูกอายัด วิธีแก้ไขคือเราสามารถไปขอดูโฉนดที่กรมที่ดินก่อนได้ เเจ้งว่าอยากจะตรวจสอบเพราะต้องการจะซื้อบ้านหลังนี้ ส่วนเรื่องการติดจำนอง ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะว่าคนที่ติดจำนองต้องมาไถ่ถอนไปก่อนถึงจะซื้อขายได้   5.ถ้าเอกสารสิทธิที่ครอบครองไม่ใช่โฉนดที่ดินล่ะ? กรณีเป็นพื้นที่ต่างจังหวัด เอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 และ น.ส.3ก สามารถซื้อได้ทั้งหมด เเต่ถ้าเป็น ภบท. หรือซื้อใบรับรองจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ยืนยันว่าใช้เป็นที่ทำมาหากิน พวกนี้ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง   6.ถ้าซื้อไปแล้วถูกเวนคืน? ก่อนจะเลือกซื้อบ้าน ควรตรวจสอบว่าเเถวนั้นมีโครงการทำทางด่วน รถไฟฟ้า ถนนตัดผ่านใหม่หรือเปล่า? ถ้าอยู้ในช่วงสำรวจก็ถือเป็นความเสี่ยงส่วนหนึ่ง เเต่ถ้าการเวนคืนที่ดินเเถวนั้นออกเป็นกฤษฎีกาแล้วก็สบายใจได้ เพราะถือว่าที่ดินเเถวนั้นห้ามทำการซื้อขายเด็ดขาด     7.แล้วถ้าโฉนดบ้านมีชื่อมากกว่า 1 คน ทำไงดี? เรื่องนี้เวลาวางเงินซื้อขายทุกคนต้องเซ็นยินยอม ถ้าเกิดเหตุการณ์มีคนใดคนหนึ่งไม่ยินยอมในวันโอน เราอาจโดนยึดมัดจำไปฟรีๆ เเล้วต้องมาเสียเวลามาฟ้องร้องเรียกมัดจำคืน     8.ถ้าเกิดสิ่งปลูกสร้างที่ดินไม่มาพร้อมกัน ถ้าที่ดินเป็นชื่อคนละคนกับบ้าน จะซื้อขายต้องมีประกาศจากสำนักงานที่ดินว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมก่อน จะต้องเสียเวลาอีก 1 เดือน และถ้าหากไม่ประกาศก็โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้   9.ถ้ามีปัญหา มีผู้จัดการมรดกจัดการหรือเปล่า? ถ้าคนถือครองเสียชีวิต ก็ต้องดูว่ามีใครเป็นผู้จัดการมรดก ทำเรื่องเรียบร้อยเเล้วหรือยัง? เเต่ถ้าเกิดวางเงินไปแล้ว เเต่กลัวว่าจะโอนไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วสามารถโอนได้ โดยขออำนาจศาลเเต่งตั้งผู้จัดการมรดกก็สามารถทำเรื่องซื้อขายกันต่อได้เเล้ว ตอนนี้เรารู้เเล้วว่าความเสี่ยงที่จะเจอเวลาเราจะซื้อบ้านมือสองนั้นมีอะไรบ้าง ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองสักหลังต้องคิดให้ดีๆ เก็บข้อมูลให้มากๆก่อนซื้อ   ขอบคุณแหล่งที่มา  :  https://www.home2nd.com/blog/87690  
ผ่อนไหวใช่ว่าดี คำนวณก่อน ดอกเบี้ยบ้าน คุ้มค่าจริงเปล่า?

ผ่อนไหวใช่ว่าดี คำนวณก่อน ดอกเบี้ยบ้าน คุ้มค่าจริงเปล่า?

การมีทรัพย์สินติดตัวไว้ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ยิ่งเมื่อการได้มาเป็นภาระเกินความจำเป็น ยิ่งมีมูลค่ามาก การได้มากก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น และผู้ให้บริการทางการเงินส่วนมากก็มอบช่องทางสบายๆให้กับคนใจร้อน คนที่มีความต้องการมากเสียจนลืมคิดหน้าคิดหลังให้ดีซะก่อน หากคุณไม่อยากเสียผลประโยชน์จากการไม่วางแผน ลองอ่านบทความนี้ให้จบ แล้วคุณจะพบว่า ดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้าน หากไม่บริหารให้ดี จะเจ็บหนักขนาดไหน   อันดับแรกคือหาเจ้าที่ประหยัดที่สุด เวลาเราไปดูตารางดอกเบี้ยของผู้ให้บริการทางการเงินหลายๆเจ้า เรามักจะเห็นคำว่า MRR นำอยู่ข้างหน้าเสมอ ตามด้วย สามปีแรกดอกเบี้ยกี่ % แล้วหลังจากนั้นเป็น MRR ลบเท่าไหร่ เช่น MRR = 7.25% สามปีแรก ดอกเบี้ย 3.75% ปีที่เหลือ ดอกเบี้ย MRR-2% เมื่อเห็นแบบนี้ก็เข้าใจง่ายๆว่าคุณจะต้องโดนดอกเบี้ยปีละกี่ % แต่ค่า MRR จะเปลี่ยนไปทุกปีตามกำหนดการของธนาคาร เป็นเหตุผลที่มีการรีไฟแนนซ์ ทำให้การตัดสินใจเลือกผู้บริการธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ยังไม่รวมไปถึงปริมาณการผ่อนชำระ   หลักการผ่อนไม่ให้ขาดทุน จุดสำคัญที่อยากให้ทุกคนเข้าใจกันคือปริมาณก่อนผ่อนชำระของคุณ เพราะคนส่วนมากมักจะเลือกผ่อนทีละน้อย เพื่อไม่ให้เดือดร้อนทรัพย์สินส่วนอื่น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกไปซะหมด โดยเฉพาะกับคนที่สามารถรับผิดชอบผ่อนชำระได้มาก บางคนมีรายได้พอจะผ่อนให้เสร็จในสิบปีได้ แต่เลือกจะผ่อน 20 ปีเพื่อจะเอาเงินไปใช้ทำส่วนอื่น ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดเต็มๆ ธนาคารมักจะมีการผ่อนชำระขั้นต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 1ล้านต่อ 7พันบาท จะผ่อนหมดในเวลาประมาณ 142 สัปดาห์หรือ 20 ปี ซึ่งใช้เวลานานมาก ในขณะที่ปริมาณดอกเบี้ยไม่ได้ลดลงเลย คุณอาจจะมีรายได้อยู่ที่ 30,000 บาทต่อเดือน ผ่อน 15,000 บาทต่อเดือนต่อเงินต้นสองล้านบาท คุณคิดว่าคุณจะโดนดอกเบี้ยเท่าไหร่? ดอกเบี้ยหรือค่า MRR อาจจะคงที่ในทุกทุกปีที่คุณผ่อน แต่ดอกเบี้ยจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับเงินต้นว่าคุณผ่อนไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ซึ่งดอกเบี้ยนั้นจะคำนวณตามเงินต้นและต้องรับผิดชอบทุกเดือน หมายความว่ายิ่งคุณจ่ายทีละน้อย เงินต้นก็จะลดลงช้าลงเท่านั้น เท่ากับว่าดอกเบี้ยก็จะลดลงช้าด้วยเช่นกัน จากล้านละเจ็ดพัน เปลี่ยนมาเป็นล้านละหมื่น จะย่นระยะเวลาการผ่อนชำระลงได้มากกว่าที่คุณคิด ยอมลงทุนผ่อนทีละมากๆต่อทรัพย์สินทีละชิ้น ดีกว่ามานั่งผ่อนยาวๆแต่เมื่อคำนวณออกมาแล้ว ดอกเบี้ยสูงเท่าเงินต้นนะครับ   รายได้ไม่พอ จะแก้ปัญหาอย่างไร? สำหรับคนที่มีความจำเป็นที่จะต้องผ่อนบ้าน หรือคนที่ผ่อนชำระไปแล้วพึ่งพบว่าตนเองกำลังขาดทุนอยู่จะแก้ปัญหาได้ทางไหนบ้าง? จริงๆแล้วหากไม่มีรายได้เพิ่ม ก็อาจจะเป็นทางออกที่ยาก แต่ก็มีทางเลือกง่ายๆดังนี้ โปะก้อนใหญ่ วิธีการแก้ปัญหาเงินต้นลดช้า แก้ได้ด้วยการโปะเงินก้อนเข้าไปในทุกทุกปีหรือทุกทุกเดือน เพื่อเป็นการลดเงินต้นอีกรูปแบบหนึ่ง แม้จะต้องใช้เงินเยอะเหมือนเดิม แต่ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารเงินของท่านว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน รีไฟแนนซ์ การรีไฟแนนซ์นั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเสมอ หากคำนวณไม่ดี จะกลายเป็นขาดทุนไปด้วย แต่หากทำถูกวิธี จะสามารถลดดอกเบี้ยลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อเสนอปัจจุบัน ดอกเบี้ยกำไรผู้ซื้อมีเป็นช่วงระยะเวลา 3 ปีแรก หลังจากนั้นไปการรีไฟแนนซ์จึงกลายมาเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง หาผู้กู้ร่วม ในเมื่อไม่สามารถรับผิดชอบด้วยตัวเองได้ ก็ต้องหาคนมาช่วยรับผิดชอบ อาจจะไม่ใช่รูปแบบของการ กู้ร่วมทั้งหมด แต่ก็สามารถหารายได้เพิ่มจากที่พักที่คุณมีนี่แหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเช่าที่ หรือเปลี่ยนเป็นหอพักก็ดีทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ที่ปลายทางได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ วิธีการหลีกหนีดอกเบี้ยบ้านที่สูงเกินไป อยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มขอสินเชื่อ ตั้งแต่ตอนคำนวณฐานรายได้และรูปแบบการชำระที่คุณต้องการ หากเตรียมพร้อมไว้ก่อน ก็จะไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่มีทางเลือกก็จำเป็นต้องพยายามให้หนักกว่าคนอื่น หากต้องการจะออกจากวังวนนี้ แม้ว่าการผ่อนระยะเวลานานจะเป็นทางเลือกที่คุณสบายใจที่สุด แต่การผ่อนเงินเพียงสองล้านบาทอาจกลายเป็นดอกเบี้ยร่วมหนึ่งล้านบาทได้เลย มากพอที่จะคุณถอยรถยนต์อีกคันได้สบายๆ ดังนั้นก่อนจะทำการใหญ่ การศึกษาข้อมูลทางการเงินมีความจำเป็นมากกว่าที่คุณคิด อย่ารีบร้อน วางแผนให้ดีก่อน ขอบคุณข้อมูลจาก : https://finance.rabbit.co.th/blog/minimum-house-installment        
เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ รีไฟแนนซ์บ้าน

เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ รีไฟแนนซ์บ้าน

เรื่องของสินเชื่ออาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจยากซักหน่อย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องที่เราต้องรู้ไว้ ไม่ว่าคุณจะกำลังผ่อนบ้านอยู่ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อบ้านซักหลังเป็นของตัวเอง เรื่องสินเชื่อบ้าน ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยค่ะ     รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การขอกู้ยืมสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เรามีสัญญาการผ่อนชำระอยู่เดิม หรือ จะทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ มาโปะหนี้จากธนาคารเดิมก็สามารถทำได้ การรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการขอกู้เงินจากธนาคารเดิม หรือธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ ต่างมีจุดประสงค์เพื่อขยายระยะเวลาการผ่อนที่เหลือให้นานขึ้น และมีค่างวดน้อยลง หรือ เพื่อให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น     คนส่วนใหญ่มักจะนิยมรีไฟแนนซ์บ้าน หรือ คอนโดมิเนียม กันทุกๆ 3  ปี หรือ เมื่อเริ่มที่จะรู้สึกว่าผ่อนไม่ไหว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่จำเป็นต้องรอให้เรารู้สึกว่าผ่อนบ้านหรือคอนโดไม่ไหวถึงจะยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ เพราะ ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ มีกำหนดให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้เรื่อยๆ (ทุกรอบ 3ปี) ทั้งนี้เพราะธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่งล้วนมีแรงจูงใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงนั่นเอง เพราะอัตราดอกเบี้ยในการกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดของทุกธนาคารจะถูกแค่ในช่วง 3 ปีแรกเท่านั้น และหลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น หมายความว่าคุณจะต้องจ่ายค่างวดและดอกเบี้ยการผ่อนบ้านในอัตราปกติ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าหลายๆคนจึงเลือกทำการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่นั่นเอง       1.เงื่อนไขการรีไฟแนนซ์ของธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ปัจจัยหลักๆของการกู้สินเชื่อบ้านคือดอกเบี้ย ดังนั้นหากคุณต้องการจะรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยคือสิ่งที่จะต้องพิจารณาเป็นอย่างแรก อัตราดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์ที่เหมาะสม คือ อัตราดอกเบี้ยจะต้องต่ำกว่าดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อที่ใช้ในปัจจุบัน รวมทั้งเงื่อนไขเรื่องจำนวนเงินผ่อนต่องวดที่ต้องลดลงและ ระยะการผ่อนที่นานขึ้นเพราะธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ย่อมมีเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์ที่ต่างกัน หากคุณรู้เงื่อนไขของธนาคารแต่ละแห่ง จะทำให้เราสามารถคำนวนได้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านแต่ละครั้งมีส่วนช่วยในการลดดอกเบี้ยได้มากน้อยแค่ไหน     2.ค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมด อัตราดอกเบี้ย ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าธรรมเนียมการปล่อยกู้ ค่าอากรแสตมป์ ค่าจำนองที่ดิน ค่าทำประกัน หรือค่าบริการอื่นๆ (ค่าประกันอัคคีภัย) ส่วนมากค่าใช้จ่ายโดยรวมนี้คุณสามารถคำนวนได้จากเว็บไซต์ของธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เพราะในปัจจุบันธนาคารและสถาบันการเงินที่มีการให้บริการรีไฟแนนซ์ จะมีบริการคำนวนค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการรีไฟแนนซ์อยู่แล้ว     3.ต้องรู้ว่าใช้เอกสารอะไรในการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าง สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมฉบับจริง ใบรับรองเงินเดือน (ย้อนหลัง 3เดือน) หรือ หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการข้อตกลง ฉบับจริง ใบเสร็จการผ่อนชำระย้อนหลัง 24 เดือน (ในกรณีรีไฟแนนซ์บ้านแบบไถ่ถอน) สำเนาบัญชีเงินฝากแสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือน และหลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ พร้อมฉบับจริง หรือ Statement พร้อมเซ็นต์รับรอง หากผู้ยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ ประกอบอาชีพส่วนตัว ให้นำสำเนาใบประกอบวิชาชีพ หรือ ใบอนุญาตประกอบการ มาแสดงด้วย แต่หากประกอบธุรกิจให้นำสำเนาทะเบียนการค้า ทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนห้างหุ้นส่วนฯ พร้อมยื่นหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ แนบใบเสร็จตัวจริงจากกรมสรรพากร ย้อนหลัง 6 เดือน มาด้วย (รูปถ่ายกิจการ จำนวน 3-4 รูป) สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3ก/หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด/อช.2(2ชุด) พร้อมรับรองจาก สนง.ที่ดิน     4.ศึกษาขั้นตอนการรีไฟแนนซ์เบื้องต้น การศึกษาขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้คุณประหยัดเวลาในการดำเนินการได้มากขึ้น รวมถึงคุณสามารถเตรียมเอกสารและดำเนินการยื่นเอกสารได้ทันเวลาอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การติดต่อขอสำเนาสรุปยอดหนี้เงินกู้กับธนาคารเก่า ยื่นเอกสารสรุปยอดหนี้ที่ได้จากธนาคารแห่งเก่าไปขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ เจ้าหน้าที่ธนาคารมาประเมินทรัพย์สิน การนัดวันไถ่ถอนที่สำนักงานที่ดินธนาคารเดิม การนัดวันทำสัญญากับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ ดำเนินการเรื่องโอนที่ที่ดินในเขตที่ของเราตั้งอยู่   แม้ว่าข้อมูลต่างๆจะสำคัญต่อการรีไฟแนนซ์บ้าน แต่การศึกษาข้อมูลอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่ทางออกทั้งหมด คุณควรดูปัจจัยจากตัวคุณเพิ่มเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายได้ประจำ เงินเก็บ กำลังทรัพย์ แนวมโน้มทางการเงิน แนวโน้มหน้าที่การงาน รวมถึงการคำนวนความสามารถในการผ่อนค่างวด ดอกเบี้ย รวมถึงระยะเวลาในการผ่อนด้วย  ขอบคุณข้อมูลจาก : https://finance.rabbit.co.th/blog/re-finance-101        
ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย

ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย

เมื่อที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้นการคิดเลือกซื้อคอนโดมิเนียมหรือบ้านสักหลังก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งเลยใช่ไหมคะ? ครั้นจะเลือกซื้อเพราะถูกใจในทำเล แนวคิดโครงการ ขนาดพื้นที่ใช้สอย หรือชื่อเสียงจากผลงานที่ผ่านมาของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่างเดียวก็คงจะไม่พอ อีกหนึ่งข้อสำคัญที่พวกเราทีมงาน Review Your Living อยากให้คุณผู้อ่านพิจารณาให้ดีในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยนั่นก็คือ ‘ความปลอดภัย’ ทั้งในด้านของชีวิตและทรัพย์สินค่ะ เพราะถ้าลำดับเหตุการณ์จากข่าวโจรกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศจะเห็นได้ว่ามีบ้านในโครงการหรือแม้กระทั่งคอนโดมิเนียมส่วนหนึ่งที่ดูเหมือนปลอดภัยดี แต่ก็ยังไม่วายที่จะโดนยกเค้า! วันนี้เราจึงรวบรวม 3 ข้อมูลโดยเน้นในเรื่องความปลอดภัยของที่อยู่อาศัยมาฝากค่ะ เพื่อให้ทุกคนได้คำนึงและนำไปตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อพร้อมย้ายเข้าอยู่อย่างสบายใจ บทความโดย Review Your Living 1. ความปลอดภัยในการวางแผนออกแบบโครงการ ข้อนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเลยล่ะค่ะ เพราะการออกแบบถนนและจัดวางตำแหน่งอาคารให้มีความเป็นอยู่ปลอดภัย การจัดแบ่งโซนนิ่งหรือการสัญจรในโครงการ รวมไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ดี การจัดระบบรักษาความปลอดภัยและระเบียบการบริหารของหมู่บ้าน/คอนโดฯ  ก็ล้วนแต่มีความสำคัญที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยสบายและปลอดภัยมากขึ้น 2. ระบบป้องกันภัยของโครงการ เป็นอีกเรื่องที่ถือว่ามีความสำคัญต่อความสุขและความสบายใจของครอบครัวไม่ใช่น้อยจริงๆ ค่ะ สำหรับระบบป้องกันภัยของโครงการ ฉะนั้นการเลือกระบบป้องกันภัยที่เราสามารถตรวจสอบได้หลักๆ เลยก็คือ ความสูงของรั้วโครงการควรสูงเกิน 3 เมตรขึ้นไป ระบบควบคุมการเข้าออกโครงการควรมีพนักงานรักษาความปลอดภัย ควมคุมการเข้าออกยานพาหนะด้วยระบบอิเล็คโทรนิกส์ เซ็นเตอร์ คอนโทรล แทนการติกสติ๊กเกอร์หน้ากระจก มีระบบประตูทางเข้า 2 ชั้น กล้องวงจรปิด CCTV ที่คอยบันทึกเทปตลอด 24 ชั่วโมง การควบคุมด้วยระบบ Key Card ทั้งการเข้าออกและการใช้ลิฟต์ การออกแบบโครงการให้ดูโปร่งโล่ง ง่ายต่อการมองเห็นหรือตรวจสอบลาดตระเวน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจราจร 3. การจัดการและออกกฎระเบียบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูง อย่างที่ทราบกันดีแหละค่ะว่าทุกๆ โครงการบ้านหรือคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่นั้นจะมีนิติบุคคลคอยดูแลทั้งในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางและระบบรักษาความปลอดภัย แต่ถ้าจะให้มั่นใจก็ควรตรวจสอบถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้รอบคอบกันสักนิดนะคะ อาทิ บุคคลภายนอกที่จะเข้ามาในโครงการนั้นต้องแลกบัตรทุกครั้ง หรือถ้าเป็นคอนโดฯ ก็ควรมีบริเวณพื้นที่ล็อบบี้รองรับไม่ให้เข้าไปสู่ด้านบนได้ทันที การตรวจสอบช่วงเวลาลาดตระเวนของรปภ. ที่ควรมีทุกชั่วโมง และการจัดยามรักษาการณ์ประจำบริเวณแยกแต่ละโซนนอกเหนือจากจุดผ่านเข้าออกโครงการ เป็นต้น ข้อมูลข้างต้นที่เรานำมาฝากนั้นก็เป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งในการคำนึงถึงความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย แต่ถ้าคุณผู้อ่านกำลังตัดสินใจจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดฯ พวกเราทีมงาน Review Your Living แนะนำให้ลองศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของด้านอื่นๆ ด้วยนะคะ จะได้มีที่อยู่อาศัยที่ใช่และตรงใจที่สุดนั่นเอง เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับบทความดีๆ ที่เราเอามาฝาก ยังมีบทความน่ารู้อีกมากมายให้ได้ติดตามกันได้ที่นะคะ https://goo.gl/dwpzgr  
จะกู้บ้านทั้งที ต้องทำประกันด้วยหรือ?

จะกู้บ้านทั้งที ต้องทำประกันด้วยหรือ?

เมื่อความฝันในการมีบ้านหลังแรกหรือคอนโดมิเนียมในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องยากอยู่ไกลเกินเอื้อมสักเท่าไหร่  เพราะเพียงแค่คุณวางเงินจองหรือดาวน์ตามสัญญาข้อกำหนดของโครงการที่ถูกใจ จากนั้นก็ดำเนินตามขั้นตอนคือยื่นกู้ธนาคาร รอผลอนุมัติ เพียงเท่านี้ความฝันของคุณก็เป็นจริงขึ้นมาแล้วแล้วค่ะ แต่การทำเรื่องขอเงินกู้เพื่อซื้อบ้านกับธนาคารนั้นส่วนใหญ่มักจะมีเรื่องของข้อเสนอขายกรมธรรม์พ่วงเข้ามาเกี่ยวข้องให้เราทำด้วย เพื่อได้อัตราดอกเบี้ยในการกู้สินเชื่อที่ถูกกว่าการไม่ทำประกัน บางคนอาจจะสงสัยว่าเราต้องทำด้วยไหม? ทำไปแล้วได้อะไร? วันนี้ทีมงาน Review Your Living จึงได้รวบรวมข้อมูลคลายข้อสงสัยมาฝากค่ะ เรียบเรียงโดย Review Your Living   สำหรับประกันสินเชื่อบ้านนั้นมีอยู่ 3 ประเภท คือ   1. ประกันคุ้มครองหลักทรัพย์ เป็นประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้านที่เราได้รับอนุมัติจากธนาคารนั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีระยะเวลาคุ้มครองให้คุณเลือกตั้งแต่ 5 – 30 ปี อัตราค่าเบี้ยประกันนั้นก็ขึ้นอยู่กับวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ ส่วนวิธีการชำระค่าดอกเบี้ยก็มักจะรวมอยู่ในวงเงินสินเชื่อแล้วค่ะ สังเกตได้ว่าทุกๆ ธนาคารมักจะใช้อัตราดอกเบี้ยมาเป็นสิ่งจูงใจเพื่อให้ผู้บริโภคเลือกโปรแกรมสินเชื่อที่มีประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้านด้วย โดยทางเลือกนี้อัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่าสินเชื่อธรรมดาประมาณ 0.5% ค่ะ   ทั้งนี้ประโยชน์ของประกันชนิดนี้ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่คุณกำลังผ่อนบ้านอยู่กับธนาคารและเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเสียชีวิตหรือทุพลภาพถาวรตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ บริษัทจะเป็นผู้จ่ายเงินกู้ที่เหลืออยู่ทั้งหมดกับธนาคารให้ หากคำนวณแล้วทุนประกันสูงกว่าจำนวนหนี้ที่เหลืออยู่นั้นครอบครัวก็มีสิทธิ์ได้ส่วนต่างคืน รวมถึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกยึดบ้านอีกด้วย และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้นะคะ   2. ประกันอัคคีภัย เป็นประกันคุ้มครองบ้านระยะเวลาสั้นๆ แต่ต้องทำเป็นประจำทุกปีหรือ 2-3 ปีตามข้อตกลง กรณีที่เกิดอัคคีภัยซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะตัวบ้านไม่รวมที่ดินนะคะ  หากเกิดอัคคีภัยขึ้นบ้านที่ไม่มีภาระหนี้ผลประโยชน์ก็จะเป็นของเจ้าของบ้านโดยตรง แต่ถ้าตัวบ้านติดจำนองกับธนาคาร ผู้รับประโยชน์คือธนาคารซึ่งจะหักไปกับหนี้ที่เหลืออยู่ ทำให้เจ้าของบ้านมีหนี้น้อยลงหรือหมดไปแล้วแต่กรณีข้อตกลง โดยประกันชนิดนี้จะคลอบคลุมความเสียหายของบ้านจาหเหตุการณ์อาทิ ไฟไหม้ ฟ้าผ้า แก๊สจากการทำแสงสว่าง แต่ไม่รวมการระเบิดดนื่องจากแผ่นดินไหว เป็นต้น   pinterest 3. ประกันภัยพิบัติ ประกันที่คุ้มครองบ้านจากภัยธรรมชาติต่างๆ อาทิ น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุเข้า เป็นต้น ซึ่งจะมีเงื่อนไขตามข้อกำหนดของแต่ละธนาคารและเสียเบี้ยประกัน 0.5% ของราคาบ้านต่อปี โดยที่รัฐบาลไม่ได้บังคับ จะทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเองค่ะ แต่ประกันชนิดนี้จะไม่คลอบคลุมบ้านในพื้นที่ที่ถูกกำหนดว่าเป็นพื้นที่รองรับน้ำ กักเก็บน้ำ ทางผ่านน้ำนะคะ ดังนั้นถ้าจะซื้อบ้านอยู่ตรงไหนก็ควรศึกษาพื้นที่ให้ดีก่อนแล้วกันนะจ๊ะ     "สรุป" การทำประกันทุกๆ ชนิดที่มาพร้อมกับวงเงินกู้ซื้อบ้านนั้น ส่วนใหญ่ต่างก็มีข้อเสนอที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ? เพราะฉะนั้นถ้าใครกำลังจะตกลงปลงใจซื้อบ้านและยื่นกู้ธนาคาร ทีมงาน Review Your Living ก็อยากให้คุณศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ ข้อแนะนำง่ายๆ คือลองปรึกษาเจ้าหน้าที่สินเชื่อขอคำอธิบายเงื่อนไขต่างๆ ให้เข้าใจทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนก่อน เพื่อลดความเสี่ยงและความสบายใจของครอบครัวคุณเอง       ขอขอบคุณภาพจาก www.toonpool.com/cartoons/Fire_7295            
11 ปัญหาสุดเบสิกของสนามหญ้า จัดการได้อยู่หมัด

11 ปัญหาสุดเบสิกของสนามหญ้า จัดการได้อยู่หมัด

สนามหญ้าสวย ๆ ต้องเป็นสนามหญ้าที่เขียวชอุ่ม ต้นหญ้าทุกต้น รวมถึงดินก็ต้องดูสุขภาพดี ซึ่งถ้าคุณเป็นอีกคนที่เลือกจะปลูกสนามหญ้าเอาไว้ที่บ้าน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและบรรยากาศสวย ๆ แต่จัดการดูแลแค่ไหนสนามหญ้าก็ยังมีปัญหาจุกจิกกวนใจอยู่ตลอด ถ้าอย่างนั้นลองมาดูวิธีจัดการปัญหาสุดเบสิกของสนามหญ้าตามนี้กันดีกว่า เผื่อจะช่วยให้คุณแก้ปัญหาสนามหญ้าที่ไม่ได้ดั่งใจได้บ้างนะคะ   1. หญ้าไม่ขึ้นแถวโคนต้นไม้ สำหรับปัญหาพื้นที่สนามหญ้าเป็นช่องโหว่ เพราะปลูกหญ้าไม่ขึ้นบริเวณใต้โคนต้นไม้ แนะนำให้เลือกปลูกหญ้าให้ถูกทิศทาง ในพื้นที่ด้านทิศเหนือ ควรเลือกปลูกต้นหญ้าพันธุ์ที่ไม่ชอบแดดเท่าไร ส่วนพื้นที่ด้านทิศใต้ ให้เลือกปลูกหญ้าพันธุ์ที่มีลำต้นสูงสักนิด เพื่อให้เขาชูต้นมารับแดดได้สะดวก จะช่วยลดปัญหาหญ้าขึ้นเป็นหย่อม ๆ ได้ค่ะ   2. หญ้าเฉาตรงที่เป็นเนิน ในพื้นที่ที่เป็นเนินสูง อาจจะเจอปัญหาต้นหญ้าแห้งตาย หรือไม่เจริญเติบโตบ้าง ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็เกิดจากพื้นที่ที่เป็นเนินสูง จะมีโอกาสได้รับแสงแดดดีกว่าปกติ ทำให้ดินแห้งได้ง่าย ต้นหญ้าก็เลยไม่ได้รับน้ำที่พอเพียงสำหรับการเจริญเติบโต วิธีแก้ปัญหาก็ง่าย ๆ เลย แค่จัดการระบบน้ำในส่วนนี้เพิ่มเข้าไปอีกหน่อย หรือเพื่อความยั่งยืน จะให้ผู้เชี่ยวชาญเลือกพันธุ์หญ้า และจัดการระบบรดน้ำให้ก็ได้   3. วัชพืชก่อกวนสนามหญ้า ถ้าสนามหญ้าของคุณเต็มไปด้วยวัชพืชที่ขึ้นแซมไม่หยุดหย่อน ให้จัดการวัชพืชเหล่านี้ด้วยยากำจัดวัชพืชไปเลย แต่ก็ควรเลือกสูตรที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด และต้องฉีดกำจัดวัชพืช 2 ช่วง คือ ช่วงฤดูฝน และช่วงฤดูหนาว เนื่องจากวัชพืชในแต่ละฤดูก็เป็นวัชพืชต่างชนิดกัน อาจต้องใช้วิธีการกำจัดที่แตกต่างกันไปด้วย   4. สนามหญ้าโหว่เป็นช่วง ๆ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้สนามหญ้าไม่สวยเพอร์เฟคท์ คงหนีไม่พ้นสนามหญ้าเว้าแหว่งเป็นหย่อม ๆ ไม่เขียวชอุ่มทั่วกันทั้งผืน ซึ่งถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้นกับสนามหญ้าของคุณ ให้จัดการถอนเศษหญ้า ปรับหน้าดินในบริเวณนั้นให้เรียบร้อย จากนั้นปลูกพันธุ์หญ้าลงไปใหม่รดน้ำให้ชุ่ม และหาพืชมาปกคลุมดินบริเวณนั้นให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดด้วย ปล่อยทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ หมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อนุบาลจนหญ้าค่อย ๆ เติบโตอย่างแข็งแรง หรือจะเลือกใช้หญ้าแผ่นสำเร็จรูปมาปูเสริมพื้นที่ก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องดูเรื่องพันธุ์หญ้า สี และขนาดของต้นหญ้าให้ใกล้เคียงที่สุด เพื่อเลี่ยงปัญหาผืนหญ้ามีสีไม่สม่ำเสมอกันด้วย   5. ต้นหญ้ากลายเป็นสีน้ำตาล หญ้าที่กลายเป็นสีน้ำตาลเป็นหย่อม ๆ มีสาเหตุมาจากเชื้อราฟูซาเรียม (Fusarium) ที่มาพร้อมกับความชื้นที่มากเกินไป จนทำให้ต้นหญ้ากลายเป็นสีน้ำตาลในบริเวณกว้าง ซึ่งเราก็ควรแก้ปัญหาด้วยการใส่ปุ๋ยบำรุง และพยายามลดความชื้นด้วยการหาทางระบายน้ำให้ดินมากขึ้น อีกทั้งควรจะหายาฆ่าเชื้อรามาจัดการเสริมด้วยอีกแรง   6. มีใยสีเทาปกคลุมต้นหญ้า ในตอนเช้าหลังน้ำค้างตก อาจจะมีโอกาสได้เห็นทั้งหยดน้ำค้าง และใยสีเทาจาง ๆ บนยอดหญ้าพร้อม ๆ กัน แต่ใยที่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีกับสุขภาพของสนามหญ้านัก เพราะถ้าปล่อยไว้ไม่รีบจัดการ ใยบาง ๆ สีเทาที่เป็นเชื้อรา ก็อาจจะลุกลามปกคลุมต้นหญ้าในบริเวณกว้างกว่านี้ ฉะนั้นจึงต้องรีบหายาฆ่าเชื้อรามาฉีดพ่น เพื่อกำจัดเชื้อราทั้งหมดให้เกลี้ยง   7. โคนต้นหญ้าเป็นสีส้มสนิม ต้นหญ้าที่มีสุขภาพไม่ดี มักจะดูออกได้ง่าย ๆ ที่โคนต้น หากลำต้นของต้นหญ้าแห้งเหี่ยว แถมที่โคนต้นยังมีสีส้มคล้าย ๆ สีสนิมเกาะอยู่ด้วย ก็แปลได้ว่า สนามหญ้าของคุณขาดน้ำในปริมาณที่พอเพียงแล้วล่ะ รวมทั้งปุ๋ยและสารอาหารก็มีไม่พอเช่นกัน ดังนั้นก็ควรรีบหาปุ๋ยมาใส่ และบำรุงดูแลด้วยการรดน้ำให้ชุ่มชื้นเสมอ นอกจากนี้ก็ควรตัดหญ้าบ่อย ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ต้นหญ้าได้ผลัดใบด้วย   8. หญ้าขึ้นเขียวชอุ่มล้อมต้นหญ้าที่ตายแล้ว หากเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นกับสนามหญ้าของคุณ ก็แสดงว่าพื้นดินบริเวณนั้นมีความชื้นมากเกินไป จนอาจจะมีเห็ดเติบโตขึ้นได้ และเราก็ควรปรับปรุงพื้นดินตรงนั้นให้อุดมสมบูรณ์ และร่วนซุยขึ้นอีกนิด ด้วยการใส่ปุ๋ยบำรุงลงไป จากนั้นก็ควบคุมความชื้นให้สม่ำเสมอประมาณ 3-5 วัน   9. สนามหญ้าแห้งตายขยายวงกว้าง ถ้าจู่ ๆ สนามหญ้าของคุณเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลมากขึ้นทุกที และขยายวงกว้างจนความสวยงามหายไปไม่มีเหลือ ให้ขุดดินตรงบริเวณที่เป็นปัญหาขึ้นมาสำรวจดูว่ามีเชื้อรา หรือแมลงอะไรมาก่อกวนสนามหญ้าของคุณหรือเปล่า ถ้ามีก็จัดการกำจัดให้สิ้นซาก โดยใช้ยากำจัดศัตรูพืชจำพวก Diazinon, Isofenphos หรือ Chlorpyrifos ซึ่งก่อนใช้ควรจะเช็กเรื่องความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง เด็ก และคนชราก่อนด้วย หรือทางที่ดีแจ้งหน่วยงานหรือผู้เชี่ยวชาญมาทำให้ดีกว่าค่ะ   10. มีเห็ดขึ้นหลากหลายชนิด หลายคนอาจจะกุมขมับหากจะบอกว่าเห็ดเป็นสิ่งมีชีวิตที่กำจัดออกยากที่สุดในบรรดาวัชพืชที่ขึ้นแซมมาในสนามหญ้า เพราะต้องใช้วิธีการดึงออกเท่านั้นจึงจะกำจัดได้ แต่นี่ก็เป็นเพียงวิธีการแก้ปัญหาชั่วคราว ดังนั้นทางที่ดีควรจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการจัดการระบบระบายน้ำให้ดี เพื่อเลี่ยงการสะสมความชื้น ต้นเหตุของเชื้อรา รวมทั้งกำจัดสารอินทรีย์ที่เน่าเปื่อย และตอไม้ออกจากสนามหญ้าด้วยค่ะ   11. น้ำท่วมขังในสนามหญ้า สาเหตุของการที่มีน้ำขังท่วมสนามหญ้ามีอยู่หลายปัจจัย ทั้งพื้นที่ต่ำเกินไป หรือฝนตามฤดูที่ตกชุก แต่ปัญหานี้ก็แก้ไม่ยาก แค่คุณลองหาไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นมาปลูกในสนามหญ้า เลือกเอาพันธุ์ที่ทนทานต่อสภาพน้ำท่วมขัง และดินที่แห้งแล้งด้วยก็ดี เช่น ต้นจั๋ง ต้นจันทร์ผา หรือหมากเหลือง เป็นต้น ปลูกต้นไม้เอาไว้แบบนี้ ก็จะช่วยให้น้ำที่ท่วมขังอยูในสนามหญ้า ค่อย ๆ ถูกดูดซึมจนหมดไปได้เองจ้า   จะว่าไปปัญหาสนามหญ้าก็จุกจิกพอตัวเลยนะคะ แต่ถ้าเรามีวิธีจัดการดูแลอย่างดีจะกี่ปัญหาก็เหมือนจะไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นแค่อุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราต้องปัดเป่าให้หมดไป เพื่อที่สนามหญ้าของเราจะได้เขียวชอุ่มสุดเพอร์เฟคท์อย่างที่ตั้งใจไว้จ้า   ขอขอบคุณข้อมูลจาก  home.kapook.com
9 วิธีแต่งบ้านคลายร้อน ช่วยให้บ้านเย็นน่าอยู่ อากาศสบายไม่อบอ้าว

9 วิธีแต่งบ้านคลายร้อน ช่วยให้บ้านเย็นน่าอยู่ อากาศสบายไม่อบอ้าว

บ้านร้อนอบอ้าวทำไงดี แก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ด้วย 9 ไอเดียแต่งบ้านรับซัมเมอร์ ที่จะทำให้บ้านเย็นสดชื่น ไม่อบอ้าว อยู่ในบ้านได้สบาย ๆ ไม่ต้องหาเรื่องออกไปเที่ยข้างนอก อย่างที่รู้ ๆ กันว่าประเทศของเราเป็นเมืองร้อนอยู่แล้ว พอย่างก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนทีไรอากาศก็จะยิ่งทวีความร้อนให้เพิ่มพูนขึ้นไปอีก วันนี้เราเลยขอนำ 9 ไอเดียแต่งบ้านหน้าร้อนที่จะช่วยลดอุณหภูมิภายในและทำให้บ้านเย็นสบายขึ้นไม่ต้องหนีบ้านร้อน ๆ เพื่อดอดไปตากแอร์เย็น ๆ ที่ห้างอีกต่อไป แล้วจะมีวิธีไหนที่น่าสนใจนำมาใช้กับที่บ้านได้บ้างนั้นก็ตามไปไปดูกันเลยยย.. 1. ติดกันสาดกันแดด ในเมื่อเราไม่สามารถหลบเลี่ยงบ้านจากแสงแดดได้ การติดตั้งกันสาดช่วยลดความร้อนได้ โดยควรจะติดไว้บริเวณทิศตะวันตก ทิศตะวันออก และทิศใต้ เนื่องจากทั้ง 3 ทิศที่ว่ามานี้เป็นทิศที่มักจะมีแสงส่องเข้ามาเลยทำให้บ้านยิ่งร้อนหนักหากไม่มีอะไรมาบัง ถ้าจะให้ดีควรเลือกกันสาดชนิดโพลีไวนิลคลอไรด์และแบบวัสดุสังเคราะห์ เพราะจะทนทานสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ และช่วยให้บ้านเย็นได้มากกว่า 2. ใช้หลังคาป้องกันความร้อน การเลือกหลังคาก็เป็นสิ่งสำคัญ หากไม่อยากให้บ้านร้อนระอุในหน้าร้อน ควรเลือกหลังคาที่มีสารเคลือบเซรามิคโค้ทติ้ง ซึ่งจะช่วยปกป้องและสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ดี หรืออีกหนึ่งวิธีก็คือใช้สีขาวทาหลังคาบ้าน เพราะสีขาวจะช่วยสะท้อนความร้อนและไม่อมความร้อนไว้เหมือนหลังคาสีเข้ม 3. ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา สังเกตไหมว่าต่อให้แดดจะร้อนแรงสักแค่ไหน แต่ถ้ามีต้นไม้ช่วยบังแสงไว้ก็จะทำให้บริเวณนั้นเย็นขึ้นมาทันที ดังนั้นเพื่อช่วยในการบังแสงและให้ร่มเงาแก่บ้าน ควรเลือกต้นไม้ที่สูงสักประมาณ 12 เมตร มาปลูกไว้ทางทิศใต้ และนำต้นไม้สูง 18 เมตรมาปลูกไว้ทางทิศตะวันตก นอกจากจะบังแสงได้แล้ว วิธีนี้ยังช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ต้องทำงานหนัก เพราะอุณหภูมิภายในลดลงนั่นเอง 4. เปิดหน้าต่างระบายอากาศ ถ้าอากาศในภายบ้านแลดูร้อนอบอ้าวไปซะทุกพื้นที่ ให้เปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้ให้ลมโกรก เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก โดยเมื่ออากาศจากด้านนอกจะเข้ามาภายในบ้าน มันก็จะดันอากาศร้อนที่อยู่ภายในบ้านให้ลอยตัวสูงและไหลออกไป ช่วยระบายความร้อนอบอ้าว ทำให้บ้านเย็นสบายไม่อึดอัด 5. ติดพัดลมเพดาน หลายคนอาจจะคิดว่าพัดลมเพดานนั้นไล่ความร้อนได้ช้า ไหนจะอยู่ไกลตัวจนไม่สามารถนำมาเปิดจ่อลมได้โดยตรงอย่างพัดลมตั้งพื้นทั่วไปอีก แต่ที่จริงแล้วพัดลมเพดานนี่แหละที่เหมาะกับการใช้งานในฤดูร้อนมากที่สุด เพราะมันจะดูดเอาความร้อนจากพื้นให้ลอยตัวสูงขึ้นและปล่อยให้อากาศเย็นสบายไหลเข้ามาแทนที่ ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นเย็นสบายยังไงล่ะ 6. เลี่ยงการปูพรม พรมนี่แหละที่เป็นตัวการกักเก็บความร้อนเอาไว้ในบ้าน หากไม่อยากให้บ้านยิ่งร้อนหนัก เลือกปูด้วยไม้หรือกระเบื้องจะทำให้บ้านเย็นกว่า เพราะเป็นวัสดุที่ไม่อมความร้อน แต่ถ้ายังตัดใจจากพื้นพรมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่เลือกพรมที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น คอตตอนหรือขนสัตว์ เพราะทั้ง 2 วัสดุนี้จะช่วยกักเก็บความชื้นในอากาศไว้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ทำให้บ้านร้อนและชื้นแต่อย่างใด 7. เลือกใช้หลอด LED หลอดไฟที่ติดตั้งอยู่ภายในบ้านก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้บ้านร้อนจากภายใน ดังนั้นควรจะหันมาใช้หลอดแอลอีดี (LED) เพราะหลอดไฟชนิดนี้จะปล่อยพลังงานความร้อนออกมาน้อยกว่าหลอดชนิดอื่น ๆ แสงก็ดูเย็นสบายตา ไม่ทำให้รู้สึกร้อนเหมือนหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป แถมคุณภาพของแสงสว่างก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอีกด้วยล่ะ 8. ทาผนังด้วยสีโทนเย็น โทนสีที่ใช้ตกแต่งภายในบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรจะเลือกโทนสีสว่าง ๆ ที่ดูเย็นสบายตา อย่าง สีขาว สีมุก สีครีม และสีฟ้า หรือใช้ของตกแต่งที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ก็จะช่วยปรับอากาศในบ้านให้เย็นสบาย ไม่ร้อนตามอากาศภายนอก 9. ติดพัดลมอากาศในห้องน้ำ หากทำตามมาทุกวิธีแล้วสังเกตว่าบ้านยังร้อนอยู่เลย ให้ติดตั้งพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำเพิ่มไปอีกตัว และเปิดพัดลมดูดอากาศพร้อมกับเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ หรือจะเปิดพัดลมเพดานที่ห้องข้าง ๆ ไว้ด้วยก็ได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยดูดให้ความร้อนออกไปได้เร็วกว่าเดิม ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้นเยอะเลย ต่อให้อากาศจะร้อนกว่านี้อีกสักเท่าไร แต่ถ้านำไอเดียแต่งบ้านในหน้าร้อนที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปใช้ รับรองได้เลยว่าอุณหภูมิในบ้านจะลดลงไปได้เยอะเลย ไม่ต้องทนร้อน นอนทรมานอยู่กับความอบอ้าวอีกต่อไป   ขอขอบคุณข้อมูลจาก  https://home.kapook.com/view168042.html
เทคนิคใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ปลอดภัยในหน้าฝน

เทคนิคใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ปลอดภัยในหน้าฝน

เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากฝนตกฟ้าคะนองจะทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนลำบากแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนคำนึงถึงนั่นคือ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าฝน หรือฝนตกหนัก เพราะฤดูฝนแบบนี้มักเกิดเหตุไฟดูด ไฟช็อตได้บ่อยครั้ง มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ควรระมัดระวัง 1.ระมัดระวังเวลาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางไว้ในที่ชื้น มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทมักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นเช่นปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า ดังนั้นเวลาใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ควรเพิ่มความระมัดระวัง สวมรองเท้าก่อนเข้าไปสัมผัสหรือใช้งานเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว 2.ไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะตัวเปียก เรื่องนี้เรารู้กันอยู่แล้ว แต่บางครั้งอาจหลงลืม หลายๆ คนพอตัวเปียกฝน หรือชื้นๆ มาจากนอกบ้าน พอเข้ามาในบ้านอาจเผลอตัวไปสัมผัสปลั๊กไฟ หรือบางคนชอบใช้ไดรฟ์เป่าผมหลังสระผมใหม่ๆ ซึ่ง ไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น เนื่องจากหากเกิดไฟรั่วกระแสไฟจะผ่านร่างกายได้สะดวกขึ้น และเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าช็อตเราควรทำอย่างไร 1.ห้ามเข้าไปช่วยผู้ถูกไฟฟ้าช็อต จนกว่าจะแน่ใจว่าผู้บาดเจ็บไม่ได้สัมผัสกับสายไฟฟ้าหรือตัวนำไฟฟ้าใดๆ ถ้าจำเป็นต้องหาวัสดุที่เป็นฉนวนไม่นำกระแสไฟฟ้า เช่นไม้ หรือผ้ามาเขี่ยสายไฟออกจากผู้บาดเจ็บก่อน 2.ถ้าผิวหนังผู้ที่จะช่วยเปียกชื้น ห้ามเข้าไปช่วยเพราะยิ่งเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าและอาจถูกไฟฟ้าดูดได้ วิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด หมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์และสายไฟ และควรซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด บริเวณที่วางสายไฟไม่ควรให้สิ่งของที่หนักไปทับ และวางให้พ้นทางเดิน เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ควรเปียกน้ำ ห้ามซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเองโดยที่ไม่มีความรู้ ไม่ควรใช้ไฟฟ้าหลายอย่างกับปลั๊กไฟตัวเดียว ต่อสายดินเพื่อให้ไฟลงดิน และควรติดตั้งเครื่องตัดไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยและเป็นการป้องกันที่ดี สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่รุนแรง   ขอขอบคุณข้อมูลจาก คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล home.sanook.com
ลดความร้อนที่ผนังก่ออิฐฉาบปูนได้อย่างไรบ้าง

ลดความร้อนที่ผนังก่ออิฐฉาบปูนได้อย่างไรบ้าง

การลดความร้อนที่ผนังบ้าน นับเป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบของการทำบ้านเย็น และบ้านประหยัดพลังงาน สำหรับเมืองร้อน  โดยหลักแล้วการทำให้ผนังบ้านร้อนน้อยลงมีอยู่ 2 วิธี  วิธีแรกเป็นการ “ปกป้องผนังจากแสงแดด” กับอีกวิธีคือ “ทำให้ผนังกันความร้อนได้มากขึ้น” การปกป้องผนังจากแสงแดดทำได้โดยสร้างร่มเงาเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ ติดตั้งหลังคากันสาด   แผงบังแดด  ระแนงกันแดด เป็นต้น ภาพ: แผงบังแดดตามทิศต่างๆ ของบ้าน ส่วนการทำให้ผนังกันความร้อนได้มากขึ้นนั้น โดยทางทฤษฎีก็คือ การเพิ่ม “ค่ากันความร้อน” ให้กับผนัง  ซึ่งจะทำให้ความร้อนผ่านผนังเข้ามาในบ้านได้น้อยลง ค่ากันความร้อนของวัสดุจะวัดเป็นตัวเลขได้ในรูปของ  ค่า R (มีหน่วยเป็น m2K/W) โดยค่า R ยิ่งสูงยิ่งกันความร้อนได้มาก ปกติแล้วผนังก่ออิฐมอญฉาบปูน 2 ด้าน หนา 10 ซม. จะมีค่า R = 0.3 m2K/W  ทั้งนี้การนำวัสดุอื่นๆ ที่ช่วยกันความร้อนได้มาติดตั้งกับผนังก่ออิฐฉาบปูน ไม่ว่าจะเป็น แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ไม้ฝา ฉนวนกันความร้อนใยแก้ว ก็จะทำให้ค่า R ของผนังเพิ่มขึ้น ภาพ: ค่า R ของระบบผนังต่างๆ วิธีที่แนะนำทั่วไปในการเพิ่มค่ากันความร้อนให้กับผนังบ้านที่เป็นก่ออิฐฉาบปูน คือ การติดตั้งฉนวนกันความร้อนใยแก้ว ไว้ที่ผนัง โดยมีขั้นตอนคือ ให้ตีโครงคร่าวเหล็กกล่องบนผนัง แล้วนำฉนวนกันความร้อนใยแก้วติดตั้งระหว่างช่องโครงคร่าว จากนั้นปิดทับด้วยไม้ฝา ไม้เทียม หรือวัสดุแผ่นอย่างแผ่นยิปซั่ม (เฉพาะกรณีติดตั้งฝั่งภายในบ้าน) แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ แผ่นไม้อัดซีเมนต์ การติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ผนังนั้น จะติดตั้งไว้ฝั่งภายนอกบ้านหรือภายในบ้านก็ได้  หากเลือกติดตั้งฝั่งภายในบ้าน ความหนาของฉนวนและวัสดุปิดทับจะทำให้พื้นที่ในบ้านลดลง แต่ก็มีข้อดีคือ สามารถเลือกใช้วัสดุปิดทับได้หลากหลายและมีลูกเล่นเยอะกว่าการติดตั้งฉนวนไว้ภายนอกซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องวัสดุปิดทับที่ต้องทนแดดทนฝน และยังต้องป้องกันไม่ให้น้ำรั่วไหลเข้าไปในผนังได้ ภาพ: การติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ผนังด้านนอก และปิดทับด้วยไม้ฝาแนวนอน ภาพ: กรณีเป็นผนังด้านใน จะสามารถติดตั้งไม้ฝาในแนวตั้งได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำรั่วเข้าในผนัง บทความโดย SCG Experience คู่คิดก่อนสร้างบ้าน ช่วยให้คุณสร้างบ้านได้อย่างมั่นใจ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการสร้างบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญจาก SCG เพียงนำแบบบ้านมายื่นรับคำปรึกษา พร้อมรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ที่ SCGคู่คิดก่อนสร้างบ้าน​