Tag : living

432 ผลลัพธ์
CI ขน 12 โครงการจัด “กรี๊ดเดย์ Great Deal”กระตุ้นตลาดอสังหาฯ [PR News]

CI ขน 12 โครงการจัด “กรี๊ดเดย์ Great Deal”กระตุ้นตลาดอสังหาฯ [PR News]

ชาญอิสสระ เตรียมจัดงานใหญ่ ขน 12 โครงการในเครือจัด Charn Issara Day แคมเปญ “กรี๊ดเดย์ Great Deal” อัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม กระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง   นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัทชาญอิสสระ ดีเวล็อป  เมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายและสร้างความคึกคักให้กับแวดวงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมหนุนผู้ที่ต้องการมองหาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในราคาพิเศษ และผู้ที่มองหาสถานที่พักผ่อนตากอากาศในราคาสุดคุ้ม บริษัทฯ จึงตรียมจัดแคมเปญกระตุ้นการตลาดภายใต้แคมเปญ Charn Issara Day “กรี๊ดเดย์ Great Deal”  ขน 12 โครงการในเครือ ร่วมจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม มูลค่าสูงสุดถึง 10 ล้านบาท ทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยวสุดหรู บ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียม และโรงแรม เพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การตอบรับโครงการในเครือชาญอิสสระด้วยดีเสมอมา   สำหรับโครงการที่นำมาร่วมจัดแคมเปญ Charn Issara Day “กรี๊ดเดย์ Great Deal” ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่ ใจกลางเมือง อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9  มีเพียง 20 หลัง ราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท  โครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูบนทำเลย่านบางนา บ้านอิสสระ บางนา มีจำนวน 44 หลังราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาทโครงการบ้านสีตวัน ปากช่อง – เขาใหญ่  โครงการบ้านพักตากอากาศ  ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท   ขณะที่ในส่วนของคอนโดมิเนียมได้นำ โครงการ อิสสระ คอลเลคชั่น สาทร โลว์ไรส์  คอนโดมิเนียม ระดับลักชัวรี่ จำนวน 33 ยูนิต เข้าร่วมโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในครั้งนี้ด้วย ในราคาเริ่มต้นที่ 18.9 ล้านบาท และได้นำเอาโครงการคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดภายใต้อาณาจักรทิวทะเลเอสเตท ชะอำ-หัวหิน มาร่วมแคมเปญด้วย  โดยโครงการที่นำมาร่วมจัดแคมเปญในครั้งนี้ ได้แก่ โครงการบ้านทิวทะเล บลูแซฟไฟร์ (Blue Sapphire) โลว์ไรส์ และไฮไรส์ คอนโดมิเนียม 4 ชั้น 2 อาคาร และ 15 ชั้น 1 อาคาร พร้อมทั้ง Clubhouse อยู่หน้าหาด จำนวน 421 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.XX ล้านบาท  โครงการบลู (Blu) ไฮไรส์ คอนโดมิเนียม วิวทะเล สูง 21 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 491 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.XX ล้านบาท  ในส่วนของ Baba Beach Club Residences Phase 2   จำนวนเพียง 7 หลัง ในราคาเริ่มต้น 33.9 ล้านบาท มาจัดโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด1 ล้านบาท พร้อม Fully Furnished   นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดมิเนียม ดิ อิสสระ เชียงใหม่ โลว์ไรส์ คอนโดมิเนี่ยม 7 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 265 ยูนิต ที่ออกแบบในสไตล์รีสอร์ท ราคาเริ่มต้น 2.85 ล้านบาท ส่วนของโรงแรมในเครืออย่าง Sri Panwa Phuket จัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลดราคาห้องพักสูงสุดถึง 60% พร้อมข้อเสนอของแถมให้ได้เลือกอีกมากมาย  ด้านโรงแรม Baba Beach Club Phuket ชูโปรโมชั่นแพคเกจราคาห้องพัก 1 คืน เริ่มต้นที่ 5,500 บาท จากราคาปกติ 16,478 บาท ขณะที่แพคเกจราคาห้องพัก 2 คืน เริ่มต้นที่ 12,600 บาท จากราคาปกติ 32,956 บาท ​  โรงแรม Baba Beach Club Hua Hin รับโปรโมชั่นพิเศษ Super-Hot Deal​ ด้วย​ราคาเริ่มต้น​ 7,500​ บาทต่อคืน​ (จากราคาปกติ​ 18,800บาท) ขณะที่โปรโมชั่นพัก​ 2​ คืนขึ้นไป​ รับทันที​ ชุดอาฟเตอร์นูนที​ และสิทธิพิเศษ​อื่นๆ   สำหรับโครงการ Baba Beach Club Residences Phuket บ้านพักตากอากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท จัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดสูงสุด 5 ล้านบาท พร้อมการันตีมอบผลตอบแทนจากการบริหารจัดการด้านการลงทุนโดยทีมงานศรีพันวาสูงถึง 5% ใน 3 ปีแรก พร้อมรับแพคเกจที่พัก​สุดหรู โรงแรม Baba Beach Club Phuket 3​ วัน​ 2 คืน​ รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับ​ พร้อมรถรับส่งจากสนามบิน​ ​   โดบลูกค้าที่ลงทะเบียนออนไลน์ร่วมงาน Charn Issara Day “กรี๊ดเดย์ Great Deal” รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดอีก 100,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่ถือบัตร Charn Issara Menber Card เพียงแสดงบัตรภายในงานรับส่วนลดเพิ่มทันทีอีก 10,000 บาท โดยส่วนลด โปรโมชั่นต่างๆ ของแต่ละโครงการเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด โดยจะจัดงานขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562 ชั้น 10 อาคารชาญอิสสระ ทาวเวอร์ 2 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ  
ต่อเติมห้องครัวไทย แบบโปร่งหรือแบบทึบดี?

ต่อเติมห้องครัวไทย แบบโปร่งหรือแบบทึบดี?

ขึ้นชื่อว่าอาหารไทย เวลาประกอบอาหารก็ย่อมจะต้องมีเสียงดัง กลิ่นแรง ควันฟุ้งเกิดขึ้น ซึ่งคงไม่เหมาะหากครัวของเราอยู่ภายในบ้าน หลายครอบครัวจึงมักจะใช้วิธีต่อเติมครัวไทยแยกออกจากตัวบ้าน แต่จะเลือกต่อเติมรูปแบบไหน เรามาดูการเปรียบเทียบกันระหว่างข้อดี-ข้อเสีย ของครัวไทยแบบทึบและแบบโปร่ง เผื่อจะประกอบการตัดสินใจของบ้านคุณได้ครับ   ห้องครัวทึบ ขึ้นชื่อว่าครัวทึบก็จะมีลักษณะสมชื่อเลยครับ คือจะเป็นห้องที่กั้นด้วยผนังทึบรอบด้าน มีหลังคาต่อออกมาอย่างมิดชิด มีการเจาะช่องระบายอากาศ หน้าต่างบ้างตามความเหมาะสม   ข้อดี ให้ความปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้เก็บของได้มากกว่า สามารถป้องกันสิ่งสกปรก สิ่งไม่พึงประสงค์จากภายนอกได้ดี และเครื่องดูดควันที่ใช้ภายในจะช่วยป้องกันกลิ่นและควันที่จะฟุ้งกระจายสู่ภายนอกบ้านได้ดีกว่า   ข้อเสีย การต่อเติมจะใช้เวลามากกว่า มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เพราะปริมาณวัสดุ โครงสร้าง และการเตรียมงานระบบที่มากกว่า และด้วยวัสดุที่ใช้มีน้ำหนักมากกว่าก็จะทำให้มีโอกาสทรุดตัวได้เร็วกว่า ห้องครัวโปร่ง   สำหรับครัวโปร่งจะใช้ระแนงไม้แทนผนังทึบครับ อาจจะใช้แทนผนังแค่บางส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว เช่น เป็นกำแพงทึบครึ่งล่าง ส่วนครึ่งบนเป็นระแนงไม้ หรือเป็นผนังระแนงไม้ด้านใดด้านหนึ่ง และหลังคาก็อาจจะติดตั้งแค่กันสาดยื่นออกมาจากตัวบ้านเดิม รวมไปถึงชุดครัวที่อาจซื้อแบบสำเร็จรูปมาติดตั้งหรือก่อปูนตามการใช้งาน เรียกว่าเน้นความง่าย สะดวกนั่นเอง   ข้อดี เน้นความโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ระบายอากาศ กลิ่น และควันออกไปได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับการทำอาหารไทย การต่อเติมทำได้สะดวกรวดเร็วมากกว่าแบบทึบ   ข้อเสีย ฝุ่น สิ่งปรก รวมถึงแมลงต่างๆ เข้ามาในครัวได้ง่าย ต้องทำความสะอาดบ่อย อุปกรณ์ทำครัวจึงต้องมีที่เก็บอย่างมิดชิด หลายครอบครัวจึงเลือกที่จะใช้ครัวโปร่งสำหรับประกอบอาหารและล้างภาชนะเท่านั้น และควรระมัดระวังเรื่องกลิ่น ควันที่ฟุ้งกระจายไปสู่บ้านใกล้เคียงได้   เมื่อเห็นข้อดี-ข้อเสียอย่างนี้แล้ว ก็ลองนำไปพิจารณาก่อนจะลงมือต่อเติมนะครับ แต่สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เด็ดขาดนั่นคือโครงสร้างที่ถ่ายน้ำหนักลงพื้นของครัวส่วนต่อเติม จะต้องแยกจากกันกับโครงสร้างบ้านเดิม เพราะส่วนต่อเติมซึ่งมักลงเสาเข็ม สั้นนั้นโดยปกติจะทรุดตัวเร็วกว่าตัวบ้านเดิม จึงควรให้การทรุดตัวเป็นอิสระจากกัน จะได้ไม่เกิดความเสียหายลุกลามใหญ่โตมากไปภายหลังได้ ความรู้เกี่ยวกับการทำห้องครัวไทย กั้นครัวไทยในบ้าน ปลอดภัย ไม่กวนใคร รวมเรื่องราวการต่อเติม-สร้างบ้าน 4 ปัญหาคาใจต่อเติมครัวแล้วทรุด บ้านชั้นเดียวต่อเติมเป็นบ้านสองชั้นได้หรือไม่ 7 ความผิดพลาดในการสร้างบ้าน ที่ควรใส่ใจ
จิณณ์ เวลบีอิ้งฯ วางเป้าหมายกวาดรายได้ขายห้องให้ผู้สูงอายุ 1,000 ล้าน

จิณณ์ เวลบีอิ้งฯ วางเป้าหมายกวาดรายได้ขายห้องให้ผู้สูงอายุ 1,000 ล้าน

จิณณ์ เวลบีอิ้งฯ เฟสแรก สร้างเสร็จพร้อมโอน รับลูกค้าสูงวัย  ตั้งเป้าสิ้นปีโกยรายได้ 1,000 ล้าน เปิดบิสซิเนสโมเดลใหม่ ‘Assisted Living’ ห้องพักให้เช่าพร้อมบริการครบวงจร พร้อมอัดโปรโมชั่นลดราคาค่าบริการ 50%   นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผย ถึงความคืบหน้าการพัฒนาโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) รังสิต  ว่า ขณะนี้ในส่วนของอาคาร จิณณ์ เรสซิเดนซ์ ที่พักอาศัยโลว์ไรส์ 7 ชั้น รวม 5 อาคาร แบ่งเป็น คลัสเตอร์ 1 จำนวน 2 อาคาร และคลัสเตอร์ 2 จำนวน 3 อาคาร รวมทั้งหมด 494 ยูนิต  ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพักอาศัยแล้วเสร็จ 100% พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ทั้ง 5 อาคาร ซึ่งเป็นเฟสแรก โดยหากมียอดขาย 300-400 ยูนิต จะดำเนินการก่อสร้างในเฟส 2 อีก 800 ยูนิต ส่วนโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา (Thonburi Burana Hospital) ขนาด 51 เตียง เป็นโรงพยาบาลที่เน้นรักษาพยาบาลเฉพาะทางผู้สูงอายุแบบองค์รวมครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย เน้นการป้องกัน การสร้างเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูด้วยบริการ Wellness,  Fitness  คาดว่าพร้อมเปิดบริการปลายไตรมาส 3 นี้ และสถาบัน จิณณ์ เวลเนส เซ็นเตอร์ (Jin Wellness Institute)  ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการดูแลสุขภาพสุขภาพ  ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน  แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการและบุคคลภายนอก ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว 96% ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้   นพ.ธนาธิป กล่าวอีกว่า ปัจจุบันอาคารพักอาศัยมียอดขายแล้ว 146 ยูนิต ในจำนวนนี้มียอดโอนกรรมสิทธิ์แล้ว 83 ยูนิต และมีแบ็กล็อก (ยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์) อีก 63 ยูนิต โดยตั้งเป้าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ 200 ยูนิต ซึ่งมีราคาเฉลี่ยห้องละ 5 ล้านบาท รวมมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท และล่าสุดโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ส่วนพักอาศัย ได้เปิดตัวบิสซิเนสโมเดลใหม่ ‘Assisted Living’ จำนวน 40 ยูนิต แบบตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที เพื่อให้เช่าแก่ผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลแบบพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง โดยบุคลากรที่เชี่ยวชาญการดูแลผู้สูงอายุ พร้อมมีแพทย์ตรวจเยี่ยมประจำโครงการ กิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพรอบด้านที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงวัยมีสังคม พัฒนาการด้านอารมณ์ สมองและความจำ ป้องกันโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ รวมถึงการกระตุ้นฟื้นฟู กล้ามเนื้อให้แข็งแรงในผู้สูงวัย  พร้อมบริการอื่นๆ อาทิ อาหารวันละ 3 มื้อ อาหารว่างวันละ 2 มื้อ บริการทำความสะอาดห้องพัก ซัก-รีดเดือนละ 50 ชิ้น บริการ Concierge  ฟรีไวไฟและค่าไฟฟ้า-ประปา นอกจากนี้ ได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อให้เช่าแบบ Assisted Living ถึงสิ้นปีนี้ โดยห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 43-46 ตารางเมตร คิดค่าเช่าพิเศษเดือนละ 45,000 บาท จากปกติ 90,000 บาท และแบบ 1 ห้องนอนพร้อมห้องอเนกประสงค์ ขนาดพื้นที่ 63-66 ตารางเมตร  คิดค่าเช่าพิเศษเดือนละ 55,000 บาท จากปกติ 105,000 แสนบาท โดยต้องทำสัญญาขั้นต่ำ 12 เดือน   ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ไทย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา แถบยุโรป ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ที่มีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10% หรืออายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 7% ของประชากรทั้งหมด โดยในประเทศไทยคาดว่าภายในกว่า 10 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ (Super - Aged Society) ที่มีสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 20% และมีแนวโน้มเป็นโรคความจำเสื่อมเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร โดยนำหลักโภชนาการและการออกกำลังกายรูปแบบใหม่มาให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัย    
สรุปข่าวรอบสัปดาห์ 15-21 กรกฎาคม 2562

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ 15-21 กรกฎาคม 2562

เอช เอสเตท เปิดโปรเจ็กต์ Arti Sukhumvit 71 นายณัฐพล จินตนา กรรมการบริหาร บริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ได้เปิดขายโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ High rise ติดถนนสุขุมวิท 71 ความสูง 21 ชั้น จำนวนเพียง 115 ยูนิต   มีขนาดห้อง Studio, ห้อง 1 bedroom และ Loft ที่ให้พื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น รวมถึงแบบ 2 ห้องนอน และ Penthouse ขนาดกว่า 100 ตร.ม. รองรับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นคอนโดที่เหมาะกับคนอายุ 28-40 ปี หรือกลุ่ม Young Adult ราคาเริ่ม 2.69  ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 525 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 และมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 โดยมีบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขาย   ออริจิ้น จับมือวิทยาลัยดุสิต เพิ่มทักษะแม่บ้าน นายธนา ต่อสหะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า  ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยดุสิตธานี จัดการอบรมหลักสูตร “ทักษะการทำความสะอาด และการบริการมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว” เพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้และเพิ่มศักยภาพให้กับทีมพนักงานทำความสะอาดหรือทีมแม่บ้าน ให้สามารถปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว  ซึ่งบริษัทยังมีแผนงานฝึกอบรมในหลักสูตรด้านการสื่อสารและการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า ให้กับพนักงานในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับงานดูแลและบริการลูกค้าตลอดปี 2562  เพื่อนำร่องเพื่อนำไปสู่ความเป็นเลิศในด้านงานบริการอย่างครบวงจร  (Service Excellence) ของบริษัทต่อไป   เคาะราคา IPO อินเด็กซ์ฯ 22 บาท นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า หลังจากสำรวจความต้องการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO)  จากนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม โดยนักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการจองซื้อหุ้น IPO ของ ILM มากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ให้แก่นักลงทุนสถาบันถึง 8 เท่า ที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 22 บาท ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจและโอกาสการเติบโตที่ดีในอนาคต ดังนั้นจึงกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคาหุ้นละ 22 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขาย เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 17 – 19 กรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะนำหุ้น ILM เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้   รีจัส เปิดขายแฟรนไชส์ co-working space นาย แมทธิว เจมส์ เคนลีย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจสัมพันธ์ของ IWG เปิดเผยว่า รีจัส (Regus) ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงาน หรือ เวิร์คสเปซ ระดับโลก ประกาศเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทย ในงาน Thailand Franchise & Business Opportunities 2019 (TFBO) ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคที่ผ่านมา โดยงานนี้เป็นครั้งแรกที่ รีจัส เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ สามารถเข้าถึงโมเดลการทำธุรกิจการให้บริการเวิร์คสเปซ ที่กำลังเติบโตอยู่ในปัจจุบันได้เป็นครั้งแรก และธุรกิจนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการขยายเครือข่ายรีจัสในระดับโลกอีกด้วย   โฮมโปรจัดงานแฟร์ พร้อมโปรสูงสุด 70% นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไปสายสื่อสารการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เปิดเผยว่า ได้จัดงานโฮมโปรแฟร์ ขึ้เป็นครั้งที่ 4 ภายใต้คอนเซปต์ ช้อป ชิม ชิลล์ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 -29 กรกฎาคม 2562 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีโปรโมชั่นสุดโดน ลดราคาสูงสุด 70% และมีการจัดพื้นที่ไลฟ์สไตล์โซน ‘ช้อป กิน ถิ่นสยาม’ ที่ขนขบวนสุดยอดอาหารร้านดังมามากกว่า 150 ร้านค้าทั่วไทย โดยตั้งเป้ายอดขายกว่า 550 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 11 วันของการจัดงาน   สเปซเซส จับมือ ฟิตเนส 24 เซเว่น ให้สิทธิพิเศษสมาชิก นายธารนที อัญญโพธิ์, ผู้ประสานงานฝ่ายขาย สเปซเซส เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับ “ฟิตเนส 24 เซเว่น” (Fitness24Seven)  เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก สเปซเซส  โดยสามารถเข้าคลาสเรียนออกกำลังกายฟรี พร้อมได้รับส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิกเข้าใช้บริการที่ ฟิตเนส 24 เซเว่นได้ทุกสาขา 7 วันต่อสัปดาห์ ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับฟิตเนส 24 เซเว่น หนึ่งในผู้นำด้านฟิตเนสจากประเทศสวีเดน  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 ที่ประเทศสวีเดนเป็นที่แรก ปัจจุบันมีสาขากว่า 230 แห่งทั่วโลกที่เปิดให้บริการ ไม่วาจะเป็นประเทศฟินแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โคลอมเบีย และไทย และมีแผนขยายไปยังประเทศอื่น ๆ อีกในอนาคต  
มันมากับหน้าฝน ตะขาบเข้าบ้านทำอย่างไรดี

มันมากับหน้าฝน ตะขาบเข้าบ้านทำอย่างไรดี

ฤดูฝนเช่นนี้มักจะมีสัตว์มีพิษหรือแมลงต่างๆ ที่ไม่ได้รับเชิญหนีน้ำออกมาให้เราได้เห็นภายในบ้านของเราง่ายกว่าช่วงอื่น ซึ่งหนึ่งในสัตว์มีพิษร้ายแรงที่ว่าก็คือ “ตะขาบ” ที่โดยทั่วไปตะขาบอาศัยในที่มืดและอับชื้น และออกหากินในเวลากลางคืน เห็นตัวไม่ใหญ่โตแบบนี้ แต่พิษร้ายแรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ได้เลยนะครับ   ผงกำจัดปลวก ผงกำจัดปลวกที่มีขายทั่วไป นำมาโรยให้รอบบ้าน รวมถึงรั้วบ้าน ตะขาบที่ถูกผงนี้เข้าก็จะตายไปในที่สุด แต่ให้ระวังเด็กกับสัตว์เลี้ยงอย่าให้ไปสัมผัสนะครับ จะเกิดอันตรายจากสารพิษได้ ปูนขาว เช่นเดียวกันกับผงกำจัดปลวกครับ นำไปโรยไว้ตามที่ตะขาบมักจะอาศัยอยู่ อย่างบนดินอ่อนๆ ที่มีความชื้น หรือตามกองใบไม้ทับถมกัน ปูนขาวจะดูดความชื้น ทำให้ตะขาบไม่ชอบแล้วหนีออกไปเอง หรืออาจจะเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการผสมสมุนไพรอย่างมะกรูด โดยใช้วิธีการคั้นน้ำจากผลมะกรูดผสมกับปูนขาวก็ได้เช่นกัน โซดาไฟ บ่อยครั้งที่เรามักพบว่าตะขาบมักจะขึ้นมาจากท่อระบายน้ำบริเวณบ้านหรือในห้องน้ำ ฉะนั้นให้ใช้โซดาไฟมาผสมกับ น้ำเทลงในท่อ ด้วยฤทธิ์กัดกร่อนกับความร้อนสูงของโซดาไฟ จะช่วยให้แมลงต่างๆ ไม่เข้ามาใกล้เลยครับ     สารกำจัดแมลง Stargle G อีกหนึ่งสารเคมีที่ใช้ในการกำจัดแมลง แต่มีความปลอดภัยมากกว่า เกษตรกรต่างประเทศนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยใช้งานด้วยการโรยทิ้งไว้รอบบริเวณบ้าน แถมยังได้ผลที่ดีด้วยครับ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ และเคมีทางการเกษตรทั่วไป Tick Tox Powder จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ Tick Tox Powder ใช้สำหรับกำจัดเห็บหมัด ให้กับสุนัข แมว กระต่าย หรือหนูเลี้ยง แต่เราสามารถนำมาโรยรอบๆ ตัวบ้านจะช่วยกำจัดตะขาบได้ทั้งตัวเล็กและตัวโตได้ครับ กาวดักหนู กาวเหนียวๆ ที่อยู่บนกาวดักหนู นำไปวางตามมุมต่างๆ ในบ้าน นอกจากจะสามารถใช้ดักตะขาบให้ติดกับได้แล้ว ยังทำให้สัตว์ชนิดอื่นๆ ติดตามไปด้วยเช่นกันครับ ไม่ว่าจะเป็นแมลง หรือสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ แต่วิธีนี้จะใช้ได้เฉพาะกับตะขาบตัวเล็กนะครับ เพราะตะขาบตัวใหญ่จะสามารถสละขาที่ติดกาวออก แล้วยังเดินไปต่อได้ตามเดิม น้ำส้มควันไม้ น้ำส้มควันไม้นำมาผสมน้ำแล้วฉีดพ่น แต่ระวังอย่าให้เข้าตา หรือไปสัมผัสโดนผิวของเรานะครับ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดสูงทีเดียว โดยหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์การเกษตร หรือร้านขายวัสดุก่อสร้างบางแห่ง เศษสบู่ เศษสบู่เล็กๆ ที่ใกล้จะหมดแล้วอย่าทิ้งนะครับ นำไปวางไว้บริเวณปากท่อระบายน้ำในห้องน้ำ หรือวางบนฝาปิดท่อน้ำ ไว้เลย ความลื่นและความเป็นด่างของตัวสบู่ทำให้แมลงไม่เข้าใกล้ เลี้ยงไก่ วิธีแบบบ้านๆ แต่เห็นผลได้ชัด หากเรามีพื้นที่เพียงพอในการเลี้ยงไก่นะครับ เพราะไก่เปรียบเสมือนคู่อริกับตะขาบ เลยล่ะครับ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ไก่มักจะชอบคุ้ยจิกกินจนพืชผักที่เราปลูกเอาไว้จนเสียหายได้   หน้าฝนก็ต้องดูแลทั้งตัวเองและคนในครอบครัวเป็นพิเศษหน่อยนะครับ ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพ แต่ยังรวมถึงอันตราย จากสัตว์ร้ายต่างๆ ป้องกันไว้ก่อนจะเกิดอันตรายคือสิ่งที่ดีที่สุดครับ          
วิธีไล่หนูบนเพดานบ้าน

วิธีไล่หนูบนเพดานบ้าน

แขกที่ไม่ได้รับเชิญในบ้านเราหนึ่งในนั้นมักจะมี “หนู” สัตว์ฟันแทะ แถมยังขยันวิ่งอยู่บนฝ้าเพดานสร้างเสียงดังรำคาญ โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่วิ่งกันทีแทบนอนไม่ได้เลยใช่ไหมครับ คงไม่มีใครอยากเจอปัญหาแบบนี้แน่นอน เพราะนอกจากจะสร้างความรำคาญ ข้าวของพังเสียหายจากการโดนแทะแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรค ซึ่งอันตรายมากด้วยนะครับ รีบกำจัดแบบไม่ต้องฆ่าให้รู้สึกบาปกันดีกว่าครับ   กรงดักหนู วิธีสุดคลาสสิกด้วยการนำกรงดักหนูพร้อมแขวนอาหารที่จะใช้เป็นเหยื่อล่อแขวนไว้ในกรง แนะนำให้วางมากกว่า 1 กรงนะครับ แล้วนำไปวางใต้เพดานบ้าน รอให้หนูติดกรงแล้วจึงนำไปทิ้งให้ไกลบ้าน แต่ระวังอย่าลืมทิ้งไว้นะครับ เพราะถ้าหนูตายคากรงแล้วล่ะก็ จะเกิดกลิ่นเหม็นเน่าติดไปอีกหลายวันเลย แผ่นปิดเชิงชายกระเบื้อง สำรวจว่าบริเวณชายกระเบื้องของบ้านเรามีช่องว่างรูโหว่ที่หนูสามารถมุดเข้ามาตรงไหนได้บ้าง แล้วทำการติดแผ่นปิดเชิงชายกระเบื้องปิดรูเหล่านั้นให้หมดเลยครับ เป็นการจัดการที่ต้นตอได้ดีทีเดียว เลี้ยงแมว วิธีง่ายๆ สไตล์ทาสแมว ด้วยสัญชาตญาณของเจ้าแมวที่เปรียบเสมือนเป็นโจทก์เก่ากับหนู ก็จะช่วยลดจำนวนของหนูลงได้จนหมดจากบ้านเราไป ทรายแมว บ้านไหนเลี้ยงแมวก็ย่อมต้องมีทรายแมวใช่ไหมครับ ซึ่งทรายแมวในกระบะที่เปื้อนฉี่ของน้องแมวแล้ว อย่าเพิ่งตักทิ้งนะครับ ลองเก็บใส่ถุงแล้วนำไปวางที่ใต้ฝ้าหลังคาหรือตามจุดที่หนูวิ่งผ่าน แค่กลิ่นก็ทำให้หนูไม่กล้าเข้าใกล้แล้วครับ น้ำมันสะระแหน่ หรือน้ำมันก๊าด นำน้ำมันสะระแหน่ น้ำมันก๊าด ใส่ในภาชนะเล็กๆ หรือจะใช้วิธีชุบสำลี แล้วนำไปวางกระจายหลายๆ แห่งตามใต้ฝ้าหลังคา จุดที่พบเจอหนูวิ่งผ่าน หรือแหล่งอาหารพวกเศษขยะ กลิ่นอันรุนแรงของตัวน้ำมันเหล่านี้จะช่วยให้หนูหนีไปเอง แต่ต้องคอยหมั่นเปลี่ยนน้ำมันบ่อยๆ นะครับ เพื่อให้ยังส่งกลิ่นฉุนอยู่ตลอด จุดประทัด นอกจากเรื่องของกลิ่นฉุนที่จะช่วยไล่หนูออกไปได้แล้ว ยังมีเรื่องของเสียงดังจากประทัดจะช่วยให้หนูที่มีธรรมชาติขี้ตกใจออกไปได้ เริ่มจากลองหารังของมันครับ แล้วจุดประทัดโยนไปบริเวณนั้น เมื่อเกิดเสียงดังจากประทัดนี่แหละครับจะทำให้หนูอพยพกันออกไป ผลิตภัณฑ์กำจัดหนู ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์กำจัดหนูอยู่หลากหลายชนิดให้ได้เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น สมุนไพรไล่หนู ก้อนไล่หนู แผ่นแปะไล่หนู สเปรย์ไล่หนู และเครื่องไล่หนูต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดหนูในบ้านด้วยวิธีง่ายๆ ลองเลือกใช้กันดูครับ   สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการป้องกันไม่ให้หนูเข้าบ้านนะครับ ง่ายๆ เลยคือทำความสะอาดบ้านไม่ให้มีขยะ โดยเฉพาะเศษอาหารที่เป็นแหล่งอาศัยชั้นดีของหนู รวมถึงพยายามอย่าให้กิ่งไม้โน้มถึงตัวบ้าน เพราะหนูจะไต่มาตามต้นไม้แล้วเข้าบ้านได้ แต่ถ้าหนูเข้าบ้านไปแล้วล่ะก็ อย่าลืมรีบกำจัดออกไปก่อนจะมีคนในบ้านล้มป่วยเพราะเชื้อโรคจากหนูนะครับ      
7 ลักษณะบ้านอยู่แล้ว “จน”

7 ลักษณะบ้านอยู่แล้ว “จน”

ใครที่เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า ขยันเท่าไหร่ก็ไม่รวยสักที เก็บเงินไม่เคยอยู่เลย ลองหันมาดูศาสตร์เรื่องของฮวงจุ้ยของบ้านเรากันดูครับ ว่าจะเข้าข่ายบ้านที่อยู่แล้วจนหรือเปล่า   บ้านอยู่ระดับต่ำกว่า หรือสูงกว่าถนน หากบ้านอยู่ในระดับต่ำกว่าถนนจะทำให้โชคลาภจะไหลไปมาอยู่ภายนอกบ้าน เข้าสู่บ้านของเราได้ไม่สะดวก ขณะเดียวกันหากบ้านอยู่สูงกว่าถนนโชคลาภก็ไม่สามารถไหลเข้าบ้านได้เช่นกันครับ วิธีแก้คือ ทำหน้าบ้านให้เป็นลานกว้าง เพื่อเปิดรับพลังแห่งโชคลาภมากให้ไหลเข้าบ้าน   บ้านโดนสะพานตัดผ่าน บ้านที่โดนสะพานตัดผ่าน หรือมีลักษณะอยู่ใต้สะพานไม่สามารถมองเห็นหน้าบ้านได้จะทำให้โชคลาภและสิ่งดีงามไม่ไหลเข้าบ้าน หรือไล่เข้าบ้านได้ไม่ถนัดนัก   สภาพแวดล้อมสกปรก ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วจะทำให้ขาดพลังชี่ ทำให้ไม่ว่าจะขยันทำมาหากินมากแค่ไหนก็เหมือนเหนื่อยเปล่า ดังนั้นควรดูแลทำความสะอาดไม่ใช่แค่ภายในบ้าน แต่ต้องดูแลสภาพแวดล้อมรอบบ้านด้วย   รั้วบ้านเตี้ยเกินไป และมีแหลมคม หากรั้วบ้านเตี้ยเกินเชื่อกันว่า จะทำให้เก็บเงินทองไม่อยู่ และหากกำแพงบ้านมีลักษณะขรุขระ แหลมคมจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมักจะพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของหน้าที่การงาน และการค้าขาย   ประตูและหน้าต่างมีมากจนเกินไป จริงอยู่ครับที่บ้านสมัยใหม่มักจะมีประตูหน้าต่างหลายบาน เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านดูโปร่งขึ้น อากาศถ่ายเทได้ดีด้วย แต่ในทางกลับกันตามตำราฮวงจุ้ยนั้นกล่าวว่าจะทำให้โชคลาภไหลออกไปได้ง่าย ไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้ ทำให้เก็บเงินได้ไม่นานก็ไหลออกเสียแล้ว แนะนำให้ไม่เปิดพร้อมกันหลายๆ บาน หรือติดตั้งผ้าม่านไว้ครับ   เปิดประตูแล้วเจอบันได ถ้าเราเปิดประตูทางเข้า-ออกหลักของบ้าน แล้วมองเข้าไปเจอบันได หรือประตูหลังบ้าน ถือเป็นเรื่องไม่ดีเอาเสียเลยสำหรับฮวงจุ้ย เพราะจะทำให้เงินทองเข้าแล้วออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เก็บเงินไม่อยู่ มีรายจ่ายมากกว่ารายได้เสมอจนไม่มีเหลือเก็บ   ประตูบ้านห้ามรก ประตูบ้านคือสิ่งสำคัญมากต่อการเป็นช่องทางเข้าของเงินทองให้ไหลเข้าบ้าน ฉะนั้นต้องไม่ทำให้ประตูบ้านแคบและรก เพราะจะไปขัดขวางพลังงานโชคโลภให้เข้ามาอีกครับ     สิ่งเหล่านี้คือความเชื่อทางศาสตร์ฮวงจุ้ยครับ ลองนำไปปรับใช้กันดูเท่าที่จะทำได้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสบายใจขึ้น เพราะเรื่องทรัพย์สินเงินทอง ใครๆ ก็อยากมีเก็บไว้ใช่ไหมครับ      
SIRI ผนึก 3 พันธมิตร สานต่อ Green Mission ผลิตชุดเฟอร์นิเจอร์จากขวดพลากสติก

SIRI ผนึก 3 พันธมิตร สานต่อ Green Mission ผลิตชุดเฟอร์นิเจอร์จากขวดพลากสติก

หนึ่งในภารกิจสำคัญของ SIRI หรือบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เรื่อง Green Mission คือ การลดปริมาณขยะ หรือ  Waste Management ทั้งในพื้นที่โครงการก่อสร้าง และภายในโครงการที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการคัดแยกขยะ หรือการลดปริมาณวัสดุที่จะก่อให้เกิดขยะ   ไม่เพียงแต่เรื่องของการลดปริมาณขยะเท่านั้น แต่แสนสิริพยายามต่อยอดแนวความคิดของ Green Mission ไปสู่เรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะการนำเอาขยะมารีไซเคิล และสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น ด้วยการพัฒนาเป็นสินค้าใหม่ ตามแนวคิด Upcycling  ซึ่งล่าสุดได้จับมือกับ 3 พันธมิตร ได้แก่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC แบรนด์พาซาญ่า (PASAYA) และเอสบี เฟอร์นิเจอร์ ร่วมกันผลิตเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน เพื่อนำมาใช้ภายในโครงการของแสนสิริ   ความร่วมมือกันดังกล่าว เบื้องต้นจะมีการผลิตชุดเฟอร์นิเจอร์  ได้แก่ โซฟา ปลอกหมอนอิง และผ้าม่าน จากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งเป็นเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งนำเอาขวดพลาสติกใส (PET) ที่ไม่ใช้งานแล้วมาเป็นวัตถุดิบผลิตเส้นด้าย ทำให้มีคุณสมบัติกันน้ำ น้ำมันซึม ป้องกันฝุ่นฝังในตัวผ้า ซึ่งชุดเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวจะถูกนำเอามาใช้ในห้องตัวอย่างของโครงการแสนสิริกว่า 30 โครงการ นายอุทัย อุทัยแสนสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ แสนสิริ เปิดเผยว่า  นอกจากการนำเอาชุดเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวมาใช้ภายห้องตัวอย่างภายในโครงการของบริษัทแล้ว ยังวางแผนจะผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายให้กับลูกบ้านของแสนสิริที่สนใจนำเอาเฟอร์นิเจอร์ไปใช้  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา  แต่เบื้องต้นราคาสินค้าจะสูงกว่าปกติทั่วไป  เนื่องจากต้นทุนวัสดุสำหรับการผลิตสินค้าสูงกว่าวัสดุทั่วไป 10-20%   สำหรับรายละเอียดสินค้าที่ผลิตร่วมกัน ประกอบด้วย โซฟารุ่น Sofa Maoro Limited จากขวดพลาสติกเหลือใช้กว่า 500 ขวด ถูกนำมาแปรรูปเป็นเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล เพื่อนำมาใช้เป็นเส้นยืนในการผลิตผ้าบุโซฟา โดย PASAYA เป็นสีเทา BELUGA เพิ่มความเรียบหรู คลาสสิก สามารถเข้ากับการตกแต่งได้เกือบทุกรูปแบบ และนำมาตกแต่งโซฟารักษ์โลก SB Furniture เพิ่มความโดดเด่นของรูปทรงที่มีเส้นสายสไตล์โมเดิร์นที่เฉียบขาด   ผ้าม่าน PASAYA รุ่น JUPITER ผ้าม่านรักษ์โลกที่ออกแบบและผลิตขึ้นด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของ PASAYA โดยนำเส้นด้ายพอลิเอสเตอร์รีไซเคิลจากขวดพลาสติก PET มาถักทอเป็นเส้นยืนในการผลิตผ้าม่านด้วยลวดลายพิเศษรุ่น JUPITER ในโทนสีเทา-น้ำตาล แบบ Shadow ที่สร้างความรู้สึกถึงผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างบรรยากาศให้กับห้องได้อย่างลงตัว ช่วยลดปริมาณขวดพลาสติกบนโลกได้มากกว่า 500 ขวด   ปลอกหมอนอิงรุ่น TETRA ขนาด 18 นิ้ว จาก PASAYA  ปลอกหมอนอิงสีขาว-ดำ BLACK WHITE ขนาด 18 นิ้ว แปรรูปจากขวดพลาสติกเหลือใช้ 12 ขวดต่อปลอกหมอน 1 ใบ กลายเป็นเส้นด้ายพอลิเอสเตอร์รีไซเคิล ที่นำมาใช้เป็นเส้นยืนในการถักทอผ้าตกแต่งบ้าน ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ลายผ้าและตัดเย็บอย่างประณีตโดย PASAYA เมื่อจับคู่กับโซฟา MAORO ยิ่งช่วยเพิ่มดีเทลให้ชุดโซฟาที่เรียบหรูดูไม่ธรรมดาอีกต่อไป     ปลอกหมอนอิงรุ่น REPP ขนาด 15 นิ้ว จาก PASAYA   ที่มาพร้อมสีสันสดใสอย่างสีเหลือง LEMON CHROME และสีแดง MANDARIN RED ที่จะช่วยสร้างคอนทราสต์ให้การตกแต่งบ้านดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยเส้นยืนของผ้าผลิตขึ้นจากเส้นด้ายพอลิเอสเตอร์รีไซเคิลที่สามารถช่วยลดปริมาณพลาสติกบนโลกได้ถึง 8 ขวดต่อปลอกหมอน 1 ใบ
วิธีใช้ปลั๊กพ่วงอย่างไรให้ปลอดภัย

วิธีใช้ปลั๊กพ่วงอย่างไรให้ปลอดภัย

เกือบทุกบ้านต้องมีปลั๊กพ่วงไว้ใช้งานอยู่แล้ว แต่ทราบวิธีการใช้ที่ถูกต้องหรือยังครับ เพราะหลายครั้งหลายหนที่สาเหตุของการเกิดอัคคีภัยนั้นมาจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยเฉพาะจากการใช้ปลั๊กพ่วงผิดวิธี หรือการเสื่อมสภาพของตัวปลั๊กพ่วงนี่แหละครับ ฉะนั้นมาดูวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ     ปลั๊กพ่วงที่ดี ส่วนประกอบต้องครบ ก่อนจะเลือกซื้อปลั๊กพ่วงสักอันต้องดูส่วนประกอบเหล่านี้ให้ครบครับ สวิตช์เปิด-ปิด หากใช้ไฟฟ้าเกินกำหนดจะช่วยตัดกระแสไฟฟ้า เต้าเสียบ มีฉนวนหุ้มที่โคนขาปลั๊กทั้งสองขา เต้ารับ มีแรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน 250 โวลต์  ควรทำจากทองแดงหรือทองเหลือง เพราะนำไฟฟ้าได้ดีกว่า สายไฟได้มาตรฐาน หุ้มฉนวน 2 ชั้น ฟิวส์ หรือ CB   ตรวจสอบสภาพก่อนใช้งาน ปลั๊กพ่วงต้องมีสภาพสมบูรณ์ก่อนการใช้งานทุกครั้ง หากมีร่องรอยชำรุดเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นฉนวนหุ้มสายไฟแตก ขาปลั๊กมีรอยไหม้ หรือเมื่อเสียบปลั๊กไฟแล้วมีประกายไฟขึ้น ขณะใช้งานมีเสียงดัง สายไฟร้อน ปลั๊กหลวม ฯลฯ ให้หยุดใช้งานแล้วเปลี่ยนปลั๊กพ่วงใหม่ได้เลยครับ อย่าเสียดาย เพราะเราต้องป้องกันก่อนจะเกิดอันตราย   ห้ามใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเยอะ เช่น ตู้เย็น เครื่องทำน้ำเย็น ฯลฯ ควรจะเสียบกับเต้ารับจากไฟบ้านโดยตรงครับ หากเสียบกับปลั๊กพ่วงอาจทำให้เกินพิกัดกระแสไฟฟ้าที่ตัวเต้าจะรับได้ ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ที่ 16 แอมป์ หรือ 2,600 โวลต์   ไม่พ่วงแล้ว พ่วงอีก ถ้าความยาวสายไฟไม่พอ ก็ลองหาตัวใหม่ที่มีความยาวเพียงพอกับการใช้งานครับ อย่าใช้วิธีพ่วงแล้ว พ่วงอีกต่อกันไปเรื่อยๆ เพราะจะทำให้ปริมาณไฟฟ้ารวมกันเกินขนาด เกิดความร้อนสูงจนอาจไปละลายสายทองแดงด้านในสายไฟทั้งสองเส้น แล้วเมื่อแตะกันก็จะเกิดลัดวงจรขึ้นครับ   ใช้งานแค่ชั่วคราวเท่านั้น ปลั๊กพ่วงถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานชั่วคราวเท่านั้นนะครับ ทำให้มีการเสื่อมสภาพเร็วกว่าเต้ารับตามบ้านทั่วไป ดังนั้นเมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็ควรดึงปลั๊กออกจากเต้ารับ ห้ามนำไปเดินสายแล้วติดกับผนังกลายเป็น และอย่าใช้งานจนเต็มทุกรู     อย่าลืมตรวจสอบปลั๊กพ่วงอย่างสม่ำเสมอ และใช้ให้ถูกวิธีนะครับ เพราะหากเกิดอัคคีภัยขึ้นมา จากประกายไฟเล็กๆ ที่เราคาดไม่ถึง อาจลุกลามไปทำลายทรัพย์สิน หรือถึงแก่ชีวิตได้ครับ      
8 สิ่งไม่ควรมี ถ้าอยากหลับสบาย

8 สิ่งไม่ควรมี ถ้าอยากหลับสบาย

ภาวะการนอนไม่หลับ เชื่อว่าเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน โดยเฉพาะในวัยทำงานที่มีเรื่องให้เครียดอยู่เกือบทุกวัน ซึ่งหากสะสมนานวันเข้าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้อย่างร้ายแรง กระทบต่อชีวิตประจำวันได้ครับ หากใครมีอาหารนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท เบื้องต้นของเช็คสิ่งของเหล่านี้ดูครับว่า มีอยู่ในห้องนอนของคุณอยู่หรือเปล่า     อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โทรทัศน์ ฯลฯ กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ต้องมีติดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ในช่วงเวลานอนหลับนะครับ เพราะบนหน้าจอเหล่านี้จะผลิตแสง light blue ส่งผลกระทบให้กระตุ้นการผลิตสารเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นสารควบคุมการหลับ-การตื่น นอกจากนี้ยังทำให้มีความเสี่ยงให้เกิดหลายโรคตามมา เช่น จอประสาทตาเสื่อม ปัญหาด้านความจำ ฯลฯ ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เหล่านี้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอนครับ   ต้นไม้ จริงอยู่ที่ต้นไม้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นในห้องนอนของเราได้ แต่อย่าลืมว่าในช่วงเวลากลางคืน ต้นไม้จะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาหมุนเวียนอยู่ภายในห้อง  เพราะฉะนั้นหากอยากปลูกต้นไม้จริงๆ ล่ะก็ ควรปลูกไว้นอกบ้านครับ หรือใครที่อยู่คอนโดฯ ก็เอาไปวางไว้ตรงระเบียงจะดีกว่า   อาหารและขนม การกินอาหารมื้อดึกส่งผลต่อการนอนหลับอย่างไม่ได้คุณภาพครับ เพราะหากอิ่มแล้วล้มตัวลงนอนจะทำให้กระบวนการ เผาผลาญยังคงทำงาน ส่งผลให้มีอาการหลับๆ ตื่นๆ หลับไม่สนิท ท้องอืด เพราะโดยปกติแล้วร่างกายคนเราต้องใช้เวลา ย่อยอาหารอย่างต่ำประมาณ 2 ชั่วโมง และยังเสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อน แต่ถ้าหิวจริงๆ ก็แนะนำเป็นพวกถั่วสักครึ่งกำมือ ผลไม้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย ซีเรียลบาร์ที่อุดมไปด้วยเมกนีเซียม ไข่ต้ม 1 ฟอง หรือโยเกิร์ตก็ได้ครับ   เครื่องสำอางหมดอายุ พวกเครื่องสำอางที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของคุณผู้หญิงทั้งหลาย เชื่อว่าคงมีอยู่หลายชิ้นเต็มโต๊ะเลยใช่มั้ยครับ ลองเช็คดูวันหมดอายุของเครื่องสำอางแต่ละชิ้นดูนะครับ อันไหนหมดอายุแล้วก็ควรตัดใจทิ้งไป เพราะนั่นคือ แหล่งสะสมของแบคทีเรียชั้นดีเลยครับ   โต๊ะทำงาน โต๊ะทำงานใครอยู่ในห้องนอนบ้างครับ มองไปทีไรก็นึกถึงเรื่องงานตลอดเวลา เผลอๆ เมื่อมีอาการนอนไม่หลับเมื่อไร ก็ต้องลุกขึ้นมาหยิบจับทำงานทุกที ฉะนั้นลองเอาโต๊ะทำงานออกจากห้องนอนดูครับ ให้ห้องนอนมีบรรยากาศ ของการพักผ่อนจริงๆ   ตะกร้าผ้า ตะกร้าผ้าที่มีกองเสื้อผ้าใส่แล้ว หากวางเอาไว้ใกล้กับเตียงจะเกิดอาการมองไปแล้วนึกถึงเรื่องที่เราต้องทำในวันหยุด อย่างการทำความสะอาดบ้าน รวมถึงการซักผ้ารีดผ้านี่แหละครับ เอาออกไปไว้ไกลเตียงนอนจะดีกว่า และยังช่วยให้ห้องนอนดูไม่รกรุงรังด้วยนะครับ   ของสะสมฝุ่น ของตกแต่งบ้าน กองหนังสือ หรือของที่ตั้งโชว์เอาไว้ไม่ได้ใช้งาน นานวันเข้าก็จะยิ่งเป็นตัวสะสมฝุ่น ทำความสะอาด กันลำบาก ควรหากล่องเก็บที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันฝุ่นจับ นอกจากนี้ก็ควรจะหมั่นทำความสะอาด ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอน ด้วยครับ เพราะก็เป็นตัวสะสมไรฝุ่นและเชื้อโรคเช่นกัน   สัตว์เลี้ยง คนรักสัตว์อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันไปก่อนนะครับ จริงอยู่ที่หลายบ้านรักสัตว์เหมือนลูกแล้วเอามานอนด้วยบนเตียง แต่ด้วยธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้มักจะอยู่นิ่งๆ ได้ไม่นานนักก็จะเริ่มขยับตัวหรือส่งเสียงรบกวน ซึ่งเจ้าของ ก็อาจพลอยตื่นตามไปด้วย ทำให้นอนหลับไม่สนิท โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อ ระบบทางเดินหายใจจากขนสัตว์เหล่านี้ได้ ทางที่ดีก็ลองหามุมจัดเป็นที่นอนให้เป็นกิจจะลักษณะดีกว่าครับ     ทั้งนี้ลองสังเกตตัวเองกันดูนะครับ หากใครที่มีอาการนอนยาก หลับไม่สนิท ต้องใช้เวลาเกินกว่า 30 นาทีเพื่อให้หลับ หรือตื่นขึ้นกลางดึกแล้วไม่สามารถนอนหลับได้อีก ติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ลองไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามมา      
วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน ง่ายๆ แต่ได้ผล

วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน ง่ายๆ แต่ได้ผล

ช่วงฤดูฝนเช่นนี้สัตว์ทั้งหลายมักจะหาที่หลบฝนหรืออพยพหนีน้ำขึ้นมาสู่พื้นที่สูงกว่า จึงเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงจะพบเจอสัตว์มีพิษมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะแมงป่อง ตะขาบ ฯลฯ โดยเฉพาะ“งู” ที่ชอบขดตัวอยู่ตามกิ่งไม้ หรือเข้าบ้านมาหลบตามมุมมืดที่เรามักมองไม่เห็น ถ้าไม่ระวังล่ะก็อันตรายถึงชีวิตเชียวนะครับ เพราะ ฉะนั้นเราควรหาวิธีป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีกว่าครับ   จำกัดขยะ  สาเหตุหนึ่งที่ทำให้งูเข้ามาบ้าน มาจากหนู กบ และสัตว์เล็กๆ ที่เป็นอาหารของงู เพื่อป้องกันไม่ให้งูเข้ามาหาอาหารในบ้านของเรา ก็ต้องกำจัดขยะโดยเฉพาะพวกเศษอาหารบ่อยๆ ไม่ปล่อยทิ้งเอาไว้ แล้วปิดปากถุงให้มิดชิดก่อนนำไปทิ้งให้เป็นที่เป็นทางจะช่วยไม่ให้หนูเข้าบ้านเราได้ หรือบ้านไหนเลี้ยงสัตว์ เช่น กระต่าย นก ลูกเจี๊ยบ ก็ควรทำกรงให้มิดชิด และช่วงกลางคืนให้คลุมตาข่ายตาถี่ๆ เพื่อป้องกันงูไว้ก่อน   ดูแลสวนอย่างสม่ำเสมอ  บ้านที่มีบริเวณในการปลูกต้นไม้จัดสวน อย่าปล่อยให้รกรุงรังนะครับ ต้องหมั่นตัดแต่งต้นไม้ให้มีแสงแดดลอดผ่านได้ เพราะงูมักจะชอบซ่อนตัวตามมุมอับชื้น ในอุณภูมิที่เหมาะสมสำหรับงู คือ ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ความชื้นสูงประมาณ 95% และยังชอบใช้ใบไม้ เศษดินมาทำรัง ฉะนั้นหากเราหมั่นดูแลสวนของเรา นอกจากจะได้ความสวยงามอยู่เสมอแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ใช่มีงูเข้ามาทำรังอีกด้วยครับ   จัดระเบียบบ้าน ไร้มุมอับ  เช่นเดียวกันกับบริเวณสวนครับ งูชอบอยู่ตามมุมเงียบๆ ที่ไม่มีใครมารบกวน เช่น โพรงใต้บ้าน ใต้ฝ้าเพดาน หรือมุมที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ดังนั้นลองจัดระเบียบบ้านดูใหม่ เพิ่มการใช้งานไม่ให้เกิดเป็นมุมอับที่ปล่อยไว้ หรือใช้น้ำมันก๊าด ราดไว้ตามมุมเหล่านั้น กลิ่นฉุนจะช่วยไม่ให้งูเข้าใกล้บริเวณนั้น   สร้างกับดัก กันไว้ดีกว่าแก้ครับ ก่อนที่จะมีงูเข้าบ้านเราก็ลองสร้างกับดักเพื่อไม่ให้งูเลื่อยผ่าน ไม่ว่าจะปลูกต้นไม้ที่มีหนามแหลมคม หรือจะเลือกใช้นวัตกรรมที่มีให้เลือกใช้ หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปครับ เช่น แผ่นกันงู ตาข่ายกันงู อลูมิเนียมกันงู ก้อนกันงู ฯลฯ   เลี้ยงสุนัข ธรรมชาติของงูจะเป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย ประสาทสัมผัสจากแรงสั่นสะเทือนที่แม่นย้ำมาก ขณะเดียวกันสุนัขก็มักจะจับสิ่งแปลกปลอมได้อย่างว่องไว ความเคลื่อนไหวและเสียงของสุนัขจะทำให้งูหวาดกลัวอยู่อาศัยไม่ได้เอง     ทั้งนี้ถ้าพบเจองูอยู่ในบ้านของเราแล้วล่ะก็ ให้รีบโทรไปที่เบอร์ 199 โดยด่วนครับ หรือจะแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นก็ได้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาจับงูออกไปครับ      
“มั่นคง” รีเฟชรแบรนด์เพื่อความอยู่รอด  เพราะไม่อยากเป็นเหมือน “ฟิล์มโกดัก”

“มั่นคง” รีเฟชรแบรนด์เพื่อความอยู่รอด เพราะไม่อยากเป็นเหมือน “ฟิล์มโกดัก”

โจทย์การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องยึดเป็นแกนหลัก คือ ต้องสามารถตอบความต้องของลูกค้าให้ได้  จากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป  เพราะถูกเทคโนโลยีเข้ามา Disrupt จนทำให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ไม่ว่าจะสะดวกสบายจากเทคโนโลยี ใช้แค่นิ้วมือจิ้มๆ ก็ทำธุรกรรมต่างๆ ได้สบายบนโทรศัพท์มือถือ หรือการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงสารพัด ทำได้ไม่แตกต่างกัน ผู้ประกอบการทั้งหลายจึงต้องก้าวให้ทันกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป   ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ขายบ้านขายคอนโดมิเนียม ก็ถูกเทคโนโลยีเข้ามา Disrupt ไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าถึงข้อมูล และการเปรียบเทียบสินค้า เดี๋ยวนี้ลูกค้าศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคาของโครงการที่สนใจก่อนจะไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างจริง แต่โครงการอสังหาฯ ที่จะถูกนำมาเปรียบเทียบ หรือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ลูกค้าพิจารณา คงต้องกลับมาที่เรื่องของ Brand ว่าอยู่ในใจลูกค้ามากน้อยแค่ไหน   สำหรับแบรนด์มั่นคง หรือ บริษัท มั่นคง เคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) ได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเช่นกัน และมองว่านี่คือโจทย์สำคัญทางการตลาดที่จะต้องก้าวตามให้ทัน เพราะหากไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง คงไม่สามารถเป็นหนึ่งแบรนด์ในใจที่ลูกค้าจะถึงได้ เนื่องจากปัจจุบันฐานลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ล้วนแต่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแล้ว และมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น หากไม่สร้างฐานลูกค้าใหม่และสร้างแบรนด์ของตัวเอง ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรุ่นใหม่ องค์กรที่อยู่มากว่า 60 ปีอาจจะหายออกไปจากตลาดได้เช่นกัน   รีเฟรชแบรนด์ใหม่เอาใจ Gen Y   ช่วง 4 ปีก่อนหน้านี้ MK มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์  โดยเจ้าของเดิมตระกูล “ตั้งมติธรรม” ขายธุรกิจให้กับ “สุเทพ วงศ์วรเศรษฐ”  ในบริษัท แคสเซิล พีค ดีเวลลอปเม้นท์ส จำกัด และบริษัท ซีพีดี โฮ ลดิ้ง จำกัด หลังจากนั้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในก็เกิดขึ้น อาทิ กระบวนการบริหารงานภายใน การทำให้คนในองค์กรมองธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน การปรับเปลี่ยนโลโก้ และการสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย   หลังจากที่กระบวนการบริหารงานภายในเริ่มเข้าที่เข้าทางในระยะ 2 ปีแรก สิ่งที่ MK เดินหน้าเปลี่ยนแปลงตัวเองต่อไป คือ การสร้าง Brand Positioning ของตัวเองใหม่ ด้วยการหยิบเอาเทรนด์ของโลกในเรื่อง Well-Being เข้าใช้เป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงการ ถือเป็นแนวทางการรีเฟรชแบรนด์ให้ตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน ที่ฐานหลักคือ กลุ่ม Gen Y หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20-37 ปี และตอบสนองกับเทรนด์ของโลกซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่อง Well-Being   “ยอดขายที่อยู่อาศัยของบริษัทยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่เมื่อความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป ถ้าไม่ทำอะไรเลยเราจะถอยหลัง ถ้าไม่มีสินค้าตอบโจทย์ เราจะหายไป เราไม่อยากเป็นเหมือนฟิล์มโกดัก” นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ไม่เพียงเท่านั้นคนในยุคปัจจุบันหาข้อมูลโดยทำ Desktop Research หรือการค้นหาข้อมูลจากโลกออนไลน์ ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า หาก MK ไม่ทำการเปลี่ยนแปลงอะไร ก็จะไม่ได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้า การรีเฟรชแบรนด์จึงจะเป็นหนึ่งในการสร้างการับรู้ และมุ่งหวังว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้า ​เพราะหากเปรียบเทียบจุดแข็งในการพัฒนาธุรกิจ ไม่ว่าเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งและราคา โครงการของ MK ถือว่าสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการในตลาดได้   “การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของลูกค้า การไม่ทำจะไม่อยู่ในทางเลือกของลูกค้าเลย” Well-Being ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน   การรีเฟชรแบรนด์ของ MK ไม่ใช่แค่การทำตลาดดิจิทัล ที่ยังคงใช้เป็นหลัก เพราะเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Gen Y ได้ดีที่สุด แต่ยังเสริมด้วยสื่อเดิมอย่างป้ายโฆษณาในพื้นที่ และการทำตลาดรูปแบบอื่นๆ ด้วย แต่สิ่งที่แบรนด์ MK ให้ความสำคัญ  ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นส่วนสำคัญเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand essence) คือ การนำเอาแนวคิดของ Well-being เข้ามาพัฒนาโครงการ ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา โดยครอบคลุมในเรื่องหลักสำคัญ อาทิ การพัฒนาโครงการ มีการจัดวางการวาง Layout บ้านให้หันไปทิศเหนืใต้ การวางผังโครงการจะจัดวางตัวบ้านให้สอดคล้องกับลมประจำถิ่น โดยแบ่งแปลงบ้านให้ไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งทำให้บ้านถ่ายเทอากาศได้ดี และยังรับแสงน้อย การจัดให้มีห้องพยาบาลกล้วยน้ำไท เพื่อให้บริการลูกบ้าน บริเวณคลับเฮ้าส์โครงการ พร้อมแพ็คเกจดูแลสุขภาพ เป็นต้น   การใช้วัสดุที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม (ECO-FRIENDLY MATERIALS) เช่น โถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ หลอดไฟฟ้า LED ซึ่งเป็นหลอดประหยัดพลังงาน  ประตูหน้าต่าง ชนิด UPVC ซึ่งมีคุณสมบัติลดการถ่ายเทความร้อนได้ดี  สีที่มีคุณสมบัติไร้สารตะกั่วและโลหะหนัก  เป็นต้น   จัดพื้นที่ปลูกผักสวนครัว บริเวณพื้นที่สวนหย่อมหรือพื้นที่ว่างของโครงการ สร้างความสัมพันธ์และสุขภาพที่ดี การจัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ (CUSTOMER RELATIONSHIP MANAGEMENT) เช่น โครงการ  Know your Neigbours เชิญชวนให้ลูกบ้านนำอาหารจานเด็ดที่ชื่นชอบมาร่วมแบ่งปันเพื่อนบ้านภายในงาน  กิจกรรม workshop ส่งเสริมสุขภาพ สอนทำอาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมสอนเรื่องหลักโภคชนาการ โยคะ การนวดแก้อาการออฟฟิศซินโดรม และการส่งเสริมความรู้ผ่านบทความเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ Well-being ในด้านต่างๆ ให้แก่ลูกบ้านได้อ่าน “มั่นคง ให้ความสนใจในเรื่องสุขภาวะที่ดีแบบ 360 องศา เป็นสิ่งที่คิดมาจากเทรนด์ของโลก มาจากคนยุคปัจจุบันไม่ได้ทำงานหาเงินใช้ชีวิตไปวันๆ เห็นได้จากการเติบโตของเรื่องเวลเนส การเติบโตของเอ็นไทเอจจิ้ง เวลเนสเรียลเอสเตท เวลเนสทัวร์ลิซึม เป็นการรีแบรนด์จากการขายฟังก์ชั่นและโปรโมชั่น หรือขายความคุ้มค่าคุ้มราคา มาสู่การมีสุขภาวะที่ดีแบบยั่งยืน ตามเทรนด์ของโลก เพราะคนไม่ใช่แค่หาซื้อบ้านปกติ โครงการแรกที่นำเอาแนวคิดสุขภาวะที่ดีเข้าไปพัฒนาอย่างชัดเจน คือ โครงการชวนชื่นไพร์มวิลล์กรุงเทพ – ปทุมธานี”  
แอร์ส่งกลิ่นเหม็นอับ ทำไงดี

แอร์ส่งกลิ่นเหม็นอับ ทำไงดี

ยิ่งอากาศร้อนมากขึ้นเท่าไร เครื่องปรับอากาศก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทุกบ้านต้องเปิดใช้กันแทบทุกวันเลยใช่ไหมครับ แต่พอใช้งานทุกวันๆ ก็ย่อมจะมีอาการผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเจอกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะแอร์ไม่เย็น น้ำหยด หรือกลิ่นเหม็นเวลาเปิดใช้งานก็เล่นเอาหงุดหงิดเสียจนอยากปิดแอร์ แต่ก็ทำไม่ได้ ซึ่งก็มีหลากหลายสาเหตุกับวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ได้ยากเลยครับ   สาเหตุการเกิดกลิ่นเหม็น ความชื้นคือตัวการครับ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนแบบนี้ก็ยิ่งเปียกชื้นกันไปใหญ่ นี่คือสาเหตุหลักๆ เลยที่ทำให้เกิด เชื้อรา ตามมาด้วยเชื้อโรคสะสม ไม่ว่าจะจากถาดรองน้ำทิ้ง ท่อน้ำทิ้ง แผ่นกรองอากาศเป็นต้น ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ล่ะก็ จะส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านเราอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการก่อให้เกิดภูมิแพ้   สิ่งสกปรก พวกสิ่งสกปรกอย่างฝุ่น ขนสัตว์ หรือน้ำขังนี่แหละครับที่สะสมมากๆ เข้าก็จะทำให้เกิดท่อน้ำทิ้งแอร์อุดตัน สิ่งที่จะตามมานอกจากเรื่องกลิ่นที่ตีย้อนเข้ามาแล้ว ยังทำให้แอร์ไม่เย็น และน้ำแอร์หยดตามไปด้วยครับ   กลิ่นอาหารและกลิ่นบุหรี่ เวลาเราทำอาหารอย่าเปิดแอร์ไปด้วยค่ะ หรือแม้แต่ในคอนโดมิเนียม เวลาทำอาหารแล้วไม่ได้เปิดแอร์ก็ตาม แต่แอร์ก็จะยังดูดกลิ่นอาหารเข้าไปในเครื่อง เช่นเดียวกันกับกลิ่นบุหรี่ แม้ไม่ได้ดูดในห้อง แต่กลิ่นที่ติดตัวมาก็มักจะฝังติดอยู่ตรงฟิลเตอร์ด้วย   แมลงหรือสัตว์เล็ก ลองสำรวจให้ทั่วครับว่ามีพวกหนู จิ้งจก แมลงสาบ ฯลฯ เข้าไปทำรัง มีร่องรอยไปอึ ฉี่ หรือตายบ้างหรือเปล่า ถ้ามีก็เป็นสาเหตุอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ   วิธีแก้ ถอดตัวแผ่นกรองอากาศหรือที่เรียกกันว่าฟิลเตอร์ออกมาล้างเป็นประจำ แต่อย่าลืมนะครับว่า เมื่อล้างเสร็จเรียบร้อย แล้วผึ่งให้แห้งก่อนจะนำกลับเข้าที่เดิม มิเช่นนั้นกลิ่นอับก็จะยังคงอยู่จากฟิตเตอร์ที่ยังชื้นอยู่นั่นแหละครับ แต่ถ้าสิ่งสกปรกจับตัวหนามากเกินไปแล้วจะเปลี่ยนฟิลเตอร์ใหม่เลยก็ได้ครับ   สเปรย์โฟมล้างแอร์ ถอดฟิลเตอร์ออกมาล้างแล้วก็ทำความสะอาดตรงแผงคอยล์เย็นด้วยซะเลย เพียงแค่ฉีดพ่นสเปรย์โฟมล้างแอร์ให้ทั่ว รอฟองยุบแล้วจึงใช้น้ำเปล่าฉีดล้างตามให้สะอาดอีกที   ถาดน้ำทิ้งแอร์ให้ถอดออกมาล้างเช่นกันครับ โดยล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดให้เมือกหายไป ก่อนนำไปใส่ไว้ที่เดิม ก็ควรเช็ดให้แห้งสนิทก่อน   เมื่อเริ่มเปิดแอร์ให้ตั้งโหมดพัดลม (Fan) เอาไว้ที่เบอร์แรงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ทำแบบนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จนกว่ากลิ่นเหม็นอับจะลดลงจนหายไป   เอาให้ชัวร์ๆ กันไปเลยครับ เรียกช่างแอร์มาตรวจเช็ค ล้างทุกๆ 6 เดือนอย่างสม่ำเสมอ   จะเห็นได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญของวันที่อากาศร้อนในบ้านเรา นั่นคือการหมั่นดูแลรักษาความสะอาดนั่นเองครับ ไม่ใช่แค่เพียงขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แต่ยังช่วยยืดอายุ การใช้งานของเครื่องปรับอากาศได้ด้วย    
วิธีแก้ปัญหาน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้าน

วิธีแก้ปัญหาน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้าน

ฝนเทกระหน่ำเมื่อไรใจหายทุกที เมื่อเกิดอาการน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้านหรือแม้แต่คอนโดฯ ตามผนัง วงกบ หลังคา หรือแม้กระทั่งพื้นบ้าน หากปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายไม่ว่ามีเชื้อรา สีหลุดร่อน ไปจนถึงกระทบโครงสร้างบ้านกันเลยทีเดียว นอกจากจะเสียเวลาซ่อมแซมแล้ว ยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายตามมาอีก ถ้าอย่างนั้นเรามารีบแก้ไขปัญหาน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้านก่อนจะบานปลายกันเถอะครับ   หลังคา เป็นส่วนหลักๆ ของบ้านที่จะต้องเผชิญกับแดด ลม ฝน เมื่อนานวันเข้าก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพของวัสดุ เมื่อเกิดคราบน้ำบริเวณฝ้าเพดานภายในบ้าน แนะนำให้ลองดูบริเวณใต้หลังคา ซึ่งจะมีสาเหตุส่วนใหญ่ดังนี้ครับ   กระเบื้องหลังคามีการแตกร้าว เวลาฝนตกน้ำจึงเข้ามาภายในบ้านได้ง่ายมากๆ ก็ให้รีบเปลี่ยนกระเบื้องตรงจุดนั้นครับ   การติดตั้งหลังคาไม่เหมาะสม สาเหตุนี้เกิดได้จากหลายสิ่งครับ เช่น กระเบื้องยึดไม่แน่น ระยะซ้อนทับหลังคาไม่ถูกต้องตามชนิดของกระเบื้องหลังคา ความลาดเอียงน้อยเกินไปทำให้ฝนไหลย้อนเข้าใต้หลังคา กระเบื้องเผยอเพราะโครงสร้างเริ่มแอ่น หากเป็นเช่นนี้ต้องเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาดูให้จะดีกว่าครับ   พื้นดาดฟ้า บ้านไหนที่ไม่ได้มุงกระเบื้อง แต่เป็นพื้นคอนกรีตให้ลองเช็ครอยต่อระหว่างผนังกับดาดฟ้า หรือตัวพื้นคอนกรีตอาจมีร่องรอยการแตกร้าวน้ำจึงรั่วซึมผ่านทางนี้ได้ ให้หาวัสดุกันซึมที่มีคุณสมบัติปกปิดรอยแตกได้มาปิดตรงรอยแตกร้าว   รางน้ำฝน ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอครับว่ามีเศษใบไม้ กิ่งไม้ร่วงลงมาทับถมจนรางน้ำฝนอุดตันหรือไม่ ทำความสะอาดครับ จะได้ไม่ขวางทางระบายน้ำ   ผนัง เป็นจุดที่พบการรั่วซึมของน้ำบ่อยที่สุด ซึ่งปัญหานี้สามารถพบเจอได้ทั้งในบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียม โดยมีสาเหตุหลัก เช่น   รอยร้าวจากปูนฉาบ ไม่ว่าผนังจะมีรอยแตกตรงกลางหรือรอยต่อตรงส่วนต่อเติม ก็ทำตัวการทำให้น้ำซึมผ่านผนังจนสีทาภายในพองตัวหลุดร่อน สามารถซ่อมแซมได้เองด้วยการใช้ปูนซีเมนต์สำหรับงานซ่อมหรือกาวโพลียูรีเทน ที่ผนังด้านนอกบ้านแล้วทากันซึมจึงทาสีทาบ้านทับอีกที ส่วนภายในบ้านก็ขูดสีที่พองออกก่อนแล้วจึงทาสีทับลงไปใหม่ตามวิธีที่ระบุไว้ข้างกระป๋องสี   รอยแตกตามขอบวงกบประตู-หน้าต่าง ให้อุดรอยด้วยซิลิโคนหรือกาวโพลียูรีเทน แต่หากรอยใหญ่มากจนเกินไปแนะนำให้เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาเปลี่ยนประตู-หน้าต่างใหม่เลยจะดีกว่าครับ   พื้น ส่วนใหญ่จะเกิดกับบ้านรุ่นเก่าซึ่งมีระดับต่ำกว่าถนน เมื่อเกิดน้ำรั่วซึมผ่านรอยต่อระหว่างพื้น คาน และผนัง ก็ให้อุดช่องว่างด้วยกาวซิลิโคน กาวโพลียูรีเทน หากเอาไม่อยู่แล้วส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยก็เรียกช่างมาเลยครับ อาจจะต้องเทพื้นใหม่ให้สูงขึ้นกว่าเดิม หรือวิธีอื่นแล้วแต่ช่างจะพิจารณา   ก่อนจะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น ลองหาวันว่างเดินสำรวจให้รอบบ้านก่อนปัญหาน้ำฝนรั่วซึมจะเกิดขึ้นครับ เพราะเราสามารถหาอุปกรณ์มาป้องกันได้ก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ครับ    
ไล่จิ้งจกไปให้ไกลบ้าน ง่ายนิดเดียว

ไล่จิ้งจกไปให้ไกลบ้าน ง่ายนิดเดียว

จิ้งจกแม้จะตัวเล็ก แต่สร้างความรำคาญใจให้หลายบ้านอยู่ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ โดยเฉพาะขี้จิ้งจกที่ทำเอาเลอะเทอะตามซอกมุมเต็มไปหมด คงไม่มีใครชอบกันอย่างแน่นอน ถ้าอย่างนั้นลองมองหาสิ่งของใกล้ตัวในบ้านแล้วมาไล่จิ้งจกให้ไกลจากบ้านเรากันเถอะครับ   เปลือกมะนาว เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์จริงๆ ครับ สำหรับ “มะนาว” ที่สามารถนำมาปรุงอาหาร  ทำความสะอาด และยังนำมาไล่จิ้งจกได้อีกด้วย โดยใช้เปลือกที่เหลือไปถูบริเวณผนังและวางไว้ตามที่จิ้งจกอยู่ ความเป็นกรดของมะนาวจะทำให้เกิดการระคายเคือง แสบบนผิวของจิ้งจก ส่วนกลิ่นของมะนาวจะช่วยไล่มันออกไปได้   หัวหอม วิธีนี้อาจจะต้องเสียน้ำตากันบ้างนะครับ เพราะเราจะใช้วิธีหั่นหัวหอมหรือจะเป็นหอมแดงใส่ถ้วยไว้ และนำไปวางตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน กลิ่นฉุนจากสารกำมะถันในตัวของมันจะทำให้จิ้งจกไม่ล้าเข้าใกล้บริเวณนั้น   กระเทียม อีกหนึ่งวัตถุดิบจากก้นครัวในบ้านของเราครับ นั่นคือกระเทียมนำมาทุบหรือสับผสมกับน้ำใส่ในขวดที่มีหัวฉีดสเปรย์เขย่าให้เข้ากัน แล้วนำไปฉีดบริเวณที่จิ้งจกชอบอยู่และบริเวณผนังที่จิ้งจกชอบเกาะ กลิ่นจะช่วยไล่จิ้งจกได้   ลูกเหม็นและการบูร สำหรับวิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นการไล่จิ้งจกที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ เพียงแค่นำลูกเหม็นหรือการบูรไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้านที่จิ้งจกชอบอยู่อาศัยหรือวิ่งผ่าน กลิ่นจะช่วยไล่ทั้งจิ้งจกรวมไปถึงตุ๊กแกเลยครับ   กากกาแฟกับผงบุหรี่ นำกากกาแฟผสมกับผงบุหรี่ เติมน้ำลงไปเล็กน้อย แล้วนำไปโรยไว้ตามทางที่จิ้งจกชอบผ่าน หรือซอกมุมต่างๆ ของบ้าน บางตัวได้กลิ่นก็จะหนีไปเอง หรือหากจิ้งจกเผลอไปกินเข้าก็อาจทำให้ตายได้ครับ   น้ำมันก๊าด เพียงแค่ฉีดพ่นน้ำมันก๊าดลงไปบริเวณที่มีจิ้งจกหรือตุ๊กแกชอบผ่าน กลิ่นฉุนจะช่วยให้ไล่ออกไปได้ แต่หากกลิ่นแรงเกินไปก็สามารถนำไปผสมน้ำก่อนแล้วค่อยฉีดก็ได้ครับ   เลี้ยงแมว ข้อนี้สำหรับเหล่าทาสแมวโดยเฉพาะเลยครับ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเจ้าแมวนั้นชอบไล่จับจิ้งจก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จิ้งจกกลัวและไม่กล้าเข้ามาภายในบ้านนั่นเองครับ   วิธีง่ายๆ ที่สามารถหาของได้ทั่วไปจากในบ้านของเราเอง ลองเอาไปทำตามดูนะครับ  
“SANSIRI SERVICE” พาไปชม “บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน” จากบริการที่ใส่ใจจากแสนสิริ

“SANSIRI SERVICE” พาไปชม “บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน” จากบริการที่ใส่ใจจากแสนสิริ

“บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน” ด้วยบริการที่ใส่ใจจากแสนสิริ เพราะความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญของการอยู่อาศัย "SANSIRI SERVICE" พร้อมให้บริการที่จะทำให้ลูกบ้านทุกคนอุ่นใจได้ตลอด 24 ชม. เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และครอบคลุมรอบด้าน แล้วคุณจะว้าวกับชีวิตดี๊ดี ที่ได้เป็นลูกบ้านแสนสิริ   #บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน #SansiriService #CompleteYourLivingExperience สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://siri.ly/gn7 ----------------------------------------------------------- ติดตามเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจได้ที่ Website : https://www.reviewyourliving.com Facebook : https://www.facebook.com/reviewyourliving Youtube : http://bit.ly/2CCTMBk
“เสี่ยเจริญ” จัดพอร์ตธุรกิจอสังหาฯ ส่ง AWC เข้าตลาด ลบภาพธุรกิจครอบครัวสู่มาตรฐานมืออาชีพ

“เสี่ยเจริญ” จัดพอร์ตธุรกิจอสังหาฯ ส่ง AWC เข้าตลาด ลบภาพธุรกิจครอบครัวสู่มาตรฐานมืออาชีพ

“เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” มีธุรกิจในมือมากมายที่สร้างความร่ำรวย และมีมูลค่ามหาศาล  หนึ่งในนั้น คือ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม  ซึ่งมีทั้งกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์  แต่อีกหนึ่งจิ๊กซอร์สำคัญขนาดใหญ่  ที่มาต่อเติมความมั่งคั่งของตระกูล  คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เรียกได้ว่ามีอยู่ในมือครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สำนักงานให้เช่า ศูนย์การค้า นิคมอุตสาหกรรม ศูนย์ประชุม สนามกอล์ฟ และโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ  ซึ่งกระจายอยู่ทุกมุมเมืองทั่วประเทศ นี่ยังไม่นับที่ดินเปล่าในพอร์ตอีกมหาศาลไม่รู้กี่แสนไร่   ทั้งขนาดความใหญ่และจำนวนธุรกิจที่มีมากมายมหาศาลของตระกูลสิริวัฒนภักดี  การสร้างการเติบโตและความยั่งยืน โจทย์สำคัญที่ “เสี่ยเจริญ” มอบหมายให้ทายาทที่ดูแลธุรกิจอสังหาฯ  คือ การสร้างมาตรฐานการบริหารงานแบบมืออาชีพ และไม่ยึดติดกับความเป็นธุรกิจครอบครัว นอกจากนี้ ยังต้องการให้ทายาทแต่ละคนดูแลรับผิดชอบธุรกิจอสังหาฯ ในแต่ละประเภทอย่างชัดเจน โดยไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน  แนวทางหนึ่งที่ถูกหยิบมาใช้ คือ การนำเอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  และการจัดกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ แต่ละประเภท ให้อยู่ภายใต้การบริหารงานของแต่ละบริษัทอย่างชัดเจน   นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ  AWC บุตรสาวคนที่ 2 ของเสี่ยเจริญ  เปิดเผยว่า ได้นำบริษัทยื่นแบบไฟลิ่งแก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากต้องการระดมทุน นำเงินมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตให้กับบริษัท  ชำระหนี้ การสร้างคุณค่าให้กับองค์กรและชุมชน   “การเข้าตลาดฯ เป็นการสร้างมาตรฐานและความยั่งยืน  ผู้บริหารและพนักงานจะอยู่ในระบบธรรมาภิบาล  ซึ่งดีกว่าอยู่ในระบบครอบครัว เป็นการสร้างมาตรฐานความเป็นมืออาชีพ”   สำหรับ AWC จะมุ่งเน้นการพัฒนาและลงทุนในอสังหาฯ ในประเทศไทย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ซึ่งบริหารงานโดยผู้บริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียงภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพและเป็นที่รู้จักระดับสากล อาทิ แมริออท, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building)   “คุณเจริญ อยากทำให้ธุรกิจครอบครัวสู่ระบบมาตรฐาน ไม่อยากให้ลูกหลานไปยึดติดกับธุรกิจครอบครัว”   นางวัลลภา ยังกล่าวย้ำอีกว่า การยื่นไฟลิ่งของบริษัทครั้งนี้  ถือเป็นการจัดพอร์ตและภาพธุรกิจอสังหาฯ ของ AWC ให้มีความชัดเจน โดยจะเน้นเฉพาะธุรกิจโรงแรมและบริการ  กับธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์​  โดยไม่มีธุรกิจอสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัย (Residential) ส่วนบริษัทอสังหาฯ ในกลุ่มทีซีซี ใครมีความรับผิดชอบในส่วนไหนก็ดูแลธุรกิจนั้นไป ถือเป็นการสร้างความชัดเจนในพอร์ตธุรกิจอสังหาฯ   ขนอสังหาฯ ทำเงินเข้าพอร์ต โครงการอสังหาฯ ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ AWC ถูกคัดสรรและพิจารณาว่าเป็นโครงการคุณภาพ สามารถสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งปัจจุบันและในอนาคต โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ มีแบรนด์ที่บริหารอยู่ 15 แบรนด์  อาทิ แมริออท,อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน ซึ่งมีโรงแรมดำเนินการอยู่ปัจจุบัน 10 แห่ง จำนวน 3,432 ห้อง อยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนาอีก 5 แห่ง จำนวน 1,528 ห้อง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการทำสัญญาซื้อกิจการโรงแรมใหม่อีก 12 แห่ง เป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 4 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาหรือมีแผนพัฒนาอีก 8 แห่ง ซึ่งจะทำให้ภายในระยะ 5 ปี AWC จะมีโรงแรมบริหารรวม 8,000 ห้อง จากปัจจุบันมีอยู่ 4,960 ห้อง   ส่วนโรงแรมทั้ง 12 แห่งที่คาดว่าจะเข้ามาอยู่ในพอร์ตธุรกิจ ได้แก่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร, โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์, โรงแรม ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช, แกรนด์โซเล่, โครงการหัวหิน บีชฟรอนท์, อิมพีเรียลแม่ปิง, โรงแรมบันยันทรี จอมเทียน พัทยา, พัทยา มิกซ์ยูส รีเทล แอนด์ โฮเทล ดีเวลล็อปเมนต์, โรงแรมเจริญกรุง 93, โรงแรม อีสต์ เอเชีย และ พรพิงค์ ทาวเวอร์   สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจโรงแรมที่ AWC จะมีด้วยกัน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มตลาด MICE กลุ่มพักผ่อน กลุ่มครอบครัว และกลุ่มนักธุรกิจ โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ การใช้เครือข่ายพันธมิตรโรงแรมภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำ ที่ช่วยทำให้ AWC   ออกแบบและพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และการมีเครือข่ายสมาชิกกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก   ส่วนกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ มี 2 กลุ่มบริหารงานอยู่ ได้แก่ 1.อสังหาฯ เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ชอปปิงมอลล์ คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต และอสังหาฯ เพื่อประกอบกิจการการค้าส่ง โดยอสังหาฯ เพื่อประกอบกิจการการค้ามีโครงการที่มีชื่อเสียงคือ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการเกทเวย์ แอท บางซื่อ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ และโครงการตะวันนา บางกะปิ   ปัจจุบันบริษัทมีโครงการเปิดำเนินการแล้ว 8 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการคอมมูนิตี้มาร์เก็ตบางกะปิ และโครงการเออีซี เทรด เซ็นเตอร์ ซึ่งโครงการทั้งหมดมีพื้นที่เช่ารวมกว่า 3.4 แสนตารางเมตร 2.อาคารสำนักงาน (Office) ที่บริษัทเป็นเจ้าของอยู่อีก 4 แห่ง ได้แก่ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ อาคารแอทธินี ทาวเวอร์ อาคาร 208 วายเลสโร้ด  และอาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์  โดยมีพื้นที่เช่ารวมกว่า 2.7 แสนตารางเมตร   3ปี รายได้โตเฉลี่ย 15% สำหรับผลประกอบการของ  AWC มีรายได้รวมในปี 2561 มูลค่า 12,415.64 ล้านบาท (เฉพาะธุรกิจหลักมีรายได้กว่า 10,998.64 ล้านบาท)  โดยสัดส่วน 60% รายได้จากธุรกิจโรงแรมและบริการ ส่วนอีก 40% เป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 489.04 ล้านบาท   ส่วนปี 2560 มีรายได้รวม 11,207.55 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,372.07 ล้านบาท และปี 2559 มีรายได้รวม 9,411.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,890.73 ล้านบาท ซึ่งหากมองย้อนหลังกลับไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ของ AWC มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 15%   ขณะที่แนวทางสร้างการเติบโตของ AWC จะใช้กลยุทธ์หลัก ได้แก่ -การขยายความเป็นผู้นำในโครงการหลักที่ดำเนินการอยู่ ด้วยการจับตลาดกลุ่มกลางถึงบนเป็นทั้งในและต่างประเทศ -การสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยโครงการไพร์มโลเกชั่น และโครงการในลักษณะฟรีโฮล์ -โครงการที่พัฒนาต้องสามารถแข่งขันได้ระดับโลกได้ -การสร้างทีมงานและบุคลากรให้แข็งแกร่ง   ส่วนแผนการลงทุนภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น  บริษัทยังไม่มีแผนที่ชัดเจน แต่ยังคงวางนโยบายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่เหมือนกับที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังเตรียมคัดโครงการอสังหาฯ ในตระกูลสิริวัฒนภักดี ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มทีซีซี โดยจะเลือกโครงการมีคุณภาพและสามารถสร้างการเติบโตได้เข้ามาในพอร์ตเพิ่มมากขึ้น และเป็นโครงการประเภทโรงแรมหรืออสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์   “เราลงทุนขนาดใหญ่และจะลงทุนขนาดใหญ่ต่อเนื่อง  เพราะประเทศไทยยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ภาคการท่องเที่ยวยังคงเติบโต  ในอนาคตจะคัดอสังหาฯ ที่อยู่ในไพร์มโลเกชั่นเข้ามา หรือโครงการในกลุ่มทีซีซีที่พร้อมให้ผลตอบแทนเข้ามาในพอร์ต”  
วิธีเด็ดไล่ตุ๊กแก ให้รีบเผ่นหนีออกจากบ้าน

วิธีเด็ดไล่ตุ๊กแก ให้รีบเผ่นหนีออกจากบ้าน

บ้านไหนมีเจ้าตุ๊กแกลายพร้อยตัวใหญ่ แถมชอบร้องเสียงดังเวลากลางคืนบ้างครับ ด้วยลักษณะรูปร่างของความเป็นสัตว์เลื้อยคลานทำให้หลายคนคงขยาดกันน่าดู แต่เรามีวิธีไล่ตุ๊กแกแบบให้มันหนีไปเอง ซึ่งปลอดภัยหายห่วงแน่นอนครับ   ไล่ตุ๊กแกด้วยลูกเหม็น เริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดเลยครับ แค่เอาลูกเหม็นไปวางไว้ตามจุดที่ตุ๊กแกเคยผ่านหรืออาศัยอยู่ กลิ่นของลูกเหม็นจะทำให้มันหนีไปเอง กลิ่นฉุนจาก "ยาเส้น" ช่วยไล่ตุ๊กแก ลองหาซื้อยาเส้นสำหรับมวนบุหรี่สูบมามัดเป็นก้อนขนาดเท่าลูกปิงปอง แล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน หรือจะนำมาผสมน้ำแบบเข้มข้นหน่อยแล้วนำไปฉีดพ่นให้ทั่วตามบริเวณที่ตุ๊กแกเคยอยู่ โดยฉีดซ้ำๆ เมื่อกลิ่นเริ่มจางลงจะช่วยให้ ตุ๊กแกอพยพออกไปเองครับ น้ำมันเครื่องและน้ำมันพืช  นำน้ำมันเครื่องและน้ำมันพืชมาผสมกัน แล้วใช้แปรงหรือผ้าทาให้ทั่วบริเวณที่เคยเห็น ความลื่นของน้ำมันพืชจะทำให้ตุ๊กแกไม่สามารถยึดเกาะได้ ส่วนกลิ่นฉุนจากน้ำมันเครื่องก็จะช่วยไล่ตุ๊กแกออกไปจากแถวนั้นอีกครับ  ไล่ตุ๊กแกด้วยยี่โถ บ้านไหนมีต้นยี่โถก็ลองหักกิ่งมันออกมาแล้วนำไปปักไว้ตามจุดต่างๆ หรือจะใช้วิธีเด็ดใบของมันของมาขยี้ให้มีกลิ่นแล้วนำไปวางตามมุมแทนก็ได้ ใบน้อยหน่ากับใบสาบเสือก็ไล่ตุ๊กแกได้ อีกหนึ่งวิธีธรรมชาติครับ นำใบน้อยหน่ากับใบสาบเสือในปริมาณเท่าๆ กัน มาตำให้เข้ากันอย่างละเอียด แล้วนำผ้าบางๆ มาห่อไว้ไปแขวนตามมุมต่างๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน ไล่ตุ๊กแกให้เมายาด้วยปูนแดงผสมยาเส้น  วิธีสำหรับคนใจกล้าครับ โดยผสมปูนแดงให้เข้ากับยาเส้นแล้วนำมาพันที่ปลายไม้ จากนั้นก็เอาไปแหย่ให้ตุ๊กแกงับก็จะเกิดอาการเมายา แล้วให้รีบเอาไปทิ้ง   วิธีเหล่านี้เป็นวิธีง่ายๆ โดยใช้ของที่หาได้ทั่วไปมาไล่เจ้าตุ๊กแกให้ออกจากบ้านเราได้แบบปลอดภัยทั้งตุ๊กแกและตัวเราด้วยครับ อุปกรณ์ไล่ตุ๊กแกอื่นๆ Homepro วิธีไล่ตุ๊กแกและสัตว์ชนิดอื่น 6 วิธีเด็ดไล่ตุ๊กแก ให้รีบเผ่นหนีออกจากบ้าน ไล่จิ้งจกไปให้ไกลบ้าน ง่ายนิดเดียว วิธีไล่หนูบนเพดานบ้าน วิธีกำจัดมด ด้วยของใกล้ตัว
ถอดรหัสกระแสบ้านอัจฉริยะ

ถอดรหัสกระแสบ้านอัจฉริยะ

“อีไอซี ประเมินว่า นวัตกรรมใหม่ๆ ของอุปกรณ์ Smart home จะมีส่วนช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้คนมีความสะดวกสบายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในระยะเวลาอันสั้นราคาของอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถจับต้องได้มากขึ้น โดยมีแรงกดดันจากการเข้ามาในตลาดของผู้เล่นรายใหญ่จากประเทศจีน”   ท่ามกลางกระแสการพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนคำหลายๆคำกลายเป็น buzzwords ยอดฮิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นBlockchains, Big data, AI, Machine learning, 3D printing, Internet of Things (IoTs) และอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อเราในหลากหลายมิติ และองค์ประกอบที่แตกต่างกันออกไป หลายเทคโนโลยีดังกล่าวอาจจะฟังดูไกลตัวสำหรับบางคน แต่หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเป็นที่นิยมและจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของทุกคนอย่างมีนัยสำคัญ คือ การประยุกต์แนวคิด “Internet of Things” มาใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่อยู่รอบตัวเรา โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ภายในบ้าน หรือที่เรียกว่า “Smart home” บ้านอัจฉริยะ นั่นเอง   ย้อนไปไม่ถึง 10 ปี คอนเซ็ปท์บ้านอัจฉริยะอาจจะยังฟังดูเหมือนเรื่องในนิยายไซไฟอยู่เลย แต่ในปัจจุบันอุปกรณ์เหล่านี้กลายเป็นสินค้าที่วางขายทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งหลายๆชิ้นก็มีราคาถูกลงมามากจนผู้บริโภคทั่วไปสามารถเอื้อมถึง จากการประเมินของ IDC สถาบันวิจัยด้านการตลาดของสหรัฐฯระบุว่า จำนวนอุปกรณ์ Smart home ของโลก จะเติบโตประมาณ 31% ในปี 2018 หรือประมาณ 644 ล้านเครื่อง  โดย IDC คาดการณ์ว่า ภายในปี 2022 จำนวนของอุปกรณ์เหล่านี้จะเติบโตไปถึงเกือบ 1,300 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ซึ่งหากคำนวณเป็นมูลค่าแล้ว เราจะเห็นได้จากการประเมินมูลค่าตลาดของ Smart home ทั่วโลก จัดทำโดย A.T. Kearney ที่คาดการณ์ว่า ในปี 2025 ตลาด Smart home จะมีขนาดกว่า 263,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การศึกษายังระบุอีกว่า Smart home ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ใน 2 หมวดหลัก ๆ นั่นก็คืออุปกรณ์ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และอุปกรณ์ที่ตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัย   ปัจจุบันผู้ประกอบการในวงการอสังหาริมทรัพย์ มีการนำอุปกรณ์ Smart home มาใช้มากขึ้น เพื่อเป็นจุดขายในการตลาด เพราะการยกระดับคุณภาพชีวิตลูกค้าให้สะดวก ปลอดภัย สนุกสนาน และมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพของลูกค้า เป็นสิ่งที่สำคัญมากในเวลานี้   จากการสำรวจข้อมูลโดย Statista บริษัทวิจัยด้านการตลาดของเยอรมนี ระบุว่าสหรัฐฯ จัดเป็นประเทศที่มีการใช้อุปกรณ์ Smart home มากที่สุดในโลก โดย Home automation มีสัดส่วนมากที่สุด ตามมาด้วยอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ตามลำดับ โดยพบว่าการใช้งาน Smart home ส่วนใหญ่ เน้นไปในเรื่องการเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยเป็นสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางในไทย โดยเราจะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายราย เช่น แสนสิริ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และ เอพี ไทยแลนด์ ต่างลงทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีอุปกรณ์ Smart home ติดตั้งมาพร้อมกับตัวบ้านให้กับลูกค้า โดยอุปกรณ์ที่เริ่มมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น คือ Smart mirror กระจกอัจฉริยะ ที่สามารถ เปิดเพลง ดูวีดีโอจากโทรศัพท์ มีหน้าปัดแสดงเวลา บอกอุณหภูมิ หรือมี Bluetooth เพื่อใช้คุยโทรศัพท์ได้ และ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่กำลังมาแรงอย่างมาก ก็คือ Smart speaker หรือ ระบบการสั่งงานด้วยเสียง ที่เป็นเสมือนตัวเชื่อมกับอุปกรณ์ IoT อื่น ๆ ภายในบ้าน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัวของเจ้าของบ้าน หรือที่เรียกว่าVirtual assistant ในปัจจุบันผู้ผลิตอุปกรณ์ Smart home ต่างพัฒนาอุปกรณ์ให้สามารถเชื่อมต่อกับ Smart speaker กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Amazon Echo หรือ Google Home เป็นต้น   อีไอซีวิเคราะห์ 3 ปัจจัยสำคัญทางการแข่งขันที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ใช้ในการนำอุปกรณ์ Smart home มาปรับใช้กับที่อยู่อาศัยได้แก่ 1. การเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน (Embedded into everyday life) 2. สิ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจ (Wow factors) และ 3. การบริการหลังการขาย (Aftersales service)   ยกตัวอย่างเช่นการเชื่อมอุปกรณ์ Smart home ต่าง ๆ ให้สามารถ monitor ได้ จาก Smartphone ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเรื่องความปลอดภัย การบริหารการใช้พลังงานภายในบ้าน เช่น ระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า และการบริหารด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เช่น การเชื่อมจอของ Smartphone เข้ากับทีวี หรือ Smart mirror ในห้องน้ำเพื่อให้สามารถรับชมรายการที่เรากำลังติดตามอย่างไม่มีสะดุด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการพยายามเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยให้ได้มากที่สุด รวมถึงเป็นการสร้าง Wow factors เพื่อใช้เป็นจุดขายในการโปรโมทสินค้า   ในขณะเดียวกัน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ อย่างผ้าม่าน ล้วนต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้พัฒนาโครงการจึงให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายมากขึ้น ความสามารถของเทคโนโลยีถูกนำมาใช้ในการ monitor การใช้งานของเครื่องใช้เหล่านี้ เพื่อเชื่อมต่อกับการบริการซ่อมบำรุง ทำให้เกิดความสะดวก และยืดอายุการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนการซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศผ่าน Smartphone พร้อมบริการเรียกช่างให้มาล้างทำความสะอาดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม   อย่างไรก็ดี ในการนำฟังก์ชันต่าง ๆ ของ Smart home มาใช้ ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงความกังวลใจเรื่อง ความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค (consumer privacy) โดยมีการอธิบายวิธีการเก็บข้อมูลและนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างมีขั้นตอน พร้อมทั้งการตั้งค่าการลบข้อมูลที่ลูกค้าไม่ต้องการให้ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ผลสำรวจจาก Parks Associates บริษัทชั้นนำด้านการวิเคราะห์ตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้บริโภคกว่า 80%มีความต้องการใช้อุปกรณ์ Smart home มากขึ้น และเชื่อว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของพวกเขาภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่นำอุปกรณ์ Smart home มาใช้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการอธิบายเรื่องการจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้อย่างจริงจังกับผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจใช้งาน   อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงสำหรับการนำอุปกรณ์ Smart home มาติดตั้งให้กับผู้บริโภค คือ ช่วงอายุของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยผลสำรวจจาก Gfk Smart home study 2018 ระบุว่า ในสหรัฐฯ ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Smart home ในกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ส่วนใหญ่ชอบเลือกอุปกรณ์ Smart home และติดตั้งด้วยตัวเอง เพราะมองว่าสะดวกกว่าในการดูแลรักษา อีกทั้งยังมีทางเลือกที่มากกว่า ในขณะที่กลุ่มที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ชอบที่ Smart home มีการติดตั้งมาพร้อมกับตัวบ้าน โดยผลสำรวจยังระบุอีกว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการ ให้ระบบของอุปกรณ์ Smart home หลาย ๆ ชิ้น ที่อาจจะมาจากผู้ผลิตต่างแบรนด์ สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้ (standardized communication) ซึ่งในปัจจุบัน อุปกรณ์ต่างแบรนด์ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำได้   หากมองไปในระยะถัดไป อีไอซีมองว่า 4 เทรนด์หลักที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาตลาด Smart home ทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วย ได้แก่ 1. การบำรุงรักษาแบบคาดคะเน (Predictive maintenance) 2. การสั่งงานด้วยเสียง (Voice command) 3. การคาดการณ์แนวโน้มพฤติกรรม (Behavior prediction) และ 4. Smart home ในราคาที่จับต้องได้ (Affordable Smart home)   1.การบำรุงรักษาแบบคาดคะเน (Predictive maintenance) หมายถึง การติดตั้งระบบที่สามารถ monitor การเปลี่ยนแปลงของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องวัดคุณภาพอากาศ (Air quality monitor) เพื่อแจ้งเตือนให้ทำความสะอาดในบริเวณที่เริ่มสกปรกและมีฝุ่น ซึ่งการติดตั้งระบบดังกล่าวนี้ช่วยให้ปัญหาการซ่อมบำรุงลดลง เพราะเจ้าของบ้านสามารถรู้สถานะก่อนที่เครื่องใช้ต่างๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือรอการแก้ไข   2.การสั่งงานด้วยเสียง (Voice command) ในเวลานี้ การสั่งงานด้วยเสียงต้องมีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น (User-friendly) โดย command language ที่ใช้กับ Smart speaker ต้องสามารถเข้าใจวิธีการสั่งงานด้วยคำพูดที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ (near human-like natural language processing) และที่สำคัญต้องสามารถสื่อสารด้วย  สำเนียงหรือวิธีการพูดที่หลากหลาย โดยในปัจจุบันมีStartup ในไทย พัฒนา Smart speaker ที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยแล้ว บริษัทวิจัยตลาดชื่อดัง Comscore ได้ประเมินตัวเลขการ search online ทั่วโลกไว้ว่า ภายในปี 2020 50% ของการ search จะเป็นการ search ด้วยเสียง   3.การคาดการณ์แนวโน้มพฤติกรรม (Behavior prediction) การประยุกต์ใช้ Artificial Intelligence (AI) เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ Smart home โดยพฤติกรรมเหล่านี้จะถูกนำมารวมกันเป็นกลุ่มและจัดระบบเป็น Timeline ในการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น หากเจ้าของบ้านขับรถเข้าถึงซอยบ้านอาจจะมีการแจ้งเตือนมาทาง Smartphone ว่าเจ้าของบ้านมีความต้องการที่จะเปิดไฟหน้าบ้าน และเปิดเครื่องปรับอากาศในพื้นที่ที่คาดว่าจะถูกใช้งาน รวมไปถึงเตรียมเปิดรายการทีวีที่ชื่นชอบรอไว้ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถทำกิจวัตรที่ต้องการได้ทันทีที่เข้ามาถึงบ้าน   4.Smart home ในราคาที่จับต้องได้ (Affordable Smart home) การเข้ามาในตลาด Smart home ของผู้เล่นรายใหญ่จากประเทศจีน เช่น Xiaomi และ Alibaba ที่ต่างมี  อุปกรณ์ไฮเทคมากมายวางขายในท้องตลาด โดยสินค้าส่วนใหญ่มีราคาเพียงหลักร้อย หรือหลักพัน ทำให้ตลาด Smart home ทั่วโลกคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนแบ่งตลาด Smart speaker ของโลก ของเจ้าตลาด อย่าง Amazon ลดลงถึงครึ่งหนึ่ง (จากประมาณ 80% มาอยู่ที่ประมาณ 40%) ในปี 2018 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าในอนาคตข้างหน้าการแข่งขันด้านราคาจะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น     ในประเทศไทย กระแสบ้านอัจฉริยะเริ่มจากการค่อย ๆ เข้ามาจับลูกค้าชนชั้นกลางที่มีรายได้และมีกำลังซื้อ ความร่วมมือใหม่ ๆ ระหว่างเจ้าของเทคโนโลยีกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วมกันสร้างโครงการที่อยู่อาศัยอัจฉริยะ รวมไปถึงพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อดูแลระบบเพื่อใช้ในการดูแลภายในโครงการและในบ้าน   จากผลสำรวจข้อมูลผู้บริโภคของอีไอซี จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 7,701 คน พบว่า Smart home จะกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญมากขึ้น ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่ และเมื่อวิเคราะห์ถึงประเภทของอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคสนใจ จะพบว่าราว 77% ของผู้ตอบแบบสำรวจอยากให้มีระบบเตือนภัยอัจฉริยะภายในที่พักอาศัย ในขณะที่ราว 73% ต้องการให้มีระบบช่วยควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าและจัดการพลังงานภายในบ้านเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค   เป็นที่แน่ชัดว่า ในอนาคต Smart home จะกลายเป็น new normal เราจะเห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ถูกนำมาใช้มากขึ้นในตลาดไทย อุปกรณ์ Smart home กำลังจะก้าวผ่านการเป็นเพียงอุปกรณ์ยอดฮิตอย่าง Smart TV และ กล้องวงจรปิด ไปสู่อุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย และในไม่ช้าสินค้าเหล่านี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างไม่ทันตั้งตัว        
ตรุษจีนนี้ ทำความสะอาดบ้านต้อนรับความเฮง

ตรุษจีนนี้ ทำความสะอาดบ้านต้อนรับความเฮง

เทศกาลตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของจีน ถือเป็นฤกษ์มหามงคลสำหรับครอบครัวเชื้อสายจีน ที่ก็มักจะปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมที่สืบต่อกันมา ซึ่งช่วงก่อนจะตรุษจีนนี้มีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า เราจะต้องทำความสะอาดบ้าน เพื่อขจัดสิ่งอัปมงคลของปีที่ผ่านมาทิ้งไป เปิดพลังงานต้อนรับโชคลาภ สิ่งดีๆ ให้เข้ามาไหลเวียนในชีวิตตลอดทั้งปี ในทางกลับกันช่วงตรุษจีนเราจะไม่ทำความสะอาดบ้านกันนะคะ เพราะจะไปกวาดเงินกวาดทองออกจากบ้านไปเสียหมด เราจึงเอาเคล็ดลับการทำความสะอาดบ้านต้อนรับความเฮงมาฝากกันค่ะ   หน้าบ้าน เริ่มกันตั้งแต่หน้าบ้านเลยค่ะ เพราะเป็นจุดเริ่มแรกในการต้อนรับความเฮง ปัดกวาด เช็ดถู อย่าให้อะไรมาขวางทางเดินนะคะ จะได้ไม่มีอะไรมาขัดโชคลาภให้เข้ามา   ห้องนอน อีกหนึ่งห้องที่มีความสำคัญมากในบ้านของทุกคน ให้ทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนให้สะอาด กำจัดฝุ่น พยายามทำให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก จะช่วยทั้งด้านเสริมความสัมพันธ์ที่ดีของคนในบ้าน และสุขภาพด้วยค่ะ   ห้องน้ำ ห้องน้ำถือเป็นอีกหนึ่งห้องที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค จึงต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อะไรที่ไม่ได้ใช้แล้วให้ทิ้งไปค่ะ อย่าเก็บกองๆ เอาไว้ ตามความเชื่อก็เพื่อปัดเป่าพลังงานด้านลบให้ออกไปจากบ้านเราค่ะ   ห้องครัว อยากจะเรียกโชคลาภทรัพย์สินให้เข้าบ้านต้องโฟกัสกันที่ห้องครัวเลยค่ะ เริ่มจากทำความสะอาดจาน-ชาม เก็บให้เรียบร้อยเป็นระเบียบ ใบไหนที่มีรอยร้าว รอยบิ่นให้ทิ้งไปค่ะ ไม่ต้องเสียดาย เพราะเชื่อว่าจะนำความอัปมงคลมาให้ การงานก็แย่ตามไปด้วย   เพียงเท่านี้ นอกจากบ้านของเราจะสะอาดเอี่ยมน่าอยู่ แถมได้โชคลาภ เสริมความเฮงจากความเชื่อที่เกี่ยวกับวันตรุษจีนนี้ด้วยนะคะ        
ฮวงจุ้ยบ้าน ทิศเด่น ตำแหน่งบ้านปัง ปี 62

ฮวงจุ้ยบ้าน ทิศเด่น ตำแหน่งบ้านปัง ปี 62

ที่อยู่อาศัยกับความเชื่อด้านฮวงจุ้ยเป็นของคู่กันมายาวนาน มีทั้งบ้านที่ทำฮวงจุ้ยแล้วเจริญรุ่งเรืองขึ้นทันตาเห็น และแบบที่ทำแล้วไม่เกิดผลอะไรเลยก็มีให้เห็น สาเหตุหลักของปัญหานี้ อ.ธนากร ตันอาวัชนการ (ซินแสมังกร) บอกเอาไว้ว่าเกิดจากการใช้เข็มทิศวางตำแหน่งแบ่งทิศไม่ถูกต้อง ซึ่งในบทความนี้เรามีวิธีดูอย่างง่ายๆ มาฝากกันค่ะ   Cr.ภาพจากหนังสือ เสริมดวงชะตาประจำปี 2562 อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ฮวงจุ้ยบ้าน แบ่งตาม 8 ทิศ ทิศทางของฮวงจุ้ยจะแบ่งออกเป็น 8 ทิศ ทิศละ 45 องศา รวมกันเป็นวงกลม 360 องศาพอดี ซึ่งถ้านับวนไปตามเข็มนาฬิกาก็จะได้แก่ ทิศใต้-ทิศตะวันตกเฉลียงใต้-ทิศตะวันตก-ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ทิศเหนือ-ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ทิศตะวันออก-ทิศตะวันออกเฉียงใต้   Cr.ภาพจาก Application Compass 360 Pro ดูฮวงจุ้ยบ้านเบื้องต้นได้เอง เอาแบบง่ายๆ เลยนะคะ ถ้าเราจะลองดูทิศทางฮวงจุ้ยในบ้านของเราด้วยตัวเอง ให้ตัวเรายืนอยู่กลางบ้านหรือถ้าอยู่คอนโดฯ ก็ยืนกลางห้องแล้วถือเข็มทิศ (โหลด App เข็มทิศในสมาร์ทโฟนก็ได้ค่ะ) โดยปกติแล้วเข็มทิศจะชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ จากนั้นเราก็หมุนตัวเข็มทิศ ให้ชี้ตรงกับตำแหน่ง N (ตัวอย่างภาพด้านบน) จากนั้นก็แบ่งทิศของบ้านเราไปตามทิศทางฮวงจุ้ยทั้ง 8 ทิศ แบบภาพตัวอย่างแรกค่ะ     โดยตำแหน่งทั้ง 8 ทิศ ประจำปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11.28 น. ไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 7.18 น. จะตรงกับนักษัตรกุน หรือเป็นปีหมูไม้ นั่นเองค่ะ ซึ่งสรุปทิศที่ดีและไม่ดี ดังนี้   ทิศมงคล : กลางบ้าน, ทิศตะวันออก, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ, ทิศเหนือ ทิศอัปมงคล : ทิศตะวันออกเฉียงใต้, ทิศใต้, ทิศตะวันตกเฉียใต้, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศมงคลและอัปมงคล : ทิศตะวันตก (มีทั้งดีและร้าย)   ตามความเชื่อแล้วในทิศอัปมงคลเราสามารถแก้ไขให้อ่อนแรงลงได้ ขณะเดียวกันในทิศมงคลก็เสริมให้ดียิ่งขึ้นไปได้เช่นกันค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ทิศมงคลตะวันตกเฉียงเหนือ ให้วางปี่เซี๊ยะหยกคู่, ทิศมงคลเหนือให้วางเจดีย์บนฐานหยินหยาง เป็นต้น   Cr.ข้อมูลจากหนังสือ เสริมดวงชะตาประจำปี 2562 อ.ธนากร ตันอาวัชนการ รวมฮวงจุ้ยบ้านจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ (ซินแสมังกร) ตำแหน่งขุมทรัพย์ ตามหลักฮวงจุ้ยอยู่ตรงไหนเอ่ย ประตูหน้า-ประตูหลัง นั้นสำคัญไฉน อะไรคือจุดสำคัญของครัว?    
รื้อถอนอาคาร ต้องรู้อะไรบ้าง?

รื้อถอนอาคาร ต้องรู้อะไรบ้าง?

ถ้าใครลองสังเกตอาคารขนาดเล็กอย่างพวก อาคารพาณิชย์ ทาว์นเฮ้าส์ ตามถนนสายต่างๆ ในบ้านเราดูก็จะเห็นว่า หลายอาคารเลยค่ะที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม บางอาคารก็ปล่อยทิ้งร้างขาดคนดูแล เมื่อถึงเวลาก็ย่อมต้องทำการรื้อถอนก่อนจะพังลงมา ซึ่งถือว่าอันตรายมากนะคะ เพราะส่วนมากอาคารเหล่านี้จะอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีคนพลุกพล่านอยู่เกือบตลอดเวลา และก็มีไม่น้อยเช่นกันที่เกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิต วันนี้เราจึงนำขั้นตอนการรื้อถอนอาคารที่ถูกต้องมาให้ดูกันทีละขั้นตอนค่ะ  ก่อนอื่นเลยเรามาดูกันค่ะว่า อาคารที่ต้องขออนุญาตก่อนการรื้อถอนนั้นเป็นอย่างไร พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แก้ไขโดย พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 22 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดจะรื้อถอนอาคารดังต่อไปนี้ ต้องได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ท้องถิ่นหรือแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นและดำเนินการตามมาตรา 39 ทวิ   1.อาคารที่มีส่วนสูงเกินสิบห้าเมตร ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารอื่นหรือท่ีสาธารณะน้อยกว่าความสูงของอาคาร   2.อาคารที่อยู่ห่างจากอาคารอื่นหรือที่สาธารณะน้อยกว่าสองเมตร ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า   กรณีอาคารสูงเกิน 15 เมตร หากอยู่ห่างจากอาคารอื่นๆ หรือที่สาธารณะน้อยกว่าระยะความสูงของอาคารจะต้องขออนุญาต แต่ถ้าอยู่ห่างอาคารอื่นๆ เป็นระยะเท่ากับหรือมากกว่าความสูงของอาคารไม่ต้องขออนุญาต   กรณีอาคารทั่วไป หากอยู่ห่างจากอาคารอื่นๆ หรือที่สาธารณะ น้อยกว่า 2 เมตร หากจะทำการรื้อถอนจะต้องขออนุญาต แต่ถ้าอยู่ห่างอาคารอื่นๆ ตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไปก็ไม่ต้องขออนุญาต   ขั้นตอนการขออนุญาตรื้อถอน ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร 1.ผู้ขออนุญาตจะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาต ที่สํานักงานเขตพื้นที่หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ของอาคารที่จะทำการรื้อถอน โดยจะต้องมีเอกสาร ดังนี้ - แบบคําขออนุญาตรื้อถอนอาคาร - สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งแสดงวัตถุประสงค์และผู้มีอํานาจลงชื่อแทน นิติบุคคลที่หน่วยงานซึ่งมีอํานาจรับรองออกให้ไม่เกิน6เดือน (กรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้ขออนุญาต) - สำเนาบัตรประจําตัวประชาชน และสําเนาทะเบียนบ้านของผู้แจ้งความประสงค์ - สําเนา หรือภาพถ่ายโฉนดที่ดินขนาดเท่ากับต้นฉบับจริง - แผนผังบริเวณ แบบแปลนของอาคารที่จะรื้อทุกชั้น - รายการประกอบแบบ (ลอกตามแบบราชการ) รายละเอียดวัสดุที่ใช้สร้างอาคาร, ตามหฏหมายหลักการรื้อถอนไม่เกิน 45 วัน - หนังสือแสดงความยินยอม และรับรองของสถาปนิก, วิศวกรผู้ออกแบบและคํานวณ และสำเนาใบประกอบวิชาชีพของสถาปนิกและวิศวกรผู้ออกแบบ (ใช้สำหรับกรณีที่เป็นอาคารควบคุมตามกฎหมายควบคุมการประกอบวิชาชีพ) - หนังสือแสดงความยินยอมและรับรองของผู้ควบคุมงานของสถาปนิกและวิศวกร พร้อมสําเนาใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพฯ กรณีเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล ตลาดสด ภัตตาคาร อาคารชุด หอพัก และอาคารที่เกี่ยวกับกิจการค้าอันเป็นที่น่ารังเกียจ ต้องแสดงแบบระบบบําบัดน้ําเสีย และรายการคํานวณระบบ บําบัดน้ําเสีย   2.ชำระค่าธรรมเนียมวันยื่นแจ้ง   3.เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจพิจารณาเอกสารประกอบการขออนุญาต   4.เมื่อจ้าพนักงานท้องถิ่นทำการตวรจสอบเรียบร้อยแล้วก็จะออกใบอนุญาต และแจ้งให้ผู้ขอมารับใบอนุญาตรื้อถอนอาคาร เมื่อได้ใบอนุญาตมาแล้วก็จะต้องมีสิ่งที่ต้องทำก่อนลงมือรื้อถอนค่ะ 1.ติดป้ายหน้าโครงการ แสดงรายละเอียดตามที่พระราชบัญญัติควบคุมอาคารกําหนด   2.ต้องมีใบอนุญาตก่อสร้างพร้อมแบบแปลนอยู่ที่สถานที่ก่อสร้าง   3.แจ้งชื่อผู้ควบคุมงาน รวมถึงวันเริ่มต้นจนถึงวันสิ้นสุดการดําเนินการ และหนังสือแสดงความยินยอมของผู้ควบคุมงานกลับไปที่สถานที่ใบอนุญาตอีกครั้ง   ขั้นตอนทุกอย่างทำไปก็เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติงานเองหรือประชาชนรอบๆ พื้นที่ ซึ่งหากทำการรื้อถอนโดยไม่ขออนุญาตก็มีโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน และยังมีโทษปรับวันละไม่เกินวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะทำการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ดังนั้น ทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจตามมาภายหลังค่ะ   Cr.ข้อมูลจาก parliament.go.th bangkok.go.th บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อยากได้เงินมาซ่อมบ้าน ต้องทำอย่างไร  1 ใน ลูกค้าบ้านเอสซีจี ไฮม์กว่าพันครอบครัว กับความประทับใจใน 4 ฟังก์ชั่นตอบโจทย์การอยู่อาศัย หนาวแล้วได้เวลาตรวจเช็คบ้าน 5 จุดสำคัญ
จัดห้องนอนต้อนรับโชคปีกุน

จัดห้องนอนต้อนรับโชคปีกุน

สวัสดีปีกุน 2019 ค่ะ ในปีนี้ Reviewyourliving ก็ไม่ลืมที่จะนำเอาเคล็ดลับ ความรู้ ไลฟ์สไตล์สุดเก๋ มาฝากทุกคนอีกเช่นเคย เริ่มต้นปีกันด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่เชื่อว่าหลายคนก็อยากให้ไหลมาเทมาเข้ากระเป๋าให้ตุงกันถ้วนหน้า วันนี้เราเลยนำเคล็ดลับจัดห้องนอนของเราให้มีอิทธิพลต่อการดึงดูดโชคลาภเงินทองตามความเชื่อทางฮวงจุ้ยมาฝากกันค่ะ   1.เลือกตำแหน่งห้องนอน ถ้าเราสามารถเลือกตำแหน่งของห้องนอนในบ้านได้ ก็อยากจะแนะนำห้องที่อยู่ห่างจากประตูทางเข้าหลักของบ้านมากที่สุดค่ะ เพราะจะช่วยให้ความรู้สึกที่มั่นคง ปลอดภัย แต่ถ้าหากห้องนอนของใครอยู่ใกล้กับประตูล่ะก็ ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เรายังมีคำแนะนำอื่นที่ยังสามารถเสริมโชคลาภได้เช่นกันใน ลองติดตามในข้อต่อๆ ไปดูค่ะ     2.วางต้นไม้มงคลเรียกเงินทอง ช่วยผ่อนคลาย ข้อนี้จะช่วยได้ดีทั้งเรื่องความโชคดี เรียกเงินทองเข้าบ้าน ช่วยดูดซับความเมื่อยล้า เช่น ไผ่ต้นเล็กในกระถาง, Juniper bonsai บอนไซที่ทำจากต้นสนจูปิเตอร์, ต้นศุภโชค, ต้นคลาสซูล่า ฯลฯ ซึ่งในบ้านเราก็หาได้ไม่ยากค่ะ และถ้าต้องการกระชับความสัมพันธ์กับคนที่คุณรักแล้วล่ะก็ ลองหาสีชมพู สีแดง มาช่วยเสริมด้วยก็จะช่วยได้ดี แต่ถ้าไม่ชอบสีจัดๆ แรงๆ ก็ลองมองหาสีส้ม หรือสีเหลืองมาช่วยแทนก็ได้นะคะ อาจจะใช้เป็นสีของกระถางต้นไม้ก็ได้   3.ใครยังโสดมีเคล็ดเรื่องคู่ ของในห้องให้วางเป็นคู่กันหรือของที่ดูสมมาตรกันจะช่วยให้โชคลาภ การเงินสมดุล เช่น โคมไฟหัวเตียงให้วางทั้งสองฝั่งของเตียง, วางเทียนไว้คู่กัน, พืชใบกลม หรือใครที่มีคู่อยู่แล้วก็เสริมความรักให้ดีขึ้นด้วยสีแดง หรือสีชมพูเอาไว้รอบเตียง     4.อย่าวางอะไรไว้ใต้เตียง พยายามอย่าวางสิ่งของใว้ใต้เตียง เพราะตามความเชื่อแล้วจะเป็นการปิดกั้นพลังงานทำให้โชคไม่ดี แถมยังไปสร้างความเหนื่อยล้าให้กับชีวิตด้วย และควรจะปล่อยให้มีที่ว่างรอบเตียงเพื่อพลังงานไหลเวียนที่ดี ในทางปฏิบัติจะไปช่วยให้เราสะดวกเวลาเดินมากกว่าให้เตียงชิดกำแพง และไม่หันปลายเตียงไปตรงกับประตู เพราะตามความเชื่อแล้วจะหมายถึงตำแหน่งความตายค่ะ     5.สร้างพลังชีวิตด้านบวก หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Energy Healing ศาสตร์ที่เรียกว่าเป็นการบำบัดรักษาด้วยพลังงานธรรมชาติของมนุษย์เอง ซึ่งถ้าลองใช้สีครีม สีพีช สีฟ้าอ่อน สีเขียว หรือสีลาเวนเดอร์ จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนของเราอบอุ่นขึ้น ตามความเชื่อก็ช่วยเรื่องพลังงานบำบัดนี้ และยังสร้างความมั่งคั่งในชีวิตด้วย     6.เอาของดูดพลังงานชีวิตออกจากห้องนอน ถ้าเป็นไปได้ก็ย้ายคอมพิวเตอร์, จอทีวี และอุปกรณ์ออกกำลังกาย ออกจากห้องนอนของเราไปซะ เพราะจะไปดูดพลังงานชีวิตของเราออกจากช่วงเวลาพักผ่อน แนะนำให้วางหนังสือสัก 1-2 เล่ม เอาไว้ข้างโต๊ะหัวเตียงแทน ถ้าใครอยู่หอพักหรือคอนโด ก็ลองหาผ้ามาคลุมเอาไว้ตอนไม่ได้ใช้งานค่ะ     7.วางเตียงให้ห่างจากประตูห้อง ไม่ควรจะวางเตียงไว้ใกล้กับประตูห้อง หรือตรงกับแนวประตูห้อง รวมถึงวางไว้ใต้หน้าต่าง ไม่ควรให้หัวเตียงติดผนังเดียวกับห้องน้ำ และไม่นอนใต้เครื่องปรับอากาศ เพราะจะทำให้มีเรื่องต้องเสียเงินเสียทอง   8.หาอะไรหมูๆ มาไว้ในห้อง 2019 ขึ้นชื่อว่าปีหมู ลองหารูปภาพ หุ่นเล็กๆ หรืองานศิลปะอะไรก็ได้ที่เป็นรูปหมูมาประดับในห้อง     9.ระวังกระจกเงา ไม่ควรวางกระจกเงาให้สะท้อนเตียงนอน ไม่ว่าจะปลายเตียงหรือข้างเตียงก็ตาม เหตุด้วยตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว กระจกจะไปสะท้อนพลังงานทั้งหมดในห้อง ซึ่งหากพลังงานทั้งดีและไม่ดีสะท้อนมาหาคนบนเตียงมากเกินไปจะเกิดความไม่สมดุลกันของพลังงาน ส่งผลกระทบหลายๆ ด้าน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็หาผ้ามาคลุมเอาไว้เมื่อไม่ได้ใช้งานค่ะ   10.แสงสว่างแบบพอดีๆ แสงสว่างเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับฮวงจุ้ยค่ะ ลองใช้ผ้าม่านหรือมูลี่ที่สามารถเปิดได้อย่างสะดวกในตอนเช้า เพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องนอนได้ง่าย และปิดได้ง่ายเช่นกันในช่วงกลางคืน เพื่อบล็อคความมืดจากภายนอก เป็นการสร้างสมดุลที่จะช่วยเรื่องโชคลาภเงินทองให้ดีขึ้น และยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับพักผ่อนได้ดีตามไปด้วยค่ะ     ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับการจัดห้องนอนตามหลักความเชื่อฮวงจุ้ยแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ นอกจากเชื่อว่าจะช่วยด้านการเงินแล้ว ยังไปเกี่ยวข้องกันกับหลายๆ เรื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านความสัมพันธ์ หรือสุขภาพเองก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ     Cr. thechinesezodiac.org            
X’mas แล้วววว จูงมือแฟนไปดูไฟที่ไหนดี??

X’mas แล้วววว จูงมือแฟนไปดูไฟที่ไหนดี??

"สี่แยกราชประสงค์" เมื่อเอ่ยชื่อนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอนจริงไหมคะ? ด้วยความเป็นทั้งแหล่งเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนกันมาอยู่เป็นประจำตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงปลายปีแบบนี้ก็ยิ่งหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่ชอบมาเดินเล่น มาช้อปปิ้ง หรือมาหาอะไรทานก็มีไม่น้อยค่ะ แต่ถ้าโฟกัสไปที่ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ในบ้านเราแล้วล่ะก็ เชื่อเหลือเกินค่ะว่าแถวสี่แยกราชประสงค์จะต้องเป็นชื่อที่ผุดขึ้นมาในใจเป็นอันดับแรกเลยทีเดียว ยิ่งถ้าใครชอบถ่ายรูปแล้วล่ะก็ รีบมานะคะก่อนเหล่าไฟประดับทั้งหลายจะหมดลงไปตามเทศกาล เราไปเดินเล่นหามุมถ่ายรูปด้วยกันเลยค่ะ   บรรยากาศช่วงเย็นย่ำแบบนี้ ท้องฟ้าจะเริ่มไร้แสงอาทิตย์กันตั้งแต่ช่วง 6 โมงเย็น โดยจาก BTS สถานีชิดลม เราเริ่มเดินเล่นกันที่ฝั่ง Amarin Plaza บริเวณหน้าประตูห้างสรรพสินค้าเขาจัดงาน Amarin Villa De Rabbit ให้ได้ร่วมลุ้นของรางวัล ใครที่เป็นแฟนๆ เหล่า Line Character แล้วล่ะก็ต้องปลื้มแน่นอนค่ะ งานมีถึงวันที่ 7 มกราคม 2562 นะคะ   เดิน Sky walk กันต่อจนเชื่อมเข้ากับ CentralWorld ที่ทุกๆ ปีจะต้องมีสัญลักษณ์ต้น Christmas ซุ้มสวยๆ สำหรับถ่ายรูปกันทุกปี ซึ่งปีนี้ไฮไลท์จะอยู่ที่ม้าหมุนจาก Swarovski ราคารอบละ 150 บาท/คน โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตรมอบให้แก่ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ มูลนิธิบ้านเด็กเร่ร่อนครูมุ้ย และสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต เป็นครั้งแรกในโลกของ Swarovski ค่ะ และที่ลืมไม่ได้ก็คงจะเป็นลานเบียร์จากหลากหลายค่าย เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งพื้นที่ลานหน้าห้างกันเลยทีเดียว   จากบริเวณหน้า CentralWorld ลองหยุดเดินแล้วเงยหน้าขึ้นไปดูความตระการตาบนตึก 60 ชั้น ของ Magnolias Ratchadamri Boulevard บนถ.ราชดำริ กันดูค่ะ เพราะมีการยิงเลเซอร์บนตัวอาคารโดยใช้เทคนิคสื่อผสม 3D Projection Mapping&Multi-color Laser Lighting Show กว่า 250 ภาพ บนคอนเซ็ปต์ Beautiful Bangkok @Magnolias Ratchadamri Boulevard ซึ่งจะฉายวันละ 7 รอบ เริ่มตั้งแต่ 19.00/19.20/19.40/20.00/20.20/ 20.40 และ 21.00 น. ไปจนถึงคืนวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 23.55 น.     ข้ามมาที่ฝั่ง Gaysorn Village กันบ้างค่ะ ถ้าใครที่คิดว่าฝั่งหน้า CentralWorld ดูคนเยอะจนเกินไปแล้วล่ะก็ เราแนะนำให้ลองมาหามุมถ่ายรูปที่ Gaysorn กันบ้างค่ะ ผู้คนจะบางตากว่ามากไม่มีคนเดินผ่านกล้องไปมาให้เสียอารมณ์ แต่ก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ด้วยเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นจุดทางเชื่อมกับ Sky walk ฝั่งตรงข้ามกับ CentralWorld หรือฝั่งบีทีเอส ภายในห้างสรรพสินค้าเอง และลานเบียร์เล็กๆ ตรงกลางค่ะ   ปิดท้ายกันด้วยหน้าโรงแรม InterContinental Bangkok ที่จะได้ภาพสีโทนไฟแบบ Cool White ต่างจากจุดอื่นๆ ที่เป็นไฟโทน WarmWhite เสียส่วนใหญ่     ภาพรวมของช่วงคริสมาสต์ปี 2018 นี้ ย่านราชประสงค์ยังคงคึกคักเช่นเคย จนเรียกได้ว่าเป็น Christmas Landmark ในบ้านเราเลยทีเดียวค่ะ