Japan

เผย 7 สไตล์การแต่งบ้านยอดฮิต คนไทยชื่นชอบแบบ Japandi มากที่สุด

NocNoc เผย 7 สไตล์การแต่งบ้าน ที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุด Japandi  ครองอันดับ 1 ตามด้วยสไตล์ Scandinavian พร้อมเผยสินค้าที่คนซื้อมากที่สุด คือ กลุ่ม Home and Living ด้านแบงก์กรุงศรี มองเทรนด์ตลาดอี-คอมเมิร์ซไทย อีก 2 ปีโต​ 19%

 

นายอนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลผู้ใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม NovNoc ได้เห็นเทรนด์ความนิยมในการแต่งบ้านของผู้บริโภคคนไทย ที่พบว่า ชื่นชอบสไตล์การแต่งบ้าน และนิยมมากที่สุด คือ 1.สไตล์ Japandi ในสัดส่วน 25% 2.สไตล์ Scandinavian สัดส่วน 23% 3. สไตล์ Industrial  20% 4. สไตล์ Glam 15% 5.Transitional 10% 6.สไตล์ Shabby Chic 5% และ 7.สไตล์ Mid-Century Modern 2%

 

หนึ่งในพฤติกรรมของลูกค้าที่บริษัทให้ความสำคัญ คือเรื่องของ Personalize จะเห็นได้ว่าไลฟ์สไตล์การตกแต่งบ้านของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน โดย NocNoc ให้ลูกค้าเริ่มต้นการใช้งาน Application ด้วยการค้นหาสไตล์ที่ใช่แบบ Personalize ด้วยระบบ AI เพื่อให้แอปนำเสนอสินค้าแต่งบ้านได้ตรงตามสไตล์ของแต่ละบุคคล

Nocnoc Trend

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญการคัดสรรสินค้าที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านในสไตล์ที่แตกต่างกัน โดยปัจจุบัน NocNoc แบ่งสินค้าออกเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ 1. Home and Living กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ 2. Home Appliances กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า 3. Home Improvement กลุ่มสินค้าปรับปรุงบ้าน และ 4. Home Service กลุ่มบริการงานช่างทุกเรื่องบ้าน ซึ่งในแต่ละกลุ่มยังแยกย่อยออกเป็นอีกหลายหมวดสินค้า ทำให้ NocNoc มีสินค้ารวมแล้วกว่า 500,000 ชิ้น จาก 3,000 ร้านค้า นับว่าตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมสำหรับคนรักบ้าน

 

นายอนุพงศ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังพบข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อสินค้า ที่ผู้บริโภคซื้อซ้ำมากที่สุดใน  5 หมวดสินค้า ดังนี้ 1.โฮม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ 2.โซฟาและเก้าอี้ 3.ชุดเครื่องนอน 4.ตู้และชั้นวางของ และ 5.เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก โดยพฤติกรรมการกลับมาซื้อซ้ำนั้น จะเป็นสินค้าในหมวดเดียวกัน เช่น กลุ่มเครื่องนอน ลูกค้าซื้อที่นอนขนาด 6 ฟุต  และกลับมาซื้อผ้าปูที่นอน หมอน เพิ่มเติม หรือในกลุ่มโซฟาและเก้าอี้ ซื้อเก้าอี้ทำงานไปในครั้งแรกและกลับมาซื้อโต๊ะทำงานหรือโซฟาเพิ่มเติม

แม้ว่าใน 5 หมวดสินค้าดังกล่าวจะเป็นกลุ่มสินค้าที่อาจจะต้องสัมผัสสินค้า หรือเห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อเกือบทั้งสิ้น แต่กลับเป็นกลุ่มสินค้าที่ลูกค้า NocNoc กลับมาซื้อซ้ำอย่างสม่ำเสมอ สะท้อนให้เห็นว่าการจะซื้อสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ไม่จำเป็นต้องสัมผัสสินค้าจริงก่อนซื้อเสมอไป หรือ อาจจะมีประสบการณ์ทดลองสินค้าจากที่อื่นแล้ว  

Nocnoc Trend (2)

ให้ความสำคัญกับ DATA

นายอนุพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า Data-Driven Marketing นับว่ามีความสำคัญ แต่ต้องดูว่าจะนำมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด  NocNoc ให้ความสำคัญกับ Data ของลูกค้า เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถบ่งบอกตัวตนของลูกค้าให้แบรนด์ได้เข้าใจความต้องการ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละคนได้ โดยการนำเอาเทคโนโลยีทางการตลาด MarTech และ AdTech มาใช้ในการวางแผน ดำเนินการ และวัดผลแคมเปญเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าแบบมีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

 

ประกอบกับการทำ Story-Driven Communication ที่เข้าถึงทุก Journey ของลูกค้าตั้งแต่ Discovery , Inspired , Compare , Selection ไปจนถึง Complete Journey ซึ่งลูกค้าจะเห็นการสื่อสารผ่านเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอช่วยให้พวกเขาได้รู้จัก NocNoc ว่าเรามีดีอะไร สินค้าที่กำลังมองหาตอบโจทย์พวกเขาอย่างไร ช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อเรื่องบ้านมากขึ้น  และไม่ลืมสร้างประสบการณ์การช้อปในโลกออนไลน์สู่ออฟไลน์ เพื่อ ให้ลูกค้าได้เข้าถึง ใกล้ชิด ได้เห็น Visibility ของแบรนด์มากยิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ดี มองว่าการพัฒนา Feature บน Application  ให้ตอบโจทย์ Pain Point ของลูกค้า ทำให้ประสบการณ์ในการเข้ามาใช้งาน NocNoc ดีขึ้น และช่วยให้การตัดสินใจซื้อสินค้าแต่งบ้านเป็นเรื่องง่าย เช่น  Image Search หรือการค้นหาด้วยภาพ หากลูกค้าถูกใจโซฟาในคาเฟ่ แต่ไม่รู้รุ่นหรือยี่ห้อของโซฟา ก็สามารถถ่ายรูปและนำไปค้นหาใน NocNoc Application ได้เลย

Nocnoc Trend (3)

แม้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันจะมีทางเลือกที่หลากหลาย บางครั้งมักจะไปเดินดูของจากร้านค้าอื่นเพื่อนำมาเปรียบเทียบสินค้า ราคา รวมถึงหาไอเดียในการแต่งบ้าน ทั้งสินค้าที่หลากหลายไม่จำกัดที่ร้านใดร้านหนึ่ง แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง

NocNoc ให้บริการทางเลือกที่มากกว่า ทำให้ ผู้คนเข้ามาหาไอเดียและแรงบันดาลใจใน Community ทั้งยังสะดวกสบายอยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ พร้อมบริการจัดส่งทั่วไทย นับว่าเป็นการแก้โจทย์ ไม่ได้สัมผัสสินค้า ก็ไม่ใช่ปัญหาในการซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้านออนไลน์คาด E-Commerce ไทยโต​ 19%

สำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ ถือว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ​ โดยเฉพาะในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน เห็นได้จากตัวเลขงานวิจัยของกรุงศรี คาดการณ์ว่าในปี 2025 ตลาด E-Commerce ไทยจะเติบโตขึ้นอีก 19% โดยผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ มีแนวโน้มที่จะขยายธุรกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์

 

นายอนุพงศ์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าการเติบโตของการช้อปปิ้งออนไลน์จะเติบโตมากเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่า Pain point ของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในกลุ่มสินค้าและของตกแต่งบ้าน คือ ลูกค้าไม่สามารถเห็นและสัมผัสได้จริง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ อาทิ โซฟา ตู้ โต๊ะ เตียง เป็นต้น โดยพฤติกรรมของลูกค้าคือจะมีความกังวลว่าอาจจะได้สินค้าจะไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ทำให้มีผู้บริโภคมีการพิจารณาประเด็นดังกล่าวกันอย่างละเอียด

 

สำหรับในช่วงที่ผ่านมา NocNoc ก้าวขึ้นมาเป็น Home and Living Platform หรือศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ ที่รวบรวม เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน วัสดุปูพื้น-ผนัง เครื่องใช้ไฟฟ้า และบริการทุกเรื่องบ้านที่ครบที่สุดรายแรกในไทย และได้ผลักดันให้ข้อจำกัดเหล่านี้หมดไป คลายความกังวล ลดความลังเลในการซื้อสินค้าแต่งบ้านให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สะท้อนจากตัวเลขของลูกค้า 60% ที่มาช้อปสินค้าแต่งบ้านออนไลน์บนแพลตฟอร์ม NocNoc สร้าง ตกแต่ง ต่อเติมบ้านได้ทั้งหลัง เป็นการซื้อสินค้าและบริการครอบคลุมในหลากหลายกลุ่มสินค้าและบริการ เรียกได้ว่าสามารถ Complete Journey ครบ จบ ใน NocNoc ที่เดียว

Nocnoc Trend (1)

จากข้อมูลเชิงลึกของ NocNoc จะเห็นได้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของ NocNoc เป็นกลุ่มสร้างบ้านและต่อเติมบ้าน (Home Building and Renovator) ประมาณ 60% นับว่าเป็นกลุ่มที่มองหาการซื้อสินค้าและบริการแบบ Complete journey ในการสร้าง ต่อเติม และตกแต่งบ้านทั้งหลัง ทั้งยังมีพฤติกรรมในการซื้อสินค้าหลากหลายหมวดบนแพลตฟอร์มของ NocNoc และกลับมาซื้อซ้ำกว่า 74% เพราะทยอยซื้อของตกแต่งบ้านให้ครบตามความต้องการ

 

ขณะที่ของตกแต่งบ้านและผู้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป (Home Decoration and Furnishing Shoppers) คิดเป็นอีกประมาณ 40% จะเน้นการตกแต่งเป็นหลัก และมีพฤติกรรมการซื้อซ้ำบนแพลตฟอร์ม NocNoc มากถึง 26% เพราะลูกค้าจะมีไอเดียใน การตกแต่งบ้านอย่างต่อเนื่อง  จากการหาแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านจากที่ต่าง ๆ รวมถึงใน NocNoc ที่มีไอเดียในการตกแต่งบ้านมากมาย

 

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจากการทำตลาดเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในแบบ Complete journey รวมถึงการสร้างประสบการณ์ ช้อปปิ้งที่ดีแก่ผู้บริโภค และนำเสนอประสบการณ์มากกว่าที่ลูกค้าได้คาดหวังไว้ ทำให้ภาพรวมจำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม NocNoc ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2566 เพิ่มสูงขึ้น  64% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยจากแนวโน้มดังกล่าว คาดว่าในปี 2566 นี้ ยอดขายจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 170% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอีกด้วย

 

นอกจากนี้ หนึ่งในพฤติกรรมของลูกค้าที่บริษัทให้ความสำคัญ คือเรื่องของ Personalize จะเห็นได้ว่าไลฟ์สไตล์การตกแต่งบ้านของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน โดย NocNoc ให้ลูกค้าเริ่มต้นการใช้งาน Application ด้วยการค้นหาสไตล์ที่ใช่แบบ Personalize ด้วยระบบ AI เพื่อให้แอปนำเสนอสินค้าแต่งบ้านได้ตรงตามสไตล์ของแต่ละบุคคล

 

 

 

บทความ Life+Style ล่าสุด