นอกจาก ดีเวลลอปเปอร์จะเร่งสร้างยอดขาย จากแคมเปญการตลาดต่างๆ ในช่วงปลายปีแล้ว การเปิดโครงการใหม่ก็ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาด้วย เพราะตอนนี้ต้องเร่งสปีดธุรกิจกันให้มากขึ้นแล้ว เดี๋ยวไม่ได้เป้าหมายตามที่หวังกันไว้
อนันดาเปิด 4 โครงการใหม่
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ได้เปิดตัว 4 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ไอดีโอ ในทำเล พร้อมพงษ์, พระโขนง, จุฬา-สามย่าน และจรัญสนิทวงศ์ มูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท มาคราวนี้มุ่งเน้นการเปิดตัวในคอนโดมิเนียมที่เน้นความคุ้มค่า ทำราคาให้สอดคล้องกับสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน และกลุ่มเป้าหมายลูกค้า Gen Z
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับทั้ง 4 โครงการ มั่นใจว่าสามารถจะสร้างยอดขายรวมในช่วงเปิดตัวโครงการ ได้กว่า 5,200 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายประมาณ 40% ภายในปีนี้ จากปัจจุบันบริษัทฯ มียอด Backlog ประมาณ 33,200 ล้านบาท โดยในปีนี้จะรับรู้ยอดโอนราว 12,240 ล้านบาท แม้ในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการลดเป้ายอดขาย และยอดรับรู้รายได้ใหม่อีกครั้ง ตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะมีความผันผวน
ขณะเดียวกันได้ปรับแผนเลื่อนเปิด 4 โครงการไปช่วงต้นปีหน้า ได้แก่ ไอดีโอ คิว พหลฯสะพานควาย มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท ที่ได้ยกเลิกการขายไปเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากราคาขายต่อตารางเมตรสูงกว่าตลาด ส่งผลให้ยอดขายถูกผลกระทบตามไปด้วย จึงจะมีการปรับโครงการใหม่ให้สอดรับกับผู้บริโภคมากขึ้น และยังมีโครงการในทำเล สุขุมวิท 59, ลำสาลี และทองหล่อ มูลค่ารวมทั้ง 4 โครงการนี้ 22,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2562 เมื่อได้มีการปรับยอดขายลงจาก 10 โครงการ มูลค่ารวม 38,000 ล้านบาท เหลือ 6 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท
เดอะเนสท์ เปิดโปรเจ็กต์ “จุฬาฯ-สามย่าน”
สำหรับกลุ่ม พี.เอ็ม. กรุ๊ป ได้เปิดตัวโครงการ “เดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน” คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 332 ยูนิต ในซอยจินดาถวิล ถนนพระราม 4 บนที่ดินกว่า 2 ไร่ ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 21.14-49.39 ตารางเมตร มีพื้นที่จอดรถ 40 % ห่างจาก MRT สถานีสามย่าน 600 เมตร มูลค่าโครงการประมาน 1,500 ล้านบาท เริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 1 ปี2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2564 โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 50% ในวันพรีเซล 26-27 ตุลาคม 2562
นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่ม บริษัท พี.เอ็ม. กรุ๊ป เปิดเผยว่าจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เชื่อว่าไม่ได้ส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมลดลง แต่อยู่ในภาวะทรงตัว ซึ่งมองว่าเป็นวัฏจักรปกติของธุกิจ เพียงแต่ผู้ประกอบการต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการ พัฒนาโครงการออกมาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ในราคาที่เหมาะสม ในแง่ของผู้บริโภคเองก็ถือเป็นโอกาสที่จะสามารถได้สินค้าราคาดีเอาไว้
ทุนจีน เดินหน้าปั้น 4 โปรเจ็กต์ 22,500 ล้าน
ไม่เพียงแต่ดีเวลลอปเปอร์คนไทยเท่านั้น ที่ยังคงมั่นใจตลาดอสังหาฯ และเปิดตัวโครงการใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับกลุ่มดีเวลลอปเปอร์จากจีน ก็เห็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าตลาดเมืองไทย ยังมีดีมานด์อีกจำนวนมาก จากคนย้ายเข้ามาหางานในเมือง เศรษฐกิจมีแนวโน้มขาขึ้น จึงได้ลงทุนกว่า 22,500 ล้าน พัฒนาโครงการคอนโดฯ ออกมาทำตลาดถึง 4 โปรเจ็กต์ ในอนาคตยังเตรียมที่ดินอีก 100 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสออกมาอีกด้วย
นายเฉิน ซู่เฟิง ประธานกรรมการประจำภูมิภาค บริษัท ไฮไชน์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจคนไทยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นศักยภาพตลาดอสังหาฯ ที่เชื่อว่ายังมีความต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก จากการขยายตัวของเมือง ซึ่งทำให้มีแรงงานจากต่างจังหวัดเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ถือว่าเป็นความต้องการที่แท้จริง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโต
CPN ลุยปั้นโปรเจ็กต์ใหม่ พร้อมปรับโฉม-รีโนเวต 14 ศูนย์
การพัฒนาโครงการอสังหาฯ ไม่ได้มีแต่โครงการที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่รูปแบบโครงการประเภทศูนย์การค้า ดีเวลลอปเปอร์ก็เตรียมพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่าง CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศแผนธุรกิจออกมาเตรียม พัฒนาโครงการใหม่ออกมาอีก 3 โปรเจ็กต์ พร้อมกับปรับโฉมโปรเจ็กต์เดิมอีก 2 และยังรีโนเวตศูนย์การค้าเดิมอีก 12 แห่ง ซี่งเตรียมเงินลงทุนสำหรับแผนธุรกิจภายในปี 2565 นี้ไว้ถึง 22,000 ล้านบาท
คนไทยแห่ซื้ออสังหาฯ อังกฤษ
นอกจาก ตลาดอสังหาฯ ในเมืองไทย ที่ยังคงเป็นที่ต้องการของลูกค้า ทั้งชาวไทยและต่างชาติแล้ว อสังหาฯ ในต่างแดนก็ยังได้รับความสนใจ เกิดการเข้าไปจับจอง ไม่ว่าจะอยู่เองหรือจะลงทุนก็ตาม อย่างประเทศอังกฤษที่ถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีชาวไทยเข้าไปจับจอง แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีปัญหาเบร็กซิท แต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อตลาดอสังหาฯ ในอังกฤษซักเท่าไร ปัจจุบันยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยมากถึง 70,000 ยูนิต แต่มีการพัฒนาออกมาเพียง 40,000 ยูนิตเท่านั้น
นายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหาร หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อสังหาริมทรัพย์ในประเทศอังกฤษ เริ่มกลับมาฟื้นตัวซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะความต้องการที่อยู่อาศัยมีสูง ทั้งจากคนในประเทศและชาวต่างชาติ ที่เข้าไปเรียนและทำงานจำนวนมาก แต่ปัจจุบันจำนวนที่อยู่อาศัยที่พัฒนาออกมาน้อย
โดยในปีนี้บริษัทได้เป็นตัวแทนขายอสังหาฯ ในประเทศอังกฤษ ให้กับกลุ่มคนไทยได้แล้ว 8 ราย มูลค่า 14.6 ล้านปอนด์ หรือประมาณ569.4 ล้านบาท ซึ่ง 7 รายเป็นบุคคลทั่วไป ที่ซื้อคอนโดฯ ยูนิตในราคา 900,000 -1.6 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 35-62.4 ล้านบาท และมี 1 รายเป็นบริษัทที่ซื้อเพื่อการลงทุนจำนวน 16 ยูนิต และบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 10 รายที่จะซื้ออสังหาฯ ในอังกฤษด้วย มีระดับราคาตั้งแต่ 600,000-2 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 23.4-78 ล้านบาท ซึ่งมีหนึ่งรายต้องการซื้ออสังหาฯ มูลค่ามากถึง 36 ล้านปอนด์ หรือกว่า 1,404 ล้านบาท