Tag : Home

816 ผลลัพธ์
5 เหตุผล “โกลเด้นแลนด์” ปักหมุดเชียงรายปั้น โกลเด้น เอ็มไพร์ 2,600 ล้าน

5 เหตุผล “โกลเด้นแลนด์” ปักหมุดเชียงรายปั้น โกลเด้น เอ็มไพร์ 2,600 ล้าน

แนวคิดในการพัฒนาโครงการรูปแบบอาณาจักร หรือ GOLDEN EMPIRE (โกลเด้น เอ็มไพร์) ของโกลเด้นแลนด์  คือ การนำเอาโครงการบ้านหลากหลาย ทั้งทาวน์โฮม นีโอโฮม และบ้านเดี่ยว มาอยู่ในทำเลเดียวกัน เป็นโมเดลสร้างความผลสำเร็จได้อย่างดีให้กับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นโครงการในย่านเกษตรนวมินทร์ สาทร และบางแค ทำให้โมเดลนี้ถูกนำเอาไปพัฒนาต่อในพื้นที่ต่างจังหวัด อย่างเช่นเชียงราย โดยพัฒนาโครงการ โกลเด้น เอ็มไพร์ เชียงราย มูลค่า 2,600 ล้านและเพียงแค่นำร่องเปิดโครงการแรกเมื่อวันที่ 22-23 มิถุนายนที่ผ่านมา กับโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เชียงราย-บิ๊กซีแยกสนามบิน ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์อังกฤษ รูปแบบเดียวกับที่ได้รับความนิยมจากกรุงเทพฯ  ทำให้ โกลเด้น ทาวน์ สามารถสร้างยอดขายได้รวม 500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่คาดไว้   นายอภิชาติ เฮงวาณิชย์ กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการต่างจังหวัดและโครงการพิเศษ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์  เปิดเผยว่า ความสำเร็จของคอนเซ็ปต์ “โกลเด้น เอ็มไพร์” คงมาจากความแตกต่างจากการพัฒนาโครงการอื่น เช่น​ การพัฒนาภายใต้แนวคิด English Elegance รูปแบบสไตล์อังกฤษ ที่มีความหรูหรา แต่ยังมีความเป็นธรรมชาติ มีคลับเฮาส์ขนาดใหญ่  พร้อมด้วยทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งแรกในเชียงราย สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส สวนพักผ่อนกว่า 20 ไร่ และเป็นโครงการแรกในเชียงรายที่ติดถนนใหญ่และติด บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ พร้อมทางเข้าออกจากในโครงการ ได้ถึง 2 ทาง คือถนนพหลโยธินและ ถนนสนามบิน ถือว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายได้อย่างตรงจุด     5 เหตุผล ปักหมุดเชียงรายปั้นโปรเจ็กต์ 2,600 ล้าน   จังหวัดเชียงราย แม้ว่าจะเป็นหนึ่งจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาคเหนือ แต่หากเทียบกับจังหวัดเชียงใหม่แล้วอาจจะยังเป็นรอง ดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่มุ่งเข้าไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า (อ่านเพิ่มเติม...ดีเวลลอปเปอร์ปั้นโปรเจ็กต์อสังหาฯ​ในเชียงใหม่-เชียงราย) เพราะถือว่าจังหวัดเชียงใหม่มีเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่คักคักกว่า แต่เหตุผลอะไรที่ทำให้ “โกลเด้นแลนด์” เข้าไปปักหมุดพัฒนาโครงการในจังหวัดเชียงราย และนี่คงคือ 5 เหตุผลสำคัญ   1.จังหวัดเชียงรายถือเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจการค้า กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา และสปป. ลาว 2.ทำรายได้จากการท่องเที่ยวปีที่ผ่านมาได้กว่า 28,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น10% จากปีก่อน แม้จังหวัดเชียงรายจะเป็นเมืองรอง ด้านการท่องเที่ยว แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองรองที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศไทย 3.เป็นเมืองการศึกษานานาชาติ เช่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 4.มีความพร้อมในด้านของระบบการคมนาคมขนส่ง และโครงการพื้นฐานที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5.ตลาดอสังหาฯ แม้จะเติบโตไม่หวือหวา แต่โครงการแนวราบเป็นกลุ่มที่ขายดีที่สุด มีความต้องการอยู่สูง แต่ยังขาดสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด   นายอภิชาติ  กล่าวอีกว่า จากการสำรวจ เชียงรายเป็นเมืองที่ไม่ได้หวือหวา โครงการแนวราบมีอัตราขายเฉลี่ยเพียงประมาณ 25 ยูนิตต่อเดือน โดยมีบ้านกลุ่มระดับราคา 2 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่ขายดีที่สุด ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงรายปี 2561 มีเพียง 4,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 12.6% สะท้อนถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในเชียงรายที่เพิ่มขึ้นในทุกปี บริษัท มองว่าความต้องการของตลาดยังมีอยู่ แต่ขาดสินค้าที่ดี ที่ตอบโจทย์ของลูกค้า   “ลูกค้าของโกลเด้นแลนด์ ส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีประชากรแฝงน้อย จึงเป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง การที่บริษัทเปิดโครงการ โกลเด้น ทาวน์ ซึ่งเป็น ทาวน์โฮม 2 ชั้น ในระดับราคา ประมาณ 1.7-2.5 ล้านบาท ในอาณาจักรบ้านล้อมทะเลสาบที่หรูหรา จึงเป็นจุดที่สร้างความสนใจให้กับลูกค้า และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”   สำหรับโครงการ โกลเด้น ทาวน์ เชียงราย-บิ๊กซีแยกสนามบิน  ตั้งอยู่ในทำเลติดถนนพหลโยธิน (ซุปเปอร์ไฮเวย์) เชื่อมต่อสนามบินเชียงราย  แม่ฟ้าหลวง เพียง 2.5 กิโลเมตร มุ่งสู่ใจกลางเมืองเพียง 10 นาที พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ บิ๊กซี เชียงราย 2, แม็คโคร เซ็นทรัล เชียงราย โรงเรียนอนุบาลเชียงราย โรงเรียนเชียงราย อินเตอร์เนชั่นแนล  โรงเรียนเทศบาล 6 ศูนย์ราชการ และ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ เป็นต้น   โครงการมีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 33 ไร่ จำนวน 353 หลัง ราคาประมาณ 1.7-2.5 ล้านบาท  มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ที่มาพร้อม ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และนวัตกรรมครัวไทย 1.Preston (เพรสตัน) 117 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ ห้องพระ 2.Chester (เชสเตอร์) 103 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ และ 3.Saint James (เซ็นต์เจมส์) 96 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ    
MQDC เปิดแบรนด์ใหม่ “มัลเบอร์รี่” เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยแห่งอนาคต?

MQDC เปิดแบรนด์ใหม่ “มัลเบอร์รี่” เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยแห่งอนาคต?

ปัจจุบันคนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น จากการดูแลสุขภาพตัวเอง และวิวัฒนาการทางการแพทย์ ทำให้จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น  สังคมไทยจึงกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ  แต่ละครอบครัวจะมีคนถึง 3 Gen ทั้งเจนเนอเรชั่น “ปู่ย่า ตายาย” “พ่อแม่” และ “ลูกหลาน” แต่ด้วยข้อจำกัดของที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ทั้งด้านรูปแบบของที่พักอาศัย ทำเลที่ตั้ง และราคา ส่งผลทำให้คนทั้ง 3 Gen ไม่สามารถพักอยู่อาศัยร่วมกันได้ในบ้านหลังเดียวกัน  แม้ว่าจะมีความต้องการพักอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมากก็ตาม   MQDC หรือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้มองเห็นเทรนด์และแนวโน้มในอนาคต ถึงความต้องการในการอยู่อาศัยร่วมกันของคนหลาย Gen จากผลงานวิจัยหลายแห่งทั่วโลก พบว่า ปัจจุบันคนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันน้อยลง ทำให้คนต้องการพักอยู่อาศัยร่วมกันหลายวัย จึงได้เปิดตัวแบรนด์ มัลเบอร์รี่ โกรฟ (MULBERRY GROVE) เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งรูปแบบคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยวในรูปแบบวิลล่า เพื่อรองรับกับการอยู่อาศัยของคนหลายช่วงวัย ภายใต้แนวคิด “สานความสุข ให้ทุกเจเนอเรชั่น” (NURTURING INTERGENERATION HAPPINESS)   ที่มาของแบรนด์มัลเบอร์รี่ โกลฟ เกิดจากการศึกษางานวิจัยต่างๆ ทั่วโลก อาทิ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งทำวิจัยมานานนับ 80 ปี ถึงการพักอาศัยอยู่ร่วมกันของคนหลาย Gen ส่งผลให้คนมีอายุยืนยาวและมีความสุขมากขึ้น  นอกจากนี้ จากการร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานวิจัยกับการอยู่ร่วมกันของคนหลาย Gen กับกลุ่มตัวอย่าง 400 คน ซึ่งมีรายได้มาก 100,000 บาทต่อครอบครัว พบว่า คนส่วนใหญ่ถึง 70.8% ต้องการอยู่อาศัยด้วยกันกับคนหลายวัย กลุ่มคนเหล่านี้มีฐานรายได้มากกว่า 300,000 บาทต่อครอบครัว   นายรุ่งโรจน์ จงศุจิพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส MQDC เปิดเผยว่า จากการทำวิจัย พบว่าคนต้องการมีความสุขในการอาศัยอยู่ร่วมกันกับคนหลายวัย เพราะผลวิจัยทั่วโลกพบว่าปัจจุบันคนมีปฏิสัมพันธ์น้อยลง  ข้อดีของการอยู่ร่วมกัน หากเป็นผู้สูงอายุจะมีอายุยืนยาวขึ้น  จากการมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ขณะที่เด็กทำให้เกิดการเรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนในสังคม   “เทรนด์สำคัญในระดับโลก หรือ Global Trend พบว่าการที่คนมีปัญหาเรื่องปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกหลายรุ่น นำไปสู่ปัญหาต่างๆ ทั้งในครอบครัวและสังคม ทำให้เรามีความสุขน้อยลง”   ชู 4 จุดเด่นเพื่อคนทุก Gen   สำหรับแบรนด์ มัลเบอร์รี่ โกรฟ  คือแบรนด์ที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนซ์ ที่มีทั้งแนวราบและแนวสูง หรือ มัลติ-แพลตฟอร์ม แห่งแรกของเมืองไทย ที่จะตอบโจทย์ครอบครัวในทุกรูปแบบ ซึ่งมีหัวใจหลักคือการเอื้อให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันระหว่างสมาชิกหลายรุ่นในครอบครัว ผ่านการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนแต่ละเจเนอเรชั่นในครอบครัว  โดยมีจุดเด่นที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่   1.“Designed for Intergenerational Harmony” ที่อยู่อาศัยที่ออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยแบบครอบครัว Intergeneration ครั้งแรกของที่อยู่อาศัยที่ออกแบบภายใต้แนวคิดอันเกิดจากการสนับสนุนให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว เพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุข โดยคิดผ่านการกระบวนการออกแบบจริงร่วมกับครอบครัวและนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาสร้างที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวแบบ Intergeneration พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่จะตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย   2.“Caring Community” ชุมชนการอยู่อาศัยแบบ Intergeneration ที่มีความอบอุ่น สร้างสายสัมพันธ์และเกื้อกูลกันทั้งในครอบครัวและชุมชน “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” ออกแบบพื้นที่ให้ทุกคนในครอบครัวและชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เพื่อให้คนในครอบครัวที่ต่างช่วงอายุได้พัฒนาความคิดและจิตใจ ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนความคิดอันจะก่อให้เกิดไอเดียการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ รวมถึงได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นจนเกิดเป็นความสุขทั้งในครอบครัวและชุมชนแห่ง Intergeneration   3.“Value Creation Neighborhood” การสร้างคุณค่าให้กับครอบครัวหลากหลายช่วงวัยและชุมชน โดยการอยู่อาศัยร่วมกันแบบ Intergeneration จะเป็นการเชื่อมโยงคุณค่าแห่งวัฒนธรรมการอยู่อาศัยของไทยในอดีตที่อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่และมีความกตัญญูเกื้อกูลต่อกัน เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสังคมผู้มีอายุยืน (Aging Society) และการขยายของสังคมเมือง (Urbanization) ผ่านการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวหลายช่วงวัย สร้างคุณค่าในด้านเศรษฐกิจและด้านจิตใจให้กับทั้งครอบครัวและสังคม   4.“5 Dimensional Well-Being” ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของครอบครัวให้ดีขึ้นในทุกมิติ นำไปสู่ความสุขอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งสังคมที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงความสุขอย่างยั่งยืนนั้น จะสนับสนุนความสัมพันธ์ของสังคมกับธรรมชาติ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ชุมชนเพื่อนบ้าน รวมไปถึงสังคมและธรรมชาติให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม มีการออกแบบให้เหมาะสมกับทุกคนและทุกช่วงวัย (Universal Design) ให้ทุกเจเนอเรชั่น สามารถใช้พื้นที่แห่งความสุขร่วมกันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นำมาสู่การรับประกันของโครงการที่นานถึง 30 ปี     เตรียมเปิด 3 โปรเจ็กต์ 19,900 ล้าน   สำหรับในปีแรกนี้บริษัทเตรียมเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่ารวม 19,900 ล้านบาท ใน 2 ทำเล ได้แก่  โครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” (MULBERRY GROVE Sukhumvit) ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เพียง 250 เมตร จากรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ซึ่งผ่านการเลือกสรรและวิเคราะห์ทำเลว่ามีองค์ประกอบในด้านต่าง ๆ ที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัวหลากหลายช่วงวัยได้เป็นอย่างดี โดยเป็นโครงการแบบ High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 286 ยูนิต และมีกำหนดเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้   ส่วนอีก 2 โครงการ จะพัฒนาภายในพื้นที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้แก่  โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 283 ยูนิต โดยจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้  และโครงการบ้านเดี่ยวในลักษณะ Cluster Villa ใน จำนวน 37 ยูนิต โดยจะเปิดตัวในช่วงปลายปีเช่นกัน  ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายว่าในปีแรกจะสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ​  5,000-6,000 ล้านบาท   ขณะที่ปีหน้าได้วางเป้าหมายการพัฒนาโครงการใหม่อีก 2 โครงการด้วย ซึ่งการเลือกทำเลที่ตั้งโครงการ จะต้องตอบโจทย์กับคนทุกเจเนอเรชั่น โดยจะต้องอยู่ใกล้โรงพยาบาลและสวนสาธารณะ สำหรับกลุ่มคนรุ่นปู่ย่า ตายายใกล้กับโรงเรียน สำหรับกลุ่มคนรุ่นลูกหลาน และใกล้ที่ทำงานหรือเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าหรือทางด่วน เพื่อรองรับกลุ่มคนพ่อแม่  
วิธีแก้ปัญหาน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้าน

วิธีแก้ปัญหาน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้าน

ฝนเทกระหน่ำเมื่อไรใจหายทุกที เมื่อเกิดอาการน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้านหรือแม้แต่คอนโดฯ ตามผนัง วงกบ หลังคา หรือแม้กระทั่งพื้นบ้าน หากปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายไม่ว่ามีเชื้อรา สีหลุดร่อน ไปจนถึงกระทบโครงสร้างบ้านกันเลยทีเดียว นอกจากจะเสียเวลาซ่อมแซมแล้ว ยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายตามมาอีก ถ้าอย่างนั้นเรามารีบแก้ไขปัญหาน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้านก่อนจะบานปลายกันเถอะครับ   หลังคา เป็นส่วนหลักๆ ของบ้านที่จะต้องเผชิญกับแดด ลม ฝน เมื่อนานวันเข้าก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพของวัสดุ เมื่อเกิดคราบน้ำบริเวณฝ้าเพดานภายในบ้าน แนะนำให้ลองดูบริเวณใต้หลังคา ซึ่งจะมีสาเหตุส่วนใหญ่ดังนี้ครับ   กระเบื้องหลังคามีการแตกร้าว เวลาฝนตกน้ำจึงเข้ามาภายในบ้านได้ง่ายมากๆ ก็ให้รีบเปลี่ยนกระเบื้องตรงจุดนั้นครับ   การติดตั้งหลังคาไม่เหมาะสม สาเหตุนี้เกิดได้จากหลายสิ่งครับ เช่น กระเบื้องยึดไม่แน่น ระยะซ้อนทับหลังคาไม่ถูกต้องตามชนิดของกระเบื้องหลังคา ความลาดเอียงน้อยเกินไปทำให้ฝนไหลย้อนเข้าใต้หลังคา กระเบื้องเผยอเพราะโครงสร้างเริ่มแอ่น หากเป็นเช่นนี้ต้องเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาดูให้จะดีกว่าครับ   พื้นดาดฟ้า บ้านไหนที่ไม่ได้มุงกระเบื้อง แต่เป็นพื้นคอนกรีตให้ลองเช็ครอยต่อระหว่างผนังกับดาดฟ้า หรือตัวพื้นคอนกรีตอาจมีร่องรอยการแตกร้าวน้ำจึงรั่วซึมผ่านทางนี้ได้ ให้หาวัสดุกันซึมที่มีคุณสมบัติปกปิดรอยแตกได้มาปิดตรงรอยแตกร้าว   รางน้ำฝน ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอครับว่ามีเศษใบไม้ กิ่งไม้ร่วงลงมาทับถมจนรางน้ำฝนอุดตันหรือไม่ ทำความสะอาดครับ จะได้ไม่ขวางทางระบายน้ำ   ผนัง เป็นจุดที่พบการรั่วซึมของน้ำบ่อยที่สุด ซึ่งปัญหานี้สามารถพบเจอได้ทั้งในบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียม โดยมีสาเหตุหลัก เช่น   รอยร้าวจากปูนฉาบ ไม่ว่าผนังจะมีรอยแตกตรงกลางหรือรอยต่อตรงส่วนต่อเติม ก็ทำตัวการทำให้น้ำซึมผ่านผนังจนสีทาภายในพองตัวหลุดร่อน สามารถซ่อมแซมได้เองด้วยการใช้ปูนซีเมนต์สำหรับงานซ่อมหรือกาวโพลียูรีเทน ที่ผนังด้านนอกบ้านแล้วทากันซึมจึงทาสีทาบ้านทับอีกที ส่วนภายในบ้านก็ขูดสีที่พองออกก่อนแล้วจึงทาสีทับลงไปใหม่ตามวิธีที่ระบุไว้ข้างกระป๋องสี   รอยแตกตามขอบวงกบประตู-หน้าต่าง ให้อุดรอยด้วยซิลิโคนหรือกาวโพลียูรีเทน แต่หากรอยใหญ่มากจนเกินไปแนะนำให้เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาเปลี่ยนประตู-หน้าต่างใหม่เลยจะดีกว่าครับ   พื้น ส่วนใหญ่จะเกิดกับบ้านรุ่นเก่าซึ่งมีระดับต่ำกว่าถนน เมื่อเกิดน้ำรั่วซึมผ่านรอยต่อระหว่างพื้น คาน และผนัง ก็ให้อุดช่องว่างด้วยกาวซิลิโคน กาวโพลียูรีเทน หากเอาไม่อยู่แล้วส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยก็เรียกช่างมาเลยครับ อาจจะต้องเทพื้นใหม่ให้สูงขึ้นกว่าเดิม หรือวิธีอื่นแล้วแต่ช่างจะพิจารณา   ก่อนจะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น ลองหาวันว่างเดินสำรวจให้รอบบ้านก่อนปัญหาน้ำฝนรั่วซึมจะเกิดขึ้นครับ เพราะเราสามารถหาอุปกรณ์มาป้องกันได้ก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ครับ    
ซีคอน โฮม ล้างภาพ “เชย-ช้า-จุกจิก” วางเป้าหมายอีก 2 ปีทำยอดขาย 2,000 ล้าน

ซีคอน โฮม ล้างภาพ “เชย-ช้า-จุกจิก” วางเป้าหมายอีก 2 ปีทำยอดขาย 2,000 ล้าน

ในแต่ละปีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเมินมูลค่ามีกว่า 600,000 ล้านบาท  เป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม คาดว่ามีมูลค่ากว่า 450,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นมูลค่าของตลาดรับสร้างบ้านที่คาดว่าจะมีประมาณ​ 150,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดรับสร้างบ้านที่เป็นผู้ประกอบการอยู่ในสมาคมหลัก 2 สมาคม ได้แก่ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และสมาคมไทยรับสร้างบ้าน มีตัวเลขผลประกอบการรวมๆ กันปีละกว่า 20,000 ล้านบาทเท่านั้น  ที่เหลือเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ผู้รับเหมาอิสระ หรือช่างฝีมือทั่วไปที่รับงานตามต่างจังหวัด โอกาสทางการตลาดของธุรกิจรับสร้างบ้านจึงยังมีอีกมหาศาล  ที่จะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมุมมองของ “มนู ตระกูลวัฒนะกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน โฮม จำกัด  เห็นว่าธุรกิจรับสร้างบ้านสามารถเติบโตได้มากกว่านี้ถึง 5 เท่า  เพราะปัจจุบันบริษัทในธุรกิจรับสร้างบ้านยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่บริษัทเองแม้จะดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 58 ปี แต่ผลประกอบการยังอยู่ในระดับ 1,300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาเท่านั้น  ภายหลังจากได้เข้ามาบริหารงาน จึงวางเป้าหมายว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้า  จะต้องทำให้ซีคอน โฮม เติบโตทำยอดขายได้ถึง 2,000 ล้านบาท  ส่วนปีนี้ได้วางเป้าหมายยอดขายไว้ 1,600 ล้านบาท เฉพาะ 5 เดือนแรกสามารถทำยอดขายได้ 950 ล้านบาทแล้ว สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อไปสู่เป้าหมายยอดขาย 2,000 ล้านบาท ภายในระยะ 2 ปีนับจากนี้  คือ รีแบรนด์ ปรับพอร์ต+รุกการตลาดเพิ่ม ก่อนหน้านี้ บริษัทมีแบรนด์ทำตลาดด้วยกัน 3 แบรนด์ ได้แก่  1.แบรนด์ซีคอน​ โฮม จับตลาดรับสร้างบ้านราคาสูงตั้งแต่ 18,000-20,000 บาทต่อตารางเมตร 2.แบรนด์คอมแพค โฮม จับตลาดรับสร้างบ้านราคาระดับปานกลาง ราคา 15,000-18,000 บาทต่อตารางเมตร และ 3.แบรนด์บัดเจด โฮม จับตลาดรับสร้างบ้านระดับราคาต่ำ 12,000-15,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังจดจำแบรนด์ซีคอน โฮมได้ดีกว่า แม้จะมาใช้บริการแบรนด์คอมแพค โฮม หรือแบรนด์บัดเจท โฮม ก็มักจะพูดเสมอว่าใช้บริการของแบรนด์ซีคอน โฮม บริษัทจึงทำการยกเลิกการทำตลาดและให้บริการกับ 2 แบรนด์ดังกล่าวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีบ้านระดับราคาต่ำและปานกลางให้บริการลูกค้าเหมือนเดิม นอกจากนี้ ยังเตรียมรีแบรนด์และปรับภาพลักษณ์โลโก้ใหม่ของแบรนด์ซีคอนโฮมในช่วงปลายปีนี้ด้วย  โดยบริษัทจะยึดหลักหรือแนวคิดในการดำเนินธุรกิจในการให้บริการของลูกค้า คือ  ความคงทนแข็งแรง การควบคุมระยะเวลาก่อสร้างได้ตามกำหนด และการควบคุมงบประมาณไม่ให้บานปลาย  ขณะที่แนวทางการทำตลาดจะรุกหนักเพิ่มมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการสื่อสารและการสร้างแบรนด์ การจัดโปรโมชั่น การขยายสาขาเพิ่ม และการทำตลาดออนไลน์ผ่านสื่อดิจิทัล และโซเชียลมีเดียต่างๆ การนำเอาดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อการขายแทนการพิมพ์โบชัวร์ เป็นต้น ซึ่งบริษัทได้วางแผนใช้งบประมาณด้านการตลาดไว้ 3% ของยอดขาย จากก่อนหน้านี้ที่ใช้งบประมาณไม่ถึง 3%   จัดระเบียบหลังบ้าน แก้ 3 คีย์เวิร์ด “เชย-ช้า-จุกจิก”   ภายหลังจากที่ “มนู ตระกูลวัฒนะกิจ” เข้ามาทำงาน 3 เดือน ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “กอบชัย ซอโสตถิกุล” ประธานกรรมการบริหารซีคอนกรุ๊ป ถึงการทำงานที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้างนั้น  สิ่งที่เขาตอบกลับไป คือ การค้นพบ 3 คีย์เวิร์ดสำคัญภายใน “ซีคอนโฮม” ที่ควรจะปรับปรุงแก้ไข คือ “เชย ช้า และจุ๊กจิก” เชย คือ รูปแบบของบ้านที่นำออกมาให้ลูกค้าได้เลือก ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดระยเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ 10 ปีหรือ 20 ปีเป็นมาอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น  ช้า คือ การดำเนินธุรกิจมีกระบวนการ ขั้นตอน ที่ล่าช้า ไม่ต่างไปจากระเบียบขั้นตอนของทางราชการ จุกจิก คือ ขาดระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน เวลามีปัญหาเกิดขึ้นก็แก้ไขเฉพาะหน้า ไม่ได้ถูกวางระบบให้ชัดเจน เช่น การเก็บเงินลูกค้าเพิ่ม เมื่อเกิดปัญหาการขนส่งวัสดุก่อสร้างเข้าไปในซอยเล็กๆ เพราะต้องเปลี่ยนรถให้เล็กลง หรือการจะต้องเจอกับปัญหาฝนตกที่ทำให้งานล่าช้า ซึ่งกระบวนการต่างๆ เหล่านี้เป็นปัญหาจุกจิกที่ไม่ได้รับการบริหารจัดการให้ดี ทั้งๆ ที่รู้ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว เป็นต้น เพียงระยะเวลา 1 ปี 3 ปัญหาสำคัญดังกล่าว ก็ถูกจัดการแก้ไขให้แล้วเสร็จ  ปัญหาเรื่อง “เชย” ได้ทำการพัฒนาแบบบ้านใหม่ออกมา 12 แบบ  ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน และแต่ละกลุ่มเป้าหมาย “ช้า”  จากกระบวนการขั้นตอนของการบริการลูกค้า ที่อดีตนับตั้งแต่วันที่เซ็นสัญญากับลูกค้าจนส่งมอบบ้าน ใช้ระยะเวลาถึง 18 เดือน ปัจจุบันได้ลดขั้นตอนต่างๆ ให้เร็วขึ้นเหลือเพียง 12 เดือน หรืออย่างน้อยลดความล่าช้าในการส่งมอบบ้านให้ลูกค้าลง 2-3 เดือนต่อหลัง “จุกจิก” ได้ลดขั้นตอนและปัญหาต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้น โดยเมื่อตกลงกับลูกค้าไว้ตั้งแต่ต้นอย่างไรก็จะเป็นไปตามนั้น ไม่มีการเก็บเพิ่มเงินกับลูกค้าระหว่างการก่อสร้าง    
ดีเวลลอปเปอร์ ปั้นโปรเจ็กต์อสังหาฯ ในเชียงใหม่-เชียงราย มูลค่ากว่า 1.17 แสนล้าน

ดีเวลลอปเปอร์ ปั้นโปรเจ็กต์อสังหาฯ ในเชียงใหม่-เชียงราย มูลค่ากว่า 1.17 แสนล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจ โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย โดยนับเฉพาะโครงการที่มียูนิตเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 ยูนิต จากการสำรวจพบว่า มีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 257 โครงการ มียูนิตในผังโครงการรวมทั้งสิ้น 32,075 ยูนิต มีมูลค่าโครงการรวม 117,859 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 203 โครงการ มียูนิตในผังจำนวน 23,470 ยูนิต มีมูลค่าโครงการรวม 87,143 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 50 โครงการ มียูนิตในผังจำนวน 8,539 ยูนิต มีมูลค่าโครงการรวม 28,840 ล้านบาท และโครงการวิลล่า 4 โครงการ มียูนิตในผังจำนวน 66 ยูนิต มีมูลค่าโครงการรวม 1,875 ล้านบาท ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย มียูนิตเหลือขายจำนวน 10,762 ยูนิต หรือ 33.6% ของยูนิตในผังโครงการทั้งหมด โดยโครงการบ้านจัดสรรมียูนิตเหลือขายจำนวน 8,221 ยูนิต หรือ 35.0% ของยูนิตในผังโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด โครงการอาคารชุดมียูนิตเหลือขายจำนวน 2,524 ยูนิต หรือ 29.6% ของยูนิตในผังโครงการอาคารชุดทั้งหมด และโครงการวิลล่ามียูนิตเหลือขายจำนวน 17 ยูนิต หรือ 25.8% ของยูนิตในผังโครงการวิลล่าทั้งหมด โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวน 222 โครงการ มียูนิตในผังของทุกโครงการรวมกัน 28,552 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 106,882 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 9,459 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 36,528 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 169 โครงการ มีจำนวนยูนิต 20,295 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 76,776 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 6,981 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 27,406 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 49 โครงการ มีจำนวนยูนิต 8,191 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 28,231 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 2,461 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 8,665 ล้านบาท และมีโครงการวิลล่า จำนวน 4 โครงการ มียูนิตในผังจำนวน 66 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 1,875 ล้านบาท ยูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 17 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 458 ล้านบาท ทั้งนี้ ยูนิตในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด จำนวน 28,486 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุด 43.9% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3 - 5 ล้านบาท รองลงมาเป็นอาคารชุด2 8.8% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2 - 3 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ 14.1 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2 - 3 ล้านบาท บ้านแฝด 6.4% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2 - 3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าและอาคารพาณิชย์ ตามลำดับ ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่ที่ขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อยูนิตทั้งหมดในโครงการ ได้แก่ 1. ทำเลหางดงตอนบน ขายได้ 82.1% มูลค่าขายได้ 4,489 ล้านบาท 2.ทำเลท่ารั้ว-ดอยสะเก็ด ขายได้ร้ 81.6% มูลค่าที่ขายได้ 2,697 ล้านบาท 3.ทำเลในเมือง ขายได้ 78.3% มูลค่าที่ขายได้ 2,338 ล้านบาท 4.ทำเลแม่ริม ขายได้ 74.4% มูลค่าที่ขายได้ 2,793 ล้านบาท และ 5.ทำเลสารภี ขายได้ 72.% มูลค่าที่ขายได้ 6,226 ล้านบาท ส่วนทำเลอาคารชุดในจังหวัดเชียงใหม่ที่ขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อยูนิตทั้งหมดในโครงการ ได้แก่ 1.ทำเลในเมือง ขายได้ 85.8% มูลค่าที่ขายได้ 8,429 ล้านบาท 2.ทำเล ม.พายัพ ขายได้ร้ 81.7% มูลค่าที่ขายได้ 4,351 ล้านบาท 3.ทำเลสันทราย ขายได้ 71.1% มูลค่าที่ขายได้ 2,100 ล้านบาท 4.ทำเลแม่ริม ขายได้ 61.3% มูลค่าที่ขายได้ 334 ล้านบาท และ 5.ทำเลหางดงตอนบน ขายได้ 57.4% มูลค่าที่ขายได้ 4,239 ล้านบาท   โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดเชียงราย มีจำนวน 35 โครงการ มียูนิตในผังของทุกโครงการรวมกัน 3,523 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 10,976 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,303 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 4,596 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 34 โครงการ มีจำนวนยูนิต 3,175 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 10,367 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,240 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 4,476 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด จำนวน 1 โครงการ มีจำนวนยูนิต 348 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 609 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 63 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 120 ล้านบาท ทั้งนี้ ยูนิตในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 3,523 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุด 41.5% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 17.1% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1 – 1.5 ล้านบาท เป็นอาคารพาณิชย์ 16.3% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3 - 5 ล้านบาท เป็นที่ดินเปล่า 11.0% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2 - 3 ล้านบาท เป็นอาคารชุด 9.9% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.5 – 2 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝด ตามลำดับ สำหรับทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงรายที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อยูนิตทั้งหมดในโครงการ และเรียงลำดับจากสัดส่วนที่ขายได้มากที่สุด ได้แก่ 1.ทำเลแม่สาย ขายได้ 86.4% มูลค่าขายได้ 221 ล้านบาท 2.ทำเลเชียงแสน ขายได้ 74.1% มูลค่าที่ขายได้ 240 ล้านบาท 3.ทำเลสนามบิน-ม.แม่ฟ้าหลวง ขายได้ 72.3% มูลค่าที่ขายได้ 2,174 ล้านบาท และ 4.ทำเลในเมืองเชียงราย ขายได้ 51.5% มูลค่าที่ขายได้ 3,255 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนทำเลอาคารชุดทำเลสนามบิน-ม.แม่ฟ้าหลวง ขายได้ 81.9% มูลค่าที่ขายได้ 489 ล้านบาท
“เสี่ยเจริญ” จัดพอร์ตธุรกิจอสังหาฯ ส่ง AWC เข้าตลาด ลบภาพธุรกิจครอบครัวสู่มาตรฐานมืออาชีพ

“เสี่ยเจริญ” จัดพอร์ตธุรกิจอสังหาฯ ส่ง AWC เข้าตลาด ลบภาพธุรกิจครอบครัวสู่มาตรฐานมืออาชีพ

“เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” มีธุรกิจในมือมากมายที่สร้างความร่ำรวย และมีมูลค่ามหาศาล  หนึ่งในนั้น คือ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม  ซึ่งมีทั้งกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์  แต่อีกหนึ่งจิ๊กซอร์สำคัญขนาดใหญ่  ที่มาต่อเติมความมั่งคั่งของตระกูล  คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เรียกได้ว่ามีอยู่ในมือครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สำนักงานให้เช่า ศูนย์การค้า นิคมอุตสาหกรรม ศูนย์ประชุม สนามกอล์ฟ และโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ  ซึ่งกระจายอยู่ทุกมุมเมืองทั่วประเทศ นี่ยังไม่นับที่ดินเปล่าในพอร์ตอีกมหาศาลไม่รู้กี่แสนไร่   ทั้งขนาดความใหญ่และจำนวนธุรกิจที่มีมากมายมหาศาลของตระกูลสิริวัฒนภักดี  การสร้างการเติบโตและความยั่งยืน โจทย์สำคัญที่ “เสี่ยเจริญ” มอบหมายให้ทายาทที่ดูแลธุรกิจอสังหาฯ  คือ การสร้างมาตรฐานการบริหารงานแบบมืออาชีพ และไม่ยึดติดกับความเป็นธุรกิจครอบครัว นอกจากนี้ ยังต้องการให้ทายาทแต่ละคนดูแลรับผิดชอบธุรกิจอสังหาฯ ในแต่ละประเภทอย่างชัดเจน โดยไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน  แนวทางหนึ่งที่ถูกหยิบมาใช้ คือ การนำเอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  และการจัดกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ แต่ละประเภท ให้อยู่ภายใต้การบริหารงานของแต่ละบริษัทอย่างชัดเจน   นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ  AWC บุตรสาวคนที่ 2 ของเสี่ยเจริญ  เปิดเผยว่า ได้นำบริษัทยื่นแบบไฟลิ่งแก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากต้องการระดมทุน นำเงินมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตให้กับบริษัท  ชำระหนี้ การสร้างคุณค่าให้กับองค์กรและชุมชน   “การเข้าตลาดฯ เป็นการสร้างมาตรฐานและความยั่งยืน  ผู้บริหารและพนักงานจะอยู่ในระบบธรรมาภิบาล  ซึ่งดีกว่าอยู่ในระบบครอบครัว เป็นการสร้างมาตรฐานความเป็นมืออาชีพ”   สำหรับ AWC จะมุ่งเน้นการพัฒนาและลงทุนในอสังหาฯ ในประเทศไทย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ซึ่งบริหารงานโดยผู้บริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียงภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพและเป็นที่รู้จักระดับสากล อาทิ แมริออท, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building)   “คุณเจริญ อยากทำให้ธุรกิจครอบครัวสู่ระบบมาตรฐาน ไม่อยากให้ลูกหลานไปยึดติดกับธุรกิจครอบครัว”   นางวัลลภา ยังกล่าวย้ำอีกว่า การยื่นไฟลิ่งของบริษัทครั้งนี้  ถือเป็นการจัดพอร์ตและภาพธุรกิจอสังหาฯ ของ AWC ให้มีความชัดเจน โดยจะเน้นเฉพาะธุรกิจโรงแรมและบริการ  กับธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์​  โดยไม่มีธุรกิจอสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัย (Residential) ส่วนบริษัทอสังหาฯ ในกลุ่มทีซีซี ใครมีความรับผิดชอบในส่วนไหนก็ดูแลธุรกิจนั้นไป ถือเป็นการสร้างความชัดเจนในพอร์ตธุรกิจอสังหาฯ   ขนอสังหาฯ ทำเงินเข้าพอร์ต โครงการอสังหาฯ ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ AWC ถูกคัดสรรและพิจารณาว่าเป็นโครงการคุณภาพ สามารถสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งปัจจุบันและในอนาคต โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ มีแบรนด์ที่บริหารอยู่ 15 แบรนด์  อาทิ แมริออท,อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน ซึ่งมีโรงแรมดำเนินการอยู่ปัจจุบัน 10 แห่ง จำนวน 3,432 ห้อง อยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนาอีก 5 แห่ง จำนวน 1,528 ห้อง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการทำสัญญาซื้อกิจการโรงแรมใหม่อีก 12 แห่ง เป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 4 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาหรือมีแผนพัฒนาอีก 8 แห่ง ซึ่งจะทำให้ภายในระยะ 5 ปี AWC จะมีโรงแรมบริหารรวม 8,000 ห้อง จากปัจจุบันมีอยู่ 4,960 ห้อง   ส่วนโรงแรมทั้ง 12 แห่งที่คาดว่าจะเข้ามาอยู่ในพอร์ตธุรกิจ ได้แก่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร, โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์, โรงแรม ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช, แกรนด์โซเล่, โครงการหัวหิน บีชฟรอนท์, อิมพีเรียลแม่ปิง, โรงแรมบันยันทรี จอมเทียน พัทยา, พัทยา มิกซ์ยูส รีเทล แอนด์ โฮเทล ดีเวลล็อปเมนต์, โรงแรมเจริญกรุง 93, โรงแรม อีสต์ เอเชีย และ พรพิงค์ ทาวเวอร์   สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจโรงแรมที่ AWC จะมีด้วยกัน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มตลาด MICE กลุ่มพักผ่อน กลุ่มครอบครัว และกลุ่มนักธุรกิจ โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ การใช้เครือข่ายพันธมิตรโรงแรมภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำ ที่ช่วยทำให้ AWC   ออกแบบและพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และการมีเครือข่ายสมาชิกกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก   ส่วนกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ มี 2 กลุ่มบริหารงานอยู่ ได้แก่ 1.อสังหาฯ เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ชอปปิงมอลล์ คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต และอสังหาฯ เพื่อประกอบกิจการการค้าส่ง โดยอสังหาฯ เพื่อประกอบกิจการการค้ามีโครงการที่มีชื่อเสียงคือ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการเกทเวย์ แอท บางซื่อ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ และโครงการตะวันนา บางกะปิ   ปัจจุบันบริษัทมีโครงการเปิดำเนินการแล้ว 8 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการคอมมูนิตี้มาร์เก็ตบางกะปิ และโครงการเออีซี เทรด เซ็นเตอร์ ซึ่งโครงการทั้งหมดมีพื้นที่เช่ารวมกว่า 3.4 แสนตารางเมตร 2.อาคารสำนักงาน (Office) ที่บริษัทเป็นเจ้าของอยู่อีก 4 แห่ง ได้แก่ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ อาคารแอทธินี ทาวเวอร์ อาคาร 208 วายเลสโร้ด  และอาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์  โดยมีพื้นที่เช่ารวมกว่า 2.7 แสนตารางเมตร   3ปี รายได้โตเฉลี่ย 15% สำหรับผลประกอบการของ  AWC มีรายได้รวมในปี 2561 มูลค่า 12,415.64 ล้านบาท (เฉพาะธุรกิจหลักมีรายได้กว่า 10,998.64 ล้านบาท)  โดยสัดส่วน 60% รายได้จากธุรกิจโรงแรมและบริการ ส่วนอีก 40% เป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 489.04 ล้านบาท   ส่วนปี 2560 มีรายได้รวม 11,207.55 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,372.07 ล้านบาท และปี 2559 มีรายได้รวม 9,411.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,890.73 ล้านบาท ซึ่งหากมองย้อนหลังกลับไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ของ AWC มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 15%   ขณะที่แนวทางสร้างการเติบโตของ AWC จะใช้กลยุทธ์หลัก ได้แก่ -การขยายความเป็นผู้นำในโครงการหลักที่ดำเนินการอยู่ ด้วยการจับตลาดกลุ่มกลางถึงบนเป็นทั้งในและต่างประเทศ -การสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยโครงการไพร์มโลเกชั่น และโครงการในลักษณะฟรีโฮล์ -โครงการที่พัฒนาต้องสามารถแข่งขันได้ระดับโลกได้ -การสร้างทีมงานและบุคลากรให้แข็งแกร่ง   ส่วนแผนการลงทุนภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น  บริษัทยังไม่มีแผนที่ชัดเจน แต่ยังคงวางนโยบายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่เหมือนกับที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังเตรียมคัดโครงการอสังหาฯ ในตระกูลสิริวัฒนภักดี ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มทีซีซี โดยจะเลือกโครงการมีคุณภาพและสามารถสร้างการเติบโตได้เข้ามาในพอร์ตเพิ่มมากขึ้น และเป็นโครงการประเภทโรงแรมหรืออสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์   “เราลงทุนขนาดใหญ่และจะลงทุนขนาดใหญ่ต่อเนื่อง  เพราะประเทศไทยยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ภาคการท่องเที่ยวยังคงเติบโต  ในอนาคตจะคัดอสังหาฯ ที่อยู่ในไพร์มโลเกชั่นเข้ามา หรือโครงการในกลุ่มทีซีซีที่พร้อมให้ผลตอบแทนเข้ามาในพอร์ต”  
รีวิวบ้านแฝด ใกล้เลียบด่วน “Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra”

รีวิวบ้านแฝด ใกล้เลียบด่วน “Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra”

สำหรับรีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปชมบ้านแฝดย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งแบบบ้านภายนอกและแปลนภายใน เพราะทาง Private Nirvana จะมีการดีไซน์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละโครงการ เพื่อความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ไม่ใช่แค่ดูแล้วสวยงามเท่านั้น แต่แม้ผ่านระยะเวลาเป็น 10 ปี ก็จะยังดูไม่ล้าสมัย ซึ่งเราจะพาเข้าไปชมพร้อมกันเลยค่ะ   Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra เป็นโครงการบ้านแฝด 3 ชั้น ที่มีเพียงตัวคานเชื่อมต่อกัน ระหว่างสองบ้าน เน้นการใช้ Material คุณภาพตั้งแต่ในเรื่องของโครงสร้างไปจนถึงวัสดุตกแต่งต้องได้คุณภาพ ความแข็งแรงทนทานไปพร้อมกับความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยที่ดีตามไปด้วย เช่น ใช้การก่ออิฐแดงทั้งหลัง หลังคาเซรามิกเอ็กเชลล่า นำความร้อนต่ำ จาก SCG พื้นกระเบื้องนำเข้าจากต่างประเทศ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ มาตรฐานส่งออก ฯลฯ ประกอบกับงานก่อสร้างอันประณีตบรรจงราวกับว่าบ้านทุกหลังเป็นสินค้า Homemade ตามแบบฉบับของ Private Nirvana เป็นเครื่องยืนยันความมั่นใจได้ว่า บ้านแสนรักของเราจะมั่นคง แข็งแรง ไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ และอยู่กับเราไปอย่างยาวนาน ซึ่งภาพรวมแล้วเราจะรู้สึกไม่ต่างอะไรไปจากบ้านเดี่ยวเลยค่ะ     Concept “Live High THROUGH Nature” เน้นความเป็นโมเดิร์น เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอันลงตัว ภายนอกใช้สีเกรดอัลตราพรีเมียม โดยนำเอาสีเอิร์ธโทนและวัสดุตกแต่งลวดลายธรรมชาติมาใช้เป็นธีมหลัก ดูแล้ว ให้ความรู้สึกอบอุ่น กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้มากกว่าที่เคย   ก้าวแรกเมื่อได้เข้าไปอยู่ในโครงการจริง สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความเงียบสงบ ไร้เสียงรบกวนรอบข้าง เหมือนเข้าสู่ช่วงเวลา ของความเป็นส่วนตัว สมกับคำว่า Private จริงๆ ค่ะ       บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมครั้งนี้จะเป็นแบบบ้าน Standard Option กับ Option 1 ค่ะ   Standard Option เริ่มตั้งแต่หน้าบ้านที่มีพื้นที่สวน และ TERRACE ยื่นออกมาอย่างกว้างขวาง สำหรับเป็นพื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้านก่อนจะ เข้าถึงในตัวบ้าน ซึ่งจะมี Foyer และห้องน้ำแบบ Powder Room ที่เปลี่ยนจากผนังทึบให้เป็นกระจกใสบานเลื่อน ขนาดใหญ่ แล้วมีพื้นที่วางต้นไม้ประดับได้ ทำให้ห้องน้ำใต้บันไดแบบนี้ไม่อับทึบจนเกินไป แต่กลับดูโปร่ง และด้วยตำแหน่งของห้องน้ำจะช่วยเรื่องการเก็บเสียงเวลาใช้งานได้ด้วย ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้จากแบรนด์ Kohler   Living กลางบ้านที่เชื่อมต่อกับโซน Dining และ Kitchen Room อยู่ใกล้กัน ทำให้กลายเป็น Common Area ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะช่วงเวลาของครอบครัวที่มักอยู่ร่วมกันก็จะเป็นระหว่างมื้ออาหาร หรือการนั่งดูหนัง ชมรายการโทรทัศน์ไปด้วยกันในวันหยุด โดยมีประตูกระจกสูงจรดเพดานมาล้อมรอบทั้งสองด้าน ซึ่งตัวประตู หน้าต่าง อลูมิเนียมทั้งหลังจะใช้แบรนด์คุณภาพจากญี่ปุ่น Tostem เพื่อเปิดมุมมองให้ได้ใกล้ชิดกับสวนรูปตัว L ข้างบ้าน ไปถึงหลังบ้านเชื่อมถึงกัน และยังเป็นการเปิดรับแสงนุ่มนวลจากธรรมชาติภายนอกเข้าสู่ภายในบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ โคมไฟใช้แบรนด์ Lamptitude และหลอดไฟ LED ทั้งหลัง   Kitchen Room ลักษณะครัวปิดขนาดกำลังพอดีสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก แต่ฟังก์ชั่นรองรับได้ครบทั้งเคาน์เตอร์ครัว แบบ L shape พื้นที่วางตู้เย็น เครื่องซักผ้า มีประตูออกไปยัง Wash Area หลังบ้าน ซึ่งตัวประตูด้วยการออกแบบพิเศษ จาก Tostemให้มีบานเลื่อนฝังในบานประตู ทำให้มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้อากาศถ่ายเท ระบายกลิ่นได้ดียิ่งขึ้น แม้ในขณะที่ประตูปิดล็อคอยู่   ชั้น 2 ของบ้าน แม้แต่ผนังระหว่างทางเดินของบันไดก็ยังคงเปลี่ยนจากผนังทึบเป็นประตูกระจกบานใหญ่ ทำให้บันไดที่ถือเป็นหนึ่งในมุมมืดของบ้านกลับมีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาช่วย และยังทำให้บ้านดูกว้างขึ้นได้อีก ซึ่งมีกำแพงสูงประมาณ 6 เมตร เพื่อกั้นไม่ให้ดูชิดกับเพื่อนบ้านจนเกินไป และได้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นค่ะ โดยที่ชั้น 2 ของบ้านตัวอย่างหลังนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ Multi-Purpose Room ตรงกลางบ้านค่ะ   Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว และระเบียงส่วนตัวออกไปทางหน้าบ้าน โดยห้องจริงที่จะได้เป็น ห้องโล่งนะคะ ไม่ได้กั้นส่วน Walk In Closet แบบที่เห็นมาให้ ส่วน Multi-Purpose Room ตรงกลางจะได้มาเป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งสามารถดัดแปลงใช้ประโยชน์ได้หลากหลายค่ะ เช่น ห้องนั่งเล่นอีกแห่ง ห้องดูหนัง หรือห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้อง ก็ยังได้นะคะ   ห้องนอนที่ 2 จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำแยกของชั้น 2 ค่ะ ทำให้แม้ว่าจะไม่ได้เป็นห้องน้ำในตัวแบบ Master Bedroom แต่ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกเช่นกัน   ชั้น 3 จะมีเพียง 1 ห้อง MULTIPURPOSE พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ เป็นห้องใต้หลังคาที่น่ารักมากทีเดียวค่ะ ด้วยขนาดห้องที่ใกล้เคียงกับ Master Bedroom ได้เพดานสูง จึงเหมาะที่จะเป็นห้องพระ ห้องหนังสือ หรือใครที่ไม่ได้ เข้าห้องน้ำบ่อยๆ ก็สามารถทำเป็นห้องนอนก็จะได้ความเงียบสงบเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น อย่างที่ไม่ต้องกลัวเรื่องความร้อน จากหลังคา เพราะทุกหลังมีการปูฉนวนกันความร้อน และใช้หลังคาเซรามิกเอ็กเชลล่า มีคุณสมบัติในการนำความร้อนต่ำ จาก SCG   Option 1 จะมีความแตกต่างกับ Standard Option ตรง Foyer มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เหมาะสำหรับบ้านที่มีอยากมีที่เก็บรองเท้า มากหน่อย แต่จะได้ Terrace หน้าบ้านที่เล็กลงมา ส่วนภายในบ้านชั้น 1 และบริเวณสวนจะวางแปลนเอาไว้เหมือนกันค่ะ        ชั้น 2 พื้นที่ Multi-Purpose Room จะหายไปค่ะ แต่จะแทนที่ด้วยห้องนอนที่ 2 ได้ขนาดใหญ่ขึ้น และได้ห้องน้ำ ในตัวเพิ่มขึ้นด้วย เพราะห้องน้ำกลางของชั้น 2 นั้นเพิ่มประตูแบบ Double Access ระหว่างห้องนอนกับ Corridor   ชั้น 3 ห้อง MULTIPURPOSE นี้จะตกแต่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวค่ะ ใครที่ชอบความเงียบสงบเวลาทำงาน หรือคนเป็น ฟรีแลนซ์เห็นแล้วคงจะชอบห้องทำงานแบบนี้แน่เลยค่ะ   สิ่งหนึ่งที่เราได้จาก Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra คือ ความพอเหมาะพอดีของขนาดพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ใหญ่โตหรือความหรูหราโอ่อ่า อาจจะไม่ใช่คำตอบของความสุขในการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง แต่หากเป็นความรู้สึกและฟังก์ชั่นที่ดีเมื่อได้อยู่อาศัยจริงต่างหากที่จะมาเติมเต็มความรู้สึกของคำว่า “บ้าน”   Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra เป็นโครงการที่สามารถฉายภาพของการอยู่อาศัย สำหรับครอบครัวขนาดเล็กแบบคนรุ่นใหม่ออกมาได้อย่างน่ารัก อบอวลไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น จนเชื่อเหลือเกินค่ะว่า หากใครที่ได้มีโอกาสมาสัมผัสโครงการนี้ด้วยตัวเองแล้ว ก็จะต้องรู้สึกตกหลุมรักอย่างแน่นอน รายละเอียดโครงการบ้าน Private Nirvana Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra โครงการบ้านอื่นๆ Nirvana BEYOND พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา IDEN สุขุมวิท 101 THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา
All New Design @Nirvana BEYOND Rama 9-Krungthepkreetha : รีวิวบ้าน

All New Design @Nirvana BEYOND Rama 9-Krungthepkreetha : รีวิวบ้าน

กว่า 15 ปีที่ผ่านมา Nirvana Daii มักจะนำเสนอความแตกต่างให้เราได้ติดตามกันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในแง่ของงานดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้าน ซึ่งเน้นความ Modern เรียบหรูอยู่เสมอ จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครเห็นก็ต้องร้องอ๋อ! นี่คือโครงการบ้านจากเนอวานา ไดอิ ซึ่งในปีนี้ก็ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาสิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนวัตกรรมที่จะมีเพิ่มเข้ามา และตัวบ้าน All New Design เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างเข้าใจ และเข้าถึงให้มากที่สุด       สำหรับ Nirvana BEYOND All New Design ที่เริ่มเผยโฉมกันในปีนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงออกไป แต่ยังคงกลิ่นอายของเนอวานาเอาไว้ สิ่งที่เพิ่มเติมคือความเป็น Natural Modern ซึ่งตั้งใจดีไซน์ออกมาให้ดูเป็น Timeless Design ไม่ว่าเวลาจะยาวนานแค่ไหนก็ไม่ตกยุค ด้วยการวางผังที่ทำให้เกิด Inner Court กลางบ้าน เหมือนเอาธรรมชาติเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับเราได้ในทุกๆ วัน ต่อเนื่องไปยังส่วน Exterior Design โชว์ลูกเล่นตรงชั้น 2 ของบ้าน คล้ายกับเอา Rubik มาวางบิดมุมเปลี่ยนองศา เพิ่มมิติออกมาได้อย่างน่าสนใจ ทำให้บ้านออกมาไม่ใช่แค่ดูโดดเด่น แต่ยังได้ประโยชน์จากการเพิ่มพื้นที่ภายในห้อง และยังสามารถเปิดรับลม และแสงแดดจากธรรมชาติให้สัมผัสถึงตัวบ้านมากขึ้น ประกอบกับ Interior Design ที่ยังคงเน้นฟังก์ชั่นให้กับทุก Generation ในครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของบ้านก็สามารถสื่อสารกันได้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นในการอยู่ร่วมกันในบ้าน ขณะที่ยังคงมีมุมส่วนตัวเป็นของตัวเองอยู่ด้วย ซึ่ง All New Design ที่ว่านี้มีมาให้เลือกกัน 3 Type ได้แก่   SPACE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. 3 Bedrooms 3 Bathrooms 1 Living Room 1 Powder Room 1 Maid Room 2 Parking Lots   MIND บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. 4 Bedrooms 4 Bathrooms 1 Living Room 1 Maid Room 3 Parking Lots   LUXE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 76 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.   4 Bedrooms 4 Bathrooms 1 Living Room 1 Powder Room 1 Maid Room 3 Parking Lots     นอกจากนี้ยังนำนวัตกรรมหลายอย่างเข้ามาตอกย้ำในความเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ ระบบ Wi-Fi ความเร็วสูงทุกจุดภายในบ้าน ไม่ว่าจะมุมไหนก็อยู่บนโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา, ระบบรักษาความปลอดภัยอันสมบูรณ์แบบจากผู้เชี่ยวชาญด้วยการแบ่งโซน Public, Semi-Public, Private Space ฯลฯ        Rama 9-Krungthepkreetha การคัดสรรทำเลดีๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญไม่แพ้คุณภาพของตัวบ้าน เพราะการอาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยวสักหลัง เราก็ย่อมต้องการทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ บ้านของเรา และการเดินทางอันสะดวกสบายไม่ไกลจากใจกลางเมือง ซึ่งย่านกรุงเทพกรีฑานั่นตอบโจทย์ได้ดีไม่น้อยสำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบดีๆ สักหลัง   ถ.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถ.กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) เรียกได้ว่าเป็นถนนน้องใหม่มาแรงของโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ที่มีศักยภาพที่น่าจับตามอง ด้วยถนนกว้างถึง 6-10 เลน และบรรยากาศรอบๆ มีความสงบเป็นส่วนตัว และที่สำคัญคือมีระบบคมนาคมอยู่รายล้อมไม่ว่าจะเป็น ถ.กาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 10 ก.ม. และทางพิเศษศรีรัชได้ใกล้ที่สุด ทำให้สามารถเดินทางไปยัง New CBD ประมาณ 15 นาที ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา อยู่ด้านหน้าทางเข้าถ.กรุงเทพกรีฑาพอดี และยังห่างจาก แอร์พอร์ตเรลลิงค์ สถานีหัวหมาก ประมาณ 5 ก.ม. ถือว่าหาได้ยากมากสำหรับบ้านเดี่ยวทำเลใกล้ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าเช่นนี้   สิ่งอำนวยความสะดวกภายในระยะทางไม่เกิน 5-6 ก.ม. ก็ถือได้ว่าเพียบพร้อมทีเดียว เช่น เดอะมอลล์บางกะปิ แม็กซ์แวลู พัฒนาการ เดอะไนน์ พระราม9 โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ โรงเรียนนานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลรามคำแหง ฯลฯ ทุกสิ่งครบครันเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย Nirvana BEYOND Rama 9-Krungthepkreetha   Facilities ยังคงออกแบบมาสอดคล้องกับดีไซน์ความเป็น Natural Modern ของบ้านภายในโครงการ โดยยังคงมีความกลมกลืนกับธรรมชาติด้วยเส้นโค้งมน ซึ่งจะมีทั้ง Private Lounge & Clubhouse, Panorama Fitness, Infinity Edge Swimming Pool, POSH Garden, Meeting Room, CCTV, Securities 24 hrs., Underground Cable, WIFI Village   ความลงตัวในทุกมิติประกอบเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นโครงการบ้านที่โดดเด่นอย่างเหนือระดับของการใช้ชีวิต อันสมบูรณ์แบบ ที่ Nirvana BEYOND Rama 9-Krungthepkreetha ในราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท       VIP Booking ราคาพิเศษก่อนเปิดพรีเซล SPECIAL OFFER สูงสุด 2 ล้านบาท* วันที่ 30 – 31 มี.ค. นี้ เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ nirvana.bz/BY-RM9-KK-RVYL       รายละเอียดโครงการ Nirvana BEYOND เพิ่มเติม Nirvana BEYOND Rama 9-Krungthepkreetha โครงการอื่นๆ จาก Nirvana Daii Nirvana @WORK Nirvana BEYOND Udon thani Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9
รีวิวบ้าน “nirvana beyond อุดรธานี” ชีวิตเหนือระดับ กับบ้านดีไซน์ใหม่ล่าสุด

รีวิวบ้าน “nirvana beyond อุดรธานี” ชีวิตเหนือระดับ กับบ้านดีไซน์ใหม่ล่าสุด

หลายครั้งของทีม Reviewyourliving พาไปชมโครงการบ้านในกรุงเทพฯ รวมถึงปริมณฑล แต่คราวนี้เราจะพาขึ้นไปยังแดนอีสาน ณ เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเศรษฐกิจดีที่สุดติดอันดับประเทศ แล้วจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ทำไม Nirvana Daii จึงได้มีความสนใจทำเลแห่งนี้ ลองไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันค่ะ   อุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดติดอันดับต้นของประเทศไทย ไม่ว่าจะด้วยเพราะด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้าขายกับประเทศลาวที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีระยะห่างจากเมืองหลวงเวียงจันทร์ เพียง 70 กิโลเมตรเท่านั้น จึงทำให้มีธุรกิจเกิดขึ้นมากมายเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดความเจริญอย่างมาก จนกลายเป็นหนึ่งในหัวเมืองใหญ่ของบ้านเราแบบในปัจจุบัน   นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่หลายแห่ง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของชาวอุดรฯ เช่น สนามบินนานาชาติอุดรฯ ที่มีเที่ยวบินต่อวันสูงสุดในภาคอีสาน, หนองประจักษ์ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่กลายเป็นจุดเช็คอินสุดฮิป หรือจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งอย่างเซ็นทรัลพลาซ่า, UD Town, ไนท์พลาซ่า, พรีเมี่ยมเอาท์เล็ท ฯลฯ เมืองอุดรฯ จึงประกอบไปด้วยทั้งคนท้องถิ่นเดิมที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยความรักในบ้านเกิด คนต่างถิ่นที่เข้ามาประกอบกิจการธุรกิจของตัวเองหรือมาติดต่อค้าขายกัน นักเรียน นักศึกษาเข้ามาเรียนในเมืองใหญ่แห่งนี้ และนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาอยู่ตลอดทั้งปี ทำให้อุดรธานีเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากผู้คนอันหลากหลาย เมื่อมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ย่อมมีโครงการที่อยู่อาศัยตามมารองรับความเป็นอยู่ให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย     Nirvana BEYOND อุดรธานี ไม่บ่อยนักที่จะมี Developer ระดับคุณภาพจากกรุงเทพฯ มาเปิดมุมมองการใช้ชีวิตให้เหนือระดับยิ่งกว่าที่เคย โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวดีไซน์สไตล์ Modern เรียบง่ายแต่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ผสมผสานนวัตกรรมใหม่ๆ มีฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยสำหรับทุกคนในครอบครัวให้สะดวกสบายมากกว่าเดิม     บ้านเดี่ยวที่เหนือกว่า...ในทุกมุมมอง ด้วยซีรีส์ใหม่ล่าสุดจาก Nirvana ที่เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเน้นที่องค์ประกอบหลัก 2 ข้อ นั่นคือ   Modern Living Design บ้านที่มาในรูปแบบ Timeless Design ให้ดูทันสมัยอยู่เสมอด้วยรูปทรงที่บิดมุมของบ้าน เพื่อเปิดมุมมองใหม่ของการอยู่อาศัย ทำให้สามารถจับวางทิศทางตัวบ้านให้รับลมและแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ในตัวบ้านมากที่สุด และยังทำให้มี Inner Court กลางบ้าน สิ่งสำคัญคือจะเกิดความเป็นส่วนตัวทั้งภายในบ้านแล้วนอกบ้าน ซึ่ง Nirvana Daii ให้ความสำคัญมาตลอด และยังใส่ใจใช้วัสดุระดับ Premium ส่งผลให้เกิด Space เหนือกว่าแบบเดิมๆ ที่เคยมีมา     Modern Living Innovation ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของงานดีไซน์เท่านั้นที่จะทำให้มีชีวิตอันสมบูรณ์แบบเกิดขึ้นมาได้ เพราะยุคนี้ก็ต้องมีนวัตกรรมเข้ามาทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Home Automation ระบบ Air Control System ระบบ Wi-Fi ความเร็วสูงทุกจุดภายในบ้าน ระบบเสียงรอบบ้านเชื่อมต่อกับ Smartphone ฯลฯ        สำหรับโครงการ Nirvana BEYOND อุดรธานี เป็นบ้านเดี่ยวบนถนนเพาะนิยม ทำเลติดกับหนองประจักษ์ ซึ่งเปรียบเสมือนโอเอซิสใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลักหลายแห่ง ถือเป็นสุดยอดทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจังหวัดอุดรธานี ด้วยพื้นที่ทั้งหมด 10-0-88.3 ไร่ แต่มีเพียง 40 ยูนิตเท่านั้น โดยมีแบบบ้านให้เลือก 3 Type 3 Design     SPACE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. 3 Bedrooms 3 Bathrooms 1 Living Room 1 Powder Room 1 Maid Room 2 Parking Lots MIND บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. 4 Bedrooms 4 Bathrooms 1 Living Room 1 Maid Room 3 Parking Lots LUXE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 76 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.   4 Bedrooms 4 Bathrooms 1 Living Room 1 Powder Room 1 Maid Room 3 Parking Lots   BEYOND FACILITIES Residence Lounge & Beyond  Clubhouse, Panoramic View Fitness, Infinity Edge Swimming Pool & Kid Pool, Oasis Garden, Kid’s Playground, 24 Hrs. Securities & CCTV, Bluetooth Access, WIFI Village, Underground Electric   ความพิเศษทั้งหมดนี้ มีเพียง 40 ครอบครัวเท่านั้นที่จะได้ร่วมใช้ชีวิตแบบ BEYOND บนทำเลที่ดีที่สุดของอุดรธานี ในราคาเริ่มต้น 25-60 ล้านบาท   EXCLUSIVE BOOKING วันที่ 30 มี.ค. นี้ ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสุด >>  nirvana.bz/BY-UDON-RVYL รายละเอียดเพิ่มเติมโครงการ nirvana beyond อุดรธานี Nirvana BEYOND Udon thani  โครงการอื่นๆ จาก Nirvana Daii Nirvana @WORK Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 Nirvana BEYOND Rama9-Krungthepkreetha 
Britania Bangna KM.12 บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว : รีวิวบ้าน

Britania Bangna KM.12 บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว : รีวิวบ้าน

Britania Bangna KM.12-บริทาเนีย บางนา กม.12 บ้านเดี่ยว ยังคงเป็นที่ต้องการในชีวิตทุกคนอยู่เสมอ เพราะเป็นที่อยู่อาศัยที่เรียกได้อย่างภาคภูมิใจจริงๆ ว่านี่คือบ้านของเราและครอบครัว แต่ “บ้านที่ดี” สำหรับยุคนี้ ก็คงจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น ตอบโจทย์ได้ครบทุกไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย อย่างโครงการบริทาเนีย บางนา กม.12 ที่นำนวัตกรรม B Genius Mode ใส่ลงไปในบ้านทุกหลัง เพื่อได้สิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกบ้าน   B Genius Mode ประกอบไปด้วย 1.Digital Living Automation สร้างมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงให้กับบ้านของเรามากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย   Digital Door Lock ระบบล็อคประตูบ้านผ่าน Application ไม่ว่าจะใช้การส่งรหัสผ่านแบบชั่วคราว OTP, Pin Code และแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิด-ปิดประตู     Door&Window Magnetic Sensor สั่งเปิดระบบ Armed เมื่อไม่มีใครอยู่บ้าน หากมีการบุกรุกจะแจ้งเตือนผ่าน App   Motion Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับผู้บุกรุก   IP Camera กล้องวงจรปิดดูผ่าน App ได้   Smart Tablet Gateway ควบคุมระบบ Smart Home ผ่าน Tablet โดยจะเป็นตัว Master Control ของบ้าน   Fiber Optic Internet ใช้อินเตอร์เน็ตคุณภาพดีจาก True ทั้งโครงการ   USB Outlet ช่องเสียบ USB ทุกจุดในห้องหลัก ไม่ต้องง้อปลั๊กอะแดปเตอร์   2.Hotel Service On Demand บริการทำความสะอาด ซ่อมแซมดูแลบ้านจากมืออาชีพ เรียกใช้บริการได้ไม่ยุ่งยาก เช่น แม่บ้าน, ช่างเทคนิค ฯลฯ   3.Inter-Personal Space Design ออกแบบฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเข้าใจผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ เช่น ครัวไทย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร   4.Club Britania หนึ่งในหัวใจสำคัญของ  B Genius Mode ที่ถูกออกแบบจาก "ความเข้าใจ" พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนยุค 4.0  ที่รักอิสระและชอบความสะดวกสบาย   เพราะ“บ้าน” คือ พื้นที่ส่วนตัว CLUB BRITANIAจึงเป็นสังคมของการSharing จุดนัดพบของคนยุคใหม่ที่รองรับทุกกิจกรรม อาทิ co-working space  สระว่ายน้ำ ฟิตเนส  สนามเด็กเล่น ห้องประชุม ฯลฯ    ทำเลอนาคตสดใส ถ้าหากเอ่ยถึงทำเลที่กำลังจะมี Mega Project สำคัญเกิดขึ้นหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รถไฟฟ้า ทางด่วนที่เชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง ที่ตั้งสนามบินหลักของประเทศ รวมถึงยังเป็นแหล่งทำงานขนาดใหญ่ คงจะนึกถึงย่านอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “บางนา”   ถ.บางนา-ตราด นับจากนี้เป็นอะไรที่น่าจับตามองอย่างมากเลยนะคะ เริ่มกันตั้งแต่ช่วงต้นของถนนบริเวณสี่แยกบางนา กับโครงการที่หลายคนเฝ้าคอยอย่าง Bangkok Mall ซึ่งจะเป็นทั้งศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม อาคารที่อยู่อาศัยให้เช่าหรือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ อาคารสำนักงานให้เช่า บนพื้นที่ 100 ไร่ ที่เริ่มตอกเสาเข็มทำการก่อสร้างกันแล้ว เสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ก็จะกลายเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ฝั่งตรงข้ามกันก็เป็นไบเทคบางนา ก็เป็นที่ทราบกันว่ามีงาน Exhibition ดีๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดทั้งปี ถัดมาไม่ไกลกันนักเป็นห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา ที่เข้ามาพลิกโฉมย่านนี้ให้คึกคักจนกลายเป็นแม่เหล็กชั้นดีในการดึงคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันครบครันในแห่งเดียว รวมถึงยังมีคอมมูนิตี้อื่นๆ อีกมากมาย   ด้านการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในย่านนี้ถือว่าสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นถ.บางนา-ตราด ซึ่งเป็นถนนขนาดใหญ่ถึง 9-14 เลน มีทางพิเศษบูรพาวิถีตั้งแต่ช่วงต้นถนนยาวไปจนก่อนถึงนิคมอมตะนคร โดยช่วงสี่แยกบางนาจะสามารถไปเชื่อมกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร เข้าสู่ตัวเมือง CBD ได้ง่าย ช่วงกลางเชื่อมต่อกับถ.กาญจนาภิเษก ไปฝั่งบางปะอินหรือพระราม 2 ก็ได้เช่นกัน เดินทางสะดวกขนาดนี้ก็สมแล้วค่ะที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งทำงานทั้งออฟฟิศและโรงงานอุสาหกรรม ตั้งแต่ต้นถนนยาวไปจนถึงชลบุรีเลยค่ะ ที่สำคัญในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้า Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปัจจุบันไปจนเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ   สำหรับโครงการ Britania Bangna KM.12 จะตั้งอยู่ในถ.สุขาภิบาล 6 หรือที่เรียกกันว่าซ.วัดบางพลีใหญ่ใน จุดเด่นอย่างหนึ่งคือสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทางค่ะ คือจากถนนเทพารักษ์ ถนนกิ่งแก้ว แต่หลักๆ ก็จะแนะนำจากถ.บางนา-ตราด ฝั่งขาเข้า แล้วเลี้ยวซ้ายสู่ถ.สุขาภิบาล 6 (ซ.วัดบางพลีใหญ่ใน) ไปประมาณ 1.7 กิโลเมตร ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ   ภาพรวมโครงการ Britania Bangna KM.12 โครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ British Luxury Comfort แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนไทยจริงๆ มีบ้านให้เลือกถึง 3 แบบ คือ   BROMPTON 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1  แพนทรี 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ REGENT 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 140 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1  แพนทรี 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ OXFORD 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 150 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 อเนกประสงค์ 1  แพนทรี 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ   ทั้งหมด 182 ยูนิต แยก Clubhouse อยู่ด้านหน้าโครงการ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน หากต้องมีการรับแขกก็ไม่ต้องเข้าไปที่บ้านก็ได้ ซึ่งใน Clubhouse ก็จะเป็นศูนย์กลาง Facility ของ Britania Bangna KM.12 เพราะจะมีทั้ง สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Co-living Space, Kid Room, Co-working Space, Petground   แปลนบ้าน สำหรับบ้าน Britania เขาจะมี Gimmick อยู่หลายจุดทีเดียวค่ะ แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็จะอยู่ที่ทุก Type บ้าน มีทั้งครัวฝรั่งที่อยู่ในตัวบ้าน และครัวไทยที่ต่อออกไปอยู่นอกบ้าน ถัดจากครัวฝรั่งด้านใน เนื่องจากจากทำอาหารไทยจะมีกลิ่นค่อนข้างแรง ควันเยอะ จึงเหมาะมากค่ะกับการที่แยกไว้นอกบ้านแบบนี้           เยี่ยมชมโครงการ ตัวโครงการ Britania Bangna KM.12 หาไม่ยากเลยค่ะ หน้าโครงการอยู่ติดกับ 7-11 ที่เป็น Standalone ซึ่งป้ายชื่อโครงการด้านหน้าจะใช้วัสดุสี copper ตัดกับโทนสีขาวที่ใช้เป็นหลัก ซึ่งถ้าเราผ่าน Main Gate เข้าไปแล้วก็จะพบว่าโครงการนี้เป็น Double Gate เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นค่ะ โดยตัว Clubhouse จะอยู่ทางขวาของ Gate ด้านในก่อนเข้าสู่ภายในโครงการค่ะ     เปิดบ้านตัวอย่าง บ้านตัวอย่างจะมีให้ชมครบทั้ง 3 Type เลยค่ะ โดยเราจะมาเริ่มไปชมพร้อมๆ กันตั้งแต่ขนาดเริ่มต้นที่ BROMPTON 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 130 ตร.ม. ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะใช้ประตูกระจกเขียวตัดแสง บานสไลด์ขอบอลูมิเนียมสีดำให้ตัวล็อคแบบกุญแจและมีตัว Double Lock เพิ่มความแน่นหนาดีค่ะ โดยทั้งประตู หน้าต่างจะใช้แบรนด์จาก Windsor ทั้งหลังค่ะ ใช้ไฟ Downlight และตามรูปลั๊กไฟในบ้านก็จะเห็นแบบที่เสียบสาย USB ได้เลย ไม่ต้อง้อตัวอะแดปเตอร์แล้วค่ะ    เข้ามาสำรวจภายในบ้านกันบ้างค่ะ ซึ่งบ้านจริงจะเป็นบ้านเปล่านะคะ ยกแว้นแค่ช่วงโปรโมชั่นที่จะมีบางอย่างให้ แต่หลักๆ คือ พื้นชั้นล่างจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังฉาบเรียบสีขาว และได้เครื่องปรับอากาศ Daikin Inverter ทั้งหลัง ที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน เย็นได้เร็วกว่าปกติ ควบคุมอุณภูมิคงที่ได้มากกว่า และทำงานเงียบกว่าด้วยค่ะ โดยส่วนแรกของบ้านจะเป็น Living Room ที่สามารถวางโซฟาได้ถึง 4-5 ที่นั่ง เชื่อมต่อลึกเข้าไปด้านในก็จะเป็นส่วนของพื้นที่สำหรับโต๊ะทานข้าวขนาดประมาณ 4-6 ที่นั่งค่ะ   อีกส่วนหนึ่งของชั้นแรกจะเป็นบันได ห้องน้ำ และห้องครัวค่ะ ซึ่งแม้จะเป็นครัวเปิด แต่ก็มีการกั้นผนังแยกโซนเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน โดยผนังจะมีการเจาะช่องเอาไว้ เพื่อไม่ให้ดูทึบจนเกินไปค่ะ สะดวกเวลาทำครัวพร้อมกับจัดโต๊ะอาหารไปด้วยเลย   ห้องน้ำของชั้นแรกจะมีทั้งส่วนเปียกด้านใน และส่วนแห้งค่ะ โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้แบรนด์ American Standard ไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง ฝักบัว ที่วางสบู่ โถสุขภัณฑ์ สายชำระ ราวแขวนผ้า แกนใส่ทิชชู่ พร้อมติดกระจกเงาให้มาครบเลยค่ะ   ถัดมาด้านในสุดเป็นห้องครัวค่ะ ซึ่งจะสามารถวางเคาน์เตอร์ครัวแบบผนังด้านเดียวได้ พร้อมพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น มีหน้าต่างบานสไลด์ 2 ตอนเอาไว้ เหมาะสำหรับวางซิงค์ให้ตรงกับหน้าต่างค่ะ เพื่อระบายความชื้นที่จะก่อให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย  และประตูด้านหลังก็จะเปิดไปเชื่อมต่อกับครัวไทยด้านนอกได้เลย ไม่ต้องไปต่อเติมเองทีหลัง ตรงนี้รับรองว่าคนทำครัวจะต้องชอบแน่นอนค่ะ   กลับเข้ามาในบ้านเพื่อขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันบ้างค่ะ บันไดเป็นโครงการคอนกรีต Top ไม้สีอ่อน เดินแล้วไม่เกิดเสียงดังค่ะ และยังมีหน้าต่างบานสูงอยู่ระหว่างทางเดินบันได เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้จุดที่เสี่ยงจะเกิดอันตรายขึ้นในบ้านได้ง่ายแบบตรงบันไดบ้านนี่แหละค่ะ   ขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเจอห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำแยกอีก 1 ห้องค่ะ โดยพื้นของชั้นนี้จะปูด้วยลามิเนตค่ะ   เริ่มจากห้องแรกทางซ้ายมือของบันไดค่ะ ภายในห้องจะสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานได้ มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน หน้าต่างบานสไลด์ด้านข้างอีก ห้องจึงดูสว่างโล่งดีค่ะ   ถัดจากห้องนอนแรกทางซ้ายมือของบันไดก็จะเป็นห้องน้ำแยกค่ะ โดยภายในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ส่วนแห้งอยู่ก่อนถึงส่วนเปียกด้านในสุด ที่มีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับเพิ่มแสงสว่าง และระบายอากาศเอาไว้ด้านบน หากเราสังเกตก็จะเห็นว่าในห้องน้ำทุกห้องของบ้านจะมีปลั๊กไฟที่มี USB ให้มาด้วย สะดวกสบายมากๆ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของบ้าน   หันกลับมาทางขวาของบันไดกันบ้างค่ะ จะเป็นห้องนอนที่ 2 และห้อง Master Bedroom   ห้องนอนที่ 2 จะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นมาจากห้องแรกเล็กน้อยค่ะ โดยจะสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน มีหน้าต่างบานกระทุ้งตรงหัวนอน และบานใหญ่ด้านข้างมองเห็นทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ   Master Bedroom จะสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ไว้กลางห้องได้ค่ะ จะมีส่วนที่เป็น Walk In Closet อยู่หน้าห้องน้ำในตัวด้วยนะ โดยในห้องน้ำจะมีการกั้นฉากอาบน้ำเอาไว้ให้ด้วย สุขภัณฑ์ทั้งหมดก็จะได้มาตามที่เห็นเลยค่ะ ซึ่งจะมีระเบียงส่วนตัวกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ซึ่งระเบียงจะกั้นด้วยราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค     บ้านตัวอย่างหลังที่ 2  REGENT 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยรวม 140 ตร.ม. ประตูหลักของบ้านใช้ประตูกระจกเขียวตัดแสง บานสไลด์ 2 ตอน ระบบ Double Lock แน่นหนา มีเฉลียงหน้าบ้านยื่นออกมาเล็กน้อย และที่นั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้า    ภายในบ้านเริ่มด้วย Living Room สามารถวางโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้ พร้อมกับ Coffee table และเคาน์เตอร์ทีวีได้สบายๆ ค่ะ ถัดจาก Living Room เข้าไปจะมีประตูกระจกบานสไลด์ออกไปข้างบ้านได้    ด้านในสุดของบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่ง และยังมีส่วนที่เป็นเหมือนห้องอเนกประสงค์ สามารถรองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้หลากหลายเลยค่ะ เช่น เป็นมุมอ่านหนังสือ มุมโต๊ะทำงาน ฯลฯ และยังมีหน้าต่างอยู่รอบด้าน ก็จะยิ่งเพิ่มแสงสว่างให้เข้ามาได้มากขึ้น แม้จะอยู่ด้านในสุดของบ้าน   อีกฝั่งของบ้านจะเป็นบันได และกั้นส่วนห้องน้ำกับครัวได้อย่างเป็นสัดส่วนมากทีเดียวค่ะ ดีกว่าการที่ปล่อยให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งๆ เพราะถ้ามีแขกมาที่บ้านก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเห็นในครัวเลยค่ะ ตรงนี้ถือว่าออกแบบมาให้ได้ดีมากค่ะ คำนึงถึงการอยู่อาศัยจริง   ห้องครัวหลบเข้ามาด้านในสุดอย่างดูเป็นส่วนตัวมากค่ะ ซึ่งพื้นที่ก็สามารถวางตู้เย็น พร้อมเคาน์เตอร์ครัวแบบผนังด้านเดียวได้ มีประตูบานทึบกั้นส่วนที่เป็นครัวไทยด้านนอก โดยจะมีการปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ทำเคาน์เตอร์ไว้ให้เรียบร้อยเลยค่ะ เวลาใช้งานครัวจริงๆ ก็สะดวกสบายขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ   บันไดจะอยู่ช่วงกลางบ้าน หลังเคาน์เตอร์ทีวีตรง Living Room ค่ะ ระหว่างทางบันไดก็จะมีหน้าต่างทรงสูงเอาไว้เพื่อเพิ่มแสงสว่าง เรียกได้ว่าไม่ให้มีจุดทึบในบ้านเลยนะคะ   ชั้น 2 จะมี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำแยกค่ะ เริ่มจากห้องนอนแรกทางขวามือของบันไดกันก่อนเลย   ห้องนอนแรกจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานได้ จะมีหน้าต่างอยู่ตรงหัวนอน และด้านข้างค่ะ   ถัดจากห้องนอนแรกเป็นห้องน้ำแยกค่ะ ภายในจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด แยกส่วนเปียกเอาไว้ด้านในสุด มีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับเพิ่มแสงสว่าง และระบายความชื้น สุขภัณฑ์ใช้ American Standard ทั้งหมด   หันไปทางด้านซ้ายของบันไดค่ะ จะเจอกับห้องนอนที่ 2 และ Master Bedroom ทางขวามือของภาพ   ห้องนอนที่ 2 ห้องนี้อยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ มีพื้นที่วางเตียงได้ 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานได้ โดยมีพื้นที่เหลือด้านข้างเตียง   สุดท้ายที่ Master Bedroom ค่ะ พื้นที่กลางห้องสามารถวางเตียงได้ขนาด 5-6 ฟุต โดยมีทางเดินเหลือได้รอบเตียงทั้งสองด้าน มีส่วนที่เป็น Walk In Closet อยู่หน้าห้องน้ำในตัว ซึ่งภายในห้องน้ำก็จะได้สุขภัณฑ์ทุกอย่างตามที่เห็นค่ะ ส่วนระเบียงด้านข้างเตียงจะกั้นด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียม ตรงระเบียงจะกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ      หลังสุดท้ายเป็น Type ใหญ่ที่สุดของโครงการค่ะ OXFORD 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ความพิเศษของบ้าน Type ใหญ่นี้จะมีตั้งแต่หน้าบ้านกันเลยค่ะ ตรงที่จอดรถจะมีห้องเก็บของเอาไว้ให้ด้วยค่ะ และประตูหน้าบ้านที่เป็นกระจกบานสไลด์ จะเป็นกระจกเข้ามุมทั้งสองฝั่งยื่นออกมา จะช่วยเพิ่มมุมมองจากด้านในให้กว้างขึ้น รับแสงสว่างได้มากขึ้นด้วยค่ะ   ด้านในบ้านเริ่มจาก Living Room พื้นที่กว้างขวางมากๆ เลยค่ะ มากพอที่จะจัดปาร์ตี้ในบ้านกันได้เลย โดยสามารถวาง L shape sofa พร้อมกับโต๊ะทานข้าวได้เลยค่ะ โดยจะสังเกตเห็นว่าด้านข้างเคาน์เตอร์ทีวีจะมีตัว Smart Tablet Gateway ควบคุมระบบ Smart Home ติดอยู่ที่ผนัง เพื่อควบคุมระบบไฟฟ้าหลักของบ้าน ซึ่งตัวนี้จะติดตั้งมาให้ทุกหลังเลยค่ะ    สำหรับ Type นี้จะมีห้องนอนอยู่ชั้นล่างนี้ด้วยค่ะ อยู่ทางขวามือของบันได   ห้องนอนชั้นล่างแบบนี้ เหมาะสำหรับเป็นห้องของผู้สูงอายุค่ะ เพราะไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันได ให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ โดยภายในห้องก็มีหน้าต่างทั้งตรงหัวนอน และด้านข้างเตียง ไม่ต้องกังวลว่าอยู่ชั้นล่างแล้วจะอับทึบค่ะ   ถัดมาเราจะเห็นประตูด้านซ้ายมือใกล้กับห้องน้ำค่ะ เป็นประตูที่สามารถทะลุออกไปตรงที่จอดรถได้ ซึ่งบ้านจริงจะติดตั้ง Digital Door Lock เอาไว้ตรงประตูนี้ด้วยนะคะ    ห้องครัวได้พื้นที่ใหญ่ขึ้นมาอีกค่ะ จะได้การวางครัวแบบ Double Wall Kitchen ใช้แยกเป็นส่วนเตรียม ปรุงอาหาร และส่วนเก็บล้างได้อย่างเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น ส่วนครัวไทยด้านนอกก็ยังคงมีมาให้เช่นเคยค่ะ โดยครัวไทยด้านนอกจะเปิดโล่ง สามารถเดินทะลุได้ทั้งทางหน้าบ้านและหลังบ้านค่ะ    กลับขึ้นมาที่ชั้น 2 กันค่ะ พื้นที่ตรงกลางจะเป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์แต่ละครอบครัวได้เลย เช่น เป็น Living Room สำหรับเด็กๆ แยกจากแขกของผู้ใหญ่ด้านล่าง หรือจะเป็นมุมโปรดนั่งอ่านนหังสือก็ได้นะคะ   มาดูกันทางฝั่งขวามือก่อนค่ะ มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เริ่มจากห้องน้ำตรงกลางค่ะ สุขภัณฑ์ต่างๆ อุปกรณ์ รวมถึงกระจกเงา จะได้มาตามบ้านตัวอย่างพร้อมใช้งานค่ะ   ห้องนอนแรกค่ะ วางเตียงขนาด 3.5 ชิดกำแพงที่มีหน้าต่างเอาไว้ ก็จะได้พื้นที่ทางเดินข้างเตียงเพิ่มมากขึ้น   หันกลับไปดูห้องนอนที่ 2 ด้านขวามือของภาพกันต่อค่ะ ซึ่งจะมีขนาดเพิ่มขึ้นมาอีก พอที่จะวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ   สุดท้ายสำหรับ Master Bedroom ค่ะ เป็นห้องที่สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียง มีพื้นที่ Walk In Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว ส่วนระเบียงสำรับบ้าน Type นี้จะแตกต่างตรงที่มีราวกันตกกั้นด้วยกระจกนิรภัยค่ะ      Britania Bangna KM.12 เป็นบ้านเดี่ยวที่เชื่อว่าจะเข้าไปอยู่ในใจใครหลายคนค่ะ เพราะนอกจากจะมีการจัด Space ภายในบ้านได้ดี บ้านดูสว่างโปร่ง ไม่มีจุดอับทึบแล้ว ยังมีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านเข้าไปอย่างเต็มที่ อย่างนวัตกรรม B Genius Mode ที่นำเอาความเป็นจริงของการใช้ชีวิตมาเป็นหลักในการพัฒนาจนกลายเป็นบ้านสไตล์ Britania ที่มีความแตกต่าง ไม่เหมือนใคร               
BRITANIA WONGWAEN-HATHAIRAT-บริทาเนีย วงแหวน–หทัยราษฎร์ : รีวิวบ้าน

BRITANIA WONGWAEN-HATHAIRAT-บริทาเนีย วงแหวน–หทัยราษฎร์ : รีวิวบ้าน

BRITANIA WONGWAEN HATHAIRAT โครงการบ้านซี่รี่ส์ใหม่และทาวน์โฮม สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันด้วยนวัตกรรมจากออริจิ้น ที่เรียกว่า B Genius Mode  ประกอบไปด้วย 4 หลัก ได้แก่     Digital Living automation จัดการชีวิตเทคไลฟ์อย่างง่ายดายบน applicationสุดล้ำ สั่งการผ่านปลายนิ้ว บริทาเนีย ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการอยู่อาศัย  ด้วยการติดตั้งระบบ Home Security  ประกอบด้วย   Digital Door Lock  สามารถควบคุมล็อกประตูบ้าน ผ่าน application  แชร์ OTP ให้ แขกหรือ แม่บ้าน รับ Notification  เมื่อมีการเปิด – ปิด ประตูเพื่อความอุ่นใจ รองรับ Pin Code และ Card*   Door &Window  Magnetic Sensor เมื่อออกจากบ้านและสั่งการ ระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อมีการบุกรุกทางประตูหน้าต่าง ให้ไซเรนดังและแจ้งเตือนผ่านแอพคลิชั่น*   Motion Sensor เมื่อออกจากบ้านให้ทำงานเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับการบุกรุก*   IP Camera  กล้องภายในบ้านสามารถดูผ่านแอพฯ เพื่อดูแลสมาชิกภายในบ้านหรือตรวจจับรักษาความปลอดภัย* ซึ่งทั้งหมดนี้ ผ่านระบบโครงข่ายใยแก้วนำแสง Fiber Optic True Room ของ TRUE ทั้งโครงการ   รวมถึง  USB Outlet ที่เตรียมให้ทุกจุดสำคัญในบ้าน ให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ ทั้งห้องรับแขก ห้องนอนใหญ่   ห้องน้ำ* บริทาเนีย ยังเข้าใจ ความต้องการที่แท้จริง ด้วย INTERPERSONAL SPACE DESIGN โดยการออกแบบ ฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเข้าใจลูกค้าในทุกมิติ   Multi- Purpose Spaces พื้นที่ที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย Thai Kitchen ครัวไทยปิด แยกเป็นสัดส่วน เหมาะกับผู้รักการทำอาหาร Built-in Furniture การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ และลงตัวกับการอยู่อาศัย   อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ บริทาเนีย คือ “การบริการ” ระดับโรงแรม 5 ดาว ที่มีให้อย่างครบครัน ภายใต้  HOTEL SERVICE ON DEMAND ซึ่งบริการนี้ตอบโจทย์ ความต้องการ ในการจัดการชีวิตให้สะดวกสบาย พร้อมคนดูแลส่วนตัว  ไม่ว่าจะเป็น แม่บ้าน, งานซักรีด, ช่างเทคนิค และคนสวน  เรียกใช้บริการอย่างมั่นใจ ง่ายดาย  ด้วยการจองผ่าน Mobile Application  ให้คุณเอาเวลามา ดีไซน์การใช้ชีวิต ในแบบที่เป็นคุณ อย่างเต็มที่   “Club Britania” ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา จากความเข้าใจลูกค้า ว่ามีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่ “บ้าน” คือ พื้นที่ส่วนตัว แต่เมื่อต้องการพื้นที่เพื่อรองรับกิจกรรมต่าง ๆ คลับบริทาเนียกลายเป็นสถานที่ ที่พิเศษ กว่าที่ไหน ๆ สามารถใช้นัดปาร์ตี้กับแก้งค์เพื่อน ที่ Co Living Space ใช้รับรองลูกค้า นัดประชุม ที่ Co-Working Space หรือ Private Room ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถสั่งจองพื้นที่ใช้งานส่วนกลาง ผ่าน Application สุด Genius และพื้นที่ของส่วนกลางยังประกอบด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ , ฟิตเนส , Stream Room Locker Room , Playground , Pet ground   จึงสามารถกล่าวได้ว่า “คลับบริทาเนีย” ทำให้ “บ้านบริทาเนีย” เป็นมากกว่าบ้าน นั้นเอง     ชื่อโครงการ BRITANIA WONGWAEN-HATHAIRAT (บริทาเนีย วงแหวน–หทัยราษฎร์) เจ้าของโครงการ บริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 10510 พื้นที่โครงการ 31-3-93.00 ไร่ ลักษณะโครงการ บ้านซี่รีย์ใหม่ 2 ชั้น และทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนหลัง 288 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 100-140 ตร.ม. แบบบ้าน  WARWICK บ้านซี่รีย์ใหม่  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ 140 ตร.ม. PRESTON ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 110 ตร.ม. ACTON ทาวน์โฮม 2 ห้องมาสเตอร์เบครูม 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 100 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง Club House, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องสตีมรูม, ฟิตเนส, สนามเด็กเล่น, CCTV, รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ เป็นโครงการที่มีทั้งบ้านซี่รี่ส์ใหม่ และทาวน์โฮม ที่ออกแบบมาในสไตล์อังกฤษ Modern British Luxury และความเป็น Creative Living ผสมผสานกันอย่างลงตัว มีสวนสาธารณะในโครงการขนาดใหญ่ ใกล้ 2 ทางด่วน และ 1 รถไฟฟ้า* จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางด่วนรามอินทรา-จตุโชติ, ถ.กาญจนาภิเษก สถานที่ใกล้เคียง บิ๊กซี ลำลูกกา, โฮมโปร ลำลูกกา, ตลาดวงศกร, ตลาดมารวย, Max Value หทัยราษฎร์, สนามบินดอนเมือง, รพ.สายไหม, รพ.ภูมิพล, เดอะพรอมานาด, แฟชั่นไอส์แลนด์                 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด รูปภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงได้โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า   “23-24 ก.พ. นี้ PRE-SALE พบกันที่ Sale Office ของโครงการ บริทาเนีย วงแหวน-หทัยราษฎร์  แล้วมาเป็นครอบครัวเดียวกับ “ซันนี่” นะครับ http://bit.ly/2SaARGI      
รีวิวบ้านเดี่ยว เอกมัย รามอินทรา “The Glamor Ekkamai-Pradit Manutham”

รีวิวบ้านเดี่ยว เอกมัย รามอินทรา “The Glamor Ekkamai-Pradit Manutham”

ชื่อโครงการ เดอะ แกลมเมอร์ เอกมัย-ประดิษฐ์มนูธรรม (The Glamor Ekkamai-Pradit Manutham) เจ้าของโครงการ บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด ที่ตั้งโครงการ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซอย 8 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 พื้นที่โครงการ 4-2-32 ไร่ ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว จำนวนบ้าน 18 หลัง เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 59.2 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 450 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง สวนสาธารณะ, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม., กล้องวงจรปิดทั้งโครงการ, ฟิตเนส, เดินสายไฟลงดิน 100%, เข้าออกระบบ Easy Pass (RFID) ราคา เริ่มต้น 27.9 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นเรียบหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 18 หลัง ภายใต้แนวคิดความงดงามแห่งการอยู่อาศัยที่เน้นกลมกลืนไปกับทัศนียภาพที่เขียวชอุ่มผสานกับความอบอุ่นด้วยแสงธรรมชาติใจกลางกรุงเทพ โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนเส้นสำคัญที่ล้อมรอบไปด้วยจุดหมายมากมายจากย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ที่ห่างจากเราเพียงไม่กี่นาที ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง ใกล้ทางด่วน (ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา), รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าสายสีส้ม (สายอนาคตตลิ่งชัน - สุวินทวงศ์), รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สายอนาคตแคราย-มีนบุรี), รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สายอนาคตลาดพร้าว-สำโรง), รถไฟฟ้าสายสีเทา (สายอนาคตวัชรพล-ท่าพระ) สถานที่ใกล้เคียง Tesco Lotus Extra, Crystal Design Center, Big C Supercenter, The Crystal Park, Central Eastville, โรงพยาบาลลาดพร้าว,โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพระราม 9, Regent's International School Bangkok, Singapore International School of Bangkok (SISB), ABAC Hua Mak Campus, Shrewsbury City Campus, Bangkok International Preparatory & Secondary School (Bangkok Prep) ภาพบ้านเดี่ยว เอกมัย รามอินทรา "The Glamor Ekkamai-Pradit Manutham" รายละเอียดบ้านเดี่ยว เอกมัย รามอินทรา เพิ่มเติม The Glamor Ekkamai-Pradit Manutham โครงการบ้านเดี่ยวย่าน เอกมัย รามอินทรา อื่นๆ Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra Lom Hai Jai Nakniwat 48 Atelier Residence
Chaunchom Park 3-ชวนชม พาร์ค 3 บางกรวย-ไทรน้อย : รีวิวบ้าน

Chaunchom Park 3-ชวนชม พาร์ค 3 บางกรวย-ไทรน้อย : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Chaunchom Park 3 (ชวนชม พาร์ค 3 บางกรวย-ไทรน้อย) เจ้าของโครงการ :  บริษัท พรัตน์ธร วิลล่า จำกัด ที่ตั้งโครงการ :  ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พื้นที่โครงการ : 50 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านแฝด 2 ชั้น จำนวนบ้าน : 292 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 40.8 ตร.วา. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สโมสร - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,190,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมเข้าอยู่ จุดเด่นโครงการ : บ้านแฝดสไตล์บ้านเดี่ยว คอนเซ็ปต์ “กว้างกว่าที่เคยมี ดีกว่าที่เคยอยู่” บนทำเลศักยภาพ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ห่างจากตลาดน้ำไทรน้อยเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนกาญจนาภิเษก, สายสีม่วง สถานีคลองบางไผ่ สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล เวสต์เกต, อิเกีย บางใหญ่, บิ๊กซี บางใหญ่, โฮมโปร บางใหญ่, แม็คโคร บางบัวทอง, รร.สารสาสน์ บางบัวทอง, รร.กสิณธร เซนต์ปีเตอร์, รพ. เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล  
Suetrong The Oxy Rangsit Klong 6-ซื่อตรง ดิ ออกซี่ รังสิต คลอง 6 : รีวิวบ้าน

Suetrong The Oxy Rangsit Klong 6-ซื่อตรง ดิ ออกซี่ รังสิต คลอง 6 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Suetrong The Oxy Rangsit Klong 6 (ซื่อตรง ดิ ออกซี่ รังสิต คลอง 6) เจ้าของโครงการ :  บริษัท ซื่อตรงกรุ๊ป จำกัด ที่ตั้งโครงการ :  ถ.รังสิต-นครนายก คลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ :  57-2-75 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น, บ้านแฝด 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 231 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน Relax บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 40 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 137 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ - แบบบ้าน Tree Leaf บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 50 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน Sunlight บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 50 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 191 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน Nature บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 80 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน Forest บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 100 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม.ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,290,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมเข้าอยู่ จุดเด่นโครงการ : โครงการที่เน้นวัสดุคุณภาพ สร้างบ้านที่แข็งแรง และออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้าง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ประหยัดพลังงาน ส่วนกลางครบครัน และมีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนรังสิต-นครนายก, ถนนลำลูกกา, ถนนวงแหวนรอบนอกฯ, รถไฟฟ้าสายสีเขียว, รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานที่ใกล้เคียง : บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, ดูโฮม, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, ศูนย์ราชการอำเภอธัญบุรี, ศาลธัญบุรี, รพ.ธัญบุรี, รพ.เอกปทุม, รพ.บางปะกอก-รังสิต 2, รร.สารสาสน์วิเทศรังสิต, ม.อีสเทิร์นเอเชีย, ดรีมเวิลด์  
The Grosvenor Ratpattana-Ramkhamhaeng-เดอะ กรอสเวินเนอร์ ราษฎร์พัฒนา-รามคำแหง : รีวิวบ้าน

The Grosvenor Ratpattana-Ramkhamhaeng-เดอะ กรอสเวินเนอร์ ราษฎร์พัฒนา-รามคำแหง : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Grosvenor Ratpattana-Ramkhamhaeng (เดอะ กรอสเวินเนอร์ ราษฎร์พัฒนา-รามคำแหง) เจ้าของโครงการ : บริษัท รักษ์แสนสุข จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถ.ราษฎร์พัฒนา (ซ.มิสทีน) แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. พื้นที่โครงการ : 2-2-50 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 3 ชั้น, โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น จำนวนบ้าน : 10 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พร้อมด้วยพื้นที่ใช้สอย 314.75 ตร.ม. บนเนื้อที่ 60-62.6 ตร.วา -โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พร้อมด้วยพื้นที่ใช้สอย 185.14 ตร.ม. บนเนื้อที่ 18-31.8 ตร.วา สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : -สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 7,990,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวที่มีความประณีตในทุกรายละเอียดการออกแบบที่ตกแต่งอย่างหรูหราสะท้อนความเป็นตัวคุณ บนถนนราษฎร์พัฒนา ที่เชื่อมต่อการเดินทางสู่ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก เพียง 5 นาที ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนรามคำแหง, ถนนราษฎร์พัฒนา, ถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนกาญจนาภิเษก, สายสีส้ม สถานีราษฎร์พัฒนา สถานที่ใกล้เคียง : รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, รร.นานาชาติร่วมฤดี, นิด้า, ม.เกษมบัณฑิต, รพ.นวมินทร์ 9, Golden Place, The Paseo, HomePro, Pure Place, BigC, Tesco Lotus      
Sena Park Grand Ramintra-เสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา : รีวิวบ้าน

Sena Park Grand Ramintra-เสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Sena Park Grand Ramintra (เสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา) เจ้าของโครงการ : บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว  เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร พื้นที่โครงการ : 42-0-93 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว จำนวนบ้าน : 173 หลัง ขนาดบ้าน : - บ้าน Aqua Smart 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 165 ตารางเมตร ที่ดิน 65 ตารางวา - บ้าน Oxy Smart 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ที่ดิน 72 ตารางวา สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 6,870,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมเข้าอยู่ จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวย่านรามอินทรา รองรับการติดตั้ง EV Charger ให้กับบ้านทุกหลัง ออกแบบภายใต้แนวคิด “Green Smart Design” ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อทำให้บ้านเย็นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้ในบ้านได้ฟรีตลอดวัน ใกล้ห้างแฟชั่นฯ เพียง 1.4 ก.ม. และถนนรามอินทรา ก.ม.9 สถานที่ใกล้เคียง : The Promenade, Fashion Island, Big C, Amorini,โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี, โรงพยาบาลสินแพทย์, สวนสยาม  
Lom Hai Jai Nakniwat 48-ลมหายใจ นาคนิวาส 48 : รีวิวบ้าน

Lom Hai Jai Nakniwat 48-ลมหายใจ นาคนิวาส 48 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Lom Hai Jai Nakniwat 48 (ลมหายใจ นาคนิวาส 48) เจ้าของโครงการ : สุข เอสเตท ที่ตั้งโครงการ :  ซอยนาคนิวาส 48 แยก 14 ถนนนาคนิวาส เขตลาดพร้าว กทม. พื้นที่โครงการ : 194 ตร.วา. ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 3 ชั้น และ บ้านแฝด 3 ชั้น จำนวนยูนิต : 5 ยูนิต   ขนาดบ้าน : -  บ้านเดี่ยว 3 ชั้น เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 39.02 ตร.วา.บนพื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน ราคา : เริ่มต้น 8,990,000 บาท จุดเด่นโครงการ : โครงการบ้านที่เกิดจากแนวคิด ‘อยู่อย่างสุข’ถ่ายทอดบ้านที่ตอบโจทย์สุนทรียะแห่งการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของคนเมืองสมัยใหม่ ที่ต้องการบ้านที่แตกต่าง ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ จึงออกแบบทุกพื้นที่ใช้สอยให้มีความหมาย สร้างพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ รวมไปถึงเลือกวัสดคุณภาพ การก่อสร้างที่พิถีพิถันด้วยช่างฝีมือดี ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนนาคนิวาส, ถนนลาดพร้าว, ถนนประเสริฐมนูกิจ, ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา สถานที่ใกล้เคียง : Central Eastville, Crystal Park, Crystal Design Center, CDC, The Walk, นวมินทร์ซิตี้ อเวนิว, ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา, รพ.เปาโล โชคชัย 4, รพ.ลาดพร้าว, รร.สตรีวิทยา 2, รร.เลิศหล้า, สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71  
Pave Pinklao-Salaya-เพฟ ปิ่นเกล้า-ศาลายา : รีวิวบ้าน

Pave Pinklao-Salaya-เพฟ ปิ่นเกล้า-ศาลายา : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ :  Pave Pinklao-Salaya (เพฟ ปิ่นเกล้า-ศาลายา) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน ที่ตั้งโครงการ : ถนนอัจฉริยะพัฒนา อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี พื้นที่โครงการ : 95-2-98.5 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน Coton พื้นที่ใช้สอย 171 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน Hinxton พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน Marston พื้นที่ใช้สอย 214 ตร.ม. ขนาด 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - ฟิตเนส - สระว่ายน้ำ - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 4,590,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : ต.ค. 2566 จุดเด่นโครงการ : บ้านสไตล์ Modern Iconic รูปแบบใหม่ ที่ตั้งใจออกแบบให้ทุกพื้นที่มีฟังก์ชั่นตอบรับทุกการใช้ชีวิต พักผ่อนกับบรรยากาศร่มรื่นด้วย Clubhouse พร้อมฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Co-Working Space และสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่เติมเต็มความสุขของครอบครัวคุณ บนทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อถนนหลักได้หลายเส้นทาง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก,ทางคู่ขนาดลอยฟ้าบรมราชชนนี, วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก สถานที่ใกล้เคียง : เดอะศาลายามอลล์, โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล, เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา, มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา  
The City Ratchada-Wongsawang  บ้านเดี่ยวหรูติดถนนใหญ่ : รีวิวบ้าน

The City Ratchada-Wongsawang บ้านเดี่ยวหรูติดถนนใหญ่ : รีวิวบ้าน

ความสงบที่อยู่ใกล้เมืองเพียงแค่เอื้อมกับ The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เชื่อมต่อเมืองและถนนรัชดาภิเษก รองรับครอบครัวที่กำลังขยายในอนาคต ให้บรรยากาศสังคมส่วนตัวเพียง 94 ยูนิต มาพร้อมกับส่วนกลางที่หาไม่ได้จากที่ไหนกับ The Club ตอบโจทย์คนเมืองผสมผสานเข้ากับสังคมส่วนตัว   ทำเล     The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง ตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ ซึ่งเป็นชานเมืองจังหวัดนนทบุรี โดยถนนเส้นนี้เป็นจุดเชื่อมเข้าไปในตัวเมืองอย่างกรุงเทพมหานครได้หลายเส้นทาง เริ่มต้นที่ถนนนครอินทร์เชื่อมไปยังถนนกรุงเทพ – นนทบุรียาวเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก และถนนวงศ์สว่าง หรือจะใช้ถนนติวานนท์เพื่อเชื่อมไปยังถนนงามวงศ์วาน นอกจากนี้เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางยังสามารถใช้ทางด่วนเพียง 10 นาทีเข้าสู่ตัวเมือง โดยใช้ถนนพิบูลย์สงครามไปยังทางด่วนสะพานพระราม 7 หรือกลับรถเพื่อขึ้นทางด่วนประชาชื่นและงามวงศ์วาน ห่างไม่ไกลตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงสถานีแยกติวานนท์ 1.3 กม. และสถานีกระทรวงสาธารณสุข 1.5 กม         นอกจากการเดินทางจะสะดวกสบายรอบด้านแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการครบครันทั้งร้านอาหารที่มากอย่างบนถนนวงศ์สว่างต่อไปยังบนถนนรัชดาภิเษกก็จะพบสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห่างสรรพสินค้า Major Cineplex Ratchayothin หรือ Big C วงศ์สว่าง นอกจากใกล้แหล่งช็อปปิ้งและยังอุ่นใจใกล้มือหมออย่าง โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ถัดมาตั้งต้นที่ถนนติวานนท์ยาวไปถึงถนนงามวงศ์วานเป็นอีกถนนเส้นหนึ่งที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้มากอย่าง The Mall งามวงศ์วาน , Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย , โรงพยาบาล นนทเวช , โรงพยาบาลวิภาวดี , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และยังสามารถเดินทางไปยังเซ็นทรัลลาดพร้าว และ ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยเชื่อมผ่านเส้นทาง ถนนรัชดาภิเษก ได้อย่างสะดวกอีกด้วย       ภาพรวมโครงการ     The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ 31 ไร่ จึงทำให้มีความเป็นสังคมส่วนตัวอย่างมากเพราะทั้งโครงการมีเพียง 94 ยูนิตเท่านั้น  และสิ่งที่พิเศษไม่เหมือนใครที่ไหนกับ Facility อย่าง "The Club" ผสมผสานไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์ของครอบครัวคนเมืองให้เข้ากับสังคมส่วนตัว โดยเริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าหน้าประตูโครงการตรงเข้ามาจะเห็นซุ้มประตูมีป้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มความอุ่นใจกับระบบ Access Card สำหรับเข้าออกโครงการและ CCTV ทางเข้า – ออกโครงการ รับรองความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยอย่างแน่นอน เมื่อผ่านประตู         ถัดมาจากประตูทางเข้าโครงการก็จะพบกับ "The Club" สถานที่ให้ครอบครัวหรือเพื่อนบ้านมาร่วมทำกิจกรรม โดยชั้นแรกจะเป็น "Lounge" ไว้คอยตอนรับแขกหรือเป็นที่พบปะพูดคุย ภายในห้องตกแต่งให้บรรยากาศหรูหรา ด้านข้างเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ซึ่งด้านปลายสระมีสระเด็กไว้เป็นแบบ Jacuzzi สามารถให้ผู้ใหญ่หรือเด็กลงมาแช่ผ่อนคลายได้ครับ และด้านข้างของ "The Club" มีพื้นที่นั่งเล่นในสวนหย่อมเพื่อให้ลูกบ้านเปลี่ยนบรรยากาศใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นครับ             ในส่วนของชั้น 2 จะเป็นห้องสำหรับนิติบุคคลให้เดินขึ้นต่อไปอีกชั้น จะพบกับ Co-working Space ให้ลูกบ้านบ้านทุกท่านเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน คิดงานไอเดียใหม่ๆ และมาคู่กับ Play Room พื้นที่จัดกิจกรรมสังสรรค์เล็กๆ อย่างเป็นส่วนตัว ลึกเข้าไปอีกห้องจะพบกับ Cinema Room ผ่อนคลายวันหยุดกับครอบครัวที่ไม่ต้องไปดูในโรงภาพยนตร์ที่ไหนทางโครงการได้ยกมาไว้ให้แล้ว อีกด้านเป็นส่วนของ Fitness สำหรับลูกบ้านที่รักสุขภาพ มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ครบครัน             Unit Plan     CITY RETREAT : พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY SPACIOUS : พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY SCENERY : พื้นที่ใช้สอย 375 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY MYER : พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY LUX LODGE : พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน         ชมบ้านตัวอย่าง บ้านตัวอย่างที่จะพาชมวันนี้มีสองแบบครับ ซึ่งแบบแรกที่จะพาไปชมคือ CITY SPACIOUS พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สำหรับที่จอดรถในร่มกว้างขวางจอดรถได้ถึง 3 คันและมีประตูเชื่อมเข้าไปยังตัวบ้าน จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือมีพื้นที่กว้าง ชั้นล่างสามารถทำห้องนั่งเล่นได้ถึงสองห้อง หรืออาจปรับเปลี่ยนฟังก์ชันสร้างห้องเพิ่มเติมเป็นห้องนอนสำหรับแขกหรือแม้แต่จะปรับเป็นห้องสูงอายุ ก็สามารถทำได้ครับ นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์เป็นมุมโปรดของคนในครอบครัวได้ เหมาะกับครอบครัวที่ขยาย ซึ่งชั้นล่างทางโครงการยังมีห้องเปล่าไว้ให้อีกห้องครับ ต่อจากห้องครัวด้านหลังบ้านมีห้องแม่บ้านให้พร้อมกับห้องน้ำในตัวเชื่อมกับพื้นที่ซักล้าง     ประตูหลักของบ้านเป็นประตูไม้สักแท้สลับกับวัสดุกระจกใสทำให้บ้าน ดูโปร่งไม่ทึบ แสงแดดส่องเข้าบ้านได้     เข้ามาภายในบ้านกับส่วน Common Area ที่กว้างขวาง ซึ่งมีการจัดวางฟังก์ชั่นได้อย่างลงตัว เชื่อมต่อโซนรับประทานอาหารกับห้องนั่งเล่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของคนในครอบครัว อีกทั้งในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารสามารถวางเพิ่มเป็น 8-10 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้อีกมาก   ในส่วนถัดมาจะเป็นส่วนของห้องน้ำกลางซึ่งแบบบ้านนี้ห้องน้ำกลางจะมีส่วนของพื้นที่อาบน้ำแบ่งส่วนพื้นที่เปียกและแห้งครับ อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศ ไม่อับชื้น ต่อจากห้องน้ำกลางเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ทางโครงการได้ Built in เป็นห้องทำงาน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามผู้อยู่อาศัยให้เป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้ครับ เพราะมีพื้นที่กว้างสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้หรือจะเป็นห้องดูหนัง อ่านหนังสือทำกิจกรรมภายในครอบครัวได้ครับ     ก่อนที่จะเข้าห้องครัวทางโครงการ Built in เป็นเคาน์เตอร์บาร์ ทำให้เห็นว่ามีพื้นที่กว้างมาก ซึ่งห้องครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ภายในห้องครัวทางโครงการให้เคาน์เตอร์ครัวเป็น L shape ซึ่งอ่างล้างจานอยู่ติดริมกระจกเพื่อให้ระบายอากาศ ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะไว้ให้ อีกด้านหนึ่งมีเครื่องดูดควันจากแบรนด์ MEX แต่ไม่ให้เตามานะครับ ก่อนออกประตูเชื่อมไปหลังบ้านด้านบนประตูติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ครับ     ในส่วนของหลังบ้านเป็นพื้นที่ซักล้าง ประตูด้านซ้ายมือเป็นห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำให้ภายในตัว     กลับเข้ามาภายในบ้านก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ประตูด้านซ้ายมือคือประตูที่เชื่อมจากที่จอดรถ ส่วนประตูกลางเป็นห้องเก็บของใต้บันไดและเป็นที่เก็บตู้ไฟภายในบ้าน       ในส่วนของชั้น 2 ขึ้นบันไดมาจะพบพื้นที่ Family area ไว้ทำกิจกรรมภายในครอบครัวบนชั้น 2 เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและสามารถมองเห็นชั้นล่างที่เป็น Double Volume ส่วนบนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนโดยแบ่งออกเป็นห้อง Master Bedroom ห้องนอน 2 และ ห้องนอน 3 ซึ่งทางโครงการเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยมีห้องน้ำในตัวสำหรับห้องนอนชั้นบนทุกห้อง ในส่วนของห้องนอน 1 ระดับพื้นจนถึงฝ้า 2.8 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด ปูพื้นด้วยปาร์เก้สำเร็จรูปไม้สัก ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด King Size ก็ยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ที่ปลายเตียงมีพื้นที่สามารถวางโต๊ะทำงานได้ ภายในห้องมีหน้าต่าง 2 ด้านเพื่อให้แสงส่องเข้ามาในห้องทำให้ดูไม่ทึบ ทางด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ทำ Walk In Closet ได้ครับ     ภายในห้องน้ำพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีกระจกเงาบานใหญ่ไว้ให้ อ่างล่างหน้าแบบแขวนผนังทางโครงการ Built in ตู้เก็บของใต้อ่าง       ถัดมาเป็นห้องนอน 2 วัสดุต่างๆ ทั้งกระเบื้อง ความสูงของเพดาน ขนาดของห้องมีความใกล้เคียงกันครับ ในส่วนของห้องน้ำเข้ามาจะเจออ่างล้างหน้าที่เป็นแบบแขวนผนังลอยตัวและมีทางโครงการ Built in ตู้เก็บของเพื่อประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ ถัดมาเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีพื้นต่างระดับแบ่งส่วนแห้งและเปียกอย่างเป็นสัดส่วน ด้านข้างฝักบัวทางโครงการเจาะผนังไว้สามารถวางของได้เพิ่มประโยชน์ต่อการใช้งานมากขึ้น และมีหน้าต่างเป็นกระจกโปร่งแสงเพื่อให้อากาศถ่ายเททำให้ห้องน้ำไม่อับชื้นครับ     สุดท้ายเป็นส่วนของ Master Bedroom ซึ่งภายในห้องมีขนาดกว้างมากสามารถแบ่งโซนเป็น Double Function สามารถวางเตียงขนาด King Size ก็ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงอีกมาก ทางโครงการได้กั้นห้องแบ่งโซนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ Walk In Closet หน้าห้องน้ำ   ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom มีอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวเป็นแบบอ่างล้างหน้า His & Her ด้านขวามือเป็นส่วนของอ่างอาบน้ำด้านบนของอ่างมีกระจกแบบบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ อีกด้านเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ด้านหลังโถมีผนังยื่นออกมาสามารถวางของได้ครับ ข้างโถสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่อาบน้ำโดยกั้นด้วยกระจก Tempered Glass   สุดท้ายเป็นส่วนของระเบียงหน้าบ้านซึ่งมีเฉพาะห้อง Master Bedroom เท่านั้นราวกันตกเป็นโครงเหล็กกับกระจกนิรภัย ปลายสุดของระเบียงมีช่องระบายน้ำเพื่อเวลาฝนตกน้ำจะไม่ขังระบายออกได้ครับ       มาต่อกับบ้านตัวอย่างแบบที่ 2 คือแบบ CITY MYER พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถในร่ม 1 พื้นที่เอกประสงค์ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน จุดเด่นของบ้านที่มีหน้ากว้างมากประตูหลักทางเข้าบ้านด้านซ้ายมือเป็นกระจกทรงสูงทำให้บ้านดูโปรงโล่งสบาย อีกทั้งเป็นจุดเด่นอีกด้วย ในส่วนของที่จอดรถในร่มกว้างขวางสามารถจอดรถได้ถึง 3 คันมีประตูไม้สักแท้เชื่อมเข้าสู่ตัวบ้าน ด้านข้างของที่จอดรถมีห้องเก็บของไว้ให้ครับ       เข้ามาภายในบ้านชั้นแรกส่วนของ Common Area ที่มีความกว้างขวางมากจึงสามารถแบ่งออกได้หลาย Function ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยทางโครงการออกแบบได้ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกในครอบครัวด้วยห้องนั่งเล่น 2 ห้อง ที่แยกสัดส่วนเป็นส่วนของ Guest และ Family ได้อย่างชัดเจนมีพื้นที่เตรียมอาหารแยกกับห้องครัวอย่างลงตัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ครับ  ประตูกระจกบานนี้เชื่อมออกไปเป็นชานบานเชื่อมต่อกับบริเวณสวนด้านนอก สามารถปรับเป็นมุมนั่งเล่นจิบกาแฟยามเช้า ก็ทำได้ครับ ไว้เปลี่ยนบรรยากาศอยากให้ลูกบ้านได้สัมผัสกับอากาศนอกบ้านครับ     โถงกลางบ้านสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารซึ่งความจริงแล้วมีพื้นที่กว้างมากสามารถวางโต๊ะสำหรับ 8-10 ที่นั่งก็ยังได้คับ ทางด้านซ้ายมือเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น 2 ซึ่งมีกระจกใสมุมยาวทั้ง 2 ด้านเพื่อทำให้บ้านโล่งสบาย โซนนี้จะเชื่อมต่อกับ Dining ทำให้พื้นที่พักพักผ่อนของ Family Area เชื่อมต่อกันได้อย่างชัดเจน และยังแยกเป็นสัดส่วนจากส่วนรับรองแขกด้านหน้า ทำให้บ้านดูมีการแบ่งฟังก์ชั่นที่ลงตัวทีเดียว ส่วนอีกด้านของส่วนรับประทานอาหารเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหารซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องครัวแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน     ในส่วนของ "Maid Plaza" จะแบ่งออกเป็น ห้องครัว ห้องแม่บ้าน และ ห้อง service เริ่มจากด้านซ้ายมือ มีกระจกบานเลื่อนตรงกับอ่างล้างจาน ซึ่งข้อดีของกระจากบานเลื่อนให้ตรงกับอ่างล่างจานเพื่อให้อากาศถ่ายเท ทำให้ตรงอ่างไม่อับชื้น ด้านล่างของอ่างล่างจานมีถังขยะให้ครับ ด้านข้างกระจกติดตั้งพัดลมดูดอากาศ และในส่วนของเคาน์เตอร์อีกด้านเป็นแบบ L shape มาพร้อมกับเครื่องดูดควันจากแบรนด์ MEX แต่ทางโครงการไม่ได้ให้เตานะครับ และด้านขวามมือมีประตูเชื่อมออกไปด้านหลังบ้าน     ถัดจากห้องครัวเปิดประตูออกมาจะพบกับพื้นที่ซักล้าง ด้านขวามมือเป็นห้องน้ำของแม่บ้านส่วนด้านตรงข้ามเป็นที่พักของแม่บ้าน     กลับเข้ามาภายในบ้าน แต่ก่อนจะขึ้นชั้น 2 จะมีประตูทางเข้าไม้สักที่เชื่อมต่อจากโรงจอดรถ และทางขวามือจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง ที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของห้องเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องนอนผู้สูงอายุ หรือจะจัดเป็นห้องนอนรับรองแขก ก็ทำได้เช่นกัน         ในส่วนของชั้น 2 ขึ้นบันไดมาจะพบพื้นที่ Family area สามารถมองเห็นชั้นล่างที่เป็น Double Volume ที่เป็นจุดเด่นของโครงการ ส่วนบนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนโดยแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน 1 Master Bedroom  และ 1 ห้องนั่งเล่น       มาถึงส่วนของห้องนอนแรกมีพื้นที่กว้างพอสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ภายในห้องดูโปร่งสบาย เพราะมีหน้าต่างถึง 2 ฝั่ง สามารถรับลมและแสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้เป็นอย่างดี อีกด้านของห้องด้านหน้าห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้าเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว ภายในห้องน้ำตรงอ่างล้างหน้าและด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ และมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศได้ถ่ายเท อีกฝั่งเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำถูกกั้นด้วยประตูกระจกเพื่อกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาและมีที่นั่งเพื่อสะดวกต่อการใช้งานครับ       เดินออกมาจากห้องนอนแรกจะพบห้องอีก 3 ห้อง ซึ่งทางเดินยังมีพื้นที่กว้างมากไปต่อกับห้องทางขวามือก่อนครับ ในส่วนของห้องนอน 2 ซึ่งห้องนี้มีหน้าต่างบานใหญ่เพียงด้านเดียวแต่ก็ไม่ทำให้ห้องดูทึบเลย เพราะตัวห้องมีขนาดใหญ่สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้เลยครับ อีกด้านของเตียงทางโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้า และที่ปลายเตียงมีพื้นที่สามารถทำเป็นโต๊ะทำงานหรือชั้นวางโทรทัศน์ได้ครับ ส่วนพื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำสามารถ Built in เป็นพื้นที่แต่งตัวได้ครับ ภายในห้องน้ำใช้วัสดุเหมือนกับห้องน้ำอื่นๆ     ตรงข้ามกับห้องนอนที่ 2 สามารถทำกำแพงกั้นเป็นห้องได้อีกหนึ่งห้อง จากตัวอย่างทางโครงการทำเป็นพื้นที่ Family area ไว้ให้ครอบครัวได้ทำกิจกรรมตอนกลางคืน ดูทีวีรวมกันก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้เชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยที่พื้นมีช่องระบายน้ำด้วยครับ หน้าต่างทุกบานเป็นระบบ Double Lock เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านครับ           และห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้กับ Master Bedroom ที่มีขนาดกว้างขวาง เทียบเท่า Penthouses ได้เลย เริ่มจากตรงกลางเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ด้านขวามือทางโครงการได้วางเตียง ซึ่งสามารถวางขนาด King Size ก็ยังเหลือพื้นที่มาก ด้านข้างริมหน้าต่างยังเหลือพื้นที่สำหรับ Bay Window Seat และกระจกเป็นแบบกระจกเข้ามุมสามารถมองเห็นระเบียงด้านข้างได้ครับ ส่วนอีกด้านของห้องสามารถ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้สองฝั่งสามารถทำ Walk in closet ก่อนเข้าห้องน้ำได้ครับ ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom ทางโครงการมีอ่างอาบน้ำให้จากแบรนด์ Cotto บนอ่างอาบน้ำมีหน้าต่างแบบบานเลื่อนไว้ระบายอากาศครับ อีกด้านเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำที่กั้นด้วยกระจก Tempered Glass ภายในพื้นที่อาบน้ำบนหัวมีหน้าต่างเล็กแบบบานกระทุ้งไว้ให้ครับ     ความสะดวกอยู่แค่เอื้อมกับ The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง บ้านเดี่ยวหลังใหญ่อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เพียงไม่กี่นาทีเข้าสู่ตัวเมือง ตัวบ้านหลังใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางตอบโจทย์ครอบครัวที่กำลังขยายในอนาคต ให้บรรยากาศเป็นส่วนตัวอย่างมากกับเพื่อนบ้านทั้งหมดเพียง 94 ยูนิตเท่านั้น และสิ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหนกับ The Club สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ตอบโจทย์ผสมผสานคนเมืองเข้ากับสังคมส่วนตัว ซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหนโดย AP (Thailand)    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1623 หรือทางเว็บไซต์ www.apthai.com    
Bangkok Boulevard Rama 9-บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 : รีวิวบ้าน

Bangkok Boulevard Rama 9-บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Bangkok Boulevard Rama 9 (บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9) เจ้าของโครงการ : บมจ. เอสซี แอสเสท ที่ตั้งโครงการ : ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม. พื้นที่โครงการ : 30-1-0.6 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน NARVIK บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 247 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, Double living room, Family area, Dining room, ห้องครัวไทย, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน BERGEN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 283 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 4ห้องน้ำ, Double living room, Family area, Dining room, ห้องครัวไทย, ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน OSLO บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 354 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 4ห้องน้ำ, Double living room, Family area, Dining room, ห้องครัวไทย, ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : -คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 21,900,000 บาท จุดเด่นโครงการ : THE GEOMETRY OF GREATNESS คฤหาสน์หรู เพียบพร้อมในรอบด้านตั่งแต่ก้าวแรกด้วย Grand Double Volume Living Room ห้องรับแขกเพดานสูงสง่า 6.5 เมตร และนวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ Eldercare Solution by SC ASSET ท่ามกลางบรรยากาศแบบส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 52 ครอบครัว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, รถไฟฟ้าสายสีส้ม, แอร์ พอร์ตลิ้งค์  สถานีบ้านทับช้างสถานที่ใกล้เคียง : The Nine, Central พระราม 9, The Paseo, รร. นานาชาติ ไบรท์ตัน คอลเลจ, รร.สารสาสน์วิเทศร่มเกล้า, รร.เตรียมอุดมน้อมเกล้า, ม.อัสสัมชัญ, ม.นิด้า, รพ.สมิติเวช, รพ.รามคำแหง, รพ.พระราม 9  
Greenvale Westgate-กรีนเวลล์ เวสต์เกต : รีวิวบ้าน

Greenvale Westgate-กรีนเวลล์ เวสต์เกต : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Greenvale Westgate (กรีนเวลล์ เวสต์เกต) เจ้าของโครงการ : บริษัท วงศ์สว่าง บ้านและที่ดิน จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถ.เลียบคลองเจดีย์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 38 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน เนื้อที่บ้าน 56 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,690,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์Modern contemporary 3 ห้องนอน 3ห้องน้ำ 1 ห้องพระ 2 ที่จอดรถ เดินทาง เพียง 10 นาทีจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนกาญจนาภิเษก, รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล เวสต์เกต, อิเกีย บางใหญ่, บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, รร.อนุบาลเด่นหล้า, รร.สารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์, Index Living Mall
Sammakorn Chaiyaphruek-Wongwaen 2-สัมมากร ชัยพฤกษ์-วงแหวน 2 : รีวิวบ้าน

Sammakorn Chaiyaphruek-Wongwaen 2-สัมมากร ชัยพฤกษ์-วงแหวน 2 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Sammakorn Chaiyaphruek-Wongwaen 2 (สัมมากร ชัยพฤกษ์-วงแหวน 2) เจ้าของโครงการ : บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนลำโพ ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน Grassy บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน Leafy บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,990,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวสไตล์ “Design For Harmonic Living” ทุกพื้นที่ของโครงการ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘The Glasshouse’ โดยการใช้เส้นสายที่แสดงถึงความโปร่ง โล่ง สบาย ไม่อึดอัด สร้างสรรค์เป็นบ้านสวย ในคอนเซ็ปต์ ‘Visual Frame of Nature’ จากสัมมากร ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนสะพานนทบุรี-บางบัวทอง 345, ถนนชัยพฤกษ์, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนราชพฤกษ์ สถานที่ใกล้เคียง : รร.เด่นหล้า, รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล เวสต์เกต, ไทวัสดุ, Home pro ชัยพฤกษ์, The Crystal PTT  
Anasiri Ayuthaya-อณาสิริ อยุธยา : รีวิวบ้าน

Anasiri Ayuthaya-อณาสิริ อยุธยา : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Anasiri Ayuthaya (อณาสิริ อยุธยา) เจ้าของโครงการ :  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่โครงการ : 40 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม จำนวนยูนิต : 318 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน ไบรนี่ บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 35.6 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน แกสเกต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน มิซเซน บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน อลอฟ S บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน แคนวาส S บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 127 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,990,000 บาท จุดเด่นโครงการ : ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว ร่วมสมัยแต่ยังคงความเชื่ออันเป็นมงคล และเสน่ห์ท้องถิ่นเมืองเก่าที่ผสานเข้ากับรูปแบบของการใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างลงตัว ด้วยการออกแบบบ้านอยุธยา ที่คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก บนทำเลคุณภาพ เดินทางง่าย ใกล้ถนนใหญ่ แต่ยังคงสงบร่มรื่น เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบในอยุธยา ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนเลี่ยงเมืองอยุธยา, ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก), ถนน 3477 สถานที่ใกล้เคียง :  สนามกีฬาจังหวัด, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดสุทธิรุจิธาราม, รร.เตรียมนานาชาติอยุธยา, วัดพนันเชิง, หมู่บ้านญี่ปุ่น, อยุธยา กอล์ฟ คลับ  
Golden Neo Sathorn-โกลเด้น นีโอ สาทร : รีวิวบ้าน

Golden Neo Sathorn-โกลเด้น นีโอ สาทร : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Golden Neo Sathorn (โกลเด้น นีโอ สาทร) เจ้าของโครงการ : บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนกัลปพฤกษ์ ฝั่งขาออก แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน Oxford พื้นที่ใช้สอยรวม 143 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ, ห้องพักผ่อน, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน London พื้นที่ใช้สอยรวม 161 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ, ห้องพักผ่อน, ห้องพระ, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน Londonพื้นที่ใช้สอยรวม 178 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ, ห้องพักผ่อนบน, ห้องพระ, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย และ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ฟิตเนส - สระว่ายน้ำ - สโมสร - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 7,490,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมอยู่บางส่วน ปลายปี 2561 จุดเด่นโครงการ : บ้านทำเลสาทร บนที่ดินผืนสุดท้าย สไตล์อังกฤษ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ อลังการสโมสรและสวนสวยธรรมชาติ ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เริ่มต้นเพียง 7.49 ล้าน* สถานที่ใกล้เคียง : รพ.พญาไท 3, รร.เลิศหล้า, ซีคอน บางแค, เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ ท่าพระ, โฮมโปร กัลปพฤกษ์, แม็คโคร กัลปพฤกษ์, เทสโก้ โลตัส กัลปพฤกษ์, บิ๊กซี กัลปพฤกษ์