ไวส์พาร์ค
แอสเสทไวส์ ปั้นโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส์ หมื่นล้าน ใหญ่สุดรอบ 10 ปี เจาะพื้นที่ มีนบุรี รองรับเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สาย “ชมพู-เหลือง” ประเดิม “แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี” มูลค่า 1,350 ล้าน พร้อมวางโรดแมปพัฒนาจบใน 6 ปี กับ 4,500 ยูนิตที่พักอาศัย
ถ้าย้อนดูโครงการที่บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) พัฒนามาตลอดระยะเวลา 9 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจในปี 2556 โครงการที่นับมีขนาดใหญ่พื้นที่ใหญ่สุด และมูลค่ามากที่สุด ก็คือ โครงการเคฟทาว์ รังสิต ด้วยมูลค่าโครงการรวม 9,100 ล้านบาท มีจำนวนยูนิตรวม 5,000 ยูนิต บนเนื้อที่ 60 ไร่ จากจำนวนโครงการที่พัฒนามาทั้งสิ้น 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 46,700 ล้านบาท
แต่ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 10 ในปี 2565 แอสเซทไวส์ ก็ได้พัฒนาโครงการที่มีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจ กับ “ไวส์พาร์ค มีนบุรี” (WISEPARK Minburi) โครงการมิกซ์ยูส ขนาดใหญ่บนพื้นที่ 33 ไร่ ย่านมีนบุรี มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท หลังจากได้ซื้อที่ดินมาในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอสเซทไวส์ เล่าว่า ได้ตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงนี้มา ซึ่งมีขนาดใหญ่แต่อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เพราะอยู่ใกล้สถานนีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีตลาดมีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีมีนบุรี และมองเห็นศักยภาพของที่ดิน ในการพัฒนาโครงการให้เป็นรูปแบบมิกซ์ยูส เพราะมีประสบการณ์การพัฒนาในรูปแบบดังกล่าวมาแล้ว จากโครงการเคฟทาวน์รังสิต ที่ได้กระแสตอบรับที่ดี
สำหรับโครงการไวส์พาร์ค มีนบุรี จะมีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งรูปแบบโลว์ไรส์ และไฮไลท์ คอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งในโครงการจะแบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟส ใช้ระยะเวลาการพัฒนาและก่อสร้างประมาณ 6 ปี ซึ่งภายในโครงการมีรายละเอียดดังนี้
บริเวณด้านหน้าโครงการฝั่งซ้ายมือเมื่อหันหน้าเข้าโครงการ จะถูกพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ “มิงเกิ้ล มีนบุรี” ขนาดพื้นที่อาคาร 8,857 ตร.ม. มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปีหน้า ภายในคอมมูนิตี้มอลล์ จะประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ อาทิ สุกี้ตี๋น้อย โลตัส โก เฟรช เป็นต้น
ส่วนบริเวณด้านหน้าฝั่งขวามือ ปัจจุบัน คือ ไวส์พาร์ค พาวิลเลี่ยน ซึ่งเป็นสำนักงานขายของโครงการ ที่ออกแบบและพัฒนาให้มีพื้นที่สีเขียวบนอาคาร ซึ่งทำให้สามารถใช้เป็นสวนส่วนกลางสำหรับลูกบ้าน หรือคนในชุมชนใกล้เคียงได้ทั้งปัจจุบันและในอนาคตด้วย ขณะที่ทั้งโครงการมีพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 12 ไร่ เพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้บริการด้วย
ถัดจากคอมมูนิตี้มอลล์เข้ามา แอสเซทไวส์ วางแนวทางการพัฒนาเป็นโครงการขนาดสูง 45 ชั้น 1 อาคาร ที่จะประกอบไปด้วยส่วนพักอาศัยและพื้นที่สำนักงาน ส่วนที่พักอาศัยเบื้องต้นจะใช้แบรนด์โมดิซ แต่ทั้งนี้อาจจะปรับเปลี่ยนแบรนด์ได้ในอนาคต โดยพิจารณาสภาวะตลาดและผลการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับพื้นที่ออฟฟิศได้วางสัดส่วนไว้ประมาณ 10-15% ของอาคาร มีการจัดพื้นที่แยกกับส่วนพักอาศัย ด้วยการมีลิฟต์ส่วนตัว มีการจดทะเบียนเป็นพื้นที่พาณิชย์ ที่ผู้ซื้อสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ โดยเป็นการขายพื้นที่ไม่ได้เป็นการให้เช่า ซึ่งแอสเซสไวส์มองกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือกลุ่ม SME ที่มีพนักงานไม่เกิน 10 คน สามารถทำงานออนไลน์ได้
ในพื้นที่ด้านหลังโครงการ ถูกจัดวางไว้เป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัย ซึ่งจะเป็นโครงการคอนโดโรว์ไรส์ 2 โครงการ และไฮไลท์ 1 โครงการ อยู่บริเวณด้านหลังสุด มีขนาดความสูงประมาณ 33 ชั้น คาดว่าจะพัฒนาภายใต้แบรนด์โมดิซ โดยวายแผนเปิดตัวในอนาคตอีกครั้ง
ก่อนถึงคอนโดไฮไลท์ ปัจจุบันพัฒนาเป็นโครงการ “แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี” (Atmoz Flow Minburi) ซึ่งได้เปิดตัวโครงการไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยโครงการพัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 6-0-13 ไร่ จำนวน 3 อาคาร รวม 739 ยูนิต ซึ่งเริ่มเปิดจองแล้ว ในราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท และพื้นที่ด้านหน้าโครงการแอทโมซ โฟลว์ ยังวางแผนพัฒนาเป็นโครงการคอนโดโลว์ไรส์อีก 1 โครงการเช่นกัน ภายใรต้แบรนด์โมดิซ
โครงการไวส์พาร์ค จะมีส่วนพักอาศัยทั้งหมดของโครงการภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ จำนวนรวม 4,500 ยูนิต ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างและพัฒนาประมาณ 6 ปี ระยะเวลาการเปิดตัว และการใช้แบรนด์ที่มาพัฒนา จะมีการพิจารณาจากสภาวะตลาดและการตอบรับของกลุ่มลูกค้าเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา แต่เบื้องต้นโครงการแอทโมช โฟลว์ มีนบุรี คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งใกล้เคียงกับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู
สำหรับคอนเซ็ปต์ของ ไวส์พาร์ค มีนบุรี ภายใต้แนวคิด “WISECOLOGY” มีจุดเด่นของการอยู่อาศัยแห่งอนาคต 3 ด้าน ได้แก่ Smart Living, Sustainable Life และ Environment Friendly