Fd Feature 11

รู้จัก Yield Farming เพื่อการลงทุนคริปโทให้กำไรงอกเงย [VDO]

Categories : Life+Style
Tags : , ,

Yield Farming เพื่อการลงทุนคริปโท

เชื่อว่าผู้ที่สนใจในการลงทุนเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency สิ่งหนึ่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญ คือ การได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนหรือทำกำไรสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ไม่มีใครอยากลงทุนแล้วต้องขาดทุนแน่นอน ซึ่งการลงทุนในเงินดิจิทัลเพื่อให้ได้กำไร สิ่งสำคัญ คือ นักลงทุนคงต้องมีความรู้และความเข้าใจในการลงทุน และเครื่องมือที่จะมาช่วยสร้างผลตอบแทน ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอ เครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้นักลงทุน สามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุด หรือทำกำไรจากการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้นได้ นั่นคือ Yield Farming

Yield Farming  คือ ​แพลตฟอร์มการลงทุน ที่จะเข้ามาช่วยนักลงทุนที่มี เงินทุน หรือ Capital ในรูปแบบ Cryptocurrency เช่น ETH, Dai, LINK โดยตัวแพลตฟอร์ม Yield Farming จะเข้ามาช่วยนักลงทุนในการใช้สินทรัพย์ที่เขามีอยู่ คือ Cryptocurrency ในการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงที่สุด โดยตัว Yield Farming จะเอาตัวเงินลงทุนไปลงทุนในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Compound, Aave, Uniswap, Balancer หรือตัวแพลตฟอร์ม DiFi อื่น ๆ เพื่อแสวงหาผลตอบแทนสูงสุดให้กับเจ้าของเงินลงทุน

ส่วนวิธีการลงทุนก็มีไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มนั้น ๆ ว่ามีรูปแบบการลงทุนอะไรบ้าง สำหรับวิธีการลงทุน มีทั้ง Liquidity Mining, Lending, การให้กู้ยืมหรือการให้กู้ รวมถึงการ Staking ตัว Token ที่ได้มาด้วย โดยตอนนี้ก็มีตัว Yield Farming หลายรูปแบบที่ให้เราได้ไปลองลงทุนกันดู ซึ่งผลตอบแทนและความเสี่ยง ก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละ Liquidity Pool

 

 

ใช้ Yield Farming เพื่อลงทุนให้ได้กำไรสูงสุด

เพื่อความเข้าใจการลงทุนโดยใช้ Yield Farming จะขอนำเสนอผ่านตัวอย่างรูปแบบการลงทุน ดังนี้

ตัวอย่างแรก เป็นตัวอย่างง่าย ๆ สำหรับการลงทุน คือ

สมมติให้มีตัว yDai pool ซึ่งทำหน้าที่ในการนำตัว Dai ที่นาย A ทำการฝากเข้าไว้ในพลูนี้ แล้วตัว Dai ไปปล่อยกู้ในแพลตฟอร์ม ที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุด จากตัวอย่าง สมมติ มีแพลตฟอร์ม Compound กับ Aave ตัว Compound มีการให้อัตราดอกเบี้ย สำหรับผู้ที่มาปล่อยกู้ในแฟลตฟอร์มที่ 4% ต่อปี ขณะที่ Aave ให้อัตราดอกเบี้ย 3.5% ตอนแรก Compound จะให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า Aave เพราะฉะนั้น ตัว yDai จะนำตัว Dai มาปล่อยกู้ในแพลตฟอร์ม Compound ก่อน เพราะ ตอนแรก Compound ให้อัตราดอกเบี้ยเยอะกว่า สมมติว่า อัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นในวันที่ 1

 

ถัดมาวันที่ 2 อัตราดอกเบี้ยใน Compound ลดเหลือแค่ 3.2% ในขณะที่ Aave อัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 5.1% จะเห็นว่าวันที่ 2 นี้ ตัวอัตราดอกเบี้ยบนแพลตฟอร์ม Aave สูงกว่า Compound พอเป็นแบบนี้ ตัว yDai จะทำการโยก Dai ที่ปล่อยกู้ในแพลตฟอร์ม Compound กลับคืนมา แล้วเอาตัว DAI ไปปล่อยกู้ในแพลตฟอร์ม​ Aave จะทำให้วันที่ 2 ตัว DAI จะถูกโยกไปที่ตัว Aave

 

สมมติวันที่ 3 อัตราดอกเบี้ยบนแพลตฟอร์ม Compound เท่ากับ 4% เท่ากับอัตราดอกเบี้ยบน แพลตฟอร์ม Aave พอเป็นแบบนี้ ตัว yDai จะไม่ทำการเคลื่อนย้ายเงินทุน จะยังคงปล่อยกู้ในแพลตฟอร์ม Aave ต่อไป

 

กรณีที่นาย A ต้องการถอนตัว Dai พร้อมอัตราดอกบี้ยคืนมา ก็จะสามารถทำได้โดยทันทีเหมือนกัน โดยตัว yDai ก็จะทำการถอนตัว Dai ที่ฝากบนแพลตฟอร์ม Aave คืนมา พร้อมนำตัว DAI และดอกเบี้ยที่ได้รับให้นาย A คืนไป

 

ตัวอย่างนี้ ถือเป็นตัวอย่างแรกแบบง่าย ๆ ที่ตัว yDai หรือตัวพลูจะคอยตรวจสอบ และเช็คอยู่เสมอว่า แพลตฟอร์มไหนที่มีการให้อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด ก็จะทำการโยกตัวเงินลงทุนไปลงทุนกับแพลตฟอร์มนั้น

 

Yield Farming อีกทางเลือกของการลงทุนและทำกำไร​

สำหรับตัวอย่างที่ 2 จะแสดงให้เห็นวิธีการลงทุนที่ซับซ้อนขึ้นกว่าตัวอย่างแรก ดังนี้

 

กรณีที่นาย A แล้วมีตัว yETH Vault ซึ่ง yETH Vault ตัว Yield Farming ที่จะทำการลงทุนตามวิธีการตัวโปรแกรมกำหนดไว้ โดยวิธีการลงทุนของ yETH Vault จะมีการใช้งานตัว แพลตฟอร์ม Maker Dao และตัว yDai Vault

 

โดยลักษณะการทำงาน จะเริ่มต้นที่นาย A ทำการฝากตัว ETH เข้ามาที่ตัว yETH Vault ตัว yETH Vault ก็จะทำการนำตัว ETH​ ไปค้ำประกันเงินกู้กับแพลตฟอร์ม Maker Dao แล้วทำการกู้ยืม Dai ออกมา โดยตัว yETH Vault จะมีการบริหารความเสี่ยงโดยกำหนดสัดส่วนของ ETH ต่อ Dai เท่ากับ 200% หรือตัวมูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีอัตราส่วนเป็นสัดส่วน 2 เท่าของตัว DAI ที่กู้ยืมมา

 

หลังจากตัว yETH Vault ได้ตัว DAI แล้วมา ก็จะเอา Dai ไปทำการ Farm ในแพลตฟอร์ม yDai Vault โดยตัว yDai Vault ก็จะนำตัว yDai ที่ได้รับมาไปทำการเสริมสภาพคล่อง ในแพลตฟอร์ม Curve Finance โดยตัวแพลตฟอร์ม Curve Finance จะมีการตอบแทนคนที่นำตัว DAI  มาเสริมสภาพคล่องให้กับตัวระบบ โดยการตอลแทนในรูปแบบ Trading Free หรือ ค่าธรรมเนียมในการเทรด แล้วถัดมาจะมีการตอบแทนในรูปแบบ Y CRV Token ทำให้ตัว yDai จะได้รับตัว CRV Token ในการทำ Steaking เพื่อทำการ Farm CRV

 

โดยหลังตัวแพลตฟอร์มนี้ได้ทำการสะสมค่าธรรมเนียมและทำการ Farm CRV Token จะทำการนำตัวค่าธรรมเนียม หรือ CRV Token ไปทำการ Swap หรือ แลกเปลี่ยนเป็น ETH โดยจะขอเรียก ETH ส่วนนี้ว่า ETH return และทำการนำตัว ETH return ที่ได้ ไปใส่ในตัวแพลตฟอร์ม Maker Dao เพื่อเพิ่มมูลค่าในตัว ETH ในการไว้ใช้ค้ำประกัน จะสังเกตเห็นว่า ETH ในตัวแพลตฟอร์ม Maker Dao จะมีการสะสมเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ถ้านาย A ยังไม่ทำการถอนตัวเงินทุนออกมา ตัวแพลตฟอร์มนี้จะทำการกู้ Dai เพิ่มขึ้น บน Process เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จะทำให้ได้ตัว ETH เพิ่มมาขึ้นเรื่อย ๆ ถ้านาย A อยากจะถอนตัว ETH หรือตัวเงินทุนออกมา ก็จะทำได้เช่นกัน

 

ถ้านาย A อยากจะถอนเงินทุนออก นาย A จะได้รับทั้งตัว ETH ที่ใส่เข้าไปพร้อมตัว ETH Return ที่ได้รับมา ขอเรียกตัว ETH นี้ว่า ETH all ซึ่งตัว ETH all จะถูกโอนออกมาจากตัวแพลตฟอร์ม Maker Dao มาที่  yETH Vault แล้วตัว yETH Vault จะทำการจ่าย ETH all ให้กับ นาย A โดยจะมีการหักค่าธรรมเนียมบางส่วนไว้ เป็นค่าบริการแพลตฟอร์ม

 

จะเห็นว่าตัว Yield Framing จะมีรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งแบบง่าย ๆ ในตัวอย่างแรก หรือแบบที่ซับซ้อนขึ้นมาในตัวอย่างที่ 2

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูล และรายละเอียดต่าง ๆ ของการลงทุนทุกรูปแบบให้ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และทำให้โอกาสทำกำไรในการลงทุนมีมากขึ้นนั่นเอง

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทความ Life+Style ล่าสุด